แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 309 เห่าไปทั่ว / บทที่ 310 ไฟลูกแรก
บทที่ 309 เห่าไปทั่ว
วงการบันเทิงเป็นสถานที่ที่เสาะหาชื่อเสียงลาภยศ แบ่งระดับชั้นอย่างชัดเจน ไม่ว่าคุณจะเดบิวต์เร็วแค่ไหน ถ้าไม่มีชื่อเสียงก็อยู่ได้แค่ระดับล่างสุด เหมือนกับมดที่ต้อยต่ำ ไม่ว่าใครก็สามารถเหยียบให้ตายได้
สามปีที่ผ่านมาทำให้ลั่วเฉินเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี ตอนแรก เขายังคิดว่าจะพยายามและตอบโต้เพื่อตัวเอง ทว่าต่อมาเขาก็ไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องทั้งหมดนี้อีกแล้ว
หลินเฮ่าปรายตามองศิลปินน้องใหม่ข้างกาย ศิลปินน้องใหม่พลันพร้อมใจใช้ไหล่กระแทกลั่วเฉินอย่างแรง “ขอโทษครับ พวกเราต้องเริ่มถ่ายกันแล้ว รบกวนพี่ออกไปหน่อย อย่ามาเกะกะขวางทางที่นี่”
หากเป็นก่อนหน้านี้ ลั่วเฉินคงจะเดินออกไปแล้ว แต่นึกถึงคำกำชับของผู้จัดการเมื่อวาน สองเท้าจึงลังเลขึ้นมา
ศิลปินตัวน้อยกระแนะกระแหนอย่างไม่ชอบใจ “ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอ? ไม่เคยพบไม่เคยเจอคนหน้าด้านขนาดนี้ อยากดังจนเสียสติไปแล้วหรือไงรุ่นพี่! ได้เกาะแข้งเกาะขาสมดังใจแล้วไม่ใช่เหรอ? แม้แต่การถ่ายภาพของเด็กใหม่ตัวน้อยๆ อย่างพวกผม พี่ก็อยากมีซีนด้วยเหรอ?”
เมื่อได้ยินเสียงเอะอะจากทางนี้ ช่างภาพที่อยู่ด้านข้างก็ตะโกนขึ้นมาเสียงดังด้วยความรำคาญ “คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปให้หมด! อย่ามารบกวนคนอื่น!”
ศิลปินน้อยยิ้ม “ได้ยินแล้วใช่ไหม? ยังไม่รีบไสหัวกลับไปหาเจ้านายพี่อีก!”
ลั่วเฉินบีบนิ้วมือที่อยู่ข้างกาย สุดท้ายตัดสินใจที่จะหันกายเตรียมจะเดินออกไป
จากนั้น พริบตาที่เขาหันกาย พลันมีมืออุ่นกดไหล่ของเขาไว้
ผู้ที่มามีท่าทางเกียจคร้าน เดินสบายอารมณ์ ท่าทางไม่ใส่ใจสิ่งใด “โอ้โห ครึกครื้นกันน่าดู!”
เมื่อเห็นเยี่ยไป๋ สีหน้าศิลปินน้อยที่ทำวางท่าใหญ่โตเพราะเห็นว่ามีหลินเฮ่าคอยซัพพอร์ตอยู่เมื่อครู่พลันถอดสี เหลือบมองหลินเฮ่าที่อยู่ข้างกาย
ในเมื่อตอนนี้เยี่ยไป๋เป็นคนโปรดของประธานฉู่
หลินเฮ่าเห็นตัวการที่ทำให้เขาขายขี้หน้าจนหมดสิ้น สีหน้าพลันยิ่งบูดบึ้ง “ผู้จัดการเยี่ย รบกวนดูแลศิลปินในสังกัดของคุณด้วย! อย่าปล่อยให้ออกมาเห่าไปทั่ว!”
เยี่ยหวันหวั่นได้ยินก็เกือบจะหลุดขำออกมา ต่อให้เธอเพิ่งจะรู้จักลั่วเฉินแค่วันเดียว ก็รู้ว่าเด็กคนนี้พูดน้อยแค่ไหน พออีกฝ่ายพูดมา กลับกลายเป็นว่าลั่วเฉินกำลังเห่าไปทั่วเสียอย่างนั้น
เยี่ยหวันหวั่นยิ้มเล็กน้อย “อ้อ ฉันดูแลศิลปินในสังกัดของฉันดีหรือไม่ ไม่สำคัญ แต่ว่านะ…ฉันอยากขึ้นบัญชีดำสักคนสองคน น่าจะเป็นเรื่องง่ายๆ!”
เยี่ยหวันหวั่นเพิ่งจะพูดจบ สายตาของหลินเฮ่าวาวโรจน์ด้วยความโกรธ แค่นหัวเราะอย่างดูแคลน “ขึ้นบัญชีดำฉันเหรอ? นายน่ะเหรอ? นายคิดว่านายเป็นใคร! คิดจะเอาขนไก่มาทำเป็นลูกศร! คิดว่าตัวเองใหญ่โตมาจากไหนกัน!”
เขาเป็นคนในสังกัดของพี่ปินเชียวนะ! เขาไม่เชื่อหรอกว่าเยี่ยไป๋จะกล้าทำอะไรเขา
ท่าทางของเยี่ยหวันหวั่นยังคงดูเอื่อยเฉื่อยไม่ใส่ใจ มองใบหน้าของชายหนุ่มตรงหน้าที่แสดงอารมณ์ได้แข็งอย่างชัดเจนเพราะทำศัลยกรรมมากเกินไป
หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาช้าๆ จากนั้นทำท่าเหมือนโทรศัพท์ “สวัสดีครับ ประธานฉู่หรือเปล่าครับ?”
หลินเฮ่าที่ไร้ความเกรงกลัวใดๆ เมื่อกี้เห็นอีกฝ่ายไม่พูดพร่ำทำเพลงต่อสายหาประธานฉู่ ใบหน้าพลันแข็งทื่อ
เยี่ยหวันหวั่นยังคงพูดต่อไปอย่างไม่ช้าไม่เร็ว “เฮอะๆ ประธานฉู่ ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่อยากจะขึ้นบัญชีดำคนคนหนึ่งเท่านั้นเองครับ ก็เลยมาขออนุญาตคุณก่อน เมื่อครู่มีคนไม่รู้ความ หาว่าผมเอาขนนกมาทำเป็นลูกศร! อะไรนะครับ? ไม่ต้องขออนุญาตคุณเหรอ? ให้ผมขึ้นบัญชีดำได้ตามใจผมเลย?”
ฟังถึงตรงนี้ หลินเฮ่าก็รักษาความใจเย็นเอาไว้ไม่ได้อีกต่อไป ร่างกายเริ่มสั่นเทิ้ม
ส่วนศิลปินหลายๆ คนข้างกายเขาที่เยาะเย้ยลั่วเฉินด้วยกันล้วนไม่กล้าส่งเสียงสักแอะ ถอยกรูดไปอยู่ด้านหลังอย่างเงียบๆ กลัวว่าจะตกกระไดพลอยโจนไปกับหลินเฮ่าด้วย
………………………………………………
บทที่ 310 ไฟลูกแรก
เยี่ยหวันหวั่นยกมุมปาก มองหลินเฮ่าที่ตกใจจนหน้าเริ่มซีดขาวแล้วเริ่มพูดกับโทรศัพท์ต่อไป “แต่ว่า อีกฝ่ายเป็นคนของโจวเหวินปินเลยนะครับ!”
“อะไรนะครับ? พวกที่อยู่ต่ำกว่าระดับสองให้ผมขึ้นบัญชีดำได้ตามใจเลยเหรอครับ?”
“ได้ครับ ถ้าอย่างนั้นขอบคุณประธานฉู่มากครับ…”
ฟังถึงตรงนี้ ในที่สุดหลินเฮ่าก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป รีบพุ่งราวติดจรวดไปยังด้านหน้าเยี่ยไป๋ “ผู้…ผู้จัดการเยี่ยครับ! ผมผิดไปแล้ว! เป็นผมเองที่เสียสติไปชั่วขณะ! เมื่อกี้นี้ผมไม่ควรปีนเกลียวคุณ! ขอ…ขอให้คุณให้โอกาสผมอีกสักครั้ง! ครั้งหน้าผมไม่กล้าทำอีกแล้วครับ!”
ตอนนี้หลินเฮ่าลนลานไปหมด ไหนเลยจะมีความจองหองอย่างเมื่อครู่อยู่อีก
สายโทรศัพท์เมื่อกี้ของเยี่ยไป๋ราวกับค้อนที่ทุบลงมาอย่างแรง ทุบให้เขาได้สติในทันที!
เพราะว่าดังจากผลงานเรื่องหนึ่ง เด็กใหม่รอบกายหลายคนเริ่มจะประจบเอาใจเขา ทำให้ช่วงนี้เขาหลงระเริงจนเกินตัว ลืมไปว่าตัวเองตอนนี้ก็เป็นแค่นักแสดงระดับสามเท่านั้น
ส่วนเยี่ยไป๋เป็นถึงคนที่ประธานฉู่ส่งลงมาด้วยตนเอง แม้แต่พี่ปินยังหลีกเลี่ยงที่จะปะทะกับเขา ไม่กล้าเป็นปฏิปักษ์กับเขาอย่างออกหน้าออกตา อีกฝ่ายได้ขออนุญาตประธานฉู่แล้ว ดูจากนิสัยของพี่ปิน เมื่อวานยังสามารถเสนอเขาแลกกับลั่วเฉินได้ วันนี้ก็สามารถตัดหางเขาได้เลยเหมือนกัน
เขาอาจจะถูกขึ้นบัญชีดำจริงๆ ก็ได้!
เยี่ยหวันหวั่นมองอีกฝ่ายด้วยท่าทางเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม “คนที่นายควรขอโทษ ไม่ใช่ฉัน”
สีหน้าหลินเฮ่าพลันดำคล้ำ กำหมัดแน่น สุดท้ายแล้วก็หันไปหาลั่วเฉิน เอ่ยทีละคำว่า “รุ่นพี่ลั่วเฉิน ขอโทษครับ โปรดให้อภัยในความไร้มารยาทของผมด้วย!”
พูดจบก็มองไปทางเยี่ยหวันหวั่นด้วยความกังวล “ตอนนี้ใช้ได้แล้วใช่ไหมครับพี่เยี่ย? พี่ช่วยอธิบายกับประธานฉู่ใหม่อีกทีได้ไหมครับ ผมสำนึกผิดแล้วจริงๆ”
เหมือนว่าตอนนี้เยี่ยหวันหวั่นจะพึงพอใจแล้ว เปิดโทรศัพท์ในมือแล้วกางตรงหน้าเขา
จากนั้น ทุกคนรวมทั้งหลินเฮ่าด้วยก็เห็นว่า บนหน้าจอโทรศัพท์เป็นหน้ารายชื่อผู้ติดต่อ เยี่ยหวันหวั่นไม่ได้โทรออกตั้งแต่แรกแล้ว…
หลินเฮ่าอ้าปากค้างราวคนโง่ นิ่งค้างจ้องโทรศัพท์ของเยี่ยหวันหวั่น หลังจากรู้สึกตัวแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น ใบหน้าเขาก็บวมแดงราวตับหมู
เขา…เขาโดนต้มซะแล้ว!
ไอ้หน้าขาวนี่มันสมควรตายนัก กล้าเล่นละครลิงหลอกเขาอย่างนั้นเหรอ!
หลินเฮ่าโมโหเสียจนปอดจะระเบิดอยู่แล้ว กำลังคิดจะด่ากราด กลับสบตาเข้ากับสายตาเย็นชาแหลมคมของอีกฝ่าย “นี่เป็นการเตือน”
ความหมายของคำพูดนี้คือ หากเขายังกล้ายั่วโมโหอีก เขาจะทำเช่นนี้จริงๆ
ส่วนผลลัพธ์หลังจากที่เขาต่อสายไป…
คิดถึงตรงนี้ หลินเฮ่าก็ไม่กล้าแม้แต่จะผายลมด้วยซ้ำ ผลักคนด้านข้างออกแล้วเดินกระฟัดกระเฟียดออกไป
คนอื่นๆ เมื่อได้เห็นฝีมือของผู้จัดการศิลปินคนใหม่คนนี้แล้ว ไหนเลยจะยังกล้าอยู่ตรงนี้ต่อไป พากันตีปีกกระจายตัวหนีไปกันหมด
ในเมื่อเทียบกับหลินเฮ่าแล้ว พวกเขาไม่มีอะไรเทียบได้เลย
ลั่วเฉินมองสตูดิโอถ่ายภาพที่ว่างเปล่าอย่างฉับพลัน แล้วมองท่าทางสบายอารมณ์ของผู้จัดการศิลปินตรงหน้า บริเวณไหล่ราวกับยังรู้สึกถึงความอบอุ่นของฝ่ามือเขาที่กดลงมา…
เขาชินชากับการเจอเรื่องพวกนี้ตั้งนานแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนออกหน้าแทนคนไร้ค่าอย่างเขา…
เวลานี้เอง ช่างภาพด้านข้างเห็นไฟลูกแรกของเยี่ยไป๋ผู้จัดการศิลปินคนใหม่คนนี้เต็มๆ ตา กลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นรายต่อไป รีบปาดเหงื่อเดินเข้ามาอธิบาย “ขอโทษจริงๆ ครับพี่เยี่ย เมื่อวานพี่นัดล่วงหน้าไว้แล้ว แต่เด็กใหม่กลุ่มนี้มีงานโฆษณาสำคัญที่ต้องถ่าย งานค่อนข้างด่วน ผมถึงได้ให้พวกเขามาถ่ายก่อน”
ถือโอกาสที่อีกฝ่ายไม่มีทีท่าว่าจะแหกอกเขา จึงดึงเก้าอี้ออกมานั่งลงไป พลางเอ่ยว่า “เริ่มงานได้!”
“ครับ!” ช่างภาพโล่งใจ รีบเร่งให้ทุกคนเตรียมตัว ในขณะเดียวกัน ลั่วเฉินก็ถูกพาไปที่ห้องแต่งหน้าเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าทำผม
…………………………………….