แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 2365 มาอยู่กับเธอทุกวัน / บทที่ 2366 ต้นขาที่หนาเป็นพิเศษ
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 2365 มาอยู่กับเธอทุกวัน / บทที่ 2366 ต้นขาที่หนาเป็นพิเศษ
บทที่ 2365 มาอยู่กับเธอทุกวัน
เวรเอ้ย! ทำไมคำพูดคำจาของไอ้หมอนี่แปลกขนาดนี้กันนะ พูดเหมือนเธอเป็นชายชั่วคนหนึ่ง…
เยี่ยหวันหวั่นมองไปทางหน้าต่างตามสัญชาตญาณ แล้วทำไมยังเห็นเงาคนอยู่อีกล่ะ
ต้องพูดเลยว่า หยวนเซียวคนนี้ ไปมาอย่างไร้ร่องรอยของจริง รอบบริเวณนี้มีบอดี้การ์ดและสายสืบที่อี้หลิงจวินจัดไว้คอยจับตามองอยู่นานแล้ว แต่ผลคือยังคงปล่อยให้หยวนเซียวบุกเข้ามาอย่างวางท่าลอยชายได้อยู่ดี
ตอนแรกเยี่ยหวันหวั่นคิดไว้ในใจว่า บอดี้การ์ดและสายสืบพวกนี้ จะใช่คนของรองฉินแฝงตัวมาหรือไม่ พบเห็นหยวนเซียวแต่แสร้งทำเป็นไม่พบ แต่พอมาคิดดูดีๆ อีกที กลับรู้สึกว่าเป็นไปไม่ได้ คนพวกนี้ต่างก็เป็นคนที่อี้หลิงจวินคัดเลือกมาด้วยตัวเอง ไม่มีทางเกี่ยวข้องกับรองฉินได้
หลังจากหยวนเซียวไปแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็เข้าไปเกาะติดซือเยี่ยหานทันที “แหะๆ ที่รักฉันเป็นเด็กดีใช่ไหม ฉันเด็ดดอกท้อเน่าๆ ทิ้งด้วยตัวเองเลยนะ!”
เวลานี้ ความเย็นชาในดวงตาของซือเยี่ยหานก็กลายเป็นความอบอุ่น แววตาเต็มไปด้วยความไม่ชอบใจ “ต่อไปอย่าว่าตัวเองแบบนี้”
เยี่ยหวันหวั่นตอบทันที “นี่จะเป็นอะไรไป แค่คุณมีความสุขก็พอแล้ว!”
หลินเชวียพึมพำเสียงอ้อมแอ้ม “อันที่จริงรู้สึกว่าทุกอย่างที่เธอพูดเป็นความจริงทั้งนั้น พี่เก้าพี่ต่างหากที่เข้าใจซ้อเก้าผิดไป…”
ซือเยี่ยหานมองหลินเชวียอย่างเฉยชาแวบหนึ่ง หลินเชวียจึงหุบปากทันที ได้ๆๆ เมียพี่ดีที่สุด เมียพี่ใสซื่อไร้เดียงสาสุดๆ เมียพี่เป็นเทพธิดาผู้อารีที่สุดในโลก!
หลังจากนั่งลงแล้ว เยี่ยหวันหวั่นก็เริ่มอธิบายกับซือเยี่ยหาน “คืนนี้มีคนส่งนักฆ่ามาลอบสังหารฉัน ผลคือนักฆ่าคนนั้นรับโทรศัพท์ เป็นสายจากพี่ชายฉัน จากนั้นฉันเลยพบว่านักฆ่าคนนี้คือคนรู้จักในสมัยก่อนของฉัน เป็นเพื่อนสนิทของพี่ชายฉัน ชื่อว่าหยวนเซียว…”
หลินเชวียฟังแล้วก็ตะลึงไปเล็กน้อย “มีคนส่งนักฆ่ามาลอบสังหารเธองั้นเหรอ แต่ตอนนี้เธอคืออี้อวิ๋นโม่นะ! ใครกันที่ใจกล้าขนาดนี้”
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยขึ้นมา “เรื่องนี้น่ะ หยวนเซียวไม่ได้บอก พวกเขามีกฎอยู่ ว่าไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลของนายจ้างได้ แต่จากถ้อยคำของเขา ส่วนใหญ่ก็พอจะเดาได้แล้วว่าเป็นใคร”
“ฉินจง…” ซือเยี่ยหานเอ่ยชื่อหนึ่งออกมาทันที “แต่ว่า เขาไม่มีทางออกหน้าตรงๆ ความเป็นไปได้สูงว่าคนที่จัดการเรื่องนี้แทนเขาจะเป็นอินเหิง”
ใบหน้าของเยี่ยหวันหวั่นเต็มไปด้วยความชื่นชมเลื่อมใส “ที่รักคุณฉลาดเกินไปแล้วจริงๆ ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลย คุณก็เดาได้หมดแล้ว”
เห็นซือเยี่ยหานมีสีหน้าไม่สู้ดี เยี่ยหวันหวั่นจึงรีบเอ่ยปลอบ “ที่รักอย่างกังวลไปเลยค่ะ ฉันไม่เป็นไรหรอก อันที่จริงทางรองฉินไม่พอให้เป็นกังวลหรอก ถึงยังไงก็ยังมีอี้หลิงจวินหนุนหลังอยู่ อีกทั้งตัวตนนี้ของฉันก็เป็นการอุปโลกน์ขึ้น เลยสามารถหาจังหวะเหมาะๆ ถอนตัวได้ตลอดเวลา เพราะงั้นไม่มีอันตรายหรอก…”
คนที่เธอกังวลจริงๆ น่ะ คืออินเยวี่ยหรง
หลังจากล้มเหลวในแผนการเปิดโปงเธอครั้งก่อน อินเยวี่ยหรงก็ไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรอีกเลย แต่เธอมีลางสังหรณ์ว่า อินเยวี่ยหรงไม่มีทางยอมถอยแน่
ซือเยี่ยหานก็รู้ว่าเยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ผิดเลย เพียงแต่เขาไม่อาจปล่อยให้เกิดอันตรายใดๆ ขึ้นได้
“นับตั้งแต่คืนนี้ไป ฉันจะมาอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนเธอ” ซือเยี่ยหานเอ่ย
เยี่ยหวันหวั่นฟังแล้วผงะไปแวบหนึ่ง ดวงตาเป็นประกาย พร้อมกับพยักหน้ารัวๆ “จริงเหรอ ดีจังเลย!”
ไม่คิดไม่ฝันเลยว่า เธอจะมีโชคจากเคราะห์
เพียงแต่…ถ้าซือเยี่ยหานมาอยู่เป็นเพื่อนเธอที่นี่ เธอต้องบอกแม่บ้านเอาไว้ให้ชัดเจน ให้จับตามองให้ดี ไม่อาจปล่อยให้มีซวี่หยางคนที่สองได้
“ทางผู้อาวุโสสามไม่ต้องเป็นห่วง ถูกปล่อยตัวแล้ว” ซือเยี่ยหานบอก
เยี่ยหวันหวั่นโล่งใจขึ้นมา “แบบนั้นก็ดี…”
เห็นทีว่าเป็นเพราะผู้อาวุโสสามไม่มีประโยชน์แล้ว ประกอบกับมีการกดดันจากทางซือเยี่ยหาน ดังนั้นอินเยวี่ยหรงถึงได้ปล่อยตัวเขา
—————————————————————————————
บทที่ 2366 ต้นขาที่หนาเป็นพิเศษ
“ใช่แล้ว ระยะนี้การประชุมของคุณยังราบรื่นดีไหม” เยี่ยหวันหวั่นถาม
ซือเยี่ยหานตอบ “มีประธานอี้คอยสนับสนุน ตอนนี้นับว่าราบรื่นดี”
ประกอบกับเยี่ยหวันหวั่นใช่ตัวตนระดับสูงอย่างอี้อวิ๋นโม่มาให้ความโปรดปรานเขา จึงช่วยสนับสนุนซือเยี่ยหานได้ไม่น้อยเลย
เยี่ยหวันหวั่นทบทวนดู “เท่าที่ฉันรู้มา การปฏิรูปที่ใหญ่โตขนาดนี้ ต่อให้มีอี้หลิงจวินหนุนหลัง ก็ผ่านไม่ได้ง่ายๆ แบบนั้นหรอก ฉันจำได้ว่าสภาตุลาการมีกฎอยู่ว่า การปรับแก้กฎหมายเป็นเรื่องใหญ่ ต้องได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกสภาตุลาการทั้งหมดถึงจะผ่าน”
ซือเยี่ยหานตอบรับตามตรง “ใช่”
เยี่ยหวันหวั่นเงียบลง
ดังนั้น ต่อให้พวกเขาโน้มน้าวทุกคนได้ แล้วจะผ่านด่านอินเยวี่ยหรงไปได้ยังไง
อิงจากนิสัยของอินเยวี่ยหรงแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะยอมให้ร่างกฎหมายผ่าน
โดยเฉพาะหลังจากที่เยี่ยหวันหวั่นได้รับรู้เรื่องของอินเยวี่ยหรงและซือไหวจางในอดีตแล้ว ก็ยิ่งแน่ใจในจุดนี้
ปีนั้นซือไหวจางก็หนีตามผู้หญิงนอกรัฐอิสระไป อินเยวี่ยหรงจะยอมเห็นด้วยกับการแต่งงานอย่างอิสระได้ยังไง
“อย่าห่วงเลย” ดวงตาของซือเยี่ยหานทอแววมืดสลัวแวบหนึ่ง “ทุกคนต่างก็มีจุดอ่อน เธอเองก็ไม่ต่างกัน”
เพียงแต่ ถ้าไม่ถึงขั้นนั้น เขาก็ไม่อยากใช้วิธีนั้น ไม่ง่ายเลยกว่าเขาจะปีนขึ้นมาจากแอ่งน้ำครำได้ ไม่อยากกลายเป็นคนแบบเดียวกันกับเธอ
ขณะที่ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่ มือถือของเยี่ยหวันหวั่นก็ดังขึ้นมา เป็นสายเรียกเข้าจากเนี่ยอู๋หมิง
เยี่ยหวันหวั่นรับสายทันที “ฮัลโหล พี่”
“อู๋โยว ไอ้หนุ่มหยวนเซียวล่ะ ไปรึยัง” เนี่ยอู๋หมิงสอบถามทันที
เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้าพลางตอบ “อืมๆ ไปแล้ว”
“แกอยู่บ้านคนเดียวระวังตัวด้วย” เนี่ยอู๋หมิงกำชับ
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นไร คุณเก้าอยู่ด้วย”
พอเนี่ยอู๋หมิงได้ยินก็เอ่ยอย่างโล่งอก “โอ้ น้องเขยอยู่ด้วยสินะ แบบนั้นก็ดี งั้นฉันก็วางใจแล้ว!”
เยี่ยหวันหวั่นนึกในใจ เขายังคงไว้วางใจซือเยี่ยหานมากจริงๆ
เนี่ยอู๋หมิงเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็กดเสียงต่ำแล้วเอ่ยออกมา “อู๋โยว พี่รู้เรื่องที่แกกับน้องเขยคอยทุ่มเทเพื่อร่างกฎหมายอยู่ตลอด และรู้ว่าเรื่องนี้ยากเย็นมาก พวกแกไม่จำเป็นต้องฝืนเกินไป ถ้ามันง่ายขนาดนั้น คงไม่เป็นข้อพิพาทกันมาจนถึงตอนนี้…ไม่งั้นฉันจะพาหลิงเหมี่ยวไปจากรัฐอิสระก็ได้!”
ตอนนี้ เนี่ยอู๋หมิงเปลี่ยนไปมากจริงๆ ไอพยาบาทบนร่างสงบลงหมดแล้ว
เขาเป็นปฏิปักษ์กับทั้งโลก แต่วินาทีที่เธอเลือกยืนอยู่ข้างเดียวกับเขาอย่างไม่ลังเล เขาก็รู้สึกเหมือนรับได้การไถ่บาป
บวกกับหลิงเหมี่ยวยังไม่ตาย จึงมอบความหวังให้เขาอีกครั้ง ในที่สุดปมในใจของเขาก็คลี่คลายลงแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยด้วยสีหน้าอ่อนโยน “พี่ เรื่องยังไม่ถึงขั้นนั้น แถมยังมีความหวังอยู่มากด้วย ฉันกอดต้นขาที่หนาเป็นพิเศษไว้แล้ว เอ่อ ไม่ถูกสิ พูดกันตรงๆ นะ ต้นขาข้างนั้นยื่นมาให้ฉันกอดเองเลย… ”
เนี่ยอู๋หมิงฟังแล้วก็นึกสงสัย “ตอนขาที่หนาเป็นพิเศษเหรอ ใครกัน”
เยี่ยหวันหวั่นตอบอ้อมแอ้ม “พ่อฉัน…อี้หลิงจวิน…”
เนี่ยอู๋หมิงงงหนักกว่าเดิม
ผ่านไปพักหนึ่งเนี่ยอู๋หมิงก็รีบเอ่ยถาม “ใช่แล้ว ฉันยังไม่ได้ถามแกเลย แกเข้าไปอยู่ในตระกูลอี้ได้ยังไง ไปหลอกอี้หลิงจวินตั้งแต่เมื่อไหร่ แม้แต่ลูกสาวตัวเองก็จำผิดงั้นเหรอ”
เยี่ยหวันหวั่นย้อนถาม “ถ้าฉันบอกว่าอี้หลิงจวินบังคับฉันให้ฉันไปเป็นลูกสาวเขาล่ะ”
เนี่ยอู๋หมิงที่อยู่ปลายสายพูดเสียงดังขึ้นมา “น้องเขย น้องเขยนายอยู่รึเปล่า ฉันคิดว่านายต้องใส่ใจระบบประสาทของน้องสาวฉันสักหน่อยแล้ว”
เยี่ยหวันหวั่นดึงมือถือออกให้ห่างจากซือเยี่ยหานเล็กน้อย “ไปให้พ้น! ระบบประสาทฉันโอเคมาก!”
เยี่ยหวันหวั่นอธิบายสถานการณ์อันน่าหงุดหงิดกับเนี่ยอู๋หมิง ให้เขาวางใจ แล้วยังขอให้ช่วยปิดบังด้วย ไม่งั้นถ้าพ่อแม่รู้เข้าว่าเธอแอบแจ้นมาหาซือเยี่ยหานที่เมืองเทียนสุ่ยต้องระเบิดลงแน่…
….
เช้าวันต่อมา
ท้องฟ้าเริ่มสว่าง ใกล้ถึงเวลาเข้าประชุมแล้ว
ในการประชุมแต่ละครั้งซือเยี่ยหานไม่เคยมาสายเลย แต่ว่า ตอนนี้ เขามองหญิงสาวที่นอนซุกอยู่ในอ้อมแขนตัวเอง หักใจขยับตัวไม่ได้เลยสักนิด
จนกระทั่งมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น จากนั้นแม่บ้านคนหนึ่งก็ยกถาดเข้ามา
“คุณหนูใหญ่…” แม่บ้านพูดยังไม่จบ เมื่อสายตาเคลื่อนไปที่เตียง ก็พลันเห็นว่าบนเตียงของคุณหนูใหญ่ของตัวเองมีผู้ชายคนหนึ่งเพิ่มขึ้นมา!
“เพล้ง...” ด้วยความตกใจ แม่บ้านจึงทำถาดหลุดมือ
“แม่บ้านอู๋ มีอะไร” น้ำเสียงกระวนกระวายของอี้หลิงจวินแว่วดังมาจากด้านหลัง
จากนั้น อี้หลิงจวินรีบเคลื่อนกายเข้ามา จากนั้นก็จ้องมองคนทั้งสองที่อยู่บนเตียง ทึ่มทื่อไป…
—————————————————————————————