แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 2407 ไม่มีการเปรียบเทียบไม่เกิดอันตราย / บทที่ 2408 นึกเสียใจ
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 2407 ไม่มีการเปรียบเทียบไม่เกิดอันตราย / บทที่ 2408 นึกเสียใจ
บทที่ 2407 ไม่มีการเปรียบเทียบไม่เกิดอันตราย
เยี่ยหวันหวั่นเล่าต่อไป “ฉันก็ว่าแล้วว่าฉันเดาไม่ผิด! แม่คุณชอบถังถังมากจริงๆ! เพราะงั้น ตอนนี้พวกเราควรกลับไปก่อนเถอะ รอข่าวจากถังถังก็พอ!”
อันที่จริงการมาครั้งนี้ จากท่าทางของถังถังและอินเยวี่ยหรง ก็มองออกเลยว่าพวกเขาเข้ากันได้ดีมากจริงๆ
เพียงแต่ภาพจำอินเยวี่ยหรงหยั่งรากฝังลึกอยู่ในใจเขา เป็นเหตุให้เขาไม่อาจไว้ใจอย่างสมบูรณ์ได้เลย
หลินเชวียเอ่ยด้วยความแปลกใจ “สหายถังถังของฉันร้ายกาจมาก! ไม่น่าเชื่อว่าจะสยบได้แม้แต่น้าหรง! ฉันก็ว่าทำไมน้าหรงแปลกไปแบบนี้! ที่แท้ก็ถูกถังถังสยบได้แล้ว!”
พอพูดจบก็มองไปทางซือเยี่ยหานอย่างระมัดระวังแวบหนึ่ง “ลูกชายคนหนึ่งกับหลานชายคนหนึ่ง ทำไมถึงแตกต่างกันได้มากขนาดนี้ล่ะ เดาว่าพี่เก้าของฉันคงไม่เคยกินอาหารฝีมือน้าหรงเลย! ไม่มีการเปรียบเทียบไม่เกิดอันตรายจริงๆ…”
เยี่ยหวันหวั่นถลึงตาใส่หลินเชวียแวบหนึ่ง
ทำไมต้องพูดเรื่องที่ไม่ควรพูดด้วยนะ
อวี๋เซ่าหัวเราะเบาๆ “นี่คงเป็นสายสัมพันธ์ข้ามรุ่น มีผู้อาวุโสมากมายที่ถึงแม้จะเข้มงวดกับลูกๆ แต่พอถึงรุ่นหลานกลับโอ๋เอาใจมาก”
หลินเชวียบ่นอุบอิบ “แต่ใครจะไปคิดกันล่ะว่าน้าหรงก็มีมุมแบบคนทั่วไปด้วย…”
….
ณ บ้านพักตากอากาศหมื่นเหมย ในห้องหนังสือ
หลังจากพวกซือเยี่ยหานไปแล้ว แม่นมเฉียวจึงเข้าไป
“พวกเขาคุยอะไรกัน” อินเยวี่ยหรงถาม
นิสัยของอินเยวี่ยหรงอ่อนไหวและขี้ระแวง เป็นสิ่งที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ทันที ดังนั้นตอนที่เยี่ยหวันหวั่นกับถังถังออกไปกันตามลำพัง จึงให้แม่นมเฉียวแอบตามไป
แม่นมเฉียวเอ่ยทวนบทสนทนาของเยี่ยหวันหวั่นและถังถังในดงเหมยออกมาตามจริงรอบหนึ่ง
[ถังถังชอบคุณย่าครับ คุณย่าเหมือนที่แม่บอกไว้เปี๊ยบเลย ถึงแม้จะอยู่ด้วยยากไปบ้าง อีคิวก็ต่ำไปนิด แต่กลับเป็นคนที่ดีมากและอ่อนโยนมากคนหนึ่ง]
[ใช่แล้วๆ…เป็นแบบนี้จริงๆ…]
“อีกอย่าง ดูทีท่าแล้ว คุณหนูรองตระกูลเนี่ยคนนั้นคงไม่ได้บอกคุณชายถังถังเลยว่าคุณลักพาตัวเขามา…”
บทสนทนาเพียงไม่กี่ประโยค ก็ทำให้สีหน้าของอินเยวี่ยหรงตัดสลับกันไปมา
แม่นมเฉียวเอ่ยต่อไป “ปกติแล้วเป็นไปไม่ได้เลยจริงๆ ที่จะคิดแบบนี้ เกรงว่าคงไม่อยากให้ในใจเด็กมีความเคียดแค้นเกลียดชังอะไร ยังไงก็ตาม ในจิตใจส่วนนี้ เป็นสิ่งที่คุณหนูผู้ดีพวกนั้นเทียบไม่ติดเลยจริงๆ”
ถึงแม้อินเยวี่ยหรงจะไม่ได้พูดอะไร แต่น่าประหลาดที่ไม่มีความต่อต้านและเหยียดหยามเหมือนที่ผ่านมา สิ่งที่เหลืออยู่มีแค่ความประหลาดใจอย่างหนึ่ง เป็นความรู้สึกจำพวกเสียไปแล้วได้คืนมา…
อินเยวี่ยหรงเอ่ยขึ้นว่า “ไปถามถังถังสิ พรุ่งนี้อยากกินอะไร”
แม่นมเฉียวตอบรับ “ได้ค่ะ ดิฉันจะไปเดี๋ยวนี้”
….
วันนี้ตอนที่พวกซือเยี่ยหานบุกเข้ามา อาจงไปรับโทษที่ห้องลงทัณฑ์ หลังจากออกมาแล้วถึงได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เรื่องนี้ได้เกินเลนไปจนหลุดออกจากความคาดหมายของเขาอย่างสิ้นเชิงแล้ว
ตกดึก อาจงจึงรีบแฝงตัวเข้าไปหาอินเหิงที่คุกใต้ดิน
“คุณชายอินเหิงครับ เรื่องราวคงจะไม่ดีแล้ว!”
“เกิดอะไรขึ้น พูดมาให้ชัดๆ”
“ช่วงเย็นวันนี้ ซือเยี่ยหานกับผู้หญิงคนนั้นพาคนกลุ่มใหญ่บุกไปที่บ้านหมื่นเหมย!”
ดวงตาของอินเหิงส่องประกาย “ว่าไงนะ นายบอกว่าซือเยี่ยหานบุกไปที่บ้านหมื่นเหมยงั้นเหรอ”
นี่ไม่ใช่เรื่องดีรึไง
เขาตั้งตารอให้พวกเขารีบต่อสู้กัน สู้กันแบบตายกันไปข้าง!
แค่อินเหิงจินตนาการดูก็คาดเดาได้แล้วว่าในตอนนั้นสถานการณ์ตึงเครียดขนาดไหน
“สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง สู้กันแล้วใช่ไหม อินเยวี่ยหรงรับมือไม่ง่ายเลย ซือเยี่ยหานต้องเคลื่อนกำลังพลทั้งหมดที่สามารถโยกย้ายได้บุกเข้าไปใช่ไหม
บอดี้การ์ดของที่นี่ไม่ได้เฝ้ายามแน่นหนาขนาดนั้น นายรีบหาทางช่วยฉันออกไปซะ! รอให้ฉันออกไปได้แล้ว ก็ไปหาที่ปลอดภัยกบดานก่อนซักสองสามวัน รอให้ผ่านไปสักพัก อย่างมากก็สิบวันครึ่งเดือน พวกเขาต้องสู้กันจนบาดเจ็บล้มตายไปข้างแน่!
พอถึงเวลา ฉันก็จะปรากฏตัวขึ้นด้วยฐานะหัวหน้าตระกูลอิน ไปเก็บกวาดจัดการ…” ยิ่งพูดดวงตาของอินเหิงก็ยิ่งส่องประกาย ใบหน้าเต็มไปด้วยความมุ่งหมายจะครอบครอง
ทว่าเขาไม่สังเกตเห็นเลยว่าสีหน้าของอาจงดูลำบากใจอย่างมาก
อาจงลังเลอยู่นานถึงได้เอ่ยขึ้นว่า “แค่ก คุณชายครับ เรื่องราวต่างไปจากที่พวกเราคาดไว้…”
—————————————————————————————
บทที่ 2408 นึกเสียใจ
“มิน่าล่ะหลายวันมานี้นายถึงแฝงตัวเข้ามาได้ง่ายขนาดนี้ น่ากลัวว่าซือเยี่ยหานคงกังวลจนไม่ได้สนใจ…”
อินเหิงที่กำลังพูดฉอดๆ อยู่ ทันทีที่ได้ยินคำพูดนี้ของอาจง ก็ชะงักไปเล็กน้อย “ต่างไปเหรอ หมายความว่ายังไง”
อาจงกลืนน้ำลาย “คงเป็นเพราะนิสัยของนายหญิงเด็ดเดี่ยวเกินไป ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมปล่อยไอ้เด็กนั่น แม้แต่ประธานอี้ออกหน้าก็ยังไม่ได้ผล คุณชายใหญ่ถูกกดดันจนร้อนใจ เลยมากับผู้หญิงคนนั้น พาพวกยอดฝีมือกลุ่มใหญ่มา บุกมาที่บ้านหมื่นเหมยตอนกลางวันแสกๆ…
ตอนแรกผมก็คิดว่าครั้งนี้ต้องเป็นศึกแบบไม่ตายไม่เลิกราแน่นอน แต่ใครจะรู้ว่าทั้งสองฝ่ายจะเข้ากันได้ดี ไม่ได้ต่อสู้กันเลย ไม่มีความเคลื่อนไหวเลยสักนิด ถึงขั้นที่…”
“ถึงขั้นที่อะไร”
“ถึงขั้นที่นายหญิงให้พวกเขาอยู่กินข้าวด้วย กินข้าวเย็นเสร็จแล้วยังไปเดินชมสวนดอกเหมยอีก! สุดท้ายซือเยี่ยหานก็ไม่ได้พาไอ้เด็กเหลือขอคนนั้นไปด้วย บอกให้เขาอยู่เล่นที่นี่ต่ออีกสองสามวัน!”
“พูดจาเพ้อเจ้อ!”
“คุณชายอินเหิง ผมก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันครับ แต่…แต่ว่าความจริงมันเป็นแบบนี้…อันที่จริง…ยังมีอีกเรื่องที่ผมไม่กล้าบอกคุณ…”
“มาถึงขั้นนี้แล้ว มีอะไรยังไม่รีบเปิดปากออกมาอีก!” อินเหิงสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นเรื่อยๆ แล้ว ความเสแสร้งและมารยาทตามปกติแปรเปลี่ยนเป็นความเกรี้ยวกราดรุนแรง
อาจงจึงรีบเล่าทันที “ก็คือ…ก็คือนายหญิงปฏิบัติกับไอ้เด็กพันทางคนนั้นแปลกประหลาดขึ้นเรื่อยๆ แล้วครับ…ตอนแรกแค่จัดให้เขาอยู่ห้องข้างๆ แต่ก็ไม่ได้สนใจเท่าไร ต่อมากลับค่อยๆ ใส่ใจชีวิตประจำวันของไอ้เด็กพันทางคนนั้น ให้แม่นมเฉียวซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้ไอ้เด็กพันทางคนนั้น จากนั้นก็ซื้อลูกอมให้อีก แถมยังอนุญาตให้ไอ้เด็กเหลือขอคนนั้นเข้าออกห้องหนังสือได้ตามสบายด้วย
ทุกวันเวลาที่นายหญิงทำงาน ไอ้เด็กเหลือขอคนนั้นก็จะอยู่เป็นเพื่อนในห้องหนังสือด้วย วันนี้…วันนี้นายหญิงถึงขั้นที่ทำลายกิจวัตรที่กินแค่อาหารเจในช่วงหลายปีมานี้ เข้าครัวทำอาหารเนื้อสัตว์ให้ไอ้เด็กพันทางคนนั้นครับ!”
อาจงเล่าจบในรวดเดียว จากนั้นก็ขยับปากด้วยความกระวนกระวาย “ตอนแรกผมคิดว่านายหญิงต้องจงเกลียดจงชังไอ้เด็กพันทางคนนี้แน่นอน จะรู้ได้ยังไงว่าเรื่องจะผิดปกติขึ้นเรื่อยๆ นายหญิง…เห็นได้ชัดว่านายหญิงเห็นไอ้เด็กพันทางคนนั้นเป็นหลานแท้ๆ ไปแล้วครับ!”
ยิ่งฟังสีหน้าของอินเหิงก็ยิ่งน่าเกลียด “นายว่ายังไงนะ…นายบอกว่าคุณแม่ไม่ใช่แค่ไม่ทรมานไอ้เด็กเหลือขอนั่น แต่ยังโอ๋เไอ้พันทางนั่นด้วยงั้นเหรอ”
อินเยวี่ยหรงมองไอ้เด็กพันทางคนนั้นเป็นหลานแท้ๆ ไปแล้วงั้นเหรอ เหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
อาจงลูบแผลที่ได้จากการลงโทษ ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความชิงชัง “จริงแท้แน่นอนเลยครับ ไอ้เด็กเหลือขอคนนั้น เหมือนแม่เขาจริงๆ ไม่รู้ว่าเอายาเสน่ห์อะไรให้นายหญิงกิน ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะทำให้คนอย่างอินเยวี่ยหรงโดนเกลี้ยกล่อมจนโอนอ่อนผ่อนตามได้
ยิ่งกว่าโอ๋ซะอีก ต้องบอกว่าชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ก็ไม่เกินจริง! วันนั้นนายหญิงอารมณ์ไม่ดี ผมยกน้ำชาไปเสิร์ฟหน้าห้องหนังสือเพื่อเอาใจ แต่นายหญิงกลับสั่งลงโทษผมยกหนึ่ง แต่กับไอ้เด็กเหลือขอคนนั้น พูดปลอบแค่ไม่กี่ประโยค นายหญิงก็อุ้มเขาเข้าไปในห้องหนังสือเลย!”
อาจงเล่าเรื่องราวอย่างละเอียด ไม่ได้โกหกอย่างแน่นอน
เขาอยู่กับอินเยวี่ยหรงมานานขนาดนี้ คิดว่าตัวเองเปรียบเสมือนความหวังของอินเยวี่ยหรง ไม่คิดเลยว่าจะมีเรื่องที่เหนือความคาดหมายแบบนี้เกิดขึ้น!
เขาหมายมั่นว่าไอ้เด็กพันทางคนนี้จะกลายเป็นชนวนสงครามระหว่างซือเยี่ยหานและอินเยวี่ยหรง
แต่ตอนนี้ กลับแพ้ภัยตัวเองซะได้ อินเยวี่ยหรงและซือเยี่ยหานถึงขั้นที่เป็นไปได้ว่าอาจกลับมาสมานฉันท์กันเพราะเด็กคนนี้…
นี่ตัวเขา…โยนหินทับเท้าตัวเองเข้าแล้ว!
เวลานี้ อินเหิงนึกเสียใจจนไส้เขียวไปหมด จึงซัดหมัดต่อยซี่ลูกกรง
ถ้ารู้แต่แรกว่าจะเป็นแบบนี้ ตอนนั้นคงไม่ไปลักพาตัวไอ้เด็กคนนั้นมา ไม่อย่างนั้นเขาก็คงไม่มีตกต่ำมาอยู่ในสภาพแบบตอนนี้!
—————————————————————————————