แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 2331 ทำให้พวกเขาสำลักตาย / บทที่ 2332 เปิดตัวใช่ไหม
บทที่ 2331 ทำให้พวกเขาสำลักตาย
รุ่งเช้าวันต่อมา
“ทำไมคุณตื่นเช้าขนาดนี้ล่ะ” เยี่ยหวันหวั่นโผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม
ซือเยี่ยหานตอบสั้นๆ “ประชุม”
ดวงตาของเยี่ยหวันหวั่นกลอกกลิ้ง จากนั้นก็กลิ้งออกมาจากผ้าห่มทันที “อ้อๆๆ ประชุมสินะ งั้นฉันจะไปส่งคุณไปประชุม!”
ซือเยี่ยหานเหน็บชายผ้าห่มให้ “ไม่ต้องหรอก เธอนอนต่อเถอะ”
เยี่ยหวันหวั่นฮึกเหิมเต็มที่ “แบบนั้นไม่ได้หรอก ต้องไปส่งคุณ ฉันยังไม่ได้เริ่มโปรยอาหารหมาอย่างเป็นทางการเลย! ฉันต้องทำให้คู่สุนัขชายหญิงคู่นั้นสำลักตายให้ได้!”
ซือเยี่ยหานมองหญิงสาวอย่างจนปัญญาแวบหนึ่ง เห็นเพียงว่าเธอลุกพรวดขึ้นมาอย่างรวดเร็วราวกับถูกฉีดเลือดไก่
เยี่ยหวันหวั่นบอกกล่าวศิษย์พี่เล็กน้อย ให้เธอส่งคนไปขับรถของเธอมาให้ จากนั้นก็แต่งหน้าเปลี่ยนชุดด้วยความเร็วสุดขีด สลับไปอยู่ในโหมดอี้อวิ๋นโม่
รถยนต์คันนี้อี้หลิงจวินเตรียมไว้ให้เธอ ก่อนหน้านี้เธอไม่เคยเอามาใช้เลย แต่ตอนนี้ได้ฤกษ์ใช้งานพอดี
สถานที่จัดประชุมคือตึกสำนักงานสภาตุลาการ
ช่วงเช้าตรู่ สมาชิกระดับสูงและตุลาการแต่ละคนของสภาตุลาการต่างก็ทยอยผ่านประตูเข้ามาแล้ว
ฉินซีย่วน อินเหิงและตุลาการอีกสองสามท่านกำลังพูดคุยกันอยู่ตรงประตู ด้วยความช่วยเหลือของฉินจง อินเหิงจึงได้เข้าร่วมการประชุม ถึงแม้จะทำได้แค่คอยฟังอยู่ด้านข้าง ยังถือว่าก้าวผ่านธรณีประตูสภาตุลาการไปครึ่งตัวแล้ว
เวลานี้เอง รถสปอร์ตสีบรอนซ์เงินรุ่นใหม่ล่าสุดคันหนึ่งได้ขับเข้ามาจอด ดึงดูดสายตาได้ไม่น้อยเลย
ประตูเบาะหลังเปิดออก เยี่ยหวันหวั่นยื่นร้องเท้าส้นสูงสิบสองเซนติเมตรของเธอออกมา ก้าวลงจากรถ
“คุณหนูอี้!”
“อรุณสวัสดิ์ครับคุณหนูอี้!”
“คุณหนูอี้ก็มาเข้าร่วมการประชุมเหรอครับ”
พอเห็นเยี่ยหวันหวั่น คนที่อยู่รอบๆ ต่างก็พากันทักทาย ขณะเดียวกันก็คิดในใจไปต่างๆ นานา ดูท่าแล้ว อี้หลิงจวินเตรียมจะให้อี้อวิ๋นโม่เข้าสภาตุลาการจริงๆ สินะ
ขณะที่ทุกคนต่างพูดคุยกันไปเรื่อย เยี่ยหวันหวั่นยังคงมีสีหน้าเยือกเย็นอย่างที่ผ่านมา พร้อมกับเอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “การประชุมไม่เกี่ยวข้องกับฉัน แค่มาส่งคนเท่านั้น”
“ส่งคนเหรอ” พอได้คำนี้ ทุกคนก็ตกตะลึงยิ่งขึ้นไปอีก
“มาส่งใครกัน”
ใครกันที่ใหญ่โตขนาดนี้ ทำให้อี้อวิ๋นโม่ขับรถมาส่งด้วยตัวเองได้
ประธานอี้เข้าไปก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีทางเป็นประธานอี้ไปได้
ภายใต้สายตาของทุกคน ประตูรถอีกฝั่งได้เปิดออก และซือเยี่ยหานก็ก้าวลงมา
“เวรเอ้ย! นี่ไม่ใช่ตุ…ตุลาการซือหรอกเหรอ!”
“อะไรกันเนี่ย ทำไมตุลาการซือถึงลงมาจากรถของคุณหนูอี้ล่ะ”
“คนที่คุณหนูอี้มาส่งก็คือตุลาการซืองั้นเหรอ”
สายตาแทบทุกคู่ต่างก็มองเข้ามาทันที สีหน้าของอินเหิงก็แข็งทื่ออยู่ตรงนั้นแล้วเช่นกัน
เมื่อคืนเขาสืบข่าวได้ว่า ซือเยี่ยหานเพิ่งเข้าห้องอี้อวิ๋นโม่ไปได้ไม่นานก็ออกมา เขาจึงวางใจแล้ว ไม่คิดเลยว่าเช้าวันนี้ ซือเยี่ยหานจะลงมาจากรถของอี้อวิ๋นโม่
เมื่อซือเยี่ยหานลงจากรถแล้ว ก็เดินไปหาเยี่ยหวันหวั่น “ฉันจะไปประชุมแล้ว”
เยี่ยหวันหวั่นตอบสั้นๆ “โอเค”
พอซือเยี่ยหานพูดจบ ก็เตรียมจะเข้าไป แต่เยี่ยหวันหวั่นกลับเลิกคิ้วแวบหนึ่ง แล้วเรียกตัวไว้ “รอเดี๋ยว”
ซือเยี่ยหานชะงักเท้า “คุณหนูอี้ยังมีธุระต่อเหรอ”
เยี่ยหวันหวั่นกลับเอ่ยถาม “ตุลาการซือลืมอะไรรึเปล่า”
ไม่รอให้ซือเยี่ยหานได้ตอบสนอง เยี่ยหวันหวั่นก็พลันก้าวเข้าไป ขยับเข้าหา แล้วประทับจุมพิตลงบนริมฝีปากของชายหนุ่มทีหนึ่ง
มีเสียงสูดลมหายใจแว่วมาจากรอบข้างทันที ทุกคนแทบจะตาค้างไปแล้ว
โธ่เว้ย! นี่มันอะไรกัน
แสงแดดยามเช้าส่องลงมา หญิงสาวเขย่งเท้านิดๆ จุมพิตชายหนุ่ม ฉากนี้งดงามราวกับภาพวาดสีน้ำมัน
—————————————————————————————
บทที่ 2332 เปิดตัวใช่ไหม
ซือเยี่ยหานเก็บซ่อนแววตาอ่อนโยนในดวงตาไว้ กดเสียงต่ำแล้วเอ่ยว่า “พอได้แล้ว”
ไม่อย่างนั้นเกรงว่าเขาจะทนให้ความร่วมมือกับเธอต่อไปไม่ได้แล้ว
“พระเจ้าช่วย! ฉันเห็นอะไรเนี่ย”
“นี่ๆๆ…นี่ถือเป็นการเปิดตัวแล้วใช่ไหม”
“เป็นการเปิดตัวแน่อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”
ถ้าก่อนหน้านี้ยังบอกว่าดูคลุมเครือไม่ชัดเจน ถ้างั้นตอนนี้ก็ยืนยันได้แล้ว
ไม่ไกลนัก ตุลาการสวี่ที่อยู่ในมุมหนึ่งมองฉากนี้แล้วเหงื่อตก
ไม่คิดเลยว่าอี้อวิ๋นโม่จะถูกใจซือเยี่ยหานจริงๆ การที่ตัวเองส่งลูกชายไปให้เมื่อคืนนี้ แต่กลับเอาใจอี้อวิ๋นโม่มาไม่ได้ แถมยังไปรบกวนเรื่องดีๆ ของเธออีก
ไม่รู้ว่าเขารู้สึกหลอนไปเองไหม แต่วันนี้สายตาที่ตุลาการซือมองเขาคล้ายว่าจะน่ากลัวเป็นพิเศษ…
นอกจากตุลาการสวี่แล้ว ตอนนี้คนอื่นๆ ที่มีเจตนาซ่อนเร้นต่างก็ทอดถอนใจด้วยความเสียดายเช่นกัน เมื่อเป็นแบบนี้ พวกเขาก็หมดโอกาสแล้ว
หลังจากจูบลากันแล้ว เยี่ยหวันหวั่นถึงได้ยอมให้ซือเยี่ยหานไป
พอโปรยอาหารหมาเสร็จ เยี่ยหวันหวั่นจึงขับรถกลับไปที่วิลล่า
เพิ่งกลับถึงวิลล่าเตรียมจะนอนชดเชยสักงีบ จู่ๆ ประตูห้องก็ถูกคนเคาะ
“เข้ามา แม่บ้านอู๋ มีอะไร” เยี่ยหวันหวั่นจ้องมองแม่บ้านที่เปิดประตูเข้ามา แล้วเอ่ยถาม
บ้านพักและแม่บ้านของที่นี่ เป็นอี้หลิงจวินจัดการไว้ให้เธอทุกอย่าง ได้ยินว่าแม่บ้านคนนี้ทำงานอยู่ที่ตระกูลอี้มาหลายปี นับว่าเป็นคนที่มีหูตากว้างขวางในเมืองเทียนสุ่ยเช่นกัน
และเนื่องด้วยเหตุนี้ อี้หลิงจวินถึงได้วางใจมอบหมายให้แม่บ้านคนนี้ดูแลเยี่ยหวันหวั่น นอกจากคอยดูแลกิจวัตรประจำวันให้เยี่ยหวันหวั่นแล้ว ถ้ามีเรื่องติดขัดที่อยากจัดการสักหน่อย มอบหมายให้แม่บ้านคนนี้ไปก็สามารถจัดการให้เรียบร้อยได้
ถึงอย่างไรเยี่ยหวันหวั่นก็เพิ่งมาถึงเมืองเทียนสุ่ยได้ไม่นาน ยังไม่คุ้นชินกับเมืองเทียนสุ่ย โดยเฉพาะเรื่องเครือข่ายอำนาจที่สลับซับซ้อน หากประมาทไปแม้แต่นิดเดียว เยี่ยหวันหวั่นอาจก่อเรื่องเลวร้ายขึ้นมา
“คุณหนูคะ มีไอ้หนุ่มคนหนึ่งกับตาเฒ่าคนหนึ่งมาขอเข้าพบค่ะ” แม่บ้านรายงานเยี่ยหวันหวั่นอย่างนอบน้อม
“ตาเฒ่า…ไอ้หนุ่ม…” เยี่ยหวันหวั่นใช้ความคิด
“ใช่ค่ะ” แม่บ้านพยักหน้านิดๆ “มาขอพบตั้งแต่เช้ามืดแล้ว แต่ว่าตอนนั้นคุณหนูหลับไปแล้ว ดิฉันเลยไม่ได้ปลุกคุณหนูค่ะ”
“ได้ แม่บ้านอู๋ เธอให้พวกเขาเข้ามาเถอะ” เยี่ยหวันหวั่นตอบ
หลังจากได้รับความเห็นชอบจากเยี่ยหวันหวั่น แม่บ้านอู๋ก็ไม่พูดมากอีก ทำเพียงหันหลังก้าวออกไป
ตาเฒ่ากับไอ้หนุ่มจากปากของแม่บ้านอู๋ เยี่ยหวันหวั่นเดาๆ ดูแล้วก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นพวกผู้อาวุโสใหญ่
ใช่จริงๆ หลังจากผ่านไปสิบห้านาที แม่บ้านอู๋ก็เดินนำเป่ยโต่วและผู้อาวุโสใหญ่เข้ามาในห้อง
“แม่บ้านอู๋ เธอออกไปก่อนเถอะ” เยี่ยหวันหวั่นบอกแม่บ้านอู๋
“ได้ค่ะคุณหนู ถ้ามีธุระ คุณหนูเรียกดิฉันได้เลยนะคะ” พอแม่บ้านอู๋พูดจบ ก็ถอยออกไปจากห้อง พลางปิดประตูห้องให้เยี่ยหวันหวั่นด้วย
หลังจากแม่บ้านอู๋ไปแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็มองผู้อาวุโสใหญ่กับเป่ยโต่วแบบนิ่งๆ ในใจอดไม่ได้ที่จะนึกสงสัยอยู่บ้าง ผู้อาวุโสใหญ่กับเป่ยโต่วรู้ได้ยังไงว่าตัวเองอยู่ที่นี่
“ใช่…ใช่พี่เฟิงไหม”
เป่ยโต่วมองพินิจเยี่ยหวันหวั่นอยู่หลายที แล้วเอ่ยขึ้นอย่างไม่แน่ใจเท่าไร
ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า แตกต่างกับพี่เฟิงผู้ชั่วร้ายในสมองของเขามากเหลือเกิน ถึงแม้หน้าตาจะไม่แตกต่าง แต่บรรยากาศเยือกเย็นเข้าไปถึงในกระดูกนี้คืออะไรกัน
อีกอย่าง การแต่งหน้าก็แตกต่างกันมากเหลือเกิน ในความทรงจำ พี่เฟิงแต่งหน้าแต่งตัวน้อยมาก ต่อให้แต่งตัวแต่งหน้าก็มีขีดจำกัด ชอบแต่งให้ตัวเองกลายเป็นนางฟ้าเทพธิดาตัวน้อยๆ แต่การแต่งหน้าของผู้หญิงคนนี้แสดงความงามของรูปโฉมของตัวเองออกมาอย่างเต็มที่ บุคลิกดุดันเยือกเย็น…
—————————————————————————————