แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี - บทที่ 489 ปลูกถ่ายอวัยวะ / บทที่ 490 การประชุมของตระกูล
บทที่ 489 ปลูกถ่ายอวัยวะ
คุณหญิงใหญ่เห็นซุนไป๋เฉ่าที่เดินตามหลังออกมาจากข้างใน เอ่ยถามเสียงสั่นเครือ “คุณหมอซุน อาการของเจ้าเก้าเป็นยังไงบ้าง? มีแนวโน้มดีขึ้นบ้างไหม?”
ซุนไป๋เฉ่าพาคนทั้งหลายไปนั่งโถงด้านหน้า ครุ่นคิดอยู่นานถึงได้เอ่ยว่า “เนื่องจากครั้งก่อนผมคาดการณ์ว่าอวัยวะร่างกายของคุณชายเก้าอาจจะเริ่มจะล้มเหลว ดังนั้นครั้งนี้จึงขอตรวจเขาโดยละเอียดอีกครั้ง ผลคือ…”
“ผลเป็นยังไง?” คุณหญิงใหญ่รีบซักถาม
เยี่ยหวันหวั่นมองซุนไป๋เฉ่าสีหน้าเครียด
ซุนไป๋เฉ่าเอ่ย “สุขภาพของคุณชายเก้ามีสัญญาณดีขึ้นมาหน่อยก็จริง…”
ไม่ทันให้คุณหญิงใหญ่ได้ดีใจ ก็ได้ยินซุนไป๋เฉ่าเปลี่ยนทิศทางของคำพูดทันที เอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักใจยิ่งขึ้น “แต่ว่า สัญญาณดีขึ้นระดับนี้ สำหรับคุณชายเก้าแล้ว เป็นเหมือนน้ำน้อยแพ้ไฟ ร่างกายของคุณชายเก้าก็เหมือนกับเพลิงไหม้ที่ลุกลามไม่หยุด ฝนตกปรอยๆ ไม่อาจจะดับเพลิงเผาไหม้ได้
เมื่อครู่ผมตรวจพบว่า อวัยวะหลายส่วนในร่างกายของเขาเริ่มล้มเหลวแล้ว โดยเฉพาะตับและไตที่ค่อนข้างสาหัส…”
คุณหญิงใหญ่ได้ยินเช่นนี้ ร่างพลันโซเซ ทรุดไปนั่งที่เก้าอี้ไม้แดงด้านหลัง
หัวใจของเยี่ยหวันหวั่นก็หดลงอย่างห้ามไม่ได้เช่นกัน
ยัง…ไม่ได้ผลอีกเหรอ?
สวี่อี้ลอบถอนใจ เผยสีหน้าเป็นอย่างที่คาดคิดไว้ ทว่าสีหน้าหนักใจยิ่งกว่าเดิม
“อวัยวะเริ่มล้มเหลวแล้ว..งั้นจะทำไงล่ะ?” คุณหญิงใหญ่ฝืนตัวเองให้เข้มแข็งไว้พลันเอ่ยถาม
ซุนไป๋เฉ่าตอบ “ทำได้เพียงเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ แล้วก็ผมแนะนำว่ายิ่งเร็วยิ่งดี ภายในสามเดือน ทำการเปลี่ยนถ่ายก่อนที่อวัยวะทั้งหมดจะป่วย”
“หลังจากเปลี่ยนแล้วจะดีขึ้นใช่ไหม?” คุณหญิงใหญ่รีบถาม
ซุนไป๋เฉ่าส่ายหน้า “การเปลี่ยนถ่ายเป็นเพียงการประคับประคองไม่ใช่การรักษา ร่างกายของคุณชายเก้าเหมือนกับดินที่แห้งแล้ง ดอกไม้ที่เหี่ยวเฉา การปลูกดอกไม้ต้นไม้ เป็นเพียงการรักษาชีวิตไว้ชั่วคราวเท่านั้น แต่ว่า การเปลี่ยนถ่ายอวัยวะเป็นวิธีการเดียวในตอนนี้”
แม้จะมีวิธี…แต่ก็เป็นวิธีการที่ไม่ต่างจากการดื่มยาพิษเพื่อดับกระหาย…
เยี่ยหวันหวั่นไม่คิดเลยว่า เรื่องราวจะล่วงเลยมาเหมือนกับชาติอดีตเช่นนี้
ตั้งแต่กลับมามีชีวิตใหม่ เธอไม่เคยรู้สึกหมดพลังเช่นนี้มาก่อน
ทั้งๆ ที่ทุ่มเทพลังทั้งหมดแล้ว กลับยังคงไม่อาจเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตและจุดจบได้เช่นเดิม
“จำเป็นต้องเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ ไม่มีทางอื่นแล้วใช่ไหมคะ?” เยี่ยหวันหวั่นเอ่ยถามอย่างไม่ยอม
ซุนไป๋เฉ่าเอ่ย “จากสภาพการป่วยในตอนนี้ของคุณชายเก้าแล้ว…มีเพียงทางนี้เท่านั้นจริงๆ”
เยี่ยหวันหวั่นบีบนิ้วที่วางอยู่ข้างกาย แววตาสุกสว่างพลันกล่าว “คุณหมอซุน เมื่อครู่คุณบอกว่า ร่างกายของคุณเก้าเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น หากว่าภายในสามเดือนนี้ ฉันทำให้อาการของเขาทรงตัว และดูแลรักษาให้มีสภาพที่ดีที่สุดล่ะคะ?”
มองแววตาแน่วแน่ของหญิงสาว ซุนไป๋เฉ่าครุ่นคิดพักใหญ่ “เรื่องนี้…”
หลังจากคิดพิจารณาอย่างจริงจัง ซุนไป๋เฉ่าก็กล่าว “พูดกันตามหลักการ หากในระยะเวลาสั้น ๆ สามารถปรับให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดได้ ทำให้การทำงานของอวัยวะสามารถค่อยๆ ฟื้นตัว แน่นอนว่าสามารถไม่ต้องทำการเปลี่ยนถ่ายได้ แต่ว่าความเป็นไปได้แบบนี้ มันน้อยมากจริงๆ…”
เยี่ยหวันหวั่น “งั้นก็ใช่ ยังมีความเป็นไปได้อยู่ ไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่มีความเป็นไปได้ แต่ว่า คุณหนูเยี่ย คุณต้องเข้าใจให้ชัดเจน สถานการณ์สุขภาพของคุณชายเก้าซับซ้อนเกินไป มีหลายเรื่องที่ผมเองก็ไม่อาจคาดการณ์ได้ อวัยวะในร่างกายของเขาที่เริ่มป่วยแล้วก็เหมือนกับระเบิดเวลาลูกหนึ่ง หากว่าคุณไม่สามารถทำได้ ภายในสามเดือนร่างกายของเขาและอวัยวะจะค่อยๆ แย่จนล้มเหลว บางทีสักวันหนึ่งอาจจะร้ายแรงกำเริบขึ้นก็ได้ และอาจจะเป็นอันตรายต่อชีวิตเขาได้ทุกเมื่อ…”
………………………………………………………..
บทที่ 490 การประชุมของตระกูล
ได้ยินคำพูดของซุนไป๋เฉ่า คนทั้งห้องพากันนิ่งเงียบ
“พวกคุณลองพิจารณากันก่อนเถอะครับ” ซุนไป๋เฉ่าถอนหายใจ แล้วหันกายเดินจากไป
ใบหน้าของคุณหญิงใหญ่หดหู่ใจมาก แววตาที่มองหลานชายเต็มไปด้วยความเจ็บปวด “เจ้าเก้า ความเห็นของหลานล่ะ? ไม่งั้นก็รีบเปลี่ยนถ่ายอวัยวะที่เสียหายเถอะนะ ไม่งั้นถ้าหาก…”
คำพูดข้างหลัง คุณหญิงใหญ่ไม่กล้าพูดต่อ
หลังจากเงียบอยู่นาน ซือเยี่ยหานเอ่ยด้วยสีหน้าเย็นชา “ประชุมลงมติ”
เยี่ยหวันหวั่นได้ยิน คิ้วขมวดย่น ประชุมลงมติ?
หลังจากขบคิดเล็กน้อย เธอจึงเข้าใจความหมายของซือเยี่ยหาน
อาการป่วยของซือเยี่ยหานในตอนนี้รั่วไหลไปหมดแล้ว แทบจะทุกคนในตระกูลล้วนได้ยินข่าวนี้แล้วทั้งนั้น อย่างไรแล้วหากทำการผ่าตัด เรื่องใหญ่ขนาดนี้ไม่มีทางปิดบังไว้ได้แน่นอน
แทนที่จะปิดบังซ่อนมันไว้ ทำให้ทุกคนเดากันวุ่นวาย ไม่สู้กับเรียกประชุมใหญ่ของตระกูล ให้ผู้อาวุโสร่วมหารือกันอย่างเปิดเผย
ผ่านไปสองชั่วโมง บ้านใหญ่ตระกูลซือ
ผู้อาวุโสทุกคนต่างมารวมตัวกันในห้องโถง ซุนไป๋เฉ่าก็อยู่ด้วย เยี่ยหวันหวั่นนั่งคนเดียวอยู่ที่โซฟาในมุมหนึ่ง สีหน้าใจลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
ไม่มีใครสังเกตเห็นเยี่ยหวันหวั่น ความสนใจของทุกคนไปจดจ้องอยู่ที่ซุนไป๋เฉ่า
เห็นว่าหมอเทพซุนก็อยู่ด้วย สีหน้าของผู้อาวุโสทั้งหมดแปลกใจอยู่บ้าง เดากันได้ว่าการประชุมของตระกูลในครั้งนี้จะต้องเกี่ยวกับเรื่องข่าวลือซือเยี่ยหานล้มป่วยใกล้ตายเป็นแน่
ในระหว่างนี้ ทุกคนต่างเพ่งสมาธิพุ่งมองไปทางคุณหญิงใหญ่และซือเยี่ยหาน
คุณหญิงใหญ่นั่งลงที่โซฟาแถวบน ในมือถือไม้เท้า หากไม่ใช่เพราะในมือมีของจับประคองอยู่ เวลานี้ บางทีเธออาจจะนั่งไม่ติดก็เป็นได้
สายตาแหลมคมกวาดมองทุกคนที่อยู่ในลานประชุม คุณหญิงใหญ่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ความห่วงใยของทุกคนที่มีต่อเจ้าเก้าในช่วงเวลานี้ ฉันล้วนทราบดี เรื่องสุขภาพของเจ้าเก้าเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ แน่นอนว่าไม่ควรปิดบังทุกคน ดังนั้นวันนี้ฉันจึงเชิญคุณหมอซุนมาอธิบายอาการป่วยของเจ้าเก้าสักหน่อย เวลานี้ มีเรื่องต้องปรึกษาหารือกับทุกคนด้วย”
ได้ยินคำพูดของคุณหญิงใหญ่ คณะผู้อาวุโสต่างพากันส่งเสียงกระซิบถกเถียงกันเซ็งแซ่
อาการป่วย?
ดูท่าแล้วข่าวลือไม่ใช่เรื่องโกหก…
อีกทั้งมีแนวโน้มว่าอาการจะร้ายแรงจนถึงจุดที่ไม่สามารถปิดบังมันไว้ได้แล้ว…
ท่ามกลางฝูงชน ซือหมิงหลี่แอบเผยสีหน้าเย้ยหยัน
เหอะ เขายังคิดอยู่ว่าซือเยี่ยหานเตรียมจะปกปิดไปจนถึงวันตายซะอีก ไม่คิดว่าจะเลือกประกาศด้วยตัวเอง
เพียงแต่ก็ไม่น่าแปลกใจ ด้วยอาการป่วยของเขาที่แย่ลงเรื่อยๆ เรื่องนี้เดิมทีก็ปิดไม่มิดอยู่แล้ว…
ซือหมิงหรงผู้อาวุโสผมขาวหน้าเครียดเอ่ยว่า “พี่สะใภ้ใหญ่ สุขภาพของหัวหน้าตระกูลเป็นยังไงกันแน่?”
“พวกนายฟังจากหมอซุนแล้วกัน…” คุณหญิงใหญ่พูดประโยคนี้แล้ว ก็หลับตาลงไม่พูดอะไรอีก
ซุนไป๋เฉ่าและคุณหญิงใหญ่ แล้วก็ซือเยี่ยหานสบสายตากันแล้ว ก็เริ่มพูดถึงอาการป่วยของซือเยี่ยหานกับคณะผู้อาวุโส
หลังจากที่ซุนไป๋เฉ่าพูดจบลง ถึงเป็นคราวพูดของคุณหญิงใหญ่ “ตอนนี้คุณหมอซุนแนะนำว่าภายในสามเดือนนี้ให้รีบทำการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะให้เจ้าเก้าโดยเร็ว พวกนายมีความเห็นว่าอย่างไร?”
เมื่อได้ยินคำพูดของซุนไป๋เฉ่าและคุณหญิงใหญ่แล้ว ทุกคนในห้องโถงใหญ่ต่างตกตะลึงไปชั่วขณะ ตามมาด้วย เกิดความโกลาหลกลางที่ประชุม
ถึงว่าทำไมซือเยี่ยหานประกาศอาการป่วยต่อสาธารณชน ที่แท้เพราะสาหัสมาถึงขั้นนี้แล้ว ข่าวลือเป็นเรื่องจริง ซือเยี่ยหานป่วยระยะสุดท้ายแล้วจริงๆ
“จากวิธีของหมอซุนแล้ว คือต้องรีบเปลี่ยนถ่ายอวัยวะแน่ๆ! ไม่งั้นหัวหน้าตระกูลอาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ตลอดเวลา”
“หากเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ อย่างน้อยก็ยังประคองไปได้อีกหลายปี หากปล่อยไว้แบบนี้ต่อไป ครึ่งปีก็อาจจะไม่ถึง!”
………………………………………………………..