แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 2337 อยู่ในแผนการ / บทที่ 2238 เป็นเกียรติที่มาเยือน
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 2337 อยู่ในแผนการ / บทที่ 2238 เป็นเกียรติที่มาเยือน
บทที่ 2337 อยู่ในแผนการ
“วิธีอะไร” อินเยวี่ยหรงถาม
“ข่าวที่ดิฉันได้รับมา อี้อวิ๋นโม่คนนี้ ดูเหมือนจะสนใจคุณชายใหญ่อยู่บ้าง คืนวันนั้น เธอไล่ตะเพิดผู้หญิงที่ดิฉันพาไป บอกว่าไม่อนุญาตให้ดิฉันพาใครไปหาอีก ท่าทางชัดเจนมากจริงๆ ต่อมาเธอขับรถไปส่งคุณชายใหญ่อย่างเปิดเผย ถ้านายหญิงยกคุณชายใหญ่มาอ้างเพื่อเชิญเธอมา ก็น่าจะมีโอกาสอยู่บ้างค่ะ” แม่นมเฉียวเสนอ
“ฮ่า…สนใจเจ้าเก้างั้นเหรอ” อินเยวี่ยหรงยกมุมปากขึ้นนิดๆ ก่อเป็นรอยยิ้มเยียบเย็นเข้าไปถึงในกระดูก “แบบนั้นยิ่งน่าสงสัยเลยไม่ใช่เหรอไง”
“นายหญิง แต่ดิฉันไม่คิดแบบนั้นนะคะ” แม่บ้านเฉียวส่ายหน้า “ผู้หญิงประเภทนี้ เย่อหยิ่งจองหองเข้าไปถึงในกระดูก มักจะถูกคนแบบคุณชายใหญ่ดึงดูดได้ง่ายๆ เหมือนแม่เหล็กไงคะ
อีกอย่าง เรื่องราวต่างๆ ล้วนแสดงให้เห็นชัดเจนแล้ว เนี่ยอู๋โยวกับอี้อวิ๋นโม่เป็นคนละคนกัน ยังมีอีกนะคะ เมื่อวานนี้คนที่ถูกส่งไปเมืองอวิ๋นกลับมาแล้ว ข่าวที่ได้มาคือ ในตอนนี้เนี่ยอู๋โยวยังอยู่ที่เมืองอวิ๋นจริงๆ แถมยังกลัดกลุ้มเรื่องของผู้อาวุโสสามมากด้วยค่ะ”
“ได้เห็นตัวเนี่ยอู๋โยวรึเปล่า” อินเยวี่ยหรงถาม
“ไม่เลยค่ะ” แม่นมเฉียวส่ายหน้า “เพียงแต่ สายข่าวที่ดิฉันจัดวางไว้ในพันธมิตรอู๋เว่ยบอกว่า หลายวันมานี้ เนี่ยอู๋โยวเรียกประชุมสมาชิกระดับสูงเป็นการด่วนอยู่หลายครั้ง น่าจะไม่ผิดพลาดแน่ค่ะ”
“ฉันยังยืนยันคำนั้นอยู่ สรุปแล้วจะเป็นเจ้าหญิงหรือนางซิน ต้องมาที่ตระกูลอินสักครั้งถึงจะรู้กันจริง” อินเยวี่ยหรงเอ่ยด้วยรอยยิ้มเยียบเย็น
….
รุ่งเช้าวันต่อมา เยี่ยหวันหวั่นเพิ่งตื่นนอน ก็ได้รับสายเรียกเข้าจากซือเยี่ยหาน
“ที่รัก คิดถึงฉันเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยยิ้มๆ
“เมื่อวานแม่ฉันมาหาฉัน” ซือเยี่ยหานเปิดประเด็น
“โอ้ ว่าไงบ้างล่ะ” เยี่ยหวันหวั่นถามด้วยความอยากรู้
“ให้ฉันเชิญเธอไปที่บ้านตระกูลอิน” ซือเยี่ยหานตอบ
“ดังนั้นคุณเลยปฏิเสธไปแล้วสินะ” เยี่ยหวันหวั่นใคร่ครวญดู
“ฉันตอบตกลง” ซือเยี่ยหานเอ่ยเรียบๆ
เยี่ยหวันหวั่นมีสีหน้ามึนงง ตกลงเหรอ พลาดไปแล้วรึเปล่า!
“แม่ฉันสงสัยในตัวตนของเธอสุดๆ และที่ให้ฉันเชิญเธอไปในครั้งนี้ น่าจะมีอยู่สองเป้าหมาย” ซือเยี่ยหานวิเคราะห์ “อย่างแรกคือหยั่งเชิงท่าทีของฉัน ถ้าหากฉันปฏิเสธ ความสงสัยของเธอจะยิ่งไม่มีทางลดลง”
สำหรับเรื่องนี้ ในใจของเยี่ยหวันหวั่นก็ทราบดีเช่นกัน เพราะว่าถ้าอี้อวิ๋นโม่ตัวจริงไปที่บ้านตระกูลอิน จะไม่มีทางเกิดอันตรายใดๆ ขึ้น แต่ถ้าเป็นเนี่ยอู๋โยวที่สวมรอยมาไปเยือนบ้านตระกูลอินจะมีภัยต่อชีวิตแน่
ถ้าซือเยี่ยหานปฏิเสธ แบบนั้นเกรงว่าอินเยวี่ยหรงคงใช้วิธีที่รุนแรงยิ่งกว่าเดิม
“ว้าว ที่รักของฉันฉลาดจริงๆ!” เยี่ยหวันหวั่นชม
“อย่าเพิ่งรีบชมฉันเลย” ซือเยี่ยหานเอ่ยขัดด้วยความจนปัญญา “อย่างที่สอง แม่ฉันให้เธอไปที่บ้านตระกูลอิน คงคิดจะยืนยันตัวตนของเธอให้แน่ใจ อย่างน้อยๆ ถ้าเธอแสดงท่าทางแบบนี้ ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าสรุปแล้วเธอคืออี้อวิ๋นโม่ตัวจริงหรือว่าตัวปลอมกันแน่”
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้าคนเดียว “ฉันเข้าใจแล้ว”
“ถึงแม้ฉันจะตอบตกลงไปแล้ว แต่ทางเธอก็ไม่จำเป็นต้องไปหรอก ฝั่งแม่ของฉัน ฉันมีวิธีจัดการแน่ รวมถึงเรื่องผู้อาวุโสสามด้วย ฉันจะหาทางช่วยเขาออกมา” ซือเยี่ยหานเอ่ย
….
หลังจากวางสายแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็ยกยิ้มนิดๆ บ้านตระกูลอินน่ะ เธอต้องไปแน่ ทุกอย่างล้วนอยู่ในแผนการของเธอแล้ว
อินเยวี่ยหรงอยากหยั่งเชิงตัวเอง นอกจากจะเอาผู้อาวุโสสามมาทดสอบ อินเยวี่ยหรงก็ไม่มีวิธีอื่นนอกจากนี้แล้ว
“คุณหนูคะ แม่บ้านเฉียวมาอีกแล้วค่ะ”
ต่อมา เสียงของแม่บ้านอู๋ก็แว่วดังมาจากนอกประตู
“อืม เธอไปบอกแม่บ้านเฉียวว่า รอฉันสักหน่อย ครั้งนี้ฉันจะไปเยี่ยมคารวะตุลาการอินเยวี่ยหรงเอง” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยตอบ
—————————————————————————————
บทที่ 2238 เป็นเกียรติที่มาเยือน
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆ คุณหนูอี้ถึงตอบรับแม่นมเฉียวไปหาอินเยวี่ยหรงที่บ้าน แต่แม่บ้านอู๋กลับทำได้เพียงพยักหน้ารับคำสั่ง ไม่ได้พูดอะไรมาก
หลังจากเยี่ยหวันหวั่นอาบน้ำแต่งตัว เปลี่ยนไปสวมชุดเดรส ปล่อยเรือนผมยาวแผ่สยายตามสบาย ถึงได้ก้าวออกจากห้องนอน
“คุณหนูอี้ สวัสดีค่ะ”
หลังจากเห็นเยี่ยหวันหวั่น แม่นมเฉียวก็รีบเข้ามาต้อนรับ
เยี่ยหวันหวั่นเหลือบมองแม่นมเฉียวแวบหนึ่ง แล้วพยักหน้าให้ ถือเป็นการตอบรับ
“คุณหนู ต้องการให้ดิฉันไปด้วยไหมคะ”
แม่บ้านอู๋ที่อยู่ด้านหลังเอ่ยถามเยี่ยหวันหวั่น
“ไม่จำเป็น ฉันไปคนเดียวก็พอ” เยี่ยหวันหวั่นตอบ
“ได้ค่ะ ถ้าคุณหนูมีอะไรโทรหาดิฉันได้ตลอดเลยนะคะ”
แม่บ้านอู๋กล่าวพลางมองส่งเยี่ยหวันหวั่นขึ้นรถของตระกูลอินออกไป
….
ณ บ้านตระกูลอิน
นี่คือการมาเยือนบ้านตระกูลอินเป็นครั้งแรกของเยี่ยหวันหวั่น ถึงจะไม่รู้ว่าทำไม แต่สัมผัสได้ว่าบ้านตระกูลอิน น่าอึดอัดมาก ทำให้คนหายใจไม่ออกอยู่บ้าง
“คุณหนูเนี่ย…เชิญทางนี้ค่ะ…”
นัยน์ตาของแม่นมเฉียวกลอกกลิ้งแวบหนึ่ง ยิ้มพลางเอ่ยกับเยี่ยหวันหวั่น
ตอนแรกเยี่ยหวันหวั่นคิดจะตอบรับไปตามสัญชาตญาณ แต่พอคำพูดขึ้นมาจ่อถึงปาก จู่ๆ ก็ตระหนักอะไรขึ้นได้ จึงยั้งไว้ทัน
“เธอ เมื่อกี้เธอเรียกฉันว่าอะไรนะ เนี่ยเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นมองแม่นมเฉียว
“ไม่ค่ะไม่ คุณหนูอี้น่าจะฟังผิดไปนะคะ ดิฉันพูดว่า คุณหนูอี้เชิญทางนี้ค่ะ” แม่นมเฉียวรีบบอก
เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่ได้พูดมากอีก เดินตามแม่นมเฉียวเข้าไปในบ้าน
คำว่าคุณหนูเนี่ยที่แม่นมเฉียวเอ่ยเมื่อครู่นี้ ยิ่งทำให้เยี่ยหวันหวั่นแน่ใจว่า อินเยวี่ยหรงคลางแคลงในตัวเธอ จะเผอเรอไม่ได้เด็ดขาด ต้องระวังให้มากกว่าเดิม จะตกหลุมพรางไม่ได้
“ฮ่า ตุลาการอินช่างวางมาดใหญ่โตจริงๆ” จู่ๆ เยี่ยหวันหวั่นก็เอ่ยเย้ยหยัน
พอได้ยินคำพูดของเยี่ยหวันหวั่น แม่นมเฉียวก็ผงะไปเล็กน้อย “คุณหนูอี้ คำพูดนี้ของคุณหนู…เอามาจากไหนกันคะ”
“ทำไมล่ะ ตุลาการอินไม่ไปเชิญฉันด้วยตัวเอง พอตอนนี้ ฉันมาถึงบ้านตระกูลอินแล้ว ตุลาการอินเยวี่ยหรงคนนี้ก็ไม่ออกมาต้อนรับเลยสักนิด” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย
“ขออภัยค่ะ คุณหนูอี้…หลายวันมานี้ สุขภาพของตุลาการอินไม่สู้ดีนัก ขอให้คุณหนูช่วยอะลุ่มอล่วยให้ด้วย อย่าถือโทษเลยนะคะ” แม่นมเฉียวชี้แจง
ในใจของแม่นมเฉียว ฐานะลูกสาวประธานสภาตุลาการของคนที่อยู่ตรงหน้านี้ ยืนยันได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว จึงไม่กล้าประมาทเลินเล่อใดๆ เลย
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง แม่นมเฉียวก็พาเยี่ยหวันหวั่นเข้ามาในห้อง
อินเยวี่ยหรงนั่งอยู่บนโซฟาด้วยสีหน้าเรียบเฉย หลังจากมองเห็นเยี่ยหวันหวั่น ถึงค่อยๆ ลุกขึ้นมา มุมปากฉาบรอยยิ้มที่คล้ายจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม “คุณหนูอี้ เป็นเกียรติมากที่มาเยือน ถ้าการต้อนรับบกพร่องไปก็ขออภัยด้วย”
เยี่ยหวันหวั่นเพิกเฉยต่ออินเยวี่ยหรง แล้วนั่งลงบนตำแหน่งหลักเองดื้อๆ
“อืม ดูเหมือนตุลาการอินก็พอจะรู้ตัวอยู่บ้างนี่ ในเมื่อตุลาการอินรู้ว่าตัวเองให้การต้อนรับบกพร่อง แล้วทำไมยังไม่ไปต้อนรับอีกล่ะ” เยี่ยหวันหวั่นปรายตามองอินเยวี่ยหรงแวบหนึ่ง
พอได้ยินคำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่น ดวงตาของอินเยวี่ยหรงทอประกายเยียบเย็นแวบหนึ่ง มุมปากฉาบรอยยิ้มเยือกเย็น “ฮ่า…แม่บ้านเฉียวน่าจะเรียนให้คุณหนูอี้ทราบแล้ว ระยะนี้สุขภาพของฉันไม่สู้ดี โดนลมไม่ได้คุณหนูอี้โปรดอย่าถือโทษเลย”
“โดนลมไม่ได้งั้นเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นมองไปร่างของอินเยวี่ยหรง “ในเมื่อตุลาการอินโดนลมไม่ได้ งั้นก็ควรจะพักอยู่ในบ้านให้ดีสิ ไม่มีธุระก็ไม่ต้องไปหาฉัน สุขภาพของฉันแข็งแรง แถมยังมีธุระคอยให้จัดการอยู่”
เยี่ยหวันหวั่นไม่ให้โอกาสอินเยวี่ยหรงได้พูดเลย เอ่ยขึ้นมาอีกว่า “ตุลาการซือล่ะ”
“ลูกเก้ายังไม่กลับ” อินเยวี่ยหรงเอ่ยอย่างไม่ร้อนใจ
“ยังไม่กลับ?!” พอได้ยินคำพูดนี้ของอินเยวี่ยหรง สีหน้าของเยี่ยหวันหวั่นก็เยียบเย็นลงทันที เพียงมองแวบเดียว ก็ทำให้คนราวกับจมอยู่ในถ้ำน้ำแข็งได้ในชั่วพริบตา
“น่าขำ ฉันมาเพราะตุลาการซือ ในเมื่อตุลาการซือยังไม่กลับมา ฉันคิดว่า ฉันก็ไม่มีเวลาพอมานั่งเสียเวลากับพวกคุณที่นี่หรอกนะ” พอเยี่ยหวันหวั่นพูดจบ ก็ลุกขึ้นคิดจะจากไป
—————————————————————————————