แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 2387 จัดให้อยู่ห้องข้างๆ / บทที่ 2388 กินข้าวด้วยกัน
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 2387 จัดให้อยู่ห้องข้างๆ / บทที่ 2388 กินข้าวด้วยกัน
บทที่ 2387 จัดให้อยู่ห้องข้างๆ
อินเยวี่ยหรงฟังออกว่าแม่นมเฉียวช่วยพูดให้ผู้หญิงคนนั้น จึงเอ่ยตอบอย่างเฉยชา “แค่ไม่ได้ว่าร้ายฉันต่อหน้าเด็กคนนี้ ฉันก็ควรจะซาบซึ้งในบุญคุณแล้วงั้นสิ เธอคิดว่าฉันใส่ใจรึไง”
แม่นมเฉียวก้มหน้าลง แล้วเอ่ยด้วยความเคารพ “แน่นอนว่าไม่ใช่ค่ะ นายหญิงไม่เคยใส่ใจความเห็นของใครเสมอมา”
แม่นมเฉียวเข้าใจดีว่าอินเยวี่ยหรงนิสัยยังไง คิดจะให้เธอเปลี่ยนความคิดที่มีต่อคนคนหนึ่งช่างยากเย็นยิ่งกว่าปีนขึ้นสวรรค์ซะอีก
กับซือไหวจางเป็นแบบนี้ กับคุณชายใหญ่ก็เป็นแบบนี้ กับเนี่ยอู๋โยวก็ไม่ยกเว้นเช่นกัน
ไม่ว่าซือไหวจางจะทำอะไร เธอก็ไม่ยอมเปลี่ยนความรู้สึกที่มีต่อเขา ไม่ยอมปล่อยมือ ความโกรธเคืองและเข้มงวดที่มีต่อคุณชายใหญ่ก็ไม่เคยเปลี่ยนเช่นกัน! ส่วนเนี่ยอู๋โยว ก็คือสาเหตุที่ทำให้คุณชายใหญ่หลุดออกจากการควบคุมของเธอ คิดจะให้เธอยอมรับ แทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
แม่นมเฉียวอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจกับตัวเอง คำวิจารณ์ที่เนี่ยอู๋โยวมีต่อนายหญิง ก็นับว่าตรงจุดแล้ว นิสัยเป็นแบบนี้จริงๆ…
อินเยวี่ยหรงมองเด็กคนนั้นแวบหนึ่ง จากนั้นก็นวดขมับแล้วลุกขึ้นมา “วันนี้ไม่กลับบ้านใหญ่แล้ว จะทำงานที่นี่ ส่วนเด็กคนนี้ แม่นมเฉียว เธอไปจัดการหน่อยเถอะ”
หลังจากรู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นที่เมืองเทียนสุ่ย เธอก็เร่งเดินทางทั้งคืนเพื่อกลับมา ฉินจงเกิดเรื่องขึ้น เธอเลยต้องเผชิญหน้ากับปัญหาวุ่นวายอีกกองใหญ่ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้พักเลย
หลังจากฉินจงหมดอำนาจ คนในสังกัดของรองประธานสภาก็เหมือนมังกรไร้เศียร มีคนมาหาเธอไม่หยุดหย่อน
“ได้ค่ะนายหญิง งั้น…จะให้คุณชายน้อยพักที่ไหนคะ” แม่นมเฉียวลองถามหยั่งเชิง
เวลานี้ อาจงรีบเอ่ยสอดประโยคหนึ่ง “นายหญิงครับ ไม่สู้ส่งเด็กคนนี้มาให้ผมจัดการเถอะครับ!”
คงเป็นเพราะตระหนักได้ว่าอินเยวี่ยหรงคล้ายจะไม่ชอบที่เขาเรียกเด็กคนนั้นว่า ‘ไอ้พันทาง’ อาจงจึงเปลี่ยนคำเรียกอย่างว่าง่าย
ไม่ว่าจะพูดยังไงก็เป็นหลานชายแท้ๆ ของอินเยวี่ยหรง ตัวเธอด่าแบบนี้ได้ แต่ไม่ยอมให้คนอื่นมาด่าแบบนี้แน่นอน
ตอนแรกอินเยวี่ยหรงคิดจะเอ่ยตอบรับไป แต่ว่า พอสบเข้ากับดวงตาใสกระจ่างของเด็กคนนั้น ไม่รู้ว่าทำไมถึงเปลี่ยนคำพูดไปซะอย่างนั้น “แม่นมเฉียว ไปจัดแจงห้องพักข้างห้องฉันซะ”
แม่นมเฉียวฟังแล้วเผยสีหน้ายินดีทันที “ค่ะ ดิฉันจะไปเดี๋ยวนี้!”
อาจงผงะไป “นี่…แบบนี้จะได้ยังไงกันครับ…ไอ้…เด็กคนนี้มีคุณสมบัติอะไร…”
แม่นมเฉียวมองอาจงอย่างไม่สบอารมณ์แวบหนึ่ง “ท่านนี้คือคุณชายน้อยแห่งตระกูลอินของเรา เป็นหลานชายของนายหญิง พักห้องข้างๆ นายหญิงแล้วมีปัญหาอะไร”
พอได้ฟังคำพูดของแม่นมเฉียว อินเยวี่ยหรงก็มุ่นคิ้วนิดๆ แต่คงเพราะเหนื่อยเกินไป ไม่มีแก่ใจไปสนใจ ในที่สุดเลยไม่ได้ติเตียน
อาจงเห็นอินเยวี่ยหรงไม่พูดอะไร ก็รู้แล้วว่าตัวเองพูดอะไรไปก็ไม่ประโยชน์ ได้แต่ฝืนกล่าวไป “ไม่…ไม่มีปัญหาครับ…จัดให้อยู่ห้องข้างๆ นายหญิงก็ใกล้ชิดดูแลได้สะดวกมากครับ!”
….
ในห้องหนังสือ
อินเยวี่ยหรงดื่มกาแฟเอสเพรสโซ่แก้วหนึ่ง พลางจัดการงานเอกสารต่อ จู่ๆ อาจงก็เคาะประตูแล้วเดินเข้ามา
“นายหญิงครับ…”
“พูดมา” อินเยวี่ยหรงไม่เงยหน้าขึ้นมาด้วยซ้ำ
อาจงทำตามที่ได้รับมอบหมายจากอินเหิงเมื่อคืน เล่าด้วยน้ำเสียงโศกเศร้า “นายหญิงครับ เมื่อคืนผมแฝงตัวเข้าไปในบ้านตระกูลซือไปหาคุณชายอินเหิงมา คุณชายใหญ่โหดเหี้ยมเกินไปแล้วจริงๆ คุณชายอินเหิงบาดเจ็บทั้งตัวก็ไม่ให้หมอมารักษา แถมยังทรมานเขาอีก!
ตอนนี้ร่างกายของคุณชายอินเหิงอ่อนแอมาก นายหญิงครับ นายหญิงรีบหาทางช่วยคุณชายอินเหิงออกมาเถอะครับ ไม่งั้นถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป กลัวว่าคุณชายคงรับไม่ไหว!”
อินเยวี่ยหรงวางปากกาในมือลง มองอาจงอย่างเยียบเย็นแวบหนึ่ง “ดูเหมือนที่ฉันพูดไปเมื่อวาน นายจะฟังไม่เข้าใจเลยสินะ นายคิดว่าถ้าตอนนี้เขาอยู่ในมือฉัน จุดจบจะดีกว่างั้นเหรอ”
—————————————————————————————
บทที่ 2388 กินข้าวด้วยกัน
สายตาเยียบเย็นนั้นทำให้อาจงหนาวสันหลัง “นายหญิง ผมทราบว่าครั้งนี้คุณชายอินเหิงทำผิดไปมาก แต่เจตนาแรกเริ่มของเขาก็เพื่อบ้านตระกูลอินนะครับ ถึงยังไงเขาก็เป็นว่าที่หัวหน้าตระกูลอิน…
นิสัยของคุณชายใหญ่นายหญิงก็รู้ดี เขาถูกนางปีศาจคนนั้นล่อลวงจิตใจ ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่กลับมาอีก อนาคตของตระกูลอิน ยังคงต้องพึ่งคุณชายอินเหิงนะครับ…”
สีหน้าของอินเยวี่ยหรงมืดครึ้มลงทันที “นี่นายขู่ฉันอยู่งั้นเหรอ”
“ไม่…ไม่กล้าครับ! นายหญิงผมจะทำได้ยังไงครับ! ผมแค่คิดเพื่อนายหญิง คิดเพื่อตระกูลอินเท่านั้น!”
“ไสหัวไป!”
“ได้…ได้ครับ…”
….
ในคุกใต้ดินบ้านตระกูลซือ
อาจงแฝงตัวเข้าไปอีกครั้ง
พออินเหิงเห็นอาจงก็ซักถามทันที “สถานการณ์เป็นไงบ้าง คุณแม่บอกว่าจะช่วยฉันออกไปเมื่อไหร่”
อาจงกลัวอินเหิงจะกระวนกระวาย จึงพยายามพูดให้รื่นหู “นายหญิง…ตอนนี้นายหญิงเธอกำลังโกรธคุณชายใหญ่อยู่…ไม่น่าจะยอมอ่อนข้อให้เร็วขนาดนั้น…คุณชายคงต้องทนลำบากไปอีกสองสามวันแล้ว…”
“อะไรนะ ยังต้องรออีกสองสามวันเหรอ” สีหน้าของอินเหิงครึ้มลงทันที ในที่สุดก็รู้สึกถึงความผิดปกติแล้ว “อาจง นายบอกฉันมาตามตรง! คุณแม่ว่ายังไงกันแน่! ฉันอยากฟังตามตรง!”
อาจงมีสีหน้าลำบากใจ “คุณชายอินเหิง คุณไม่รู้จะดีกว่านะครับ…”
อินเหิงจับซี่ลูกกรงแน่น “ฉันต้องรู้ให้ได้! รีบพูดมา”
อาจงไม่มีทางเลือก ทำได้แค่พูดความจริง “นายหญิงบอกว่า…ถ้าตอนนี้คุณอยู่ที่ตระกูลอิน จุดจบก็ไม่มีทางดีไปกว่าตอนนี้ ยังบอกอีกว่า ว่า…คุณเป็นขยะชิ้นหนึ่ง…ไม่คู่ควรให้เธอเปลืองความคิดแล้ว…”
พออินเหิงได้ยินคำพูดนี้ ใบหน้าก็เต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “เป็นไปไม่ได้! จะเป็นแบบนี้ได้ยังไง! อินเยวี่ยหรงเหลือแค่ฉันแล้ว เธอกล้าไม่ช่วยฉันงั้นเหรอ!”
อาจงคล้อยตามทันที “ใช่ครับใช่ ผมก็คิดแบบนายน้อยเหมือนกัน ดังนั้นนายหญิงคงจะแค่กำลังโมโห คุณอย่าร้อนใจเลยนะครับ! ระยะนี้นายหญิงยุ่งวุ่นวาย อารมณ์ไม่ดีด้วย!”
อินเหิงพยายามทำให้ตัวเองสงบลง “ตอนนี้สถานการณ์ข้างนอกเป็นยังไงบ้าง”
อาจงรายงาน “ตอนนี้รองฉินตกแท่นแล้ว มีคนมาหานายหญิงถึงบ้านเรื่อยๆ ช่วงนี้นายหญิงติดต่อกับพวกเขาอยู่บ่อยครั้ง ผมคิดว่า…นายหญิงอาจจะคิดเข้าแทนที่ นั่งตำแหน่งรองประธานสภาครับ!”
อินเหิงตาลุกวาวแล้ว “ด้วยความสามารถและเส้นสายของคุณแม่ เป็นตัวเต็งที่สุดสำหรับตำแหน่งรองประธานสภาจริงๆ!”
ถ้าอินเยวี่ยหรงได้เป็นรองประธานสภา เขาก็สามารถอาศัยบารมีอินเยวี่ยหรงพลิกตัวกลับขึ้นมาได้!
แต่สีหน้าของอินเหิงกลับมืดมน “ตอนนี้คุณแม่ดึงดันกักตัวไอ้เด็กพันทางคนนั้นไว้ นับว่าแตกหักกับซือเยี่ยหานอย่างสิ้นเชิงแล้ว สุดท้ายต้องบาดเจ็บสูญเสียกันทั้งสองฝ่ายแน่! พอถึงเวลานั้น คุณแม่ต้องมาพาฉันกลับไปแน่!”
อาจงพยักหน้ารัวๆ “คุณชายพูดถูกแล้วครับ!”
….
ณ บ้านหมื่นเหมย
อินเยวี่ยหรงทำงานตั้งแต่เช้าจรดค่ำ มื้อกลางวันก็ยังไม่อนุญาตให้คนใช้มารบกวน
สุดท้ายก็ยังคงเป็นแม่นมเฉียวที่ทำใจกล้ามาเคาะประตู ตามเธอออกมากินข้าว
อินเยวี่ยหรงเดินไปที่โต๊ะอาหารเหมือนที่เคยเป็นมา แต่เพิ่งเดินไปถึงก็ผงะไปแวบหนึ่ง
สิ่งที่ต่างไปจากเมื่อก่อนคือ วันนี้ ด้านข้างของโต๊ะอาหารที่กว้างใหญ่มีเด็กน้อยหน้าตางดงามน่ารักนั่งอยู่คนหนึ่ง
เก้าอี้สูงอยู่บ้าง พ่อหนูนั่งอยู่บนนั้นแล้ว สองขาแกว่งอยู่ในอากาศ พอมองเห็นเธอ พลันโบกมือให้เธอด้วยความดีใจ “คุณย่า!”
อินเยวี่ยหรงถึงนึกขึ้นได้ว่า ในบ้านมีคนเพิ่มขึ้นมาหนึ่งคน
แม่นมเฉียวสังเกตท่าทีของอินเยวี่ยหรง จากนั้นก็เอ่ยอย่างระมัดระวัง “ทางนี้มีคนไม่มาก แบ่งคนไปทำอาหารเพิ่มไม่ได้ ดิฉันเลยให้คุณชายน้อยมากินข้าวกับนายหญิงค่ะ ก็แค่เพิ่มตะเกียบมาอีกคู่”
—————————————————————————————