แม่ครัวยอดเซียน - ตอนที่ 145 ฮัวจิงเฟยผู้ถูกอิจฉา
“เจ้าจะบอกว่า เจ้าได้โอกาสเพราะหลิวหลี ทำให้พลังบำเพ็ญเพียรของเจ้ากระโดดไปอยู่ในช่วงแยกจิตระยะกลางจากช่วงปราณก่อนกำเนิดระยะปลายหรือ” ฮัวเชียนหนิวพูดเสียงสูง
“ขอรับ” ฮัวจิงเฟยพยักหน้า ท่านลุงผู้นำสกุล ปล่อยเขาไปพักผ่อนเถอะ
“เจ้าจะบอกว่าที่พลังบำเพ็ญเพียรของเจ้ามั่นคงเช่นนี้ เป็นเพราะเจ้ารับวิบากอัสนีบาตมาทั้งปีหรือ” ฮัวเชียนหนิวพูดพลางจิบชาศักดิ์สิทธิ์
“ใช่แล้ว ตอนนี้ข้าเห็นวิบากอัสนีบาตก็เหมือนเห็นญาติสนิท” ฮัวจิงเฟยพูดพลางเงยหน้าขึ้นมองหลังคา
“เจ้าบอกว่า วิบากอัสนีบาตที่เจ้ารับเป็นวิบากของยาศักดิ์สิทธิ์ หลงหลิวหลีเป็นนักปรุงยาระดับ 8 แล้วหรือ” ข้อมูลมากมายเหลือเกิน
“ขอรับ” นักปรุงยาที่มีอัตราปรุงยาสำเร็จสูง ทั้งยังปรุงยาเร็ว ทั้งยังรับวิบากอัสนีบาตได้ พูดไปแล้วเขาพลันรู้สึกว่ายาศักดิ์สิทธิ์หลายขวดของเขาในแหวนเก็บของไม่ค่อยมีประโยชน์นัก
“มารชัดๆ ไม่มีใครจัดการนังมารนางนี้ได้เลยหรือ” ฮัวเชียนหนิวตีอกชกหัว ทำไมหลงหลิวหลีถึงไม่ถูกใจลูกหลานสกุลฮัวบ้าง
“มีสิ เมื่อไม่นานมานี้หลานของท่านก็จัดการนางไปแล้วไม่ใช่หรือ” ฮัวจิงเฟยพูดจบ ก็ถูกฮัวเชียนหนิวถลึงตาใส่ เจ้าเด็กดื้อนี่จะไปรู้อะไร ถึงเบื้องหน้าจะเป็นเช่นนั้น แต่จริงๆ แล้วหลานของเขาต้องแต่งเข้าบ้านหลงหลิวหลี เพียงแต่หนานกงชางฉยงต้องการรักษาหน้า จึงได้พูดออกไปเช่นนั้น น้องสาวของเขาเองค่อนข้างพอใจกับการแต่งงานของลูกชาย แถมยังรู้สึกชื่นชอบในตัวนังหนูจากสกุลหลงไม่น้อย
“เอาล่ะ เจ้าไปหาท่านพ่อเจ้าเถอะ หากถูกลงโทษข้าจะขอร้องแทนเจ้าเอง” ฮัวเชียนหนิวโบกมือส่งสัญญาณให้ฮัวจิงเฟยออกไป เด็กดื้อช่างชวนให้ปวดหัวจริงๆ
ในวันถัดมา ฮัวเชียนหนิวว่าจะไปเยี่ยมน้องชายตนเอง เขาไม่เข้าใจเลยว่าน้องชายตนเองออกจะตรงไปตรงมา ทำไมถึงได้มีลูกเช่นนี้ ทว่าเขากลับเห็นน้องชายของตนนั่งเหม่อลอยถือขวดขนาดเล็กไว้ในมือ ใช่แล้ว เหม่อลอย
“เชียนเหนียน เจ้ากำลังทำอะไรอยู่?” ขวดหยกขนาดเล็กมีอะไรน่ามอง แต่ขวดแบบนี้คุ้นตาเอาการ
“พี่ใหญ่ ทำไมท่านถึงมาที่นี่ได้” ฮัวเชียนเหนียนได้สติ พี่ใหญ่มาที่นี่ทำไม
“แค่กๆ จิงเฟยบอกข้าว่า เขากลัวจะโดนเจ้าตีตาย ขอให้ข้ามาช่วย” ฮัวเชียนหนิวกล่าว แต่ไม่มีร่องรอยของการต่อสู้เลย
“พี่ใหญ่ ท่านไม่รู้อะไร เมื่อวานข้ากำลังจะลงมืออยู่แล้ว แล้วเจ้าเด็กนั่นเอาขวดหยกมาให้ข้าบอกว่าเพื่อแสดงความกตัญญูต่อข้า พอข้าเห็นของข้างในก็เหม่อลอยมาจนถึงตอนนี้ แล้วเด็กนั่นก็หนีไป” ฮัวเชียนเหนียนกล่าว
“มีอะไรอยู่ข้างในหรือ” ทำไมถึงได้รู้สึกว่าเป็นของที่เขาเองก็ต้องการเช่นกัน
“ยาเห็ดหลินจือสกัดระดับ 7 พี่ใหญ่ เป็นยาคุณภาพชั้นเลิศทั้งนั้น”
ในที่สุดฮัวเชียนหนิวก็คิดออกว่าตัวเองเคยเห็นขวดแบบนี้ที่ไหน นี่ไม่ใช่ขวดที่หลงหลิวหลีใช้หรอกหรือ
“ก็แค่ยาศักดิ์สิทธิ์คุณภาพชั้นเลิศหนึ่งเม็ดไม่ใช่หรือ เชียนเหนียนเจ้าไม่จำเป็นต้องทำท่าขนาดนี้เลย” ฮัวเชียนหนิวรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย
“พี่ใหญ่ ไม่ใช่หนึ่งเม็ด สิบเม็ด”
“อะไรนะ” ฮัวเชียนหนิวแย่งขวดไปเปิดดู สิบเม็ดจริงด้วย ยาศักดิ์สิทธิ์คุณภาพชั้นเลิศเช่นนี้ ในคลังสกุลฮัวมีไม่ถึง 100 เม็ด เจ้าเด็กนี่ให้พ่อตัวเองถึง 10 เม็ด ทำไมไม่คิดที่จะแบ่งให้ลุงบ้าง เขาอุตส่าห์รีบมาแต่เช้าเพราะกลัวว่าอีกฝ่ายจะโดนทำโทษ ที่แท้ก็ได้ประโยชน์อยู่นี่เอง
“หมอนั่นล่ะ หนีไปไหนแล้ว” ฮัวเชียนหนิวกัดฟันกรอด
“เหมือนบอกข้าว่าจะไปหาจิงหง” ฮัวเชียนเหนียนคิดแล้วเอ่ย
“เด็กนั่นกลับมาแล้วบอกข้าด้วย”
ในอีกด้านหนึ่ง
“จิงเฟย ข้าไม่สามารถรับมันไว้ได้” ฮัวจิงหงเลื่อนขวดขนาดเล็กตรงหน้าคืนให้ฮัวจิงเฟย ตลอดทั้งคืนฮัวจิงหงไม่ได้บำเพ็ญเพียร แล้วก็ไม่ได้นอนเช่นกัน ใครจะไปรู้ว่าพี่น้องของตัวเองที่เดิมพลังบำเพ็ญเพียรไม่ได้ต่างจากตัวเองมากนัก อันที่จริงน้อยกว่าตนเองด้วยซ้ำ อยู่ๆกลับแซงหน้าไปเสียเฉยๆ ถึงขนาดทิ้งระยะห่างไปไกลจนแทบตามไม่ทัน เขาต้องการเวลาจะทำใจ ผลคืออีกฝ่ายมอบยาให้เขา เขาไม่ได้อิ่มเอมใจแม้แต่น้อย รู้สึกว่าเป็นการเยาะเย้ย
“จิงหง เราทั้งสองคนรู้จักกันดี ไม่ต้องเกรงใจข้า” ฮัวจิงเฟยไม่สัมผัสถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไป ยังคงทำตัวเป็นพี่น้องที่ดีกับฮัวจิงหง
“จิงเฟย พูดตรงๆ ตอนนี้ข้าไม่อยากเจอเจ้า เจ้าเข้าใจไหม” ฮัวจิงหงตะโกน
“จิงหง” ฮัวจิงเฟยตกใจน้อยๆ
“จิงเฟย เราสองคนบำเพ็ญเพียรเหมือนกันชัดๆ ทำไมเจ้าถึงได้บรรลุช่วงพลังก่อน แถมยังบรรลุเร็วขนาดนี้”
นั่นเพราะหลิวหลีมอบเลือดบริสุทธิ์ของเสือขาวให้เขา เพียงแต่เขาพูดไม่ได้ เขาขายหลงหลิวหลีไม่ได้ หลงหลิวหลีมอบยาศักดิ์สิทธิ์ให้เขาไปไม่น้อย เขาจึงแบ่งส่วนหนึ่งให้จิงหง แต่ทำไมจิงหงถึงได้ไม่พอใจขนาดนี้
“จิงเฟยเจ้ารู้หรือไม่ ตอนเจ้ากลับมา ข้าเพิ่งบอกท่านลุงว่าข้าบำเพ็ญเพียรจนใกล้จะบรรลุช่วงแยกจิต แต่พอเจ้ากลับมา เจ้ากลับบรรลุช่วงแยกจิตแล้ว แถมยังทิ้งระยะห่างจากข้าไปเสียตั้งไกล จิงเฟย ถึงข้าจะรู้ว่ามันไม่ใช่ความผิดของเจ้า แต่ตอนนี้ข้าไม่อยากจะเจอเจ้าจริงๆ จิงเฟยเจ้าออกไปได้ไหม” พอฮัวจิงหงตะโกนจบ เขาก็ทิ้งตัวนั่งลงไปในสภาพไร้เรี่ยวแรง
“ได้ จิงเฟย ข้าไม่เคยคิดเช่นนั้นมาก่อน ข้าคิดมาตลอดว่าพวกเราเป็นพี่น้องกัน ส่วนของข้าวางไว้ตรงนี้ จิงหง รอเจ้าคิดได้แล้ว ข้าค่อยมาหาเจ้า” ฮัวจิงเฟยวางขวดหยกลงแล้วจากไป แผ่นหลังของเขาไร้เรี่ยวแรง
“ขอโทษนะ จิงเฟย ข้าขอโทษ” ฮัวจิงหงพูดพลางมองแผนหลังฮัวจิงเฟย
พอฮัวจิงเฟยได้ยินก็ชะงัก คำพูดพวกนี้เหมือนจะไร้ความหมาย จิงหง
“จิงเฟย เจ้ากลับมาจากเรือนของจิงหงแล้วหรือ” ฮัวเชียนหนิวถามอย่างอดไม่ได้ ทำไมถึงได้มีสีหน้าห่อเหี่ยว
“ท่านลุงนี่เอง ทำไมท่านถึงอยู่ที่นี่” ฮัวจิงหงพูดเสียงเศร้า
“จิงเฟย เจ้าไปเจอเรื่องไม่ดีที่เรือนของจิงหงหรือ” ฮัวเชียนหนิวพอจะเดาออก แต่ก่อนถึงแม้พวกเขาจะไม่แตกต่างกัน แต่ว่าทรัพยากรในบ้านสกุลฮัวจะถูกใช้ไปกับฮัวจิงหงมากกว่าเล็กน้อย เพราะพลังบำเพ็ญเพียรของฮัวจิงหงจึงมั่นคงอย่างมาก จึงเป็นตัวเลือกที่ดีในการเป็นผู้นำสกุล แต่พอฮัวจิงเฟยกลับมาคราวนี้ เพราะได้โอกาสที่ช่วยให้ความสามารถของเขาไปไกลกว่าจิงหงมาก ตอนนี้จิงหงคิดไม่ตกก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่การกระทำของจิงหงทำร้ายจิตใจของจิงเฟยมากจริง ๆ
“ท่านลุง พลังบำเพ็ญเพียรสูงต่ำมันสำคัญมากเลยหรือ พลังบำเพ็ญเพียรต่างกันก็ไม่สามารถเป็นพี่น้องกันได้แล้วหรือ” ฮัวจิงเฟยงุนงง
“เรื่องนี้ จิงหงเพียงแค่ยังคิดไม่ตกเท่านั้น ไม่นานเขาจะคิดได้เอง” ฮัวเชียนหนิวก็ไม่รู้จะปลอบฮัวจิงเฟยอย่างไร
“ข้าเข้าใจ ท่านลุง แต่ข้าก็อดเสียใจไม่ได้” ไอ่เข้าใจมันก็เข้าใจ แต่ก็ยังเสียใจอยู่ดี
“เอาเถอะ เด็กน้อย พลังบำเพ็ญเพียรของเจ้าจะตามลุงทันอยู่แล้ว ยังทำหน้าเศร้าทำไม” ฮัวเชียนหนิวตบบ่าฮัวจิงเฟยเต็มแรง
“ท่านลุง เจ็บ เจ็บ” ตบเสียจนเขาเกือบแย่
“เอาเถอะ จริงสิ เมื่อวานเจ้าไม่ได้บอกความจริงกับข้าใช่ไหม หลงหลิวหลีไม่ได้เป็นแค่นักปรุงยาระดับ 8 กระมัง”
“เอ่อ ท่านลุง ข้าว่าจะไปหาท่านหลังจากไปหาจิงหงพอดีเลย นี่ ท่านลุง” ฮัวจิงเฟยหยิบขวดหยกขนาดเล็กออกมา เขารู้ว่าที่ท่านลุงมาหา ต้องมีจุดประสงค์อะไรแน่
“แค่กๆ ในเมื่อเจ้ากตัญญู อยากมอบมันให้ข้า เช่นนั้นข้าจะรับไว้แล้วกัน” ฮัวเชียนหนิวเอ่ยราวตนเองฝืนรับไว้
“ขอรับ ดังนั้นท่านลุงเก็บไว้เถอะ ถือว่าเป็นสิ่งที่หลานแสดงความกตัญญูต่อท่าน” ฮัวจิงเฟยอยากจะกลอกตาใส่อีกฝ่าย
“นี่คืออะไร ยาแปรตามกรรมระดับ 8” ฮัวเชียนหนิวมือสั่นเล็กน้อย บ้านสกุลฮัวเองก็มีเพียงไม่กี่เม็ดเท่านั้น นังหนูบ้านสกุลหลงช่างใจกว้างจริงๆ ถึงขนาดนำยาศักดิ์สิทธิ์ระดับ 8 มอบให้กับเด็กนี่
“ขอรับ” เป็นค่าตอบแทนที่เขาต้องไปรับวิบากอัสนีบาตตลอดทั้งปี
“จิงเฟย เจ้ายังมีอีกหรือไม่” ฮัวเชียนหนิวกล่าวพลางโอบไหล่ฮัวจิงเฟย
“หมดแล้วขอรับท่านลุง ท่านคิดว่ายาศักดิ์สิทธิ์ระดับ 8 คือผักกาดขาวหรือ” ฮัวจิงเฟยส่ายหัว แม้ว่าสำหรับหลิวหลีแล้วยาศักดิ์สิทธิ์ก็เหมือนกับผักกาดขาว แต่ปัญหาคือเขาไม่ใช่หลงหลิวหลี
“มันก็จริง” ฮัวเชียนหนิวหลงเชื่อ ฮัวจิงเฟยลูบเหงื่อบนหน้าผากที่ไม่มีจริงของเขา เขามียาไม่มาก ใครจะไปรู้ว่าภายหน้าหลงหลิวหลีจะเรียกเขาไปรับวิบากอัสนีบาตอีกหรือไม่
“ท่านลุง ข้ากลับไปได้หรือยัง” ตอนนี้ดูแล้ว ถึงท่านพ่อจะอยากตีเขาอยู่ตลอดเวลา แต่อยู่กับท่านพ่อน่าจะปลอดภัยสุดแล้ว
“ไปได้แล้ว อ่อ จริงสิ อีกสามวันข้าจะไปขอบคุณหลิวหลีที่บ้านสกุลหลง เจ้าก็ต้องไปด้วย” ฮัวเชียนหนิวคิดอะไรออกแล้วจึงเปิดปากพูด
“ขอบคุณอะไรหรือ” ฮัวจิงเฟยตกใจเล็กน้อย หรือจะเป็นอั่งเปาที่หลิวหลีพูดถึง
“ก็ขอบคุณที่หลงหลิวหลีคุ้มครองเจ้าอย่างไร เอ่อ ของขวัญขอบคุณที่ข้าเตรียมไว้ ยังมีมูลค่าไม่ถึงหนึ่งในสามของเม็ดยาศักดิ์สิทธิ์นี้เลยด้วยซ้ำ” ฮัวเชียนหนิวรู้สึกว่า นี่เป็นโอกาสที่จะได้ตีสนิทหลิวหลี เขาไม่ควรละทิ้งโอกาสนี้ นี่คือนักปรุงยาระดับ 8 เชียวนะ สถานะสูงศักดิ์กว่าเขาหลายเท่าตัว
“รู้แล้วขอรับ ท่านลุง” ฮัวจิงเฟยไม่ได้บอกว่า ลุงของเขาไม่มีวันได้ยาศักดิ์สิทธิ์ที่หลงหลิวหลีให้เขาอย่างแน่นอน
ณ บ้านสกุลหลง หลงหลิวหลีมอบยาศักดิ์สิทธิ์ให้มารดาของนางหนึ่งกล่อง พร้อมบอกท่านแม่ว่า หากนางชอบใครก็จงมอบให้คนผู้นั้น เมื่อหลงซินเยว่พบว่ามียาศักดิ์สิทธิ์ระดับ 8 มือนางถึงกับสั่นระริก จากนั้นเมื่อทุกคนรู้ว่าหลงหลิวหลีเป็นนักปรุงยาระดับ 8 ต่างขอให้หลิวหลีปรุงยาให้ หลิวหลีจึงกล่าวว่า หากมารดาของนางเป็นคนเอ่ยปาก นางถึงจะทำให้ จากนั้นเป็นต้นมา ประตูใหญ่ของเรือนหลงซินเยว่ก็ถูกคนเหยียบจนเกือบจะราบไปกับพื้น
………………………………