แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 2383 แค่ขยะชิ้นหนึ่ง / บทที่ 2384 พี่สาว พี่เป็นนางฟ้าใช่ไหม
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 2383 แค่ขยะชิ้นหนึ่ง / บทที่ 2384 พี่สาว พี่เป็นนางฟ้าใช่ไหม
บทที่ 2383 แค่ขยะชิ้นหนึ่ง
อาจงตอบรับ “ครับ”
แม่บ้านรู้สึกเป็นกังวลอยู่บ้าง “นายหญิงคะ คุณคิดจะทำอะไรคะ อันที่จริงในเรื่องนี้ คุณชายอินเหิงทำเกินไปแล้วจริงๆ ไม่ว่ายังไงก็ไม่ควรลากเด็กที่ไร้ความผิดเข้ามาเกี่ยวข้อง หรือจะปล่อยเด็กคนนั้นไปดีคะ ทำแบบนี้คุณชายอินเหิงก็ปลอดภัยแล้ว…”
อินเยวี่ยหรงมองแม่บ้านอย่างเฉยเมยแวบหนึ่ง “เรื่องของฉัน ต้องให้เธอมาสั่งสอนแล้วงั้นเหรอ”
“นายหญิงโปรดลงโทษด้วย ดิฉันทำผิดกฎแล้ว!” แม่บ้านรีบคุกเข่าลง เหงื่อซึมเต็มหน้าผาก
เรื่องนี้มีแรงกระตุ้นต่อนายหญิงมากมาย ส่งผลให้สภาพอารมณ์ของนายหญิงไม่มั่นคงยิ่งกว่าเดิม ถ้านายหญิงทำอะไรเด็กคนนั้นด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ผลลัพธ์ที่ตามมาจะไม่น่าจินตนาการถึง…
อาจงคอยอยู่นาน เห็นอินเยวี่ยหรงไม่เอ่ยถึงอินเหิงเลยสักนิด จึงอดไม่ได้อยู่บ้าง “ถ้าอย่างนั้น…นาย…นายหญิงครับ…ทางคุณชายอินเหิงจะทำยังไงครับ ต้องรีบไปช่วยเขาออกมานะครับ!”
ใบหน้าของอินเยวี่ยหรงไร้ซึ่งความอบอุ่น “แค่ขยะชิ้นหนึ่ง คู่ควรให้ฉันเปลืองสมองเหรอ”
อาจงอึกอัก “นี่…นี่…”
….
กลางดึก ณ ห้องลับที่คุมขังอินเหิง
หลังตกดึก อาจงปลอมเป็นยามแล้วแฝงตัวเข้าไป ไม่คิดเลยว่าจะทำสำเร็จจริงๆ
“คุณชาย! คุณชายครับ…”
อินเหิงได้ยินเสียงเรียก จึงตะเกียกตะกายลุกขึ้นมา มองคนที่อยู่ตรงประตูด้วยความประหลาดใจ “อาจง! นายมาได้ยังไง!”
อาจงตอบ “ผมเป็นห่วงความปลอดภัยของคุณชาย เลยเสี่ยงปลอมตัวเข้ามาครับ!”
อินเหิงรีบสั่ง “เร็วเข้า! รีบช่วยฉันออกไป!”
สถานที่ผีสางแบบนี้เขาไม่อยากอยู่อีกแม้แต่นาทีเดียว!
“คุณชาย ที่นี่มีการคุ้มกันหนาแน่น ผมเล็ดรอดเข้ามาได้ก็ยากมากแล้ว พาคุณออกไปไม่ได้หรอกครับ!” อาจงกล่าวอย่างลำบากใจ
“สมควรตาย…” ใบหน้าของอินเหิงมืดทะมึน “ตอนนี้ทางฝั่งคุณแม่เป็นยังไงบ้าง คุณแม่จะมาช่วยฉันเมื่อไหร่ คุณแม่ให้นายมาใช่ไหม”
อาจงฟังแล้วมีสีหน้าลำบากใจอยู่บ้าง และเอ่ยออกมาด้วยความลังเล “นายหญิงเธอ…ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องคุณเลยครับ…”
อาจงไม่กล้าบอกความจริงกับอินเหิง ท่าทีของอินเยวี่ยหรง ไม่ได้คิดจะช่วยเขาเลยชัดๆ
อินเหิงผงะไปแวบหนึ่ง “อะไรที่เรียกว่าไม่เอ่ยถึงเรื่องฉันเลย”
ไม่น่าเชื่อเลยว่าอินเยวี่ยหรงจะไม่เอ่ยถึงเรื่องให้ความช่วยเหลือเขาเลย
หรือเขาจะถูกทิ้งแล้วจริงๆ
“ไม่…เป็นไปไม่ได้…เป็นไปไม่ได้…ถึงแม้ครั้งนี้ฉันจะทำให้คุณแม่ผิดหวัง…แต่คุณแม่สิ้นเปลืองกายใจไปกับฉันขนาดนี้ ฉันคือผู้สืบทอดเพียงคนเดียวของเธอ! เธอไม่มีทางทิ้งฉันแน่!” อินเหิงเอ่ย
อาจงรีบคล้อยตาม “ใช่ครับใช่ คุณพูดถูกแล้วครับคุณชาย! ตอนนี้นอกจากคุณแล้วนายหญิงยังจะพึ่งใครได้อีก ตอนนี้นายหญิงกับคุณชายใหญ่เป็นน้ำไฟไม่กล้ำกรายแล้ว คุณชายใหญ่ไม่มีทางกลับมาแน่นอน! คุณก็รู้ว่าซือเยี่ยหานเป็นคนยังไง เชื่อว่านายหญิงก็แค่ยังคิดหาทางช่วยคุณออกไปไม่ได้ชั่วคราวเท่านั้นครับ!”
อินเหิงกัดฟัน “ใช่ นายพูดถูกแล้ว ต่อให้เนี่ยอู๋โยวคนนั้นเป็นศิษย์ผู้สืบทอดของประธานสภาแล้วยังไง ความสัมพันธ์ของซือเยี่ยหานกับอินเยวี่ยหรงไม่มีทางหวนคืนกลับมาได้เด็ดขาด คุณแม่ยืนหยัดคัดค้านการอนุมัติผ่านร่างกฎหมาย
อีกอย่าง คุณแม่รังเกียจผู้หญิงคนนั้นขนาดนั้น ต้องทรมานไอ้เด็กพันทางคนนั้นแน่ พอถึงเวลา พวกเขาต้องต่อสู้กันจนบาดเจ็บกันไปข้างหนึ่งแน่นอน! พอถึงเวลา…พอถึงเวลาตระกูลอินก็จะตกเป็นของฉัน!”
อาจงเผยสีหน้ายินดีออกมา “คุณฉลาดมากเลยครับคุณชาย!”
อินเหิงถามเขา “อาจง พอออกไปแล้วต้องทำยังไง นายเข้าใจใช่ไหม”
อาจงตอบรับ “เข้าใจครับเข้าใจ! ผมจะพูดถึงความดีของคุณชายกับนายหญิงให้มากๆ บอกนายหญิงว่าคุณถูกทรมานอย่างหนักอยู่ที่นี่ ขอให้นายหญิงช่วยคุณออกไป! ส่วนไอ้เด็กพันทางคนนั้น เชื่อว่าผมไม่จำเป็นต้องทำอะไร นายหญิงก็รังเกียจเขามากพออยู่แล้ว ไม่มีทางปล่อยให้เขาได้สบายแน่!”
อินเหิงยินดีแล้ว “เยี่ยมมาก”
….
—————————————————————————————
บทที่ 2384 พี่สาว พี่เป็นนางฟ้าใช่ไหม
รุ่งเช้าวันต่อมา ณ เรือนพักร้อนบนเขาที่กินเนื้อที่กว่าหนึ่งพันไร่
เรือนหมื่นเหมยเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของอินเยวี่ยหรง ชัยภูมิลึกลับมาก เป็นสถานที่ที่อินเยวี่ยหรงใช่เพาะเลี้ยงกู่และผลิตยาพิษ ร่ำลือกันว่าด้านในมีหมอกพิษลอยฟุ้ง และยังมีสัตว์มีพิษยั้วเยี้ยเต็มไปหมด
ชาวเมืองเทียนสุ่ยต่างทราบกันดีว่านั่นคือสถานที่ต้องห้าม ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ที่นั่น
เนื่องจากอินเยวี่ยหรงชอบดอกเหมย ดังนั้นภายในคฤหาสน์จึงปลูกต้นไม้ไว้ผืนใหญ่ มีคนคอยดูแลเอาใจใส่ เวลานี้เป็นช่วงที่ดอกไม้ผลิบานพอดี ภายในสวนจึงอบอวลด้วยกลิ่นหอมของดอกเหมย
เพียงแต่รูปแบบสถาปัตยกรรมของเรือนพักร้อนแห่งนี้ดูโบราณคร่ำคราเกินไป โทนสีก็ทะมึน เห็นกันอยู่ว่าทิวทัศน์งดงาม ทว่าบรรยากาศกลับอึมครึม แม้แต่ดอกไม้พวกนี้ก็ดูหมองลงไปอย่างเห็นได้ชัดเจน
ช่วงเช้าตรู่ ละอองหิมะเริ่มโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้า ลมหนาวหวีดหวิว ภายในคฤหาสน์ยิ่งดูวังเวงจนน่าผวา
“นายหญิง!”
พออินเยวี่ยหรงก้าวมาถึงห้องรับแขก คนใช้ก็ก้มหัวทำความเคารพทันที จากนั้นก็เข้ามาช่วยรับเสื้อโค้ทไปจากอินเยวี่ยหรง และสาวใช้คนหนึ่งก็รีบยกน้ำชาร้อนๆ เข้ามาให้
คนใช้ทั้งหมดยืนเรียงแถวอยู่สองฝั่งอย่างสงบเสงี่ยม ไม่กล้าหายใจแรงเลย
อินเยวี่ยหรงจิบชาผู่เอ๋อร์คำหนึ่ง “ไปพาเขามาสิ”
“ครับได้ครับ” อาจงพยักหน้า และรีบสั่งการลูกน้อง “ยังไม่ไปพาได้เด็กพันทางคนนั้นมาอีก!”
พอได้ยินคำพูดของอาจง หัวคิ้วของอินเยวี่ยหรงก็ขมวดนิดๆ อย่างที่ไม่สังเกตเห็น แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
ไม่นาน ก็มีเสียงฝีเท้าแว่วดังมาจากทางประตู ลูกน้องสองคนพาตัวเด็กชายอายุราวสี่ห้าขวบคนหนึ่งเข้ามา
เด็กคนนั้นยังสวมชุดเครื่องแบบนักเรียนสีน้ำเงินอยู่ ผิวขาวผ่องเนียนนุ่ม สองแก้มอวบยุ้ยเล็กน้อย ดวงตาราวกับมีดวงดาวร่วงหล่นลงไป ทั้งสว่างไสวและสุกสกาว
ถึงแม้จะถูกลักพาตัวมายังสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยและน่าหวาดกลัวแบบนี้ แต่ใบหน้าของพ่อหนูกลับไม่มีความหวาดหวั่นเลยสักนิด เพียงมองไปรอบๆ อย่างสงสัยใคร่รู้
หลังจากถังถังถูกพาเข้ามา ก็สำรวจดูรอบข้างก่อนแวบหนึ่ง จากนั้นสายตาก็เคลื่อนไปยังร่างของผู้หญิงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้เนื้อแดง
อินเยวี่ยหรงสวมชุดสูทสีดำเช่นเดียวกับที่ผ่านมา เท้าสวมรองเท้าบูทดำ เพียงแต่สีดำกลับขับเน้นสีผิวเธอให้ขาวผ่องยิ่งกว่าเดิม เส้นผมดำดั่งน้ำหมึก เครื่องหน้างดงามไม่มีรอยเหี่ยวย่นเลยสักนิด
หากไม่ใช่บรรยากาศบนตัวเย็นชาเกินไป สีหน้าก็มืดหม่นเกินไป ถ้าบอกว่าเธออายุแค่สามสิบก็ยังมีคนเชื่อ
เวลานี้ อินเยวี่ยหรงพิจารณาดูเด็กน้อยที่อยู่ตรงหน้า
เด็กน้อยที่นุ่มนิ่มน่ารักคนนี้…เหมือนเจ้าเก้าตอนเด็กๆ ไม่มีผิด ถึงขั้นที่ว่า ขาวผ่องน่ารักกว่าเจ้าเก้าตอนยังเด็กซะอีก
แม้แต่แม่บ้านที่อยู่ด้านข้างก็มีสีหน้าประหลาดใจ กดเสียงต่ำเอ่ยขึ้นข้างหูของอินเยวี่ยหรง “ไอ้หยา นายหญิงคะ เด็กคนนี้หน้าตาเหมือนคุณชายใหญ่ตอนยังเล็กมากจริงๆ…”
ไม่ได้เหมือนแค่คุณชายเก้าเท่านั้น ตรงหว่างคิ้วก็คล้ายกับเนี่ยอู๋โยวผู้หญิงคนนั้นสุดๆ เด็กคนนี้ได้รับการถ่ายทอดยีนส์มาจากพ่อแม่ทั้งหมด…
แม่บ้านเห็นสีหน้าของอินเยวี่ยหรงไม่ค่อยดี ใบหน้าจึงเต็มไปด้วยความกังวล กลัวว่าเธอจะโกรธจนทำอะไรเด็กคนนี้เข้า “นายหญิงคะ…”
ขณะที่แม่บ้านลังเลอยู่ว่าจะพูดกล่อมยังไง เวลานี้ พ่อหนูน้อยที่ยืนอยู่กลางโถงห้องรับแขกก็มองซ้ายมองขวา แล้วมองไปมองมา สุดท้ายดวงตาที่ส่องประกายแวววาวก็เคลื่อนมายังร่างของอินเยวี่ยหรง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้ “พี่สาว พี่หน้าตาสวยมากจริงๆ! พี่เป็นนางฟ้าใช่ไหม”
อินเยวี่ยหรงนิ่งงัน…
แม่บ้านผงะไป…
อินเยวี่ยหรงคงจะไม่ได้คาดคิดไว้เลยว่าพอเด็กน้อยเจอหน้าตัวเองประโยคแรกที่พูดจะเป็นแบบนี้ สีหน้าจึงตกตะลึงไปแวบหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด หัวคิ้วก็มุ่นเข้ากันกันนิดๆ
เพียงแต่ท่าทางนั้นน่าจะไม่นับว่าเป็นการโกรธเคือง แต่เป็นเพราะแปลกใจจนไม่รู้ว่าควรที่จะตอบสนองยังไงดี
อินเยวี่ยหรงเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบตึง “ห้ามพูดเหลวไหล”
ถังถังฟังแล้วเอียงคอมองด้วยความสงสัย “ทำไมล่ะ พี่สาวที่นี่ของพี่มีกฎว่าห้ามคนพูดความจริงเหรอ”
อินเยวี่ยหรงเงียบลงอีกครั้ง
อินเยวี่ยหรงถูกคนอื่นถามจนพูดไม่ออกเป็นครั้งแรก
—————————————————————————————