แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 2385 พี่สาว พี่รีบกินเร็ว / บทที่ 2386 เธอไม่กลัวฉันรึไง
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 2385 พี่สาว พี่รีบกินเร็ว / บทที่ 2386 เธอไม่กลัวฉันรึไง
บทที่ 2385 พี่สาว พี่รีบกินเร็ว
ผ่านไปพักหนึ่งแม่บ้านที่อยู่ด้านข้างถึงได้สติกลับมา หัวเราะเสียงเบาพลางกล่าว “นายหญิง คุณอย่าโกรธเลยนะคะ เด็กน้อยใสซื่อไร้มารยา ไม่มีทางโกหก เดิมทีคุณก็ดูอ่อนเยาว์อยู่แล้ว เมื่อก่อนตอนคุณออกไปข้างนอกกับคุณชายใหญ่ บอกว่าเป็นพี่น้องกันก็มีแต่คนเชื่อ อีกอย่างนายหญิงก็หน้าตาดี ไม่แปลกที่เด็กจะเข้าใจผิดนะคะ…”
บนโลกนี้ไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ไม่ชอบให้คนอื่นชมว่าตัวเองดูดี ต่อให้เป็นอินเยวี่ยหรงก็เช่นกัน
เวลานี้ มีคนใช้ในชุดดำคนหนึ่งถือถ้วยชาเดินเข้ามาจากด้านนอกห้องรับแขก “นายหญิง คุณควรดื่มยาได้แล้วครับ”
อินเยวี่ยหรงข้องเกี่ยวข้องกับกู่อยู่ตลอดทั้งปี ร่างกายจึงปะปนไปด้วยพิษ ย่อมทำให้อ่อนแอลง ดังนั้นจึงต้องดื่มยาบำรุงอยู่ตลอด
นั่นไม่ใช่ยาทั่วๆ ไป ในถ้วยเป็นสีดำทึมทึบไปหมด ดูแล้วน่าสยองมาก กลิ่นก็ระคายจมูกมาก
เพิ่งจะยกยาเข้ามา คนใช้ทั้งหมดก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
“พี่สาว นี่คืออะไร” ถังถังถามด้วยความอยากรู้
ขณะอินเยวี่ยหรงคิดจะแก้คำเรียกของเด็กน้อย แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงไม่ทำ ได้แต่ตอบไปว่า “ยาต้ม”
ถังถังดูเป็นกังวลขึ้นมาทันที “พี่สาว พี่ไม่สบายเหรอ”
มองเห็นแววตาห่วงใยด้วยความบริสุทธิ์ใจ สีหน้าของอินเยวี่ยหรงก็แข็งทื่อไป เธอจำไม่ได้แล้วว่าไม่ได้พบเห็นความกังวลและห่วงใยด้วยใจบริสุทธิ์แบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว
แม่บ้านที่อยู่ด้านข้างเห็นนายหญิงเงียบไป จึงช่วยอธิบายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “นายหญิงแค่สุขภาพไม่ดีนิดหน่อย ต้องใช้ตัวยาช่วยบำรุง ไม่ต้องห่วงนะจ๊ะ”
จากนั้น อินเยวี่ยหรงก็ไม่ได้สนใจเด็กคนนั้นอีก ทำราวกับนั่นเป็นถ้วยโจ๊กธรรมดาๆ ถ้วยหนึ่ง ดื่มรวดเดียวจนหมดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
ยาถ้วยนี้เกรงว่าแค่กลิ่นอย่างเดียวก็ทำให้อยากอาเจียนออกมาแล้ว หลังจากอินเยวี่ยหรงดื่มเข้าไปก็ทำเพียงขมวดคิ้วนิดๆ
ตั้งแต่ต้นจนจบถังถังจ้องอินเยวี่ยหรงตาไม่กะพริบเลย รอจนอินเยวี่ยหรงดื่มยาเสร็จ ก็รีบล้วงของที่มีสีสันสดใสบางอย่างออกมาจากอกเสื้อ แล้วแกะอย่างรวดเร็ว จากนั้นสองขาสั้นป้อมก็วิ่งไปอยู่เบื้องหน้าอินเยวี่ยหรง ยัดลูกอมนมที่เพิ่งแกะออกมาจากห่อยัดใส่เข้าไปในปากของอินเยวี่ยหรง “พี่สาวรีบกินเร็ว!”
อาจงเห็นแล้วตวาดออกมาทันที “ได้เด็กตัวเหม็น อยากตายสินะ! แกเอาอะไรให้นายหญิงกิน!”
ถังถังกะพริบตาปริบๆ มองคนตรงหน้า “ลูกอมนมไง หวานมากนะ กินเข้าไปก็จะไม่ขมแล้ว!”
อินเยวี่ยหรงไม่ได้ระแวดระวังเด็กน้อยเลย จึงถูกยัดลูกอมเม็ดหนึ่งเข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัว จากนั้น กลิ่นหอมหวานก็อบอวลไปทั่วทั้งปาก ไม่นานรสขมที่ทำให้คนอยากอาเจียนภายในปากค่อยๆ สลายไป
เธอหลุบตาลง มองเห็นสายตาห่วงใยและคาดหวังของพ่อหนูน้อย
“พี่สาว หายขมแล้วใช่ไหม ลูกอมนมนี่คุณแม่ซื้อให้ผม เหลือแค่เม็ดเดียวแล้วด้วย!”
พ่อหนูพูดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความอาลัยอาวรณ์
เหลืออยู่แค่เม็ดเดียว แต่ก็ยังเอาให้เธอ
เธอไม่ได้แสดงออกเลยว่ายาถ้วยนี้ขม ดังนั้นทุกคนต่างก็นึกไปว่าเธอทนรับรสชาตินี้ได้ ตัวเธอเองก็เคยชินไปนานแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนมาห่วงว่าเธอจะรู้สึกขม
อาจงร้อนรนแล้ว “นายหญิงครับ ใครจะรู้ว่าที่แท้เป็นอะไรกันแน่ อาจจะมีพิษก็ได้นะครับ ไอ้เด็กพันทางคนนี้…”
สีหน้าของอินเยวี่ยหรงมืดครึ้มลงทันที “หุบปาก ถึงตานายพูดแล้วงั้นเหรอ”
อาจงมองเด็กน้อยอย่างไม่พอใจแวบหนึ่ง เขาไม่คิดเลยว่าการพบหน้ากันครั้งแรกของสองคนนี้จะมีบรรยากาศแปลกประหลาดขนาดนี้
ไม่ได้ จะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้
—————————————————————————————
บทที่ 2386 เธอไม่กลัวฉันรึไง
อาจงมองถังถัง แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง “ไร้มารยาท เธอรู้ไหมว่าท่านเป็นใครท่านผู้นี้คือหัวหน้าตระกูลอินแห่งเมืองเทียนสุ่ยของเรา ตุลาการอินแห่งสภาตุลาการ!”
“หัวหน้าตระกูลอิน…” พอถังถังได้ฟัง ดวงตากลมโตก็ฉายแววใคร่ครวญ คล้ายว่าในที่สุดก็รู้แล้วว่าเป็นใคร
บรรยากาศอบอุ่นเมื่อครู่ราวกับเป็นภาพมายาฟองสบู่ แตกดังโพละแล้ว
ก็แน่อยู่แล้ว ที่เด็กคนนี้ห่วงใยและใจดีกับตนขนาดนี้ ก็เพียงเพราะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครเท่านั้น
สีหน้าของอินเยวี่ยหรงค่อยๆ กลับสู่ความเย็นชา พลางมองไปที่เด็กคนนั้น “ใช่แล้ว ฉันก็คือหัวหน้าตระกูลอิน!”
เธอเชื่อว่าเจ้าเก้าและเนี่ยอู๋โยวคนนั้นต้องเคยเอ่ยถึงตัวเองกับเด็กคนนี้แน่ โดยเฉพาะเนี่ยอู๋โยว จะต้องเคยเตือนเด็กคนนี้แน่ว่าเธอเป็นคนยังไง
แค่ว่า อินเยวี่ยหรงกลับต้องแปลกใจอีกครั้ง หลังจากเด็กคนนั้นรู้ตัวตนของเธอแล้ว ใบหน้ากลับไม่ได้ฉายแววหวาดกลัวเลย แต่กลับ…มีสีหน้ายินดีและตื่นเต้น…
“คุณย่า!” พ่อหนูมองเธอ แล้วเรียกออกมาตรงๆ “ที่แท้คุณก็คือคุณย่าของถังถัง!”
ได้ยินคำว่า ‘คุณย่า’ จากเด็กน้อย แผ่นหลังของอินเยวี่ยหรงก็แข็งเกร็งขึ้นมาทันที แววตาเต็มไปด้วยความแปลกใจและไม่เข้าใจ “เธอรู้แล้วว่าฉันเป็นใคร เธอไม่กลัวฉันรึไง”
ถังถังไม่เข้าใจอยู่บ้าง “ทำไมต้องกลัวคุณย่าด้วยล่ะครับ”
อินเยวี่ยหรงเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบเฉย “แม่ของเธอไม่เคยพูดถึงฉันกับเธอรึไง”
ถังถังพยักหน้าอย่างซื่อสัตย์ “แม่เคยพูดถึงคุณย่าครับ”
ใบหน้าของอินเยวี่ยหรงฉายแววเย้ยหยัน “โอ้ งั้นเหรอ แม่เธอพูดถึงฉันว่ายังไงล่ะ”
ถังถังคิดเล็กน้อย “แม่บอกว่า…บอกว่าคุณย่าเข้ากับคนอื่นได้ยาก…”
อินเยวี่ยหรงหัวเราะเยาะแวบหนึ่ง นั่นปะไร
อินเยวี่ยหรงถามต่อ “มีอีกไหม”
ถังถังตอบไปตามตรง “แม่บอกว่าถึงแม้คุณย่าจะดูเข้ากับคนอื่นได้ยาก แต่ความจริงเป็นคนดี บอกว่าคุณย่าแค่มีปัญหาทางอารมณ์นิดหน่อย!”
อินเยวี่ยหรงอึ้งไปแล้ว
เป็นคนดี…
มีปัญหาทางอารมณ์นิดหน่อยงั้นเหรอ…
ไม่ว่ายังไงอินเยวี่ยหรงก็คงไม่เคยคิดเลยว่า คำวิจารณ์ที่เนี่ยอู๋โยวมีต่อตัวเองจะเป็นแบบนี้
ถังถังพูดต่อไป “แม่บอกว่า คุณย่ามีฐานะสูงส่ง แถมยังหน้าตาดีขนาดนี้ด้วย ควรจะได้ใช้ชีวิตอย่างผู้ชนะสิถึงจะถูก แต่น่าเสียดายที่อีคิวต่ำเกินไป เหมือนพ่อของผม โชคดีที่ถังถังไม่ได้รับอีคิวมาจากทางย่ากับพ่อ…”
อินเยวี่ยหรงฟังคำพูดเด็กคนนี้แล้ว ก็มีสีหน้าที่ยากจะบรรยายได้อยู่บ้างจริงๆ ผ่านไปพักใหญ่ถึงจะดึงสติกลับมาได้ “แม่ของเธอ…พูดแค่นี้เหรอ”
“ใช่ครับ!” หนูน้อยถังถังพยักหน้า จากนั้นก็รีบเอ่ยปลอบ “แต่คุณย่าอย่าเสียใจไปเลยนะครับ ในบ้านเรามีแค่ผมกับแม่ที่อีคิวเข้าขั้นก็พอแล้ว!”
อินเยวี่ยหรงไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรอย่างสิ้นเชิงแล้ว
แต่ประโยคนั้นที่ว่า ‘ในบ้านเรา’ ทำให้หัวใจของเธอมีความรู้สึกแปลกๆ อย่างหนึ่งผุดขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ
แม่บ้านที่อยู่ด้านข้างฟังมาถึงตรงนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความอ่อนโยน พลางมองเด็กน้อยตรงหน้าด้วยความชื่นชอบ “นายหญิงคะ คุณชายน้อยน่าสนใจจริงๆ!”
พอพูดจบ ก็เอ่ยถามหยั่งเชิงอินเยวี่ยหรงดู “นายหญิงคะ อันที่จริง…เนี่ยอู๋โยวคนนั้น…พวกเราก็ยังไม่เคยทำความรู้จักเลย…บางทีอาจจะไม่ได้เลวร้ายเหมือนที่พวกเราคิดก็ได้นะคะ…ถึงยังไงก็เป็นคนที่คุณชายใหญ่ชอบพอ…จะเลวร้ายไปถึงไหนได้ยังไง…”
เอาแค่มองจากที่เธอไม่ได้ปลูกฝังความโกรธเคืองและบุญคุณความแค้นให้ลูกที่เป็นคนรุ่นหลังเลย แม่บ้านก็บังเกิดความรู้สึกดีด้วยไม่น้อยแล้ว แถมยังมีคุณชายน้อยคนนี้อีก ขาวผ่องน่ารักจริงๆ ยิ่งมองเธอก็ยิ่งชอบ
มิน่าล่ะหลังจากเด็กคนนี้ถูกลักพาตัวมาถึงได้ไม่กลัวเลยสักนิด พอเห็นอินเยวี่ยหรงก็ไม่ตื่นตระหนกเลย ที่แท้เป็นเพราะเนี่ยอู๋โยวไม่เคยพูดถึงคนเป็นย่าในทางไม่ดีต่อหน้าลูกเลย เด็กน้อยถึงได้มีจิตใจที่ใสสะอาด เพราะงั้นจึงไม่มีความหวาดกลัวเลย
—————————————————————————————