แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 880 ไม่กลับบ้าน
ตอนที่ 880 ไม่กลับบ้าน
ขิงยิ่งแก่ก็ยิ่งเผ็ดร้อน
เมื่อคุณตาเฝิงเห็นว่าไม่สามารถเปิดประเด็นกับพ่อไป๋ได้ เขาจึงหันไปมองหลินม่าย “เสี่ยวหลิน คุณรวยมาก ไม่สนใจที่จะซื้อบ้านให้พ่อของคุณเหรอ?”
ก่อนที่หลินม่ายจะมาตามนัด เธอเดาว่าเหตุที่พ่อเฝิงและแม่เฝิงต้องการให้เธอมา พวกเขาจะต้องมีจุดประสงค์บางอย่างแน่นอน
หลินม่ายยิ้มพลางกล่าว “ไม่ใช่ว่าพ่อของฉันไม่มีบ้านให้อยู่ เพียงแต่ฉันคิดว่าไม่จำเป็นต้องซื้อบ้านให้เขาในตอนนี้ค่ะ”
พ่อและลูกสาวต่างร่วมมือร่วมใจกันดักคอสกัดกั้นคำพูดของตายายเฝิง
พ่อไป๋ตบไหล่เธอราวกับเข้าใจจุดประสงค์ในการกระทำเช่นนี้
เขายิ้มและกล่าว “ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณว่าต้องการให้สิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูก ไม่ต้องกังวลว่าเซี่ยเซี่ยและลูกสาวของคุณจะไม่มีที่อยู่อาศัยหรอกครับ ตราบใดที่เซี่ยเซี่ยจบการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา เขาจะสามารถหางานทำได้ ผู้ที่ศึกษาด้านการสำรวจทางธรณีวิทยามักทำงานในแผนกที่ดินและทรัพยากร ฝ่ายที่ดินและทรัพยากรมีสวัสดิการดี หลังจากทำงานไม่กี่ปีก็จะได้รับการจัดสรรบ้าน เซี่ยเซี่ยกับเยว่จู๋จะมีบ้านอันกว้างขวางให้อยู่ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องอาศัยอยู่แออัดกับเรา”
ใบหน้าของตระกูลเฝิงน่าเกลียดมากขึ้นเรื่อย ๆ
พวกเขาได้ตัดสินใจที่แล้ว ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พ่อไป๋จะต้องยอมทิ้งบ้านสวัสดิการที่เขาเพิ่งได้รับการจัดสรรให้ไป๋เซี่ยและเฝิงเยว่จู๋เป็นเรือนหอของพวกเขา
หลังจากที่ลูกสาวและลูกเขยอาศัยอยู่ที่นั่นประมาณหนึ่งปี พ่อเฝิงและแม่เฝิงจะย้ายไปอยู่กับลูกชายคนสุดท้อง
ไม่ใช่เรื่องแน่นอนสำหรับพวกเขาที่จะอาศัยอยู่ แต่มันก็สมเหตุสมผล
ห้องเดี่ยวสองห้องของพ่อเฝิงและแม่เฝิงเป็นของลูกชายคนโตทั้งหมด
หลังจากลูกเขยเรียนจบ มีงานทำ มีบ้านแล้ว ก็จะยกบ้านลูกเขยให้ลูกชายคนเล็ก
รอจนกว่าไป๋เซี่ยจะได้รับอาคารสไตล์ตะวันตกขนาดเล็กที่หลินม่ายซื้อไว้ใกล้กับมหาวิทยาลัย สามีและภรรยาของเขาถึงจะย้ายเข้าไปอยู่ในอาคารสไตล์ตะวันตกเล็ก ๆ โดยจะปล่อยเช่าชั้นหนึ่งและสอง ส่วนชั้นสามเป็นชั้นส่วนตัว ตระกูลเฝิงของพวกเขาก็อบากมีบ้านหลังใหญ่เช่นกัน
แต่ตอนนี้พ่อไป๋และหลินม่ายทำให้แผนการของพวกเขาหยุดชะงัก
คุณยายเฝิงกลอกตาและพูดกับหลินม่าย “พ่อของคุณมีบ้านแล้ว แต่พี่ชายคนเดียวของคุณยังไม่มีบ้าน ไม่คิดจะซื้อบ้านให้พี่ชายของคุณเหรอ?”
หลินม่ายยิ้มและส่ายศีรษะ “พ่อของฉันไม่ได้บอกหรือคะว่าเมื่อพี่ชายของฉันเริ่มทำงาน เขาจะได้รับการจัดสรรบ้านพักสวัสดิการ ดังนั้นฉันจึงไม่จำเป็นต้องซื้อค่ะ”
แม่เฝิงเริ่มพูดจาก้าวร้าว “เขาว่ายิ่งรวยก็ยิ่งตระหนี่จริงๆ ด้วย คุณไม่เต็มใจที่จะซื้อบ้านให้พ่อหรือพี่ชายคนเดียวของคุณด้วยซ้ำ”
เมื่อพูดเช่นนี้ หล่อนก็เหลือบมองไป๋เซี่ย ไม่รู้เป็นเพราะอุบัติเหตุหรือความตั้งใจ แต่มันกลับดูเหมือนจะสร้างปัญหาให้เขา
“พอแล้ว!” ไป๋เซี่ยตะโกน “อย่าทำให้พ่อและน้องสาวของผมลำบากใจเลย!”
เสียงตะโกนของเขาทำให้ทุกคนในตระกูลเฝิงตกใจ
ไป๋เซี่ยพูดต่อด้วยใบหน้าเศร้าหมอง “ถ้าพวกคุณเห็นด้วยกับการจัดการของพ่อผม พวกคุณก็ตกลงเรื่องการแต่งงานของผมกับเยว่จู๋ได้ในวันนี้ หากไม่เห็นด้วย ผมก็จะเลิกกับเยว่จู๋ในวันนี้!”
เคล็ดลับของเขาได้ผลมาก ตระกูลเฝิงไม่กล้าถามอะไรอีก แต่ในใจพวกเขากลับไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานระหว่างไป๋เซี่ยและเฝิงเยว่จู๋ โดยบอกว่าพวกเขาจะกลับไปหารืออย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ
แม้ทั้งสองครอบครัวจะจากกันอย่างไม่มีความสุข แต่พ่อไป๋ก็ให้ความเพลิดเพลินแก่พวกเขา
เมื่อเห็นว่าพ่อเฝิงและแม่เฝิงต่างก็ชอบเป็ดย่างฉวนจูเต๋อ เขาก็ขอให้บริกรจัดเป็ดย่างฉวนจูเต๋อสองตัวให้ทั้งสองนำกลับบ้านไปรับประทาน
เมื่อออกมาจากภัตตาคารเฉวียนจวี้เต๋อ แม่ไป๋ก็บอกกับไป๋เซี่ยอย่างจริงจัง “แม่คิดว่าครอบครัวเฝิงรับมือได้ยากเกินไป ลูกควรจะเลิกข้องเกี่ยวกับเฝิงเยว่จู๋นะ”
ไป๋เซี่ยลังเลใจ
ตอนที่เขายังเป็นเพื่อนกับเฝิงเยว่จู๋ เขารู้สึกเพียงว่าหล่อนเป็นคนใจดีมาก
แต่เฝิงเยว่จู่ก็เหมือนแม่ของเขาตรงที่ชอบสร้างปัญหาโดยไม่มีเหตุผล ซึ่งทำให้เขาอารมณ์เสีย
อีกทั้งยังตระหนี่ถี่เหนียว ตอนที่ไปบ้านเขาครั้งแรก หล่อนไม่ได้ให้เงินปีใหม่แก่หลานทั้งสามด้วยซ้ำ
แต่ถึงอย่างนั้นไป๋เซี่ยก็สานสัมพันธ์กับเฝิงเยว่จู๋มาหนึ่งปีแล้ว หากพวกเขาต้องเลิกรากันจริง เขาก็ลังเลเล็กน้อย
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เอ่ยขึ้น “ผมจะตัดสินใจหลังจากที่ได้คุยกับเยว่จู๋เป็นการส่วนตัวแล้ว”
ไป๋เหยียนเห็นความลำบากใจของไป่เซี่ย จึงแนะนำแม่ไป๋ “แม่ อย่าเพิ่งบอกให้น้องชายเลิกกับเยว่จู๋เลยค่ะ มีบ้านไหนพูดเรื่องแต่งงานเหมือนต่อรองธุรกิจแบบนี้กันคะ?”
แม่ไป๋ลูบหัวหล่อน “ตอนที่ลูกแต่งงาน เราไม่ได้ต่อรองกับครอบครัวสามีของลูกเลย เราทำทุกอย่างด้วยตัวเอง”
ไป๋เหยียนยิ้มอย่างละอายใจ
พ่อไป๋ขมวดคิ้วและพูดกับแม่ไป๋ “มันกลายเป็นอดีตไปแล้ว อย่าพูดถึงอีกเลย เหยียนเหยียนเองก็เป็นแม่คนแล้วในตอนนี้”
แม่ไป๋หน้าแดงและพูดอย่างนอบน้อม “ตกลง ฉันจะไม่พูดถึงมันอีก”
พ่อไป๋มองหล่อนด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ปล่อยให้หล่อนเข้าไปในรถแล้วก็ขับพาหล่อนกลับบ้าน
หลินม่ายส่งไป๋เหยียนและลูกสาวของหล่อนกลับบ้าน
ไม่นานรถของพ่อไป๋ก็มาจอดที่หน้าบ้านพ่อแม่ของแม่ไป๋ แต่แม่ไป๋กลับไม่ยอมลงจากรถ
พ่อไป๋ทำอะไรไม่ถูก เขาจึงได้แต่เอ่ยเตือน “ถึงบ้านแล้วนะคุณ”
แม่ไป๋สะอื้นเล็กน้อย “นี่ไม่ใช่บ้านของเรา นี่คือบ้านพ่อแม่ของฉัน ฉันอยากกลับบ้านของเรา” หลังจากพูดจบ หล่อนก็มองไปที่พ่อไป๋อย่างน่าสังเวช
พ่อไป๋ถอนหายใจเบา ๆ “คุณกลับไปบ้านเดิมของเราไม่ได้ อย่าลืมสิว่าเป็นเพราะคุณ ผมจึงคืนบ้านให้หน่วยงานแล้ว”
“ทางหน่วยไม่ได้จัดสรรแฟลตใหม่ให้คุณเหรอ? เรามาเริ่มต้นกันใหม่ได้นะคะ” แม่ไป๋กล่าวอย่างมีความหวัง
พ่อไป๋มองอดีตภรรยาของเขาอย่างจริงจัง “ซินอี๋ เราต่างคนต่างอยู่เถอะ อย่าพยายามเลย”
แม่ไป๋พูดด้วยความประหลาดใจ “คุณ… ทำไมคุณพูดอย่างนั้น? คุณไม่อยากกลับมาอยู่ด้วยกันเหรอ?”
พ่อไป๋พูดด้วยความประหลาดใจ “ผม… ผมพูดว่าอยากกลับมาอยู่ด้วยกันเมื่อไหร่?”
แม่ไป๋กล่าว “ในเมื่อคุณไม่อยากกลับมาอยู่ด้วยกัน ทำไมคุณถึงบอกให้ฉันไปร่วมรับประทานอาหารในวันนี้ด้วยล่ะ?”
พ่อไป๋รู้สึกประหลาดใจและตอบกลับ “เพราะคุณเป็นแม่แท้ ๆ ของเซี่ยเซี่ย แน่นอนว่าคุณต้องเข้าร่วมพิธีหมั้นของเขา”
“แล้วที่คุณจัดให้ฉันนั่งข้างคุณตอนกินข้าว คุณจะอธิบายยังไง?”
“ผมกลัวว่าคุณจะอาละวาด และถ้าคุณอาละวาด ผมก็จะหยุดได้ทันท่วงที”
แสดงชัดว่าทุกอย่างล้วนเป็นเพราะคิดไปเอง
แม่ไป๋ได้แต่ร้องไห้อย่างขมขื่นและลงจากรถ มองดูพ่อไป๋ขับรถออกไป
ในรถจึงเหลือเพียงพ่อไป๋และพี่น้องไป๋เซี่ยที่นั่งแถวหลัง
ไป๋ลู่ซุบซิบถาม “พ่อคะ ระหว่างพ่อกับแม่มันเป็นไปไม่ได้แล้วจริง ๆ เหรอคะ?”
แม้ว่าแม่ไป๋จะทำผิด แต่หล่อนก็ยังหวังว่าพ่อแม่ของหล่อนจะกลับมาอยู่ด้วยกัน
พ่อไป๋ตอบขณะขับรถ “ใช่”
ไป๋ลู่หดหัวออกจากพนักเท้าแขนของพ่อไป๋ด้วยความผิดหวัง
ไป๋เซี่ยสัมผัสหล่อน “อย่าไปยุ่งกับความสัมพันธ์ของพ่อแม่ อย่ากดดันพ่อเลย”
ไป๋ลู่พยักหน้าอย่างเศร้าสร้อย
ครอบครัวเฝิงทำการประชุมทันทีที่พวกเขากลับถึงบ้าน
พ่อเฝิงกำลังถือถ้วยชาร้อน ๆ เหล่ตามองลูกสาวและภรรยา “จงพอใจเถอะ ตระกูลไป๋ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมดของการแต่งงานแล้ว แถมยังให้สินสอดทองหมั้นมากเหมือนกัน เป็นเงินสดห้าพันหยวนและทองสามอย่าง มีครอบครัวไหนจะแต่งงานกับลูกสะใภ้ที่คิดครอบครองทุกอย่างแบบนี้อีก? ลองคิดดูสิว่า เป็นเราเราจะกล้าทำแบบนั้นเหรอ?”
แม่เฝิงพูดอย่างไม่เต็มใจ “หลินม่ายน้องสาวคนเล็กของไป๋เซี่ยรวยมาก แต่หล่อนกลับไม่มีเงินพอที่จะซื้อบ้านให้พี่ชายของหล่อนเนี่ยนะ น่ารำคาญเกินไปแล้ว!”
ที่สองสามีและภรรยาขอให้หลินม่ายมาที่นี่ในวันนี้ เพราะพวกเขาต้องการผลประโยชน์บางอย่างจากเธอ แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ได้รับผลประโยชน์สักแดงเดียว
คุณยายเฝิงกล่าว “ต่อให้เราไม่ได้รับผลประโยชน์จากหลินม่ายในตอนนี้ ก็ใช่ว่าในอนาคตจะไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรนี่? พวกเธอต้องรู้วิธีการหว่านอวนเพื่อจับปลาใหญ่นะ ตอนนี้อย่าเพิ่งพูดถึงเงื่อนไขอะไรเลย ตระกูลไป๋ก็คงหมายความตามที่พูดนั่นแหละ ส่วนเราเห็นแค่การแต่งงานของเยว่จู๋เป็นเรื่องสำคัญอันดับแรกก็พอ หลังเยว่จู๋แต่งงานเข้าไปแล้ว การได้เป็นภรรยาของไป๋เซี่ยก็จะทำให้หล่อนได้ครอบครองทุกอย่างที่ต้องการแล้วไม่ใช่เหรอ? ในอีกสองวันก็ขอให้เยว่จู๋ส่งข้อความถึงไป๋เซี่ยโดยบอกว่าเราเห็นด้วยกับการข้อเสนอของพ่อไป๋ และตัดสินใจเกี่ยวกับการแต่งงานของเด็กสองคนได้แล้ว”
พ่อเฝิงและแม่เฝิงพยักหน้าเห็นด้วย
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ถ่านไฟเก่ามันมอดดับไปนานแล้วค่ะแม่ สามีตัวเองหมดเยื่อใยไปนานแล้ว
บ้านตระกูลเฝิงนี่วางแผนใหญ่เชียว แต่ระวังจะผิดหวังนะคะถ้าเกิดลูกเขยบอกเลิกลูกสาวขึ้นมาเพราะพบว่าไปกันไม่ได้
ไหหม่า(海馬)