แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 437 จะไม่สนใจได้อย่างไร? / บทที่ 438 ไม่ขม
บทที่ 437 จะไม่สนใจได้อย่างไร?
หน้าประตู คุณหญิงย่าหันข้างถอยไปอยู่ฝั่งหนึ่ง มองหญิงสาวผลุนผลันวิ่งออกมาจากในห้อง นัยน์ตาฉายแววประทับใจ
เห้อ เด็กคนนี้…
ภายในห้อง ชายหนุ่มมองตามทิศทางที่หญิงสาววิ่งออกไป นัยน์ตาหม่นหมองเข้มข้นอย่างที่ไม่อาจบรรเทาได้
ไม่สนใจชีวิตตัวเองอย่างนั้นหรือ?
จะไม่สนใจได้อย่างไร…
เธอเข้าใกล้เขามากขึ้นเรื่อยๆ…
เหมือนจริงมากเข้าไปทุกที…
ใกล้เสียจนเหมือนแค่ยื่นมือออกไปก็สัมผัสได้…
…
หลังจากที่เยี่ยหวันหวั่นวิ่งออกไป ก็ไปนั่งโมโหอยู่ข้างใต้แปลงดอกไม้แปลงหนึ่ง
เกือบจะถูกอมนุษย์คนนั้นยั่วโมโหจนอกแตกตายไปแล้วจริงๆ
มีใครที่ไหนที่เพิ่งจะเหนื่อยจนเป็นลมหมดสติ จากนั้นเจอกับการลอบฆ่า ซ้ำยังถูกหมอวินิจฉัยว่าเหลืออายุไขเพียงครึ่งปี แล้วโทรหาพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจบอกว่าจะไปคุยเรื่องโครงการในอีกสามวันทันทีบ้าง
ไม่เคยพบไม่เคยเห็นคนที่อยากตายขนาดนี้มาก่อน
ถ้ารู้แต่แรกว่าเขาอยากตายขนาดดี เธอจะลำบากเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายไปช่วยเขาทำไม?
เยี่ยหวันหวั่นรู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนโง่
ช่างเถอะ…
เขาอยากจะทำอะไรก็เรื่องของเขา…
ถ้าหากเขาไม่ยอมให้ความร่วมมือ ไม่ใส่ใจสุขภาพร่างกายของตัวเอง ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็ไม่มีประโยชน์!
ขณะที่เยี่ยหวันหวั่นกำลังอยากจะลุกขึ้น เสียงพูดคุยซุบซิบพลันดังลอยมาเข้าหู
“เธอไปส่งสิ!”
“ไม่ๆ เธอไปสิ เธอไป! ครั้งที่แล้วตอนที่ฉันไปคุณชายเก้ากำลังทำงาน เขาแค่เงยหน้าขึ้นมา สายตานั้น ฉันก็ตัวแข็งจนเดินไม่เป็นแล้ว!”
“เฮ้ย ทำไมเป็นฉันอีกแล้วล่ะ? ครั้งก่อนฉันก็ไปมาแล้วรอบหนึ่ง! เธอไม่ใช่ไม่รู้ว่าคุณชายเก้าเกลียดยาจีนที่สุด! ฉันยกยาเข้าไป อยู่ไกลสิบเมตรยังรู้สึกได้ถึงจิตสังหารของคุณชายเก้าเลย! ที่แย่กว่านั้นคือถ้าคุณชายเก้างานยุ่งจนลืมกินหรือว่าไม่กินยาตรงตามเวลา พวกเราก็จะถูกคุณหญิงใหญ่ลงโทษ!”
“ลงโทษก็ลงโทษสิ ฉันไม่กลัวการลงโทษของคุณหญิงย่าหรอก คุณชายเก้าน่ากลัวเกินไป ครั้งก่อนที่เสี่ยวจางยกยาเข้าไป เหมือนว่าจะไม่ทันระวังชนกับคุณชายเก้าที่เพิ่งตื่นนอน ไม่รู้ว่าคุณชายเก้าฝันร้ายหรือว่าอะไร หยิบปืนออกมาจากหัวเตียงทันที เสี่ยวจางตกใจซะจนฉี่ราดเลย…”
“ถ้าอย่างนั้น…ถ้าอย่างนั้นทำยังไงดี…ได้ยินว่าคุณชายเก้าทำงานหนักจนเป็นลมไป…อารมณ์ต้องไม่คงที่แน่ๆ…”
“ไม่…ไม่งั้นพวกเรารอดูอีกหน่อย”
“ฉันว่าไปรับโทษกันเลยเถอะ…”
…
เหมือนว่าด้านข้างมีเสียงถอนหายใจดังขึ้น จากนั้นมีคนพูดขึ้นว่า “เอามาให้ฉันเถอะ”
มีคนโผล่ออกมาจากด้านล่างแปลงดอกไม้อย่างกะทันหัน สาวใช้ทั้งสองตกใจเสียจนขวัญกระเจิง
“เอ่อ…คุณ…”
“คุณหนู…คุณหนูเยี่ย? คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ?”
สาวใช้ประหลาดใจ
เมื่อครู่เยี่ยหวันหวั่นนั่งจุมปุ๊กอยู่ที่ด้านล่างแปลงดอกไม้ เดิมทีถูกซือเยี่ยหานยั่วโมโหเสียจนคิดจะไปแล้ว ผลคือได้ยินสาวใช้ทั้งสองซุบซิบปรึกษา จนสุดท้าย กลัวเสียจนตัดสินใจถ่วงเวลา หรือแม้แต่ยอมไปรับโทษแต่ไม่ไปส่งยา
ยาต้องทานให้ตรงเวลา ฤทธิยาถึงจะแสดงผลได้ดีที่สุด จะมาชักช้าได้อย่างไร!
เยี่ยหวันหวั่นพูดขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ฉันมารับลม พวกเธอจะยกยาไปส่งไม่ใช่เหรอ? เอามาให้ฉันสิ ฉันกำลังจะไปหาคุณชายเก้าของพวกเธอพอดี ฉันยกไปให้เอง”
“จริง…จริงเหรอคะ!” สาวใช้ทั้งสองพลันมีความหวัง ท่าทางที่มองเยี่ยหวันหวั่นเหมือนกับได้เห็นพระโพธิสัตว์กวนอิมที่ช่วยชีวิตสรรพสัตว์ที่ทุกข์ยาก
“ขอบคุณค่ะคุณหนูเยี่ย!”
“ขอบคุณค่ะ คุณหนูเยี่ยยกดีๆ นะคะ ระวังลวกมือ”
สาวใช้ทั้งสองกล่าวขอบคุณไม่ขาดปาก จากนั้นส่งถ้วยยาจีนให้เยี่ยหวันหวั่นอย่างระมัดระวัง
เยี่ยหวันหวั่นจ้องยาในมือตาไม่กะพริบ หลับตาด้วยความโมโห นี่เธอถูกล้างสมองไปแล้วใช่ไหม?
………………………………………………………..
บทที่ 438 ไม่ขม
เยี่ยหวันหวั่นยืนลังเลหน้าประตูอยู่นาน สุดท้ายเพราะเป็นกังวลเรื่องหากชักช้าอยู่นานจะส่งผลต่อฤทธิ์ของยา จึงผลักประตูเดินเข้าไป
ด้านหลังของเยี่ยหวันหวั่น มีสาวใช้สาวสองคนเมื่อครู่ไม่วางใจจึงตามขึ้นมาด้วย ตอนนี้แอบหลบอยู่ที่ซอกประตู
คนทั้งสองคิดไปคิดมาก็รู้สึกว่า ให้เยี่ยหวันหวั่นไปส่งยาดูไม่ค่อยเหมาะเท่าไร อย่างไรแล้วนี่ก็เป็นหน้าที่ของพวกเธอ จะผลักภาระให้คุณหนูเยี่ยได้อย่างไร?
หากว่าตอนที่คุณหนูเยี่ยไปส่งยาเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นมา หรือว่าสร้างเรื่องอะไรขึ้นมา แล้วพวกเธอจะรับผิดชอบไหวไหม?
บนเตียงสีเทาดำผืนใหญ่ ชายหนุ่มผิวซีดขาวเหมือนกับก้อนหินนั่งพิงไม่ขยับตัวเป็นรูปปั้น
ลมจากนอกหน้าต่างโชยเข้ามา พัดชายเสื้อเลิกขึ้นเผยให้เห็นกระดูกมืออันผอมบาง
เพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ เดือนกว่าเท่านั้น เพราะความงานยุ่งเขาจึงผอมซูบลง
เยี่ยหวันหวั่นเดิมทียังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ต้องเผชิญหน้ากันจึงทำหน้าห่อเหี่ยวเหมือนลูกบอลที่โดนเข็มเจาะลม
คงเป็นเพราะกลิ่นแรงไม่น่าดมของยาจีนลอยเข้ามา คิ้วเย็นผนึกน้ำแข็งของชายหนุ่มย่นลงอย่างไม่ทันมองเห็น สอดสายตามองไปทางประตู
ย่นคิ้วทำไม!
นี่เป็นของที่จะช่วยรักษาชีวิตของเขาไว้ได้!
เยี่ยหวันหวั่นสาวเท้าเดินไปข้างเตียง
เห็นคนที่หน้าประตูก็คือเยี่ยหวันหวั่นที่ไปแล้วแต่ก็กลับมา ดวงตาเงียบเหงาของซือเยี่ยหานคล้ายกับฉาบด้วยความประหลาดใจ สายตาจ้องมองกระทั่งเธอเดินมาถึงข้างเตียง
ที่ประตู สาวรับใช้ทั้งสองเห็นเยี่ยหวันหวั่นเดินเข้าไปหาซือเยี่ยหาน พลันตื่นเต้นกลืนน้ำลายเสียงดัง ‘เอื้อก’ ‘เอื้อก’
สายตาของคุณชายเก้า…ช่างน่ากลัว…
และเยี่ยหวันหวั่นทำเหมือนมองไม่เห็นคิ้วที่ขมวดย่นของซือเยี่ยหาน เปิดฝาถ้วยยาจีนในมือออก
ทันใดนั้น กลิ่นยาจีนที่แสบจมูกเป็นที่สุดก็ลอยปะทะเข้ามา ไอลอยกระจุกเข้าหน้าทำเอาเยี่ยหวันหวั่นสำลักแทบจะอาเจียน…
อี๋…
หมอซุน…
คุณลงมือโหดไปหน่อยไหมคะ?
นี่ก็น่ากลัวเกินไป!
แต่ว่า ไม่ดื่มก็ไม่ได้ นี่เป็นของที่สามารถช่วยชีวิตได้ ต่อให้กินยากก็ต้องกัดฟันฝืนกลืนลงไป ยังดีกว่าที่ต่อไปสุขภาพแย่ลง อวัยวะภายในล้มเหลว ต้องผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ!
ดังนั้น เยี่ยหวันหวั่นกระแอมเสียงเบาๆ ยังคงทำหน้าเฉยชา ชำเลืองมองชายหนุ่มพลางกล่าว “กินยา”
สาวใช้สองคนที่หน้าประตูเห็นเหตุการณ์ ลุ้นจนหัวใจผุดขึ้นมาอยู่ที่ลำคอแล้ว ภาวนาขอให้คุณหนูมีวิธีที่พิเศษ ทำให้คุณชายเก้ายอมกินยาตามเวลาได้ด้วยเถิด ขออย่าได้มีเหตุการณ์อะไรเลยยิ่งดี…
ขณะที่คนทั้งสองกำลังคิดอยู่นั้น ก็เห็นคุณชายเก้าของพวกเธอหยักคิ้ว แล้วยื่นมือออกมารับถ้วยยาจากมือของเยี่ยหวันหวั่น
สามวินาที ยาถ้วยนั้นก็เห็นแต่ก้นถ้วยแล้ว
สาวใช้ทั้งสองกระพริบตามองหน้ากันอึ้งๆ แล้วมองถ้วยยาที่ว่างเปล่า ตกตะลึงไปนานถึงเรียกสติกลับมาได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
แค่…แค่นี้ก็กินแล้ว?
เมื่อครู่คุณหนูเยี่ยไม่ได้ทำอะไรเลย!
ก็แค่ยืนอยู่ตรงนั้น บอกให้กินยาสองคำก็เท่านั้น
แค่นี้ก็ได้เหรอ?
เยี่ยหวันหวั่นเห็นซือเยี่ยหานกินยาอย่างตรงไปตรงมาเปิดเผย สีหน้าพลันคลายลงได้หลายส่วน
ได้กลิ่นเหม็นของยาในอากาศ เห็นเขากินยาหมดถ้วยในคำเดียว ด้วยสีหน้าเรียบเฉยตั้งแต่ต้นจนจบ อดไม่ได้ที่จะใจอ่อนพลางเอ่ยถามอาการ “โอเคไหม? กินยากใช่หรือไม่?”
ได้ยินคำถามของเธอ ซือเยี่ยหานเหล่ตามองเธอ แล้วเอื้อมมือออกไปจับท้ายทอยของเธอ ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปประกบริมฝีปากของเธอ…
วินาทีนั้น กลิ่นของยาผสมเข้ากับลมหายใจที่ชัดเจนของเขาอบอวนเต็มสัมผัสทั้งหมดของเธอ…
เยี่ยหวันหวั่นร้องอี๋!
ผ่านไปสองสามวินาที เยี่ยหวันหวั่นผลักชายหนุ่มออก วิ่งวนราวกับแมวที่ถูกเยียบหางหยิบถ้วยชาบนโต๊ะที่ห่างออกไปไม่ไกล กลืนน้ำกลั้วปากตัวเองไปหลายคำ!
เธอก็แค่ถามเฉยๆ ไม่ได้อยากรู้ว่ามันกินยากขนาดไหนสักหน่อย?
แม่เจ้า ผู้ชายคนนี้ยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า? มีรสสัมผัสกับเขาไหม? เมื่อครู่ถึงได้กินหมดในคำเดียวได้?
เยี่ยหวันหวั่นดื่มน้ำไปหลายแก้ว ก็ยังใจดีรินน้ำให้เขาด้วยแก้วหนึ่ง “ให้นาย”
“ไม่ต้อง” ซือเยี่ยหานเท้าศีรษะเล็กน้อย กล่าวอย่างสบายๆ เหมือนกับเมื่อครู่ดื่มน้ำชาไปถ้วยหนึ่งเท่านั้นเอง
“คุณไม่ขมเหรอ?” เยี่ยหวันหวั่นถามด้วยสีหน้าตกตะลึง
ซือเยี่ยหานตอบ “ไม่ขม”
เยี่ยหวันหวั่นนิ่งอึ้ง เขาไม่ใช่มนุษย์จริงด้วย!
………………………………………………………..