แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 2393 หยิบมาสิ ฉันจะลอง / บทที่ 2394 คุณมีหัวใจรึเปล่า
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 2393 หยิบมาสิ ฉันจะลอง / บทที่ 2394 คุณมีหัวใจรึเปล่า
บทที่ 2393 หยิบมาสิ ฉันจะลอง
ดวงตาของผู้จัดการจางเปล่งประกาย “คุณชายน้อยสายตายอดเยี่ยมจริงๆ ค่ะ ดีไซน์ของชุดนี้เป็นผลงานที่ดีที่สุดในคอลเลคชั่นนี้ของพวกเรา แต่ดีไซน์ชุดนี้มีความพิเศษต่อตัวบุคคล คนทั่วไปไม่กล้าลองสวมใส่เลยสักนิด แต่ถ้าเป็นนายหญิงแล้วละก็ ได้แน่นอนค่ะ!”
เพียงแต่…เพียงแต่ด้วยนิสัยของอินเยวี่ยหรง มองยังไงก็ไม่มีทางเลือกชุดนี้ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้แนะนำเลย
ถังถังวิ่งตุบๆ ไปหยุดตรงหน้าอินเยวี่ยหรง “คุณย่าครับ คุณย่าสวมชุดนี้สิครับ ชุดนี้ดูดี”
อินเยวี่ยหรงขมวดคิ้วนิดๆ ว่ากันตามตรง ชุดนี้ที่ถังถังเลือก เป็นชุดที่ดูดีที่สุดในบรรดาเสื้อผ้าพวกนี้แล้วจริงๆ
ถ้าว่ากันด้วยนิสัยของเธอในช่วงสาวๆ ต้องเลือกมันแน่ แต่ว่าตอนนี้
อินเยวี่ยหรงเหลือบมองชุดนั้นแวบหนึ่งอย่างเฉยเมย “งั้นเหรอ แต่ฉันกลับรู้สึกว่าไม่เห็นจะดูดีตรงไหน”
สองตาของถังถังลุกวาว “ดูดีสิครับ! คุณย่า ถ้าคุณย่าใส่ต้องดูดีมากแน่ๆ ครับ เหมือนนางฟ้าเปี๊ยบเลย คุณย่าลองดูเถอะครับ ถังถังอยากเห็นคุณย่าใส่!”
อินเยวี่ยหรงยังคัดค้านอยู่ “สีสันน่าเกลียด”
ถังถังไม่ยอมแพ้ “ดูดีจะตายครับ คุณย่าดูสิ วันนี้ถังถังก็ใส่สีแดงนะครับ!”
หลังจากอินเยวี่ยหรงเงียบอยู่นานก็เอ่ยขึ้นมา “หยิบมาสิ ฉันจะลอง”
แม่นมเฉียวตะลึงงัน!
ผู้จัดการจางก็คาดไม่ถึงเช่นกัน
ทั้งสองคนไม่คิดเลยว่าอินเยวี่ยหรงจะยอมเห็นด้วยจริงๆ จึงตกตะลึงกันพักหนึ่งกว่าจะได้สติกลับมา
“ค่ะได้ค่ะ ดิฉันจะหยิบชุดนี้ให้คุณนะคะ!” ผู้จัดการจางรีบไปหยิบชุดลงมาจากราวแขวน
อินเยวี่ยหรงรับชุดไป แล้วเข้าไปเปลี่ยนในห้อง
รออยู่นานพักหนึ่ง ในที่สุดอินเยวี่ยหรงก็เปลี่ยนชุดแล้วเดินออกมา
เพิ่งก้าวออกมาไม่ทันไร คนใช้ที่อยู่ในห้องต่างก็ตะลึงตาค้างกันอยู่ตรงนั้น
ปกติแล้วนายหญิงของพวกเขาสวมชุดสีดำอยู่ตลอด แถมยังห่อหุ้มตัวเองเอาไว้อย่างมิดชิด นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้รู้ว่า ที่แท้นายหญิงของตัวเองงดงามขนาดนี้ มีสง่าราศีขนาดนี้
อีกทั้งชุดนี้ก็พิเศษต่อตัวบุคคลจริงๆ ถ้าเป็นคนทั่วไปใส่คงไม่รอด มีเพียงอินเยวี่ยหรงที่มีช่วงวัยและบุคลิกเช่นนี้เท่านั้น ถึงจะเอาชุดนี้อยู่ คล้ายว่าบุคลิกของตัวคนจะเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้บรรยากาศอึมครึมบนร่างของเธอสลายหายไปอย่างสิ้นเชิง ถึงแม้ตัวคนจะดูน่าเกรงขาม แต่กลับดูมีชีวิตชีวา
“นายหญิง…คุณ…คุณสวมชุดนี้แล้วดูดีจริงๆ ค่ะ…” แม่นมเฉียวอดไม่ได้ที่จะนึกถึงอินเยวี่ยหรงในอดีต
ผู้จัดการจางก็เอ่ยชมเชยไม่อยู่ “สายตาของคุณชายน้อยยอดเยี่ยมเกินไปแล้วจริงๆ นายหญิงคุณเหมาะกับสีนี้มากจริงๆ ค่ะ!”
“คุณย่าดูดีจริงๆ ครับ คุณย่าใส่เหมือนถังถังเลย!” พ่อหนูน้อยเดินเข้ามาหาอย่างมีความสุข
อินเยวี่ยหรงยืนอยู่หน้ากระจก มองตัวเองในกระจก เกือบจำไม่ได้อยู่บ้าง
นี่คือ…เธอเหรอ…
เธอจำไม่ได้แล้วว่าตัวเองไม่ได้แต่งองค์ทรงเครื่อง ไม่ได้เลือกเสื้อผ้าให้ตัวเองอย่างจริงจังมานานเท่าไรแล้ว
“นายหญิงครับ!”
ในเวลานี้อาจงผลุนผลันเข้ามา ขณะที่กำลังจะเปิดปากพูด เมื่อเห็นอินเยวี่ยหรงที่ยืนอยู่หน้ากระจก ก็ตะลึงงันไปแวบหนึ่ง
เขาไม่เคยเห็นอินเยวี่ยหรงสวมชุดแบบนี้มาก่อนเลย เกิดอะไรขึ้น
คงไม่ใช่เพราะไอ้เด็กเหลือขอคนนี้ใช่ไหม…
อาจงไม่มีเวลาให้คิดมากอีก รีบเอ่ยรายงาน “นายหญิงครับ ทางสภาตุลาการส่งข่าวมา มีการประชุมด่วน ต้องการให้คุณไปทันทีครับ”
อินเยวี่ยหรงเอ่ยด้วยสีหน้าที่จริงจังขึ้นมาทันที “เข้าใจแล้ว ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”
อาจงรายงานต่อ “นายหญิงครับ คนที่มารับคุณรออยู่ด้านนอกแล้วครับ”
เดิมทีอินเยวี่ยหรงคิดจะเปลี่ยนชุด แต่พอได้ยินก็ล้มเลิกความคิด ก้าวตรงออกไปเลย “ไปเถอะ”
….
เวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมง ณ ห้องประชุมของตึกสภาตุลาการ
ทุกคนกำลังหารือกันในประเด็นเรื่องลงโทษฉินจงอยู่ ขณะที่กำลังถกเถียงกันอย่างร้อนแรง มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น จากนั้นก็มองเห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามา
ตอนแรกทุกคนมองแล้วจำไม่ได้ว่าเป็นใคร แต่หลังจากเห็นชัดๆ ว่าผู้ที่มาคืออินเยวี่ยหรง ทั้งหมดก็อดไม่ได้ที่จะเผยสีหน้าตกตะลึงออกมา
—————————————————————————————
บทที่ 2394 คุณมีหัวใจรึเปล่า
ภายในห้องประชุมเต็มไปด้วยเสียงวิจารณ์ด้วยความตกตะลึง
“สถานการณ์อะไรกัน นี่…นี่คืออินเยวี่ยหรงงั้นเหรอ”
“เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นตุลาการอินสวยขนาดนี้! ต่อให้อายุขนาดนี้แล้ว ก็ยังมองเห็นความสวยอยู่ มีเสน่ห์กว่าสาวๆ พวกนั้นซะอีก!”
“เมื่อก่อนตุลาการอินเป็นสาวงามเลื่องชื่อมากไม่รู้รึไง เพียงแต่ภายหลังเอาแต่งสวมชุดไว้ทุกข์แบบนั้นอยู่ตลอด แถมยังเย็นชาจนคนไม่กล้าเข้าใกล้คนเลยลืมเรื่องพวกนี้ไปหมด…”
ในที่ประชุมมีสมาชิกระดับสูงที่มีอายุหลายคน จึงรู้เรื่องราวในปีนั้นอยู่บ้าง เวลานี้เลยอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ “พวกนายว่าตอนนั้นไอ้หนุ่มบ้านซือคนนั้นคิดอะไรอยู่ สาวสวยหน้าตาโดดเด่นมีชาติตระกูลแบบนี้ยังไม่เอา ทิ้งทุกอย่างแล้วหนีตามกันไปกับแม่สาวสลัมจีนคนหนึ่ง!
“ฉันว่านะ คนที่เข้าใจยากที่สุดก็คืออินเยวี่ยหรง ด้วยคุณสมบัติของเธอ ปีนั้นอยากได้ผู้ชายแบบไหนแล้วจะไม่ได้บ้างล่ะ ยังยึดมั่นกับซือไหวจางไม่ยอมปล่อย น่าสงสารเกินไปแล้ว!”
….
เมื่อเห็นหัวข้อสนทนาของทุกคนเลยเถิดขึ้นเรื่อยๆ อี้หลิงจวินจึงกระแอมไอทีหนึ่งขัดเสียงวิจารณ์ของผู้คน จากนั้นก็มองไปที่อินเยวี่ยหรงแล้วเอ่ยขึ้น “ตุลาการอินเชิญนั่งเลย สุขภาพเป็นยังไงบ้าง”
อินเยวี่ยหรงพยักหน้านิดๆ “ขอบคุณสำหรับความห่วงใยจากท่านประธาน ไม่เป็นไรแล้วค่ะ”
“อืม งั้นก็นั่งเถอะ” อี้หลิงจวินพูด และอดไม่ได้ที่จะสงสัยอยู่บ้าง
อินเยวี่ยหรงเป็นคนบ้างานคนหนึ่ง ตั้งแต่เข้าสภาตุลาการมายังไม่เคยลาหยุดเลย บางครั้งถูกคนลอบสังหาร มีดแทงท้อง วันต่อมายังพันผ้ากอซมาประชุมอยู่เลย นี่เป็นครั้งแรกที่เธอลาหยุด และตามที่แม่บ้านของเธอโทรมาแจ้ง แค่ป่วยเล็กๆ น้อยๆ อย่างเป็นหวัดไข้ขึ้นเท่านั้น ทำให้คนอื่นๆ ประหลาดใจจริงๆ
แล้ววันนี้พออินเยวี่ยหรงโผล่มา ก็แต่งตัวผิดแผกไปจากปกติแบบนี้อีก จึงทำให้ดึงดูดสายตาผู้คนยิ่งกว่าเดิม
อี้หลิงจวินอดคิดมากไม่ได้ ทำไมจู่ๆ อินเยวี่ยหรงถึงมีพฤติกรรมแปลกๆ มากมายขนาดนี้กัน
ในเวลาเดียวกันนี้ ซือเยี่ยหานที่เข้าร่วมการประชุมก็สำรวจอินเยวี่ยหรงอย่างเงียบๆ เช่นกัน
ความสนใจของเขาไม่ได้อยู่ที่ว่าอีกฝ่ายสวมชุดอะไร เพียงคาดการณ์สถานการณ์ของถังถังจากสีหน้าของเธอ
เขาเคยส่งคนไปสืบที่บ้านตระกูลอิน ผลคือได้ทราบว่าถังถังไม่อยู่ที่บ้านตระกูลอิน น่าจะถูกเคลื่อนย้ายไปอย่างลับๆ แล้ว เขาสงสัยว่าถังถังจะถูกย้ายไปที่เรือนพักร้อนแห่งหนึ่งของอินเยวี่ยหรง เพียงแต่เรือนพักร้อนหลังนั้นมีการคุ้มกันอย่างเข้มงวด ทั้งหมดคือคนสนิทของอินเยวี่ยหรง ไม่มีทางไปสืบข่าวมาได้ชั่วขณะ
ณ โถงทางเดิน หลังจบการประชุม
ซือเยี่ยหานเอ่ยทัก “ตุลาการอิน”
อินเยวี่ยหรงคล้ายจะคาดไว้แล้วว่าซือเยี่ยหานจะมาหาตัวเอง จึงหันกลับมาอย่างสงบนิ่ง “มีอะไร”
ซือเยี่ยหานเข้าประเด็นทันที “ตุลาการอินเตรียมจะปล่อยตัวคนตอนไหน”
อินเยวี่ยหรงตอบอย่างเฉยชา “ถึงยังไงก็เพิ่งได้เจอหลานชายเป็นครั้งแรก อยู่ด้วยหลายๆ วันก็เป็นเรื่องธรรมดา”
ใบหน้าของซือเยี่ยหานเผยแววเย็นเยียบ “เกรงว่าลูกชายบุญธรรมของคุณคงอยู่ได้อีกไม่กี่วันแล้ว”
อินเยวี่ยหรงหัวเราะเย้ยหยัน “ฮ่า เจ้าเก้า แม่คิดมาตลอดว่าแกรู้จักแม่ดี ทำไมแกถึงคิดว่า แกจะเอาอินเหิงมาขู่ฉันได้”
ซือเยี่ยหานฟังแล้วขมวดคิ้วนิดๆ หวันหวั่นก็พูดประมาณนี้เหมือนกัน
แต่ว่า อินเยวี่ยหรงเอาอินเหิงเข้ามาแทนที่เขาอย่างไม่นึกเสียดายเลย แถมยังกำหนดให้เขารับตำแหน่งหัวหน้าตระกูลอินอีกด้วย ถึงขั้นที่เคยทำเพื่ออินเหิงโดยไม่เสียดายชีวิตด้วยซ้ำ จะไม่สนใจความเป็นความตายของเขาได้ยังไง
อินเยวี่ยหรงเก็บรอยยิ้ม แล้วเอ่ยด้วยแววตาเยียบเย็น “ความเป็นความตายของอินเหิงฉันไม่สน ถ้าแกชอบ งั้นก็เก็บไว้ให้ดีเถอะ จะฆ่าหรือจะแกง แล้วแต่แกจะพอใจเลย”
ซือเยี่ยหานมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างเยือกเย็น แววตามืดดำจนมองไม่เห็นก้นบึ้ง “อินเยวี่ยหรง คุณมีหัวใจรึเปล่า”
—————————————————————————————