แม่ครัวยอดเซียน - ตอนที่ 282 ชุดงานมงคล
เมื่อรู้สึกว่าตนเองจัดแจงทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว แล้วก็ไม่จำเป็นให้นางต้องคัดเลือกทหารสวรรค์ด้วยตนเอง นางคิดว่าตนเองน่าจะกลับบ้านได้อย่างมีความสุข วังนภาธาราวุ่นวายมาก อีกทั้งสถานการณ์ก็กระอักกระอ่วนอย่างยิ่ง พอหนานกงเวิ่นเทียนกลายเป็นราชาเทพเซียนแต่ 9 ตำหนักที่เหลือกลับไม่มีใครแม้แต่จะสัมผัสได้ถึงปราการของขั้นพลังจักรพรรดินีนภาธาราทรงปวดหัวจนไม่รู้จะทำอย่างไร หนานกงเวิ่นเทียนควรจะดำรงตำแหน่งนั้น แต่สุดท้ายจักรพรรดินีปวดหัวไม่ทันหายก็มีขุนนางเซียนมารายงานว่าเจ้าตำหนักเวิ่นเทียนกลับไปแล้ว ออกเดินทางแล้ว จบกัน นางยังคิดวิธีจัดการไม่ออก แต่เขาก็ดันมาหนีไปเสียก่อน ไม่นานจักรพรรดินีก็ได้รับข่าวว่าลูกสาวของจักรพรรดินีนภาพฤกษาจะแต่งงานจึงเชิญพวกเขาไปร่วมงาน
เทพเซียนนภานพเก้า
“จะแต่งงานแล้วหรือ?” จักรพรรดินีนภาธาราเหนื่อยหน่าย สูกสาวของนางก็ยังไม่มีคนในดวงใจ ส่วนที่ไม่พูดถึงนั้น คนที่ถูกใจก็ช่าง… ไม่แน่ว่านางอาจจะเหมือนจักรพรรดินีนภาพฤกษา ที่หูตากว้างไกล ไม่จำกัดอยู่แต่ในพื้นที่ของตัวเอง จักรพรรดินีนภาธาราก็ทรงได้ความคิดใหม่ขึ้นมา
หลิวหลีได้รับแจ้งระหว่างเดินทางว่าต้องไปจัดงานมงคลที่วังนภาพฤกษาก่อนแล้วค่อยเดินทางไปดินแดนอสูรเทพ สำหรับหลิวหลีในตอนนี้ จะให้เปลี่ยนเส้นทางก็ไม่ถือเป็นระยะทางไกลเท่าไหร่ แต่เวลาอยู่วังนภาพฤกษานางต้องทำตัวสงบเสงี่ยมไว้ อย่างไรเสียที่นี่ก็ไม่ใช่ถิ่นของนาง ส่วนเรื่องชุดแต่งงานนี่ นางยังพอมีส่วนร่วมด้วยได้
“จักรพรรดินีนภาพฤกษา ยินดีด้วยเพคะ นี่เป็นของขวัญอวยพรจากข้าและเวิ่นเทียน” หลิวหลีมอบของขวัญให้ทันทีที่พบหน้ากัน ทำเอาจักรพรรดินีนภาพฤกษางุนงงไป ผู้อาวุโสหลิวหลีผู้นี้ช่างต่างจากคนอื่นๆเหลือเกิน
“ยังไม่ได้แสดงความยินดีที่หลิวหลีได้รับตำแหน่งอาวุโสสูงสุดเลย มีเจ้าร่วมงาน งานแต่งงานของลูกข้าจะต้องครึกครื้นหรูหราแน่” จักรพรรดินีนภาพฤกษาดีใจ หากจะให้บอกว่าโปรดใครมากที่สุดในโลกเซียนแห่งนี้ แน่นอนว่าต้องเป็นหลิวหลีอยู่แล้ว ทั้งกล้าได้กล้าเสีย ตรงไปตรงมา พูดคุยด้วยแล้วสบายใจ
“ไม่พูดถึงได้ไหม ข้ายังอายุไม่เต็มหมื่นปีก็กลายเป็นผู้อาวุโสสูงสุดแล้ว รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่” หลิวหลีแบสองมือ ตนเองยังไร้เดียงสานัก
“หลิวหลี เจ้านี่เป็นต้นแบบของคนได้ประโยชน์แล้วยังแสร้งอ่อนน้อม คนมากมายต้องการสิ่งนี้แต่กลับไม่ได้ ในโลกเซียนมีคนที่บรรลุเป็นเทพได้ไม่มากนัก แต่ข้ากล้าพูดได้เลยว่าหลิวหลีเจ้าต้องบรรลุเป็นเทพได้แน่นอน” จักรพรรดินีกล่าวพลางระบายยิ้ม
“อ้อ เป็นเช่นนี้เอง ข้าอยากรู้ว่าว่าท่านจะบรรลุเป็นเทพตอนไหน” หลิวหลีมองจักรพรรดินีนภาพฤกษาอย่างเคร่งขรึม
“โอ๊ะ หลิวหลีลองว่ามาสิ” จักรพรรดินีนภาพฤกษาเริ่มสนุกสนานเช่นกัน
“หลังจากที่ข้าบรรลุเทพได้สามหมื่นปี สามหมื่นปีเต็มๆ จะเป็นวันที่ทางบรรลุตามา” หลิวหลีว่า
“แปลว่าข้ายังต้องรอให้เจ้าบรรลุเป็นเทพก่อนสินะ” จักรพรรดินีนภาพฤกษาตะลึง คิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะรู้เวลาที่ตนเองบรรลุเป็นเทพได้จริงๆ แต่จักรพรรดินีก็หัวเราะ ไม่ได้เก็บมาใส่ใจ จนหลังจากที่หลิวหลีบรรลุเป็นเทพได้สองหมื่นเก้าพันปี จักรพรรดินีถึงรู้สึกได้ว่าวิบากบรรลุเทพของตนจะมาในอีกพันปีให้หลัง จึงนึกถึงคำพูดที่หลิวหลีพูดกับนางอย่างผิดหวังเล็กน้อย
“ถูกต้อง” หลิวหลีพยักหน้าจริงจัง
“เช่นนั้นหลิวหลีบรรลุเทพเมื่อไหร่?” จักรพรรดินีนภาพฤกษากระเซ้า
“ไม่ถึงหมื่นปี” หลิวหลีพูดตามสัญชาตญาณ
จักรพรรดินีนภาพฤกษาคิดว่าหัวข้อบทสนทนานี้ไม่อาจพูดคุยต่อได้อย่างสนุกสนานแล้ว เหตุใดถึงได้มีปีศาจเช่นนี้ถือกำเนิดมาบนโลกด้วยนะ
“จักรพรรดินี ข้าต้องการผู้บำเพ็ญเพียรหญิงที่เก่งงานฝีมือของวังนภาพฤกษามาทำชุดแต่งงานให้มู่มู่” หลิวหลีไม่รู้จะถ่อมตัวไปทำไมจึงเอ่ยปากร้องขออย่างตรงไปตรงมา
“เอ๋? ชุดแต่งงานหรือ” ชุดแต่งงานไม่ได้เหมือนกันหมดหรือ มีอะไรแตกต่างหรือนี่
“ใช่ ชุดแต่งงานสำหรับมู่มู่” หลิวหลีพูดพลางพยักหน้า
“ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าจะเลือกคนด้วยตัวเอง” จักรพรรดินีตื่นเต้น ด้วยอยากจะเห็นความพิเศษของชุดแต่งงานนี้เช่นกัน
“ขอบพระทัยฝ่าบาท”
“ช่างตัดเย็บที่เก่งกาจทุกท่าน นี่คือแบบร่าง พวกท่านทำชุดแต่งงานตามแบบรูปนี้” หลิวหลีนำแบบร่างของเครื่องประดับบนศีรษะและชุดแต่งงานไปให้กับช่างตัดเย็บสองสามคน รวมถึงอาจารย์ของพวกนาง
พวกเขาหยิบแบบร่างขึ้นมา ในตอนแรกกลัวว่าจะหักหน้าของจักรพรรดินี หลายคนจึงมองข้ามไป พอวันนี้ได้เห็นแบบร่าง ทุกคนก็ตื่นเต้นกันมาก ทำไมถึงได้มีชุดแต่งงานที่ประณีตเช่นนี้ ภาพร่างดูสดใสราวมีชีวิต ชุดแต่งงานถูกออกแบบมาอย่างประณีต สามารถทำให้ส่วนเว้าส่วนโค้งขององค์หญิงมู่มู่โดดเด่น แล้วยังมีเครื่องประดับบนศีรษะอีก งดงามมากเหลือเกิน ดูเหมือนว่าจะเป็นของเข้าคู่กัน
“ผู้อาวุโสหลิวหลี ดูเหมือนชุดแต่งงานและเครื่องประดับศีรษะนี้จะเป็นของเข้าคู่กันกระมัง” ช่างตัดเย็บคนหนึ่งพูดออกมา
“ถูกต้อง มีเจ้าสาวและเจ้าบ่าว แน่นอนว่าต้องเป็นชุดคู่กัน หากไม่มีคำถามอะไร ต้องขอรบกวนทุกท่านด้วย” หลิวหลีบอกว่าไม่เป็นไร นางที่ไม่ใช่มืออาชีพจึงเลือกจะขอตัว แล้วปล่อยให้มืออาชีพอย่างพวกเขาลงมือทำกันเอง
“ผู้อาวุโสหลิวหลี วางใจเถอะ พวกเราจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง” ช่างตัดเย็บประสานเสียง
หลิวหลีโบกมือ จนถึงตอนที่ช่างตัดเย็บตัดชุดออกมาจนเสร็จ จักรพรรดินีนภาพฤกษาก็มาด้วย แล้วต้องตกตะลึงกับชุดแสนสวยนี้ สวยงามมากจริงๆ จักรพรรดินีชอบจนไม่อยากจะปล่อยมือออกจากมัน
“หลิวหลี ชุดแต่งงานนี้สวยมากเลย” จักรพรรดินีชม งดงามมากจริงๆ
“ไม่เลวเลยใช่ไหมล่ะ เมื่อน้องชายของข้าและมู่มู่ได้สวมใส่จะต้องยิ่งดูดีมากขึ้นแน่ๆ” หลิวหลีพูดอย่างพอใจ
“ใช่” ในช่วงชีวิตหนึ่งหญิงสาวทุกคนก็หวังว่าจะได้แต่งงานกับคนที่ตัวเองรัก มีงานแต่งงานที่ทุกคนจะเข้าร่วมแสดงความยินดี และมีชุดแต่งงานที่สวยงามเช่นนี้ จักรพรรดินีลูบไล้ชุดไม่หยุด ชอบจนไม่อยากห่างจากมัน
“จักรพรรดินีท่านชอบหรือไม่” หลิวหลีถาม
“ชอบสิ” ชุดที่สวยขนาดนี้ใครจะไม่ชอบบ้าง
“เช่นนั้น หากทรงไม่รังเกียจ ให้ช่างตัดเย็บตัดชุดเจ้าภาพให้ดีหรือไม่”
“ชุดเจ้าภาพหรือ” จักรพรรดินีงุนงง
“ในฐานะผู้ปกครองของเจ้าสาว ย่อมจำเป็นต้องมีชุดเจ้าภาพสิ” หลิวหลีอธิบาย
“เช่นนั้นข้าจะรอชุดเจ้าภาพของหลิวหลี” จักรพรรดินีคาดหวัง ชุดแต่งงานยังดงามขนาดนี้ เดาว่าชุดเจ้าภาพก็คงจะใช้ได้เช่นกัน
“จะไม่ทำให้ต้องทรงผิดหวังแน่นอนเพคะ” หลิวหลีโอ้อวด
หลิวหลีเอาแบบร่างมาให้ช่างตัดเย็บอีกกอง แม้จะไม่งดงามเท่าชุดแต่งงานของบ่าวสาว แต่ก็ดูสุขุม หรูหราไม่โดดเด่นเกินไป ทั้งยังช่วยขับพลังอำนาจของจักรพรรดินีออกมาได้ และยังช่วยเพิ่มบรรยากาศของงานมงคลอีกด้วย เมื่อจักรพรรดินีเห็นก็พอใจอย่างมาก ลองสวมใส่ทันทีโดยมีช่างตัดเย็บช่วยเหลือ หลังจากที่เครื่องประดับทุกชิ้นถูกสวมครบ นางก็มองตนเองในกระจกวารี อำนาจของจักรพรรดิที่ควรมียังคงอยู่ แต่เพราะเป็นงานมงคลจึงเพิ่มความอ่อนโยนเข้าไปด้วย แม้ชุดเจ้าภาพจะไม่สดงดงามเท่าชุดแต่งงาน แต่ก็ขับเสน่ห์ของนางออกมาได้เช่นกัน
“หลิวหลี ข้าพอใจมาก ชอบมากจริงๆ ชุดเจ้าภาพนี้ใช้ได้ทีเดียว ดูท่าทางแล้วข้าจะเกินหน้าเกินตาคู่บ่าวสาวไปหน่อยแล้ว” จักรพรรดินีพอใจอย่างยิ่ง ตนเองดูงดงามมากจริงๆ
“หลิวหลีไม่เคยพูดเหลวไหล” หลิวหลีพอใจไม่น้อย ดูเหมือนว่าไม่ว่าพลังบำเพ็ญเพียรจะสูงต่ำขนาดไหน ทุกคนก็สนใจในความสวยความงามกันทั้งนั้น ไม่มีสตรีผู้ใดที่ไม่รักสวยรักงาม
มู่มู่เองก็ถูกมารดาเรียกหา เมื่อเห็นเสด็จแม่ของตนก็ชอบใจอย่างมาก แล้วพอเห็นชุดแต่งงานที่งดงามของตนเองอีก หญิงสาวก็ประทับใจจนอยากร้องไห้ เมื่อเสด็จแม่ของตนเองและว่าที่พี่สาวของตนกล่าวว่าอยากเห็นตนในชุดแต่งงาน ยากนักที่จะซ่อนความเขินอาย แต่ก็โอนอ่อนปล่อยให้ช่างตัดเย็บจัดแจงชุดให้ แล้วสุดท้ายก็ตกตะลึงในความงามของตัวเองในกระจกวารีเช่นกัน งดงามเหลือเกิน หญิงสาวหน้าแดงขณะมองชุดเจ้าบ่าวที่อยู่ข้างกัน ความกระดากอายเก้อเขินในใจนั้นก็พลันลดลง นางตั้งหน้ารอคอยงานมงคลครั้งนี้อย่างมาก ใช่ จื่อฉีใส่ชุดนี้จะต้องดูดีมากแน่ๆ
…………………….