แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 884 แรงจูงใจซ่อนเร้น
ตอนที่ 884 แรงจูงใจซ่อนเร้น
แน่นอนว่าการสร้างโครงการขนาดใหญ่ทั้งสองแห่งในคราวเดียวจำเป็นต้องจัดหาแรงงานต่างถิ่นจำนวนมาก
หลินม่ายขอให้เจียวอิงจวิ้นจัดหาแรงงาน และขอให้เขาระมัดระวังให้มาก
ไม่มีประสบการณ์ก็ไม่เป็นไร แต่ว่าต้องขยันที่จะเรียนรู้
คนมีประสบการณ์แต่ไม่ขยัน ขี้ขโมย ข่มขืนชาวบ้าน มากด้วยเล่ห์เหลี่ยมนั้นมีถมไป
ว่านทงกรุ๊ปต้องการรับสมัครแรงงานต่างถิ่นจำนวนมากเพื่อเข้าทำงานในสถานที่แห่งนี้ สามารถติดต่อเข้ามาได้ทางโทรเลขและโทรศัพท์ตามที่บอกกล่าวเอาไว้
วิธีที่รวดเร็วที่สุดคือการแจ้งญาติและสหาย ทำให้เหล่าชายหนุ่มและชายวัยกลางคนมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองหลวงอย่างรวดเร็วเพราะต้องการสมัครงาน พวกเขากลัวว่าหากมาช้าไปสักนิดคงจะต้องพลาดงานนี้แน่
แม้ว่านทงกรุ๊ปจะเป็นเพียงบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของเอกชน แต่พวกเขาก็ปฏิบัติต่อแรงงานต่างถิ่นเป็นอย่างดี
อีกทั้งยังไม่กดขี่เงินเดือน ไม่ต่างอะไรจากการทำงานในบริษัทรับเหมาก่อสร้างของรัฐ และหลังจากโครงการหนึ่งเสร็จสิ้นแล้ว โครงการที่สองก็จะตามมา ซึ่งเทียบเท่ากับว่าได้เป็นพนักงานระยะยาว
ซึ่งสิ่งนี้แตกต่างจากบริษัทรับเหมาก่อสร้างของรัฐ เมื่อจบงานแล้วพวกเขาจะถูกไล่ออก เพราะทั้งหมดเป็นเพียงงานระยะสั้น
นอกจากแรงงานต่างถิ่นในว่านทงกรุ๊ปที่เรียกเพื่อนและญาติพี่น้องให้เข้าร่วม อีกทั้งยังมีแรงงานต่างถิ่นจำนวนมากที่ยอมลงทุนเข้าเมืองหลวงเพื่อสมัครงาน
แม้ว่าจำนวนการรับสมัครของว่านทงกรุ๊ปจะไม่น้อย แต่ตำแหน่งทั้งหมดเต็มอย่างรวดเร็ว
และเพื่อความปลอดภัย เจียวอิงจวิ้นจึงเริ่มฝึกอบรมแรงงานต่างถิ่นทั้งหมดเป็นเวลาห้าวัน
การฝึกอบรมนี้ไม่เพียงแต่ครอบคลุมเนื้องานเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความปลอดภัยอื่น ๆ ด้วย
หลินม่ายกังวลและหวาดกลัวการบาดเจ็บล้มตายที่สุด
สุดท้ายแล้วชีวิตใหม่นี้เธอได้รับมาจากการทำงานพาร์ทไทม์ แล้วจะให้เธอมีความสุขกับสิ่งนี้ได้อย่างไร?
แต่หากผู้ตายเหล่านั้นไม่เกี่ยวข้องกับเธอ เธอก็ไม่สนใจอะไร
สุดท้ายเธอก็ยังใจดี แม้จะไม่มาก…
หลินม่ายปรากฏตัวขึ้นในงานอบรมวันสุดท้าย
เธอกล่าวเตือนแรงงานต่างถิ่นที่เข้ามาใหม่ทุกคนว่าอย่าปล่อยให้ตัวเองต้องอยู่ในอันตรายเด็ดขาด และการปกป้องตนเองคือสิ่งสำคัญที่สุด
อีกทั้งเธอยังเน้นย้ำว่าทั้งหมดเป็นผู้ชาย ไม่ว่าจะแต่งงานหรือไม่ ล้วนแต่มีญาติและครอบครัวยืนอยู่ด้านหลัง
บางคนก็มีภรรยาและลูกอยู่ข้างหลัง ส่วนบางคนก็เป็นพ่อแม่ญาติพี่น้อง
คนเหล่านั้นต้องการพึ่งพาพวกเขา เช่นนี้จึงไม่สามารถปล่อยให้เกิดอันตรายได้
หลินม่ายมีวาทศิลป์ดีมาก คนงานต่างถิ่นที่ได้ยินเรื่องนี้ยิ่งตื่นเต้นและมีกำลังใจ
นัยน์ตาพวกเขามีน้ำตาเอ่อล้นขึ้นมา ฝ่ามือแดงก่ำ ตอบรับเสียงหนักแน่นว่าจะสนใจความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง
หลังจากฝึกอบรมแล้ว แรงงานต่างถิ่นที่ถูกคัดเลือกเข้ามาจะเริ่มงานทันที
มีชุดยูนิฟอร์มแจกจ่าย เป็นชุดเอี๊ยม แถมหมวกนิรภัยแข็ง
แม้ว่าตอนนี้จะไม่มีหมวกหน้ากาก แต่มันก็เป็นหมวกนิรภัยที่ดีที่สุดในบริษัท
สุดท้ายแล้วหมวกนิรภัยจะสามารถช่วยชีวิตในช่วงวิกฤติได้
สำหรับเรื่องความปลอดภัยแล้ว หลินม่ายไม่คิดตระหนี่สักนิด
แม้ว่าสำนักงานก่อสร้างแห่งแรกของรัฐจะชนะการประมูลสำหรับโครงการรถไฟใต้ดินสายสอง แต่งานต่าง ๆ ก็ต้องถูกรับเหมาตามกระบวนการย่อยทีละขั้นตอน
ส่วนก่อสร้างหลักจะเป็นรัฐวิสาหกิจทำ โดยที่ว่านทงกรุ๊ปจะจัดการในส่วนรายละเอียดยิบย่อย
งานสกปรกและงานหนักที่ไม่ต้องใช้ช่างเทคนิคใหญ่จะจ้างผู้รับเหมาจากภายนอก
เช่นนี้ในสถานที่ก่อสร้างรถไฟใต้ดินสายสอง นอกจากแรงงานต่างถิ่นของว่านทงกรุ๊ปแล้ว ยังมีแรงงานต่างถิ่นเอกชนรายอื่น ๆ ด้วย
แรงงานต่างถิ่นเหล่านั้นล้วนแต่รู้สึกอิจฉาคนงานในว่านทงกรุ๊ปทั้งสิ้น
พวกเขามีหมวกนิรภัยแข็ง ชุดเอี๊ยมเหมือนกัน และบนสองสิ่งนี้พิมพ์อักษรว่า “ว่านทงกรุ๊ป” เด่นชัด ไม่ต่างจากพนักงานของรัฐวิสาหกิจ
แต่พวกเขาเองกลับไม่มีอะไรเลย ไม่ว่าจะเป็นหมวกนิรภัย และพวกเขายังต้องทำงานที่หนักที่สุด และเหนื่อยที่สุดอีกด้วย
บางครั้งในระหว่างการก่อสร้าง หินน้อยใหญ่จะร่วงหล่นลงมาสู่ด้านล่าง พวกเขาจำเป็นต้องใช้ทักษะและตอบสนองให้รวดเร็วเพื่อหลบเลี่ยงสิ่งเหล่านั้น
รถไฟใต้ดินสายสองนี้เป็นโครงการขนาดใหญ่ แม้ว่าว่านทงกรุ๊ปจะได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่ง แต่หลินม่ายก็ให้ความสำคัญกับมันมาก
เมื่อพอมีเวลาว่าง เธอจะเข้าไปตรวจสอบหน้างาน และยังสังเกตเห็นสถานการณ์ปัจจุบันของแรงงานต่างถิ่นจากบริษัทเอกชนขนาดเล็กด้วย
หลินม่ายกล่าวเตือนผู้รับเหมาพวกนั้นอย่างระมัดระวัง และบอกกล่าวให้พวกเขาซื้อหมวกนิรภัยให้กับแรงงานต่างถิ่นเหล่านั้น แต่สิ่งที่เธอได้รับคือแววตาที่ว่างเปล่าและคำพูดเย้ยหยัน
ผู้รับเหมารายย่อยเยาะเย้ยหลินม่าย และไม่คิดสนใจเธอแม้แต่น้อย
เธอได้รับส่วนแบ่งเค้กก้อนใหญ่ เธอจึงมีเงินมากพอที่จะดูแลแรงงานต่างถิ่นของตน
แต่สิ่งที่พวกเขาได้รับเป็นเพียงเศษเค้กเล็กน้อย ลำพังตัวพวกเขายังกินไม่อิ่ม แล้วจะมีเงินจัดซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ ให้กับแรงงานของตนเองได้ยังไง?
เวลานี้หลินม่ายถูกฝูงชนหัวเราะเยาะ แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรตอบโต้
เพราะนั่นไม่ใช่แรงงานของเธอ และมันไม่เกี่ยวกับเธอเลยหากจะมีอะไรเกิดขึ้น พวกเขาเหล่านั้นต่างหากที่น่าสมเพช
แรงงานต่างถิ่นของว่านทงกรุ๊ปไม่เพียงแต่จะสวมหมวกนิรภัยและชุดทำงานเท่านั้น แต่ยังได้รับอาหารกลางวันเป็นเนื้อสัตว์ และยังมีมื้อค่ำที่ยอดเยี่ยม มันทำให้พวกเขาถูกใครหลายคนมองมาด้วยความอิจฉา
พวกเขามีแค่กะหล่ำปลี ผักกาดขาว หัวไชเท้า และอื่น ๆ ฮือออ
แรงงานต่างถิ่นของว่านทงกรุ๊ปได้รับประทานอาหารดี ๆ และบริษัทให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของพวกเขามาก
ยิ่งทำงานหนักพวกเขาก็ยิ่งคล้ายกับไก่ที่มีเลือดลมสูบฉีดเป็นอย่างดี
เมื่อหัวหน้าของผู้รับเหมาก่อสร้างของรัฐเข้าตรวจสอบ พวกเขาทั้งหมดได้รับคำชมเชย
ภายในพริบตาก็มาถึงวันที่ 23 มีนาคม เป็นวันที่หุ้นของหลินม่ายที่ซื้อเอาไว้พุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว
เพื่อไม่ให้คนอื่นสงสัยเมื่อเห็นว่าเธอซื้อหุ้นที่ราคาหุ้นตัวนั้นจะพุ่งสูงขึ้นเสมอ หลินม่ายจะซื้อหุ้นจากผู้ขายคนนั้นเพียงครั้งเดียว
หลังจากที่หุ้นเหล่านั้นพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วและถอนเงินออกมาแล้ว เธอจะไม่ซื้อหุ้นจากเทรดเดอร์คนนั้นอีก
เวลานี้เธอมอบหมายให้เทรดเดอร์ช่วยซื้อขายหุ้นแทน และนายหน้าที่เธอไว้วางใจจะส่งแฟกซ์ข้อมูลหุ้นมาให้ในทุกวัน
เมื่อถึงเวลาเลิกเรียนตอนเที่ยง หลินม่ายขับรถกลับบ้านพร้อมกับเป่าเป่าและน้าทัง
น้าถูเตรียมอาหารวางบนโต๊ะไว้เรียบร้อยแล้ว
แม้หลินม่ายอยากขึ้นชั้นบนเพื่อไปดูแฟกซ์ที่เทรดเดอร์ส่งมาเพราะต้องการรับชมหุ้นที่ทะยานขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นไปตามความทรงจำในชีวิตที่แล้วหรือไม่ แต่เธอยังสามารถควบคุมแรงกระตุ้นของตนเองได้ เมื่อรับประทานมื้อเที่ยงเสร็จแล้วจึงรีบขึ้นไปชั้นบนพร้อมกับทารกในอ้อมแขน
หลังจากเข้ามาในห้องแล้ว หลินม่ายหยิบราคาหุ้นของวันนี้ขึ้นมา แล้วเริ่มอ่านมัน
หุ้นที่เธอและนายท่านฉุยซื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หากมองโดยรวมแล้วมันพุ่งทะยานขึ้นกว่าสิบเท่า
แม้จะรู้ผลลัพธ์นี้อยู่แล้ว แต่หลินม่ายก็ยังอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น
สามล้านกลายเป็นสามสิบล้าน บวกกับหุ้นก่อนหน้านี้ด้วย แม้แต่ในฮ่องกงเธอยังถูกจับตามองว่าเป็นเศรษฐินีตัวน้อย
หลินม่ายมีความสุขมาก และรีบโทรหาเทรดเดอร์ของตัวเอง และบอกกล่าวให้เขาขายหุ้นทั้งหมดทันที
เทรดเดอร์กลายเป็นลังเล และตอบกลับมาว่าหุ้นเหล่านี้กำลังขึ้น การขายในตอนนี้เป็นเรื่องน่าเสียดาย
แต่หลินม่ายบอกให้เขาขายมันโดยทันที
หุ้นเหล่านี้มาถึงจุดสูงสุดแล้ว ถ้าหากไม่ยอมขายออกไป พวกมันจะร่วงอย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่าเทรดเดอร์จำเป็นต้องทำตามคำสั่งของหลินม่าย
หลินม่ายทำเงินได้มากมาย ทว่านายท่านฉุยกลับรู้สึกอึดอัดใจและต้องการจะฆ่าใครสักคน
เขานั่งอยู่ในสำนักงานอันหรูหราทว่าไร้รสนิยมของตัวเอง สายตาจับจ้องหุ้นฮ่องกงบนโต๊ะทำงานด้วยความเดือดดาล
เขารู้สึกเสียใจมาก หากเขาฟังคำของหลินเพ่ยในตอนนั้น และใช้เงินห้าแสนดอลล่าร์ฮ่องกงเพื่อซื้อมัน ในเวลานี้มันจะกลายเป็นเงินกว่าห้าล้านดอลล่าร์ฮ่องกงแล้ว
เขาทำงานในโลกใต้ดินมาหลายปี แต่กลับไม่มีทรัพย์สินมากนัก
คราวนี้เขาพลาดโอกาสที่ดีในการร่ำรวย เขาก็แทบจะอยากแทงตัวเองให้ตายเสีย
หลินเพ่ยกำลังนั่งพ่นควันบุหรี่อวลอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ภายในสำนักงาน พลางเหล่ตามองนายท่านฉุย
จนกระทั่งนายท่านฉุยกล่าวโทษว่าเป็นตัวหล่อนที่ควบคุมเรื่องนี้ไม่ได้ หล่อนจึงลุกขึ้นเดินเข้าหาเขาด้วยใบหน้าเย้ายวน
เมื่อนั่งลงในอ้อมแขน หล่อนก็พ่นควันใส่หน้าของเขาแผ่วเบา แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน “พี่ฉุยไม่ต้องเสียใจไปหรอกนะคะ ถึงจะพลาดคราวนี้ แต่เราก็ยังมีโอกาสคราวหน้า”
หัวหน้าฉุยหันมองหล่อนด้วยสีหน้าประหลาดใจ “จริงเหรอ?”
หลินเพ่ยหัวเราะ “ทำไมพี่ฉุยไม่เชื่อฉันล่ะคะ? ฉันเข้าใจเรื่องหุ้นดียิ่งกว่าใคร”
นายท่านฉุยออกแรงบีบส่วนบอบบางของหล่อนอย่างแรง ความเจ็บนั้นทำให้หล่อนแทบจะร้องไห้ออกมา
“งั้นพูดมาว่าฉันควรจะซื้อหุ้นตัวไหน?”
หลินเพ่ยเริ่มบอกกล่าวชื่อของหุ้นทีละตัว
นายท่านฉุยหยิกหล่อนอีกครั้งก่อนจะพูดว่า “ต้องซื้อตอนไหน? แล้วเมื่อไหร่มันจะพุ่งทะยานขึ้น? อย่าคิดตุกติกกับฉัน ถ้ายังไม่อยากตาย!”
หลินเพ่ยกลับไม่เกรงกลัวคำขู่นั้น “คุณต้องสัญญาว่าจะช่วยฉันกำจัดนังแพศยาหลินม่าย และทำส่วนแบ่ง 10% จากเงินที่คุณได้รับจากการขายหุ้น แล้วฉันจะบอกค่ะ”
ตอนนี้หล่อนเปลี่ยนใจแล้ว
ไม่เพียงแต่ต้องการใช้มือของนายท่านฉุยเพื่อสังหารหลินม่ายเท่านั้น แต่หล่อนยังต้องการได้รับโชคลาภก่อนจะหนีด้วย
หล่อนได้เกิดใหม่อีกครั้ง ทำไมต้องอยากใส่ชุดแต่งงานกับคนนี้?
เขาไม่สามารถใช้งานหล่อนฟรี ๆ ได้ เขามีสิทธิ์เป็นเพียงเครื่องมือของหล่อนเท่านั้น
เจตนาโหดเหี้ยมของนายท่านฉุยเลือนหายไป
ถ้านังหญิงแพศยาในอ้อมแขนของเขาคนนี้สามารถทำให้เขาร่ำรวยจากการซื้อขายหุ้นได้จริง การแบ่งให้หล่อนสักหน่อยมันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร
แต่ 10% นับว่ามากเกินไปเล็กน้อย
ถึงอย่างไรมันเป็นสิ่งที่หล่อนสามารถร้องขอได้ และเขาก็สามารถให้ได้เช่นกัน แต่ต้องรอดูว่าหล่อนจะมีชีวิตอยู่ถึงวันนั้นหรือไม่
นายท่านฉุยลอบเย้ยหยันอยู่ในใจ ก่อนจะพยักหน้าตอบรับอย่างง่ายดาย
อีกทั้งยังกล่าวว่าตราบใดที่หลินเพ่ยทำให้เขาทำกำไรจากการซื้อขายหุ้นติดกันสามครั้ง เขาจะช่วยสังหารหลินม่ายให้หล่อนแน่นอน
และเหตุผลของนายท่านฉุยก็นับว่าสมเหตุผลแล้ว
เขาเคยตรวจสอบหลินม่ายมาก่อน อีกฝ่ายเป็นถึงสตรีตัวอย่างของประเทศในวันสตรีสากล เป็นผู้ประกอบการเอกชนที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศ และเป็นนักศึกษาสาวสวยคนหนึ่ง
แม้แต่นายท่านฉุยที่อยู่ในตำแหน่งนักศึกษามหาวิทยาลัยกว่างชิงก็ยังไม่กล้าที่จะยั่วยุเธอ
ทุกวันนี้ นักศึกษาของมหาวิทยาลัยชิงหวาและมหาวิทยาลัยปักกิ่งล้วนแต่เคร่งครัดในการรับนักศึกษา อีกทั้งตำรวจยังเข้ามาคุมเข้มเรื่องนี้อย่างหนักด้วย
ไม่ว่าเขาจะต้องพบเจอเรื่องเลวร้ายใด เขาก็ไม่คิดจะเอาไม้ไปตีแผ่นเหล็กนั่น
อีกทั้งหลินม่ายยังเป็นตัวตนที่เขาไม่สามารถเข้าไปสร้างความขุ่นเคืองได้
นี่จึงเป็นเหตุผลที่เขาพยายามต่อรองกับหลินเพ่ย และหลังจากที่เขาทำกำไรจากการซื้อขายหุ้นได้สามครั้งติดต่อกัน เขาจึงจะช่วยหล่อนกำจัดหลินม่าย
สิ่งที่เขาพูดออกไปเป็นการถ่วงเวลาเท่านั้น
หากเขาทำเงินได้มากมายถึงสามครั้งติดต่อกัน เวลานั้นเขาก็ร่ำรวยแล้ว
แม้จะต้องผิดสัญญา แต่เขาก็จะไม่ช่วยหลินเพ่ยจัดการกับหลินม่ายแน่นอน
ถึงเวลานั้นหลินเพ่ยจะไม่บอกกล่าวเขาอีกว่าควรซื้อหุ้นตัวใด วันนั้นเขาก็ไม่สนใจสิ่งใดแล้ว
และเมื่อวันนั้นมาถึง หลินเพ่ยจะไม่ใช่คนที่เขาต้องการอีกต่อไป
ถ้าหล่อนไม่บอกเขาว่าหุ้นตัวใดจะพุ่งทะยาน เขาคงจะต้องบีบบังคับหล่อนอย่างถึงที่สุด
ต้องลองดูกันสักครั้งว่าหล่อนจะปากแข็งกว่าเล่ห์เหลี่ยมของเขาหรือไม่
เมื่อเห็นว่านายท่านฉุยยืนกรานที่จะให้หล่อนรับประกันกำไรสามครั้งติดต่อกันก่อนที่จะช่วยกำจัดหลินม่าย หลินเพ่ยก็รู้สึกไม่พอใจมาก
แต่เวลานี้นายท่านฉุยโหดเหี้ยมเกินไป เกรงว่าหากหล่อนไม่เห็นด้วย จะทำให้เขาโกรธขึ้นมาอีกครั้ง
อยากกำจัดหลินม่าย แต่ต้องเจ็บตัว นั่นไม่ใช่ผลลัพธ์ที่หล่อนต้องการ
เมื่อเป็นอย่างนี้หล่อนจึงต้องยินยอมไอ้สารเลวคนนี้เสียก่อน ให้เขาได้ลิ้มรสความหวานให้ฉ่ำชื่น จากนั้นค่อยให้เขายื่นมือช่วยเหลือจัดการกับหลินม่าย
ไม่อย่างนั้นหล่อนก็จะเลิกบอกเขาว่าควรซื้อหุ้นตัวไหน
ทั้งสองคนมีแรงจูงใจซ่อนเร้นที่มากล้น อีกทั้งพวกเขายังลอบวางแผนต่อสู้กันเองอย่างลับ ๆ
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
คิดจะเล่นกับไฟ ก็ระวังไฟเผาตัวเองแล้วกันนะยัยเพ่ย
ไหหม่า(海馬)