แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 345 ครั้งนี้เปลี่ยนเป็นหนูดูแลพ่อแม่แทน / บทที่ 346 ของขวัญวันเกิดที่ทำให้ทั้งงานตกตะลึง
- Home
- แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี
- บทที่ 345 ครั้งนี้เปลี่ยนเป็นหนูดูแลพ่อแม่แทน / บทที่ 346 ของขวัญวันเกิดที่ทำให้ทั้งงานตกตะลึง
บทที่ 345 ครั้งนี้เปลี่ยนเป็นหนูดูแลพ่อแม่แทน
นัยน์ตาเยี่ยเส่าถิงแดงขึ้นมา เบือนหน้าหนีเหมือนจะหลบเลี่ยง
เยี่ยมู่ฝานมองน้องสาวที่เปลี่ยนไป แล้วนิ่งเงียบด้วยสีหน้าสับสน แต่แววตาเห็นได้ชัดว่ายังคงมีความสงสัยอยู่
เยี่ยหวันหวั่นมองไปทางพ่อ “พ่อคะ… ขอโทษค่ะ… หนูรู้แล้ว… เป็นเพราะหนูทำร้ายพ่อ… พ่อทำเพื่อปกป้องหนูถึงได้กลายเป็นแบบนี้… ครอบครัวพวกเราเป็นแบบนี้ทั้งหมดเป็นเพราะหนูทำ…”
ได้ยินคำพูดนี้ของเยี่ยหวันหวั่น เยี่ยเส่าถิงสีหน้าเปลี่ยนทันที พูดเสียงต่ำว่า “ลูก… ลูกรู้ได้ยังไง? ใครบอกลูก!”
เยี่ยหวันหวั่นสูดจมูก คิดสักพัก เหมือนไม่รู้จะอธิบายว่าเธอรู้ได้ยังไงได้ ดังนั้น เลยหันหน้าไปทางเยี่ยมู่ฝานที่อยู่ข้างๆ จากนั้นพูด “พี่… พี่เป็นคนบอกฉัน…”
ผลักภาระไปให้พี่ชายแล้วกัน…
เยี่ยมู่ฝานที่กำลังก้มหน้าดื่มเหล้าอยู่ได้ยินประโยคนี้ สีหน้างุนงงขึ้นมา จากนั้นยังไม่ทันที่จะตอบโต้ก็โดนพ่อตัวเองใช้ฝ่ามือตบลงไปบนหลัง “ไอ้หมอนี่! ฉันบอกแกแล้วว่าห้ามบอกน้องสาวแกไม่ใช่หรือไง?”
“ผมไม่ได้เป็นคนบอก! ผมจะบอกได้ยังไง!”
“ไม่ใช่แกบอก? งั้นแกบอกมาว่าน้องสาวแกรู้ได้ยังไง?” เห็นได้ชัดว่าเยี่ยเส่าถิงไม่เชื่อเขา
เหลียงหวั่นจวินก็มีสีหน้าตำหนิ “มู่ฝานลูกก่อเรื่องมากเกินไปแล้ว! ถ้าหวั่นหวันเกิดเรื่องอะไรขึ้น…”
เยี่ยมู่ฝานจ้องเยี่ยหวันหวั่นด้วยความโมโห “ผมไม่ได้พูดจริงๆ! ยัยเด็กนี่โกหก!”
เยี่ยหวันหวั่นซุกอยู่ในอ้อมกอดแม่ กะพริบตาพูดเสียงอ่อน “หนูไม่ได้โกหก พี่ชายนั่นแหละโกหก…”
“ยัยเด็กบ้า! ยังโกหกอยู่อีก!” เยี่ยมู่ฝานโดนพ่อตัวเองทุบอีกครั้ง
“โอ้ย! ทำไมถึงเชื่อเธอไม่เชื่อผม!” เยี่ยมู่ฝานโมโหแทบตาย โวยวายว่าไม่ใช่เขาอยู่ แต่พ่อแม่เขาไม่มีใครเชื่อเขาสักคน
ทะเลาะกันแบบนี้ บรรยากาศสี่คนในครอบครัวดูสามัคคีกันขึ้นมาไม่น้อย
ทำไมเยี่ยหวันหวั่นถึงเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ ดูเหมือนจะอธิบายได้แล้ว
ในขณะเดียวกัน เหลียงหวั่นจวินและเยี่ยเส่าถิงก็ยิ่งกังวลขึ้นไปอีก กลัวว่าลูกสาวได้รับการกระทบกระเทือนจิตใจมากเกินไป สภาพจิตใจจะทนไม่ไหว
เยี่ยหวันหวั่นมองออกอยู่แล้วว่าพ่อแม่เป็นห่วง เลยพูดปลอบใจ “พ่อ แม่ ไม่ต้องกังวลค่ะ หนูสบายดี บทที่เพิ่งรู้ใหม่ๆ หนูเสียใจมากจริง แต่หนูรู้ เสียใจกับเศร้าสร้อยไปไม่มีประโยชน์ หนูจะตั้งใจเรียนเพื่อให้พ่อแม่ภาคภูมิใจ ขยันทำงานให้พ่อแม่ไม่ต้องกังวลเรื่องข้าวปลาอาหาร หนูผิดเอง หนูจะรับผิดชอบ หนูจะเอาทุกอย่างของตระกูลเยี่ยกลับมา!”
เยี่ยมู่ฝานได้ยินก็อดไม่ได้มองเธออีกหลายครั้ง…
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เขาจะต้องเย้ยหยันกับคำพูดพวกนี้แน่นอน แต่ว่า เธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยนิเทศเมืองหลวงได้จริง แล้วยังได้คะแนนอันดับหนึ่งด้วย ท่าทีของวันนี้ก็เปลี่ยนไปมาก เพียงแต่เรื่องก่อนหน้านี้ที่เธอเคยทำยากที่เขาจะเชื่อใจเธอได้ง่าย…
เหลียงหวั่นจวินและเยี่ยเส่าถิงมองลูกสาวตัวเองเหมือนโตขึ้นมาภายในหนึ่งคืน นอกจากซาบซึ้งใจแล้ว ที่มากกว่านั้นคือความรัก
คนๆ หนึ่งต้องเจ็บปวดใจเพียงไหนถึงสามารถเปลี่ยนแปลงได้มากขนาดนี้
เยี่ยเส่าถิงถอนหายใจ “หวั่นหวัน ไม่ใช่ความผิดของลูก พ่อผิดเอง พ่อปกป้องลูกไม่ดี!”
เหลียงหวั่นจวินปวดใจ “หวั่นหวัน ลูกไม่ต้องลำบากขนาดนี้ พ่อแม่ไม่เป็นไร พ่อแม่แค่อยากให้ลูกมีชีวิตที่ดี…”
เยี่ยหวันหวั่นเช็ดน้ำตา แววตาที่มีแสงไฟสะท้อนเป็นประกายราวกับดวงตา “พ่อ แม่ อย่าเห็นว่าหนูเป็นเด็กตัวเล็ก หนูโตแล้ว สามารถปกป้องพ่อแม่ได้แล้ว!”
คำพูดของเยี่ยหวันหวั่น สองสามีภรรยาได้ยินแล้วนัยน์ตาก็แดงขึ้นมา
…………………………………………………
บทที่ 346 ของขวัญวันเกิดที่ทำให้ทั้งงานตกตะลึง
เยี่ยมู่ฝานที่อยู่ข้างๆ เหมือนจะดื่มเมาแล้ว สายตาเต็มไปด้วยแววเย้ยหยัน หัวเราะเสียงต่ำ “หึ ปกป้อง แค่ตัวเธอ เธอจะปกป้องยังไง…ครอบครัวเราจบสิ้นแล้ว…จบสิ้นมานานแล้ว…ไม่เหลืออะไรแล้ว….”
ตอนนี้พวกเขาไม่เหลืออะไรสักอย่าง จะเอาอะไรไปสู้กับครอบครัวน้ารอง เอาอะไรไปแย่งทุกอย่างที่สูญเสียไปกลับมา…
หึ… ช่างไร้เดียงสาเสียจริง…
เพราะคำพูดเยี่ยมู่ฝาน บรรยากาศบนโต๊ะอาหารกลับเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง
ในเวลานี้ จู่ๆ ก็มีเสียงอุทานดังมาจากโต๊ะประธาน
ทันใดนั้น แขกในงานทุกคนต่างก็มองไปทางโต๊ะประธาน
เยี่ยอีอีกับกู้เยว่เจ๋อทั้งสองคน หยิบภาพวาดตัวอักษรออกมา แล้วกางภาพวาดตัวอักษรออกมาทันที
เนื้อหาในภาพวาดตัวอักษรนั้น สื่อสารถึงบรรยากาศท่วงทำนองโบราณที่ห่างจากยุคปัจจุบันมายาวนาน ราวกับจะพาคนในปัจจุบันเข้าไปในภาพ สัมผัสธรรมชาติของยุคโบราณนั้น
เยี่ยหงเหวยจ้องมองภาพวาดนั้นอยู่นาน นัยน์ตามีแววสงสัยลอยขึ้นมา
ที่โต๊ะประธาน เหล่าผู้อาวุโสหลายท่านที่ชื่นชอบภาพวาดตัวอักษร รีบลุกขึ้นมา เดินไปข้างเยี่ยหงเหวย หลังจากพิจารณาดูแล้ว ปากก็ร้องอุทานออกมาก
“สุดยอดเลย! นี่คือลายเส้นปากกาและหมึกของปรมาจารย์เหมย เหมยจิ่งโจวของจริง!” ผู้อาวุโสคนหนึ่งพูดอย่างตื่นเต้น
ใต้สุดของภาพวาด ยังมีตราประทับของเหมยจิ่งโจวด้วย
“ภาพสารทฤดูในขุนเขา?” เยี่ยหงเหวยก็ไม่อาจละสายตาไปจากภาพนี้ได้
เยี่ยหงเหวยชื่นชอบภาพวาดโบราณ แล้วภาพวาดนี้ก็อยู่ในอันดับต้น ภาพวาดที่ได้รับการชื่นชมจากผู้มีผลงานในยุคปัจจุบันมากที่สุด ก็คือภาพวาดที่เป็นสมบัติของชาติจากปรมาจารย์เหมยจิ่งโจวนี่แหละ
ภาพวาดตัวอักษรทุกภาพของเหมยจิ่งโจว มูลค่ารวมกันนั้นสูงจนไม่สามารถเปรียบเทียบได้ เป็นคนแรกในประเทศ ที่ไม่มีใครข้ามผ่านได้
“คุณปู่คะ นี่เป็นภาพสารทฤดูในขุนเขาค่ะ” เยี่ยอีอีพูดเสียงอ่อนโยน
“คุณปู่ครับ อีอีรู้ว่าคุณปู่ชอบภาพวาดของปรมาจารย์เหมย หลังจากผ่านความยากลำบากมา ในที่สุดก็ขอภาพสารทฤดูในขุนเขาจากปรมาจารย์เหมยมาได้ครับ” กู้เยว่เจ๋อพูดแล้วยิ้ม
ก่อนหน้านี้ไม่นาน กู้เยว่เจ๋อใช้ผลประโยชน์จากเส้นสายของกู้กรุ๊ป อ้างชื่อพ่อ เพื่อขอรูปนี้มา เดิมทีอยากจะให้ปรมาจารย์เหมยมาออกงานด้วยตัวเอง แต่น่าเสียดาย ปรมาจารย์เหมยจิ่งโจวเชิญตัวยาก บอกแค่ว่าขอดูก่อน แล้วก็ไม่เคยตอบกลับมาอีกเลย
เดิมที กู้เยว่เจ๋อและเยี่ยอีอีทั้งสองคนยังมีความหวัง แต่จนถึงวันนี้ ปรมาจารย์เหมยยังคงไม่ส่งข่าวอะไรมาเลย
“อีอีลำบากแล้ว” เยี่ยหงเหวยมองไปทางเยี่ยอีอี นัยน์ตาเต็มไปด้วยความรักใคร่เอ็นดู
“ขอแค่คุณปู่ชอบ อีอีก็พอใจแล้วค่ะ” เยี่ยอีอีตอบ
“ในค่ำคืนนี้ นี่เป็นของขวัญที่ปู่เซอร์ไพร์สที่สุด และเป็นของขวัญที่ปู่พอใจมากที่สุดด้วย เด็กดี พวกเธอตั้งใจดี” ใบหน้าเยี่ยหงเหวยเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ในตอนนี้เอง พ่อบ้านหวงหมิงคุนก็รีบเดินมาข้างหน้าเยี่ยอีอี แล้วกระซิบเสียงเบาพูดข้างหูหลายประโยค
“จริงหรือ?!”
สีหน้าเยี่ยอีอีเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
เมื่อกี้หวงหมิงคุนบอกกับเธอว่า ปรมาจารย์เหมยจิ่งโจวนำของขวัญมามอบให้ถึงหน้าประตูด้วยตัวเอง!
“เยว่เจ๋อ… ปรมาจารย์เหมยมาแล้ว!” เยี่ยอีอีดึงกู่เยว่เจ๋อไปด้านข้าง ดูท่าทางตื่นเต้น
ได้ยินคำพูดนี้ กู้เยว่เจ๋ออึ้งไปเล็กน้อย ถามด้วยความสงสัย “ปรมาจารย์เหมยมาแล้ว?”
“อืม…” เยี่ยอีอีพยักหน้า “เมื่อกี้เข้ามาในบ้านใหญ่แล้ว เดี๋ยวก็ถึง”
ตอนนี้ กู้เยว่เจ๋อมองไปทางเยี่ยอีอีแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยนพูดตอบ “ผมบอกแล้วว่าไม่มีปัญหา”
เยี่ยอีอีได้ยินใบหน้าเต็มไปด้วยความปลื้มใจ สายตาที่มองกู้เยว่เจ๋อเต็มไปด้วยความชื่นชม “ลำบากหน้าคุณลุงกู้แล้ว!”
พูดมาถึงตรงนี้ ภายในห้องโถงงานเลี้ยง สายตาทุกคนต่างหัน ‘ขวับ’ ไปยังด้านหลัง
ผู้อาวุโสคนหนึ่งอายุราวหกสิบปี ใส่ชุดคอจีนสีเทาอมขาว พาผู้ช่วยคนหนึ่งมาด้วย เดินก้าวเข้ามาด้านใน
“แม่…เจ้า…”
“เป็นไปไม่ได้…”
“ตัวจริงหรือนี่?”
“เหมยจิ่งโจว… ปรมาจารย์เหมย?!”
ศิลปินที่อยู่ภายใต้สังกัดหวงเทียนเอนเตอร์เทนเมนท์ต่างมองกันด้วยความอึ้ง
…………………………………………………