แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 2405 ชอบถังถังจริงๆ / บทที่ 2406 รบกวนคุณช่วยดูแล
บทที่ 2405 ชอบถังถังจริงๆ
หลินเชวียพึมพำ “ฉันว่านะพี่เก้า พวกพี่ก็ใจกล้าเกินไปแล้ว! ไม่น่าเชื่อว่าจะกินจริงๆ!”
ซือเยี่ยหานมองหลินเชวียที่กินเยอะที่สุดอย่างเงียบงัน
เขาไม่เคยไว้ใจอินเยวี่ยหรงเลย แค่เชื่อใจหวันหวั่นเท่านั้น
ถังถังร้องเรียก “พ่อครับ ถังหูลู่ที่พ่อชอบครับ!”
เยี่ยหวันหวั่นก็เออออไปด้วย “ใช่ๆ พ่อของลูกชอบถังหูลู่ที่สุด!”
ซือเยี่ยหานได้แต่นิ่งเงียบ
….
มื้ออาหารจบลงอย่างสมานฉันท์เช่นนี้ แม้แต่ของหวานหลังอาหารก็ถูกกินจนเกลี้ยงเช่นกัน
จากนั้นถังถังก็พาทุกคนไปชมดอกเหมยจริงๆ
ถังถังเอ่ยชวน “แม่ครับ ถังถังจะพาแม่ไปดูดอกเหมยนะครับ!”
เยี่ยหวันหวั่นลังเล “เอ่อ…”
ต้องไปดูดอกเหมยจริงๆ น่ะเหรอ!
เยี่ยหวันหวั่นสบตาซือเยี่ยหานแวบหนึ่ง
ตอนนี้ภารกิจเร่งด่วนคือต้องรีบพาถังถังไป
แต่ว่า มื้ออาหารเมื่อครู่นี้ ทำให้ตะลึงจนไม่มีโอกาสได้พูด
พวกเขารู้ดี ตอนนี้พวกเขายังพอฝืนแกล้งสมานฉันท์กันไว้ได้ แต่ว่า ถ้าเปิดปากพูดเรื่องนี้ เกรงว่าคงปิดเอาไว้ไม่ได้แล้ว
เยี่ยหวันหวั่นเตรียมใจไว้ว่าจะไปชมดอกไม้ก่อน จากนั้นค่อยวางแผนกันในระยะยาว คิดหาวิธีบอกกล่าวอย่างละมุนละม่อม แต่ผลคือ ซือเยี่ยหานกลับเปิดปากขึ้นมาเลย
ซือเยี่ยหานเอ่ยอย่างเฉยเมย “ถังถัง พวกเราควรกลับได้แล้ว”
เยี่ยหวันหวั่นได้แต่ถอนหายใจกุมหน้าผากอย่างเงียบๆ
เฮ้อ…
มิน่าล่ะความสัมพันธ์ของแม่ลูกนี้คู่นี้ถึงได้เลวร้ายจนกลายเป็นแบบนี้
พอซือเยี่ยหานเปล่งเสียงออกมา บรรยากาศที่แต่เดิมดูอบอุ่นราวกับมีฟองสบู่ล่องลอยอยู่ใต้แสงตะวัน ก็ราวกับถูกลมพัดสลายไป
ดวงตาของอินเยวี่ยหรงฉายประกายกร้าวแวบหนึ่ง สายตาทอดมองไปยังถังถังที่อยู่ข้างกายตามสัญชาตญาณ
สัมผัสอันเฉียบไวของเยี่ยหวันหวั่นสังเกตเห็นว่า ตอนที่สายตาของอินเยวี่ยหรงทอดลงบนร่างถังถัง แทบจะเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นในชั่วพริบตา
ถึงแม้จะเป็นความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่สังเกตแทบไม่เห็น แต่คงเป็นเพราะสัญชาตญาณของคนเป็นแม่ เธอจึงมองเห็นเสี้ยวความอบอุ่นในดวงตาของอินเยวี่ยหรง ถึงขั้นที่ว่า…ดูอาลัยอาวรณ์…
ตอนแรกเธอคิดว่าอินเยวี่ยหรงมีแผนการร้ายอยู่
แต่ด้วยนิสัยของอินเยวี่ยหรง เธอไม่ชอบอ้อมค้อมอะไรพวกนั้น ไม่มีทางจะมาถึงขั้นที่ลงครัวด้วยตัวเองเพื่อถังถังได้
ยิ่งไปกว่านั้นคือเด็กน้อยไม่มีทางโกหก ปฏิกิริยาของถังถังก็ไม่ใช่การเสแสร้ง
เขาก็ชอบคุณย่าคนนี้มากเหมือนกัน
เยี่ยหวันหวั่นใช้เวลาอยู่พักใหญ่เพื่อแยกแยะความเป็นจริงเรื่องนี้…อินเยวี่ยหรงน่าจะชอบถังถังจริงๆ
ไม่อย่างนั้นจะให้ถังถังนอนห้องข้างๆ ตัวเองทำไม จะให้คนเตรียมผ้าเด็กทำไม ถึงขั้นที่ทำอาหารด้วยตัวเองเพื่อถังถังด้วย…
ดังนั้น…
ที่ก่อนหน้านี้เมินเฉยต่อคำต่อรองและแรงกดดันของอี้หลิงจวินไม่ยอมคืนถังถังให้ เป็นเพราะหักใจให้ถังถังไปไม่ลงงั้นเหรอ
ถังถังเงยศีรษะเล็กๆ ขึ้น “ต้องกลับแล้วเหรอครับ”
ซือเยี่ยหานมองอินเยวี่ยหรงด้วยแววตาเยือกเย็น “หรือว่า คุณอยากรั้งตัวถังถังไว้ต่อล่ะครับ”
ทันใดนั้น บรรยากาศก็จับตัวเป็นน้ำแข็งทันที หลินเชวียและอวี๋เซ่าที่อยู่ด้านข้างต่างก็ตั้งท่าระแวดระวังแล้ว
อินเยวี่ยหรงไม่ทันได้อ้าปาก เวลานี้ หนูน้อยถังถังที่อยู่ด้านข้างก็เอ่ยขึ้นด้วยท่าทางผ่าเผยเป็นธรรมชาติ “พ่อครับ คุณย่าชอบถังถังขนาดนี้ ต้องอยากให้ถังถังอยู่ต่อแน่นอน!”
ซือเยี่ยหานผงะไปแวบหนึ่ง
อินเยวี่ยหรงได้ฟังคำพูดของถังถัง ใบหน้าที่เฉยเมยมาโดยตลอดก็เผยความทึ่มทื่อและกระดากใจเล็กน้อย แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้แย้งคำพูดของถังถัง
เยี่ยหวันหวั่นมองท่าทีของอินเยวี่ยหรง นับว่ามั่นใจในการคาดเดาของตัวเองแล้ว
ด้วยเหตุนี้เยี่ยหวันหวั่นจึงกระแอมไอเบาๆ แล้วเอ่ยขึ้นว่า “โอ้ งั้นจะกลับเมื่อไหร่ ก็แล้วแต่ถังถังเถอะจ๊ะ ถ้าถังถังอยู่ที่นี่แล้วมีความสุข อยู่เล่นอีกสองสามวันก็ได้ ถึงยังไงพ่อกับแม่ก็พักอยู่ในละแวกนี้เหมือนกัน มาเยี่ยมลูกได้ตลอดอยู่แล้ว!”
—————————————————————————————
บทที่ 2406 รบกวนคุณช่วยดูแล
อินเยวี่ยหรงไม่คิดเลยว่าเยี่ยหวันหวั่นจะพูดแบบนี้ จึงมีสีหน้าประหลาดใจมากอย่างเห็นได้ชัด
เธอรู้ดีว่าผู้หญิงคนนี้ห่วงใยถังถังมากแค่ไหน ตอนแรกที่อินเหิงจับตัวถังถังมา เธอถึงขั้นที่ยอมเปิดเผยตัวตนอย่างไม่นึกเสียดายเลย
ถังถังมองไปที่อินเยวี่ยหรง “คุณย่า ผมขอคุยกับแม่แบบส่วนตัวหน่อยได้ไหมครับ”
อินเยวี่ยหรงตอบรับ “ได้”
ผ่านไปครู่หนึ่ง ถังถังก็ดึงเยี่ยหวันหวั่นเดินไปยังดงเหมยที่ปลอดผู้คน
ด้านหลังไม่ไกลนัก แม่นมเฉียวแอบติดตามมา ซ่อนตัวอยู่ด้านหลังภูเขาจำลองลูกหนึ่ง
“แม่ครับ อุ้ม!” พอถึงที่ปลอดผู้คน พ่อหนูก็ออดอ้อนทันที
เยี่ยหวันหวั่นถูกความน่ารักกระแทกใจ จะปฏิเสธได้ยังไง จึงรีบย่อตัวลงอุ้มพ่อหนูไว้ในอ้อมแขนทันที
“แม่ครับ…” ท่าทางของพ่อหนูดูโศกเศร้าอยู่บ้าง
เยี่ยหวันหวั่นรีบถาม “เป็นอะไรจ๊ะ”
พ่อหนูก้มหน้างุด “แม่ครับ แม่ยังไม่จุ๊บๆ ถังถังเลย…”
เยี่ยหวันหวั่นหลุดขำ เด็กน้อยคนนี้ เรียกตัวเองมาเพราะเรื่องนี้งั้นเหรอ
คิดว่าเมื่อกี้มีคนอยู่เยอะเลยเขินสินะ…
เยี่ยหวันหวั่นอุ้มพ่อหนูน้อยที่ราวกับก้อนแป้งไว้ในอ้อมแขน แล้วจุ๊บแก้มของพ่อหนูเบาๆ
พ่อหนูยังดูมีท่าทางไม่สดใดอยู่บ้าง เยี่ยหวันหวั่นหัวเราะ จุ๊บลงไปเสียงดังจุ๊บอีกที
พ่อหนูถึงได้พอใจแล้ว ดวงหน้าน้อยๆ ขึ้นสีแดงเรื่อ สองตาแวววาว
“ถังถัง แม่มีคำถามจะถามลูก”
“แม่อยากถามเรื่องคุณย่าเหรอครับ”
“ใช่จ๊ะ ลูก…ลูกชอบคุณย่าไหม” เยี่ยหวันหวั่นลองถามดู
พ่อหนูน้อยไม่ลังเลเลย พยักหน้าอย่างมั่นใจ “ถังถังชอบคุณย่าครับ คุณย่าเหมือนที่แม่บอกไว้เปี๊ยบเลย ถึงแม้จะอยู่ด้วยยากไปบ้าง อีคิวก็ต่ำไปนิด แต่กลับเป็นคนที่ดีมากและอ่อนโยนมากคนหนึ่ง”
เยี่ยหวันหวั่นนึกถึงคำพูดพวกนั้นที่เธอเคยพูดกับถังถัง แล้วกระแอมไอเบาๆ ทีหนึ่ง “ใช่แล้วๆ…เป็นแบบนี้จริงๆ…”
พอได้ฟังแบบนี้ ในที่สุดเยี่ยหวันหวั่นก็วางใจแล้ว
ไม่ว่าอินเยวี่ยหรงจะปฏิบัติกับคนอื่นยังไง แต่อย่างน้อยเธอก็ไม่มีทางทำร้ายถังถัง
ในเวลาเดียวกัน ด้านหลังภูเขาจำลอง แม่นมฟังบทสนทนาเหล่านี้อยู่เงียบๆ พอฟังมาถึงตอนนี้ ก็ไม่จำเป็นต้องฟังต่อไปแล้ว จึงจากไปอย่างเงียบเชียบ
เยี่ยหวันหวั่นลูบศีรษะของพ่อหนู “งั้นก็ดีแล้วจ๊ะ ถ้าลูกอยากอยู่ต่อ ก็อยู่อีกสองสามวันเถอะ อีกสองสามวันพ่อกับแม่ค่อยมารับลูกก็ได้”
หนูน้อยถังถังพูดขึ้นมา “ไม่ต้องหรอกครับแม่ อีกสองสามวันผมจะให้คุณย่าไปส่งผมกลับก็ได้!”
พอเยี่ยหวันหวั่นได้ฟังคำพูดนี้ ดวงตาก็พลันหมุนกลอกกลิ้ง
ถ้าทำให้อินเยวี่ยหรงเป็นฝ่ายไปส่งถังถังกลับบ้านได้จริงๆ…แบบนั้นก็เยี่ยมไปเลย!
ยังไงซะไม่ว่าพวกเขาจะใช้วิธีอะไรพาถังถังไป ก็เกรงว่าคงจะมีข่าวลือไม่ดีแพร่ออกไป ถ้าซือเยี่ยหานกับอินเยวี่ยหรงขัดแย้งกันอีก แบบนั้นหลายวันมานี้ที่ถังถังมาอยู่ที่นี่ก็คงเสียเปล่าแล้วจริงๆ
ดังนั้น หลังจากลังเลอยู่นาน เยี่ยหวันหวั่นก็ยังคงตัดสินใจว่าจะเชื่อใจถังถัง “ได้จ๊ะ”
….
เยี่ยหวันหวั่นและถังถังคุยกันต่อพักหนึ่ง จากนั้นก็กลับไปที่ห้องรับแขก
พอเห็นถังถังกลับมา สายตาของอินเยวี่ยหรงก็มองไปทันที
เยี่ยหวันหวั่นจูงพ่อหนูไว้ มองไปที่อินเยวี่ยหรง แล้วเอ่ยด้วยสีหน้าอ่อนโยน “ช่วงนี้ฉันกับคุณเก้ากำลังยุ่งมาก ไม่รู้ว่าจะขอรบกวนคุณช่วยดูแลถังถังต่ออีกสองสามวันได้ไหมคะ”
ตั้งแต่ต้นจนจบเยี่ยหวันหวั่นไม่ได้เอ่ยเรื่องที่อินเยวี่ยหรงลักพาตัวถังถังเลย
ความรู้สึกผิดวาบผ่านในดวงตาของอินเยวี่ยหรงไปอย่างรวดเร็ว ในไม่ช้าอารมณ์ก็สงบลง และตอบรับคำพูดของเยี่ยหวันหวั่นอย่างเฉยเมย “ได้”
เยี่ยหวันหวั่นยกมุมปากขึ้นนิดๆ “งั้นก็รบกวนด้วยนะคะ”
ซือเยี่ยหานคล้ายอยากจะพูดอะไร แต่เยี่ยหวันหวั่นกลับส่งสายตาปรามให้เขาเงียบไว้
หลังจากออกจากบ้านตระกูลอินแล้ว
เยี่ยหวันหวั่นก็เล่าเรื่องที่ตัวเองคุยกับถังถังให้ซือเยี่ยหานฟังทั้งหมด
—————————————————————————————