แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 2335 ออกจะบังเอิญเกินไปแล้ว / บทที่ 2336 หยั่งเชิง
บทที่ 2335 ออกจะบังเอิญเกินไปแล้ว
ภายในห้องโถง สีหน้าของอินเยวี่ยหรงมืดครึ้มจนดูเหมือนจะกลั่นน้ำออกมาได้ แม่นมเฉียวที่ยืนอยู่ด้านข้าง เอ่ยเสียงเบา
อินเยวี่ยหรงคิดดูครู่หนึ่ง พลางมองแม่นมเฉียวแล้วพูดขึ้นมา “จะว่าไปแล้วก็แปลก ฉันจงใจปล่อยข่าวออกไป เป้าหมายก็เพื่อให้เนี่ยอู๋โยวว้าวุ่น กังวลถึงความเป็นความตายของสมาชิกระดับสูงในพันธมิตรอู๋เว่ย เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีช่องโหว่เลยน่ะ”
“นายหญิง ถ้าเป็นแบบนี้ ดิฉันคิดว่า มีความเป็นไปได้แค่สองกรณีค่ะ” แม่นมเฉียวตอบ
“แม่นมเฉียว เธอพูดมาสิ สองกรณีไหน” อินเยวี่ยหรงเอ่ยเร่ง
“ได้ค่ะ” แม่นมเฉียวพยักหน้า พลางจ้องมองอินเยวี่ยหรง “นายหญิงคะ คนที่ถูกจับตัวมา คือผู้อาวุโสสามของพันธมิตรอู๋เว่ย ความสัมพันธ์ค่อนข้างใกล้ชิดกับเนี่ยอู๋โยว แต่เป็นไปได้ไหมว่า อันที่จริงเนี่ยอู๋โยวไม่ได้ใส่ใจความเป็นความตายของผู้อาวุโสสามคนนั้นเลย ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ ต่อให้อี้อวิ๋นโม่คือเยี่ยหวันหวั่นสวมรอยมา เธอก็ไม่มีทางใส่ใจความเป็นความตายของผู้อาวุโสสามอยู่ดี”
อินเยวี่ยหรงคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงส่ายหน้า “เป็นไปไม่ได้ ฉันเคยสืบมาแล้ว เนี่ยอู๋โยวคนนี้ซื่อสัตย์รักพวกพ้อง อย่าว่าแต่ผู้อาวุโสคนหนึ่งในพันธมิตรอู๋เว่ยเลย ต่อให้เป็นสมาชิกระดับกลางคนหนึ่ง เธอก็ไม่มีทางปล่อยให้ตายโดยไม่ช่วยเหลือ นับประสาอะไรกับผู้อาวุโสสามคนนี้ที่นับว่าค่อนข้างสนิทสนมกับเธอ”
ช่วงหลายวันก่อน อินเยวี่ยหรงสืบเรื่องของเยี่ยหวันหวั่นมาอย่างชัดเจนแล้ว รวมถึงเรื่องราวต่างๆ ของเยี่ยหวันหวั่นด้วย
“ถ้างั้น นายหญิง ความเป็นไปได้ข้อที่สอง…อี้อวิ๋นโม่คนนั้นที่เห็นอยู่ เป็นลูกสาวตัวจริงของประธานอี้ ไม่ใช่เนี่ยอู๋โยวสวมรอยมา” แม่นมเฉียวกล่าว
“เฮอะ ฉันไม่เชื่อจริงๆ หรอกว่าบนโลกใบนี้ จะยังมีคนที่หน้าตาเหมือนกันได้ขนาดนี้ ออกจะบังเอิญเกินไปแล้ว” อินเยวี่ยหรงหัวเราะหยัน
“แม่นมเฉียว เรื่องที่ฉันให้เธอไปตรวจสอบ สืบได้อะไรบ้าง” อินเยวี่ยหรงมองแม่นมเฉียวแล้วเอ่ยถาม
“นายหญิง อันที่จริงดิฉันก็เพิ่งคิดจะรายงานกับคุณเลยค่ะ พวกเราสืบพบว่าที่ต่างประเทศ อี้อวิ๋นโม่คนนี้มีตัวตนอยู่จริง อีกทั้งทางเราได้ทำการตรวจสอบสถาบันชื่อดังที่เธอเข้าเรียนด้วยค่ะ ถึงขั้นที่ไปหาเพื่อนนักเรียนของอี้อวิ๋นโม่ เอาภาพถ่ายในงานเลี้ยงไปให้เพื่อนนักเรียนของเธอดู…” แม่นมเฉียวค่อยๆ เล่า
“อืม…”
พอได้ยินแม่นมเฉียวเล่าแบบนี้ ดวงตาของอินเยวี่ยหรงก็ทอประกาย “ผลล่ะ”
“นายหญิง ผลลัพธ์คือ หลังจากเพื่อนนักเรียนของอี้อวิ๋นโม่เห็นภาพถ่าย มองแวบเดียวก็จำได้เลย ยืนยันว่าคนที่พวกเราถ่ายภาพมาจากงานเลี้ยง คืออี้อวิ๋นโม่ตัวจริงไม่ผิดแน่ค่ะ และจากข้อมูลที่พวกเราสืบมา ตอนอี้อวิ๋นโม่อยู่ที่โรงเรียนก็เก่งกาจมาก บุคลิกไม่ต่างไปจากในตอนนี้เลยค่ะ”
พอได้ฟังเรื่องที่แม่นมเฉียวรายงาน ใบหน้าของอินเยวี่ยหรงก็ฉายแววฉงนแวบหนึ่ง นี่มันอะไรกัน…หรือว่า อี้อวิ๋นโม่กับเนี่ยอู๋โยว จะเป็นคนละคนกันจริงๆ…
แต่ถ้าเป็นคนละคนกันจริง เพราะอะไรถึงหน้าตาเหมือนกันขนาดนี้
“แม่นมเฉียว เธอไปที่บ้านของอี้อวิ๋นโม่สักรอบสิ เชิญเธอมาสักเที่ยว ฉันจะดูว่า สรุปแล้วเธอเป็นเจ้าหญิงตัวจริง หรือว่านางซินกันแน่” ดวงตาของอินเยวี่ยหรงสาดประกายยะเยือก
….
เวลานี้ ทางฝั่งที่พักที่อี้หลิงจวินจัดเตรียมไว้ให้เยี่ยหวันหวั่น
เยี่ยหวันหวั่นกำลังนอนอยู่บนเตียง ปัดหน้าจอมือถือไปเรื่อยๆ
“คุณหนูคะ”
ผ่านไปครู่หนึ่ง เสียงของแม่บ้านอู๋ก็แว่วดังมาจากนอกประตู
“เข้ามา”
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
พอได้รับเสียงตอบรับจากเยี่ยหวันหวั่น แม่บ้านอู๋จึงเปิดประตูเข้ามา
“มีอะไร” เยี่ยหวันหวั่นมองแม่บ้านอู๋พลางเอ่ยถาม
“คุณหนูคะ แม่นมเฉียวแม่บ้านจากตระกูลอินมาขอพบค่ะ ต้องการพบไหมคะ” แม่บ้านอู๋รายงาน
“แม่บ้านเฉียวงั้นเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นมีสีหน้าฉงน
“คุณหนูคะ แม่บ้านเฉียวเป็นคนสนิทของอินเยวี่ยหรง ในเมืองเทียนสุ่ยก็พอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง ไม่ถือว่าเป็นพวกตัวเล็กตัวน้อยเลยนะคะ” แม่บ้านอู๋อธิบาย
—————————————————————————————
บทที่ 2336 หยั่งเชิง
“แบบนี้นี่เอง…”
หลังจากทราบฐานะของแม่บ้านเฉียวแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็ยกมุมปากขึ้นนิดๆ
สองสามวันมานี้ เธอตะลอนไปทั่วกับอี้หลิงจวิน เข้าร่วมการปาฐกถาทุกงาน ดูเหมือนว่า อินเยวี่ยหรงจะร้อนใจแล้วสินะ
“ได้ ให้เธอเข้ามา” เยี่ยหวันหวั่นตอบ
ผ่านไปครู่หนึ่ง แม่บ้านอู๋พาหญิงวัยกลางคนแต่งกายเหมาะสมคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง
“คุณหนูอี้ สวัสดีค่ะ เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบคุณหนูอี้อีกครั้ง” แม่นมเฉียวพินิจดูเยี่ยหวันหวั่นอยู่หลายที แล้วยิ้มน้อยๆ เอ่ยทักทาย
“ตุลาการอินอินเยวี่ยหรงส่งเธอมาสินะ” เยี่ยหวันหวั่นเหลือบมองแม่บ้านเฉียวคนนี้แวบหนึ่ง จำได้ว่าเป็นคนนั้นที่ส่งผู้หญิงมาให้ซือเยี่ยหานวันก่อน
“คุณหนูอี้ เป็นเช่นนี้จริงๆ ค่ะ” แม่นมเฉียวพยักหน้า
“มีเรื่องอะไรก็ว่ามา” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยอย่างเฉยเมย
“คุณหนูอี้ นายหญิงของดิฉันอยากเชิญคุณหนูอี้ไปเป็นแขกที่บ้าน ไม่ทราบว่าคุณหนูอี้พอจะมีเวลา…” แม่นมเฉียวกล่าว
“ไม่มี” เยี่ยหวันหวั่นตอบ
พอได้ฟังคำพูดของเยี่ยหวันหวั่น สีหน้าของแม่นมเฉียวก็เก้อกระดากอยู่บ้าง นิสัยแบบนี้…ออกจะอยู่ด้วยยากเกินไปแล้ว
จากความทรงจำของเธอ คนที่อยู่ด้วยยากที่สุดในชีวิตนี้ที่เคยเห็นมาก็คืออินเยวี่ยหรง แต่พอได้เจอคุณหนูตรงหน้าคนนี้ เรียกได้ว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้าเลยทีเดียว
เธอก็นับว่าพบเจอผู้คนมามากมาย อี้อวิ๋นโม่ที่อยู่ตรงหน้า ไม่ได้อยู่ในหมวดหมู่คนที่อยู่ร่วมด้วยยากแล้ว เพราะเธอไม่ให้โอกาสคุณได้อยู่ร่วมด้วยเลย คนแบบนี้ ส่วนใหญ่มีความเย่อหยิ่งเข้าไปถึงในกระดูก ไม่เห็นใครอยู่ในสายตา มองไม่เห็นหัวใครหรือเรื่องใดๆ เลย
อย่างอินเยวี่ยหรง อย่างน้อยเธอก็นับว่ามีอาการป่วย แต่ก็ยังมีปฏิสัมพันธ์อยู่บ้าง แต่อี้อวิ๋นโม่ แม้แต่สิ่งที่เรียกว่าปฏิสัมพันธ์ก็ไม่มีอยู่เลย นี่เป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด…
“คุณหนูอี้คะ…”
แม่นมเฉียวคิดจะพูดบางอย่าง แต่หัวคิ้วของเยี่ยหวันหวั่นกลับขมวดแน่นขึ้นมาทันที ดวงตาทอแววเยียบเย็น “ฉันจำได้ว่า เมื่อกี้ฉันบอกเธอไปชัดแล้วนะว่าไม่มีเวลาน่ะ”
ไม่รอให้แม่นมเฉียวได้พูดอะไรต่อ เยี่ยหวันหวั่นก็มองแม่บ้านอู๋ที่อยู่ด้านข้างทันที “แม่บ้านอู๋”
แม่บ้านอู๋ได้ยินแล้วจึงหันไปเอ่ยกับแม่นมเฉียวด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “แม่บ้านเฉียว โปรดอย่าทำให้คนรับใช้อย่างฉันต้องลำบากเลย ถ้าตุลาการอินอยากพบคุณหนูของเรา ก็รบกวนช่วยมาด้วยตัวเองเถอะ”
“ตัวเธอเองก็ไม่จำเป็นต้องมาหรอก” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยอย่างเย็นชา
“แม่บ้านเฉียว ที่คุณหนูของฉันพูดมา น่าจะเข้าใจชัดเจนดีแล้วนะ เชิญ” แม่บ้านอู๋กล่าว
“ได้ วันนี้รบกวนมากแล้ว หวังว่าคุณหนูอี้จะไม่ถือโทษนะคะ” พอแม่นมเฉียวพูดจบ ก็ตามแม่บ้านอู๋ออกไปจากห้อง
….
ณ บ้านตระกูลอิน
พอได้ยินสถานการณ์ที่แม่นมเฉียวเล่า สีหน้าของอินเยวี่ยหรงก็น่าเกลียดอย่างยิ่ง
“เธอนึกว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงจริงๆ สินะ…ให้ฉันไปพบเธอด้วยตัวเองงั้นเหรอ?!” สีหน้าของอินเยวี่ยหรงมืดครึ้ม ยิ้มอย่างเยียบเย็นมาก ในสิบสองเขตรัฐอิสระแห่งนี้ ไม่มีใครกล้าทำแบบนี้กับเธอมาก่อน!
“นายหญิงคะ ความหมายของอี้อวิ๋นโม่คือ ต่อให้คุณไปหาเธอด้วยตัวเอง เธอก็ไม่มีเวลามาพบคุณค่ะ” แม่นมเฉียวเอ่ยอย่างจนปัญญา
อินเยวี่ยหรงฟังแล้วหัวเราะหยัน “เก่งมาก เก่งจริงๆ!”
“นายหญิงคะ มีบางเรื่องที่ไม่รู้ว่าควรพูดไหม” แม่บ้านเฉียวเอ่ยด้วยความลังเล
“ระหว่างเธอกับฉันยังมีอะไรที่พูดกันไม่ได้อีก ว่ามา” อินเยวี่ยหรงกล่าว
“นายหญิง จากมุมมองของดิฉันในวันนี้ รวมถึงข้อมูลที่ได้รับมาจากทางสถาบันของอี้อวิ๋นโม่ในครั้งก่อน พอนำสองอย่างนี้มารวมกันแล้ว อี้อวิ๋นโม่คนนี้ ไม่น่าเป็นไปได้ที่จะเป็นเนี่ยอู๋โยวสวมรอยมาค่ะ” แม่นมเฉียวเอ่ย
“ดังนั้น ความคิดของเธอคือ หล่อนคืออี้อวิ๋นโม่ลูกสาวของประธานอี้จริงๆ งั้นเหรอ” อินเยวี่ยหรงขมวดคิ้วแน่น
“ตามความเห็นส่วนตัวของดิฉัน มีความเป็นไปได้แปดสิบถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์เลยค่ะ อี้อวิ๋นโม่คนนี้ เย่อหยิ่งเข้าไปถึงในกระดูก ไม่เห็นใครอยู่ในสายตาสุดขีด พูดคุยด้วยยากมาก ไม่ให้โอกาสคนอื่นได้เข้าหาเธอเลย…แต่ยังไงก็ตาม ถ้าอยากจะเชิญเธอมาที่บ้าน ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวิธีนะคะ” แม่นมเฉียวกล่าว
—————————————————————————————