แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 2379 อย่าทำเท้าสกปรก / บทที่ 2380 เข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 2379 อย่าทำเท้าสกปรก / บทที่ 2380 เข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า
บทที่ 2379 อย่าทำเท้าสกปรก
ฉินซีย่วนก็รีบเปิดปากพูด “เนี่ยอู๋โยว พ่อฉันเป็นรองประธานสภาตุลาการ เธอมาสาดโคลนใส่คนอื่นโดยไม่มีหลักฐานแบบนี้ รู้ผลลัพธ์ที่จะตามมาบ้างไหม”
ตุลาการคนอื่นๆ ได้ฟังแล้วต่างก็มีสีหน้าเหลือจะเชื่อ ตุลาการหลายคนที่อยู่ข้างฉินจงก็ช่วยพูดให้ฉินจงด้วย
ในตอนนี้เอง มีเสียงฝีเท้าแว่วดังมาจากด้านหลัง ซือเยี่ยหานในชุดเสื้อโค้ทสีดำ ในมือถือซองเอกสารสีน้ำตาลซองหนึ่งเดิมมุ่งตรงมาทางฝูงชนด้านนี้
พอเยี่ยหวันหวั่นมองเห็นซือเยี่ยหาน ลมหายใจที่ตึงเคร่งมาตลอด ในที่สุดก็ผ่อนคลายลง “คุณเก้า…”
มองเห็นเพียงว่าซือเยี่ยหานเดินตรงไปทางเยี่ยหวันหวั่น สายตาเยือกเย็นเหลือบมองอินเหิงที่ถูกเหยียบไว้ใต้เท้าเธอ ขมวดคิ้วแล้วกล่าวออกมา “หวันหวั่น ปล่อยซะ”
เยี่ยหวันหวั่นไม่ยินยอม “ฉันไม่ปล่อย! เขาจับถังถังไป!”
ซือเยี่ยหานเอ่ยสั้นๆ “อย่าทำเท้าสกปรกสิ”
เมื่อซือเยี่ยหานพูดจบ ก็ส่งสายตาให้หลินเชวียที่อยู่ด้านข้าง
หลินเชวียเบะปากอย่างยอมรับชะตากรรม แล้วเดินเข้าไป “โอเคๆๆ งานแบบนี้โยนมาให้ฉันซะ ซ้อเก้าเธอปล่อยเถอะ ฉันจะช่วยเหยียบไว้ให้เธอเอง ฉันไม่กลัวสกปรก!”
พอถูกซือเยี่ยหานโอบไว้หลวมๆ เยี่ยหวันหวั่นถึงได้ยอมยกเท้าออก แล้วไปอยู่ข้างกายซือเยี่ยหาน
“อึก…” อินเหิงครางออกมา หลังจากถูกหลินเชวียเหยียบกลับไปอีกครั้ง
ซือเยี่ยหานกล่อมเยี่ยหวันหวั่น จากนั้นก็ถือซองเอกสารสีน้ำตาลซองนั้น เดินเข้าไปหาอี้หลิงจวิน “ประธานสภาครับ ของที่ท่านต้องการครับ โชคดีที่ทำสำเร็จ”
เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในมือของซือเยี่ยหาน สีหน้าของฉินจงก็แปรเปลี่ยนเล็กน้อย สังหรณ์ใจไม่ค่อยดีขึ้นมาอย่างน่าประหลาด อินเหิงก็กลั้นหายใจแล้วเช่นกัน
“เยี่ยมมาก ลำบากเธอแล้ว” อี้หลิงจวินรับซองเอกสารมาจากมือของซือเยี่ยหาน พอพูดจบก็โยนลงที่ปลายเท้าฉินจงเสียงดัง ‘ตุบ’จากนั้นจึงเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “คุณดูเอาเองเถอะ!”
ตอนนี้ฉินจงรู้สึกตระหนกขึ้นมาแล้วจริงๆ หยิบสิ่งที่กระจายอยู่บนพื้นขึ้นมาด้วยอาการสั่นเทา ตุลาการคนอื่นๆ ที่อยู่ข้างกายก็ก้มตัวลงหยิบเอกสารที่กระจายออกมาจากในซองขึ้นมา
ผลคือ มองแวบเดียวก็มีสีหน้าตื่นตะลึงกันไปหมด
ฉินจงคนนี้ ละโมบมากเกินไปแล้ว!
หลายปีมานี้ใช้อำนาจสภาตุลาการหาเงินมากมายขนาดนี้ ขนาดว่ามีตำแหน่งเป็นรองประธานสภาตุลาการอีกทั้งยังทราบข้อกฎหมายดี แต่ลับหลังกลับทำเรื่องน่าละอายเอาไว้ไม่รู้มากแค่ไหน
แต่ละเรื่องแต่ละคดีถูกซือเยี่ยหานขุดค้นออกมาทั้งหมด ซักไซ้จนกระจ่าง!
“ใครก็ได้ คุมตัวรองฉินไป และล็อกดาวน์ตระกูลฉินทันที” อี้หลิงจวินสั่งการ
จากนั้นก็มีคนหลั่งไหลเข้ามาจากด้านนอก คุมตัวรองฉินเอาไว้ทันที
ฉินซีย่วนก็ถูกควบคุมตัวด้วยเช่นกัน มองไปที่อี้หลิงจวินด้วยสีหน้ากระวนกระวาย “ประธานสภาคะ! เข้าใจผิดแล้ว! นี่ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดแน่นอน! ประธานสภาอย่าไปฟังคำปลุกปั่นของนังชั้นต่ำคนนี้นะคะ!”
อี้หลิงจวินตอบนิ่งๆ “คุณหนูฉิน ถ้ามีอะไรจะพูด รอให้ถึงเวลาตัดสินคดี จะให้โอกาสเธอได้แก้ต่างแน่นอน”
ฉินซีย่วนขาอ่อนทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง จบแล้ว ทุกอย่างจบสิ้นแล้ว…
“อินเหิง! เพราะแก! ทุกอย่างมันเป็นเพราะแก! แกมันสวะ! ไร้ประโยชน์! ต้องโทษแกคนเดียว!” ฉินซีย่วนพุ่งเข้าใส่อินเหิงด้วยความคุ้มคลั่ง เตะอินเหิงจนกระอักเลือดออกมาอีกหลายคำ
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาลอบสังหารเนี่ยอู๋โยวล้มเหลว จะแหวกหญ้าให้งูตื่นได้ยังไง จะทำให้ตระกูลฉินของพวกเธอพินาศได้ยังไง!
เวลานี้ฉินซีย่วนนึกเสียใจจนลำไส้เขียวหมดแล้ว ความผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตนี้ของเธอก็คือเลือกคบหากับไอ้โง่อย่างอินเหิงคนนี้
ซือเยี่ยหาน…ถ้าตอนนั้นคนที่เธอคบหาคือซือเยี่ยหาน จะไม่มีทางเกิดเรื่องแบบตอนนี้ขึ้นเด็ดขาด…
แต่ว่า สายไปแล้ว ทุกอย่างสายไปแล้ว!
ฉินซีย่วนที่มีสีหน้ามืดครึ้มถูกบอดี้การ์ดลากออกไป พลางมองไปทางเยี่ยหวันหวั่นด้วยสีหน้าที่เปี่ยมด้วยความเคียดแค้นชิงชัง
สิ่งที่ทำให้เธอไม่อาจยอมรับได้ยิ่งกว่าการที่ผู้เป็นพ่อถูกจับกุมก็คือ ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่คิดเลยว่า ผู้หญิงแพศยาชั้นต่ำคนนี้ จะเป็นศิษย์ผู้สืบทอดเพียงคนเดียวของอี้หลิงจวิน…
—————————————————————————————
บทที่ 2380 เข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่า
ผู้คนในรัฐอิสระต่างทราบดีว่า ศิษย์ผู้สืบทอดกับศิษย์สายนอกแตกต่างกันอย่างมหาศาล
ศิษย์ผู้สืบทอดมีแค่คนเดียว มากสุดก็แค่สองถึงสามคน จะได้รับการถ่ายทอดทักษะทุกอย่าง ส่วนศิษย์สายนอกสามารถมีได้ถึงหลักหมื่นหลักพันคน และส่วนใหญ่ต่างก็ได้รับการสั่งสอนจากศิษย์พี่ใหญ่คนอื่นๆ มีมากมายที่ไม่เคยแม้แต่จะได้ใกล้ชิดกับผู้เป็นอาจารย์เลย
ส่วนคนระดับอี้หลิงจวิน ต่อให้ขึ้นชื่อว่าได้เป็นศิษย์สายนอก ก็มีเกียรติมากพอแล้ว ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงเยี่ยหวันหวั่นที่เป็นศิษย์ผู้สืบทอดของอี้หลิงจวินเลย
วินาทีนี้ แววตาที่ทุกคนมองเนี่ยอู๋โยวก็แตกต่างออกไปบ้างแล้ว
ขณะเดียวกันก็มีหลายคนที่มองซือเยี่ยหานด้วยสีหน้าเปี่ยมด้วยความริษยา
ก่อนหน้านี้พวกเขาคิดว่าซือเยี่ยหานสายตาไร้แวว พอดูจากตอนนี้ คนคนนี้สิถึงจะเป็นผู้ชนะตัวจริง!
เวลานี้ ท่ามกลางผู้คนมากมายในงานเลี้ยง คนที่เป็นทุกข์ที่สุดเกรงว่าคงจะไม่พ้นอินเหิง
อินเหิงนอนทึ่มทื่ออยู่บนพื้น จ้องซือเยี่ยหานด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยความเหลือเชื่อ หลังจากได้ทราบฐานะของเยี่ยหวันหวั่นความริษยาชิงชังที่มีต่อซือเยี่ยหาน ทำให้เขาเจ็บปวดยิ่งกว่าอาการบาดเจ็บบนร่างเป็นร้อยเท่า
เพราะอะไร! เพราะอะไรชีวิตนี้ไม่ว่าจะด้านไหนเขาก็สู้ซือเยี่ยหานไม่ได้เลย!
เขาไม่ยอม!
เขาจะยอมได้ยังไง!
หลังจากเห็นฉินจงถูกคุมตัวไปจัดการแล้ว หลินเชวียถึงส่งเสียงเตือน “ฮัลโหล แล้วจะเอายังไงกับไอ้หมอนี่ดี”
ในเรื่องนี้ ถึงยังไงอี้หลิงจวินก็ยืนอยู่ฝ่ายเดียวกับเยี่ยหวันหวั่น ดังนั้นจึงจ้องมองอินเหิงด้วยสีหน้าเย็นชาพลางเอ่ยขึ้นว่า “อินเหิงไม่ว่ามีความแค้นอะไร ก็ไม่ควรลากผู้บริสุทธิ์เข้ามาเกี่ยวด้วย โดยเฉพาะกับเด็กคนหนึ่ง ส่งถังถังมาซะ”
ใบหน้าทึ่มทื่อของอินเหิงเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา “ฮ่า…ฮ่าๆ…ถ้าผมไม่ให้ล่ะ”
เยี่ยหวันหวั่นกำหมัดแน่นทันที ขณะที่กำลังจะอ้าปาก อี้หลิงจวินก็ปรามเธอไว้แล้วพูดว่า “พาตัวกลับไป ต้องมีวิธีง้างปากเขาแน่”
“ครับ!” บอดี้การ์ดที่อยู่ด้านข้างรับคำสั่ง เตรียมจะเข้าไปจับอินเหิง
ทว่า บอดี้การ์ดยังไม่ทันลงมือ จู่ๆ กลับมีเสียงหนึ่งแว่วดังมาจากทางด้านหลัง…
“หยุดก่อน!”
ทุกคนหันกลับไปมองตามสัญชาตญาณ จากนั้นก็มองเห็นอินเยวี่ยหรงในชุดดำที่ตามมาด้วยผู้ติดตามสามสี่คนกลับมาถึงแล้ว
หลังจากอี้หลิงจวินเห็นอินเยวี่ยหรงกลับมา คิ้วก็ขมวดเข้าหากันนิดๆ ทันที รู้ดีว่าเรื่องราวเกรงว่าจะตึงมือแล้ว
เพียงแต่ อี้หลิงจวินไม่ได้เผยสีหน้าออกมา เอ่ยทักทายอย่างสุขุม “ตุลาการอินกลับมาแล้วเหรอครับ”
พออินเหิงมองเห็นอินเยวี่ยหรง ใบหน้าที่อึมครึมหมองหม่นก็พลันปรากฏความหวัง สองตาเปล่งประกายในทันใด “คุณแม่! คุณแม่ช่วยผมด้วย!”
อินเยวี่ยหรงทอดสายตามองลูกชายบุญธรรมที่นอนแผ่อยู่บนพื้นแวบหนึ่ง นัยน์ตาไร้ซึ่งระลอกอารมณ์ จากนั้น สายตาเธอก็เหลือบไปที่ร่างของซือเยี่ยหานและเยี่ยหวันหวั่น สุดท้ายก็เคลื่อนไปอยู่ที่ตัวอี้หลิงจวิน เอ่ยด้วยสีหน้าสงบนิ่ง “ประธานสภาคะ เรื่องราวส่วนใหญ่ฉันพอจะทราบแล้ว เพียงแต่ ไม่ทราบว่าอินเหิงทำอะไรผิดเหรอคะ ประธานอี้ถึงต้องมาจับตัวเขาไปด้วยตัวเอง”
อี้หลิงจวินขมวดคิ้วนิดๆ แล้วเอ่ยตอบ “ในเมื่อตุลาการอินรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น งั้นก็น่าจะรู้นะว่าอินเหิงลักพาตัวลูกชายของอู๋โยวไป”
อินเยวี่ยหรงหัวเราะ แล้วเอ่ยอย่างไม่ร้อนใจ “ประธานสภาคะ คุณเข้าใจอะไรผิดไปรึเปล่าคะ ลูกชายของเนี่ยอู๋โยว ก็คือหลานของฉันอินเยวี่ยหรง ฉันให้อาเหิงไปรับตัวหลานชายของฉันมา ให้มาพบหน้าคนเป็นย่าอย่างฉัน แล้วทำไมถึงบอกว่าเป็นการลักพาตัวล่ะคะ”
พอได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของอี้หลิงจวินก็ขรึมลงนิดๆ
ถึงแม้คำพูดของอินเยวี่ยหรงจะเป็นการแถโดยสมบูรณ์ แต่กลับหาจุดผิดพลาดไม่ได้เลยสักข้อ ต่อให้เป็นเยี่ยหวันหวั่นและซือเยี่ยหานก็ไม่สามารถโต้แย้งเรื่องสายสัมพันธ์นี้ได้
—————————————————————————————