แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 944 คำพูดของเพื่อน
ตอนที่ 944 คำพูดของเพื่อน
เมื่อคืนโต้วโต้วถูกหลินม่ายตำหนิ หล่อนจึงค่อนข้างเสียใจมาก
ในเช้าวันรุ่งขึ้น หล่อนมองภาพวาดครอบครัวสามคนที่ตนวาดไว้เมื่อคืนนี้ และมองด้วยแววตาซับซ้อนสักครู่
ก่อนจะเดินตรงเข้าไปหยิบภาพวาดของตัวเองขึ้นมาแล้วฉีกมันออกเป็นชิ้น ๆ
หล่อนรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจทั้งน้ำตา ยามคิดว่าเด็กที่เล่นสเก็ตพร้อมจับมือพ่อกับแม่ในภาพนี้ไม่มีวันเป็นหล่อน
หลังจากมื้อเช้า โต้วโต้วก็กลับไปหยิบกระเป๋านักเรียนที่ห้องเพื่อไปโรงเรียน
น้าถูเข้ามาทำความสะอาดห้องขณะที่หล่อนกำลังจะออกไป
เมื่อเห็นภาพวาดถูกฉีกขาดกองอยู่บนพื้น น้าถูกจึงถามขึ้น “ภาพนี้น่ารักมาก ทำไมถึงฉีกมันทิ้งล่ะจ้ะ?”
โต้วโต้วกล่าวคำเบา “หนูไม่ได้ฉีกมันค่ะ น้องชายหนูทำต่างหาก”
ซึ่งน้าถูก็เชื่อว่าเป็นความจริง
ในตอนเช้า ขณะน้าถูทำอาหารให้เสี่ยวมู่ตงก่อนจะมอบให้น้าทัง หล่อนก็หันมาตีก้นของเสี่ยวมู่ตงครั้งหนึ่งก่อนจะถามว่า “ทำไมถึงฉีกภาพวาดที่พี่สาววาดล่ะเด็กน้อย?”
เวลานี้เสี่ยวมู่ตงหันมองน้าถูด้วยความไม่เข้าใจ
น้าถูนึกว่าอีกฝ่ายคงจะลืมเรื่องแย่ ๆ ที่ตัวเองทำไว้แล้ว จึงตีก้นเขาอีกสองครั้งแล้วพูดเน้นย้ำ “อย่าทำอีกนะ” ก่อนจะเดินไปจัดการธุระของตัวเอง
โต้วโต้วเข้าเรียนในโรงเรียนประถม ซึ่งขณะนี้เป็นเวลาพักระหว่างคาบเรียน
หล่อนหยิบลูกขนไก่ออกมาพร้อมกล่าวกับเพื่อนที่ค่อนข้างสนิทสนม “ไปเล่นลูกขนไก่ที่สนามกันเถอะ”
แววตาของเด็กหญิงเหล่านั้นเปล่งประกายทันที “หลินเจียโต้ว ลูกขนไก่ของเธอสวยมากเลย ซื้อมาใช่ไหม”
แม้ว่าจะมีการปฏิรูปและฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง แต่กระเป๋าเงินของคนทั่วไปยังไม่ได้หนามากนัก
ไม่ว่าจะเป็นลูกขนไก่หรือสิ่งใดเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกเขามักจะทำเองทั้งหมด
เพราะพ่อแม่ไม่ยินดีที่จะจ่ายให้
การที่โต้วโต้วสามารถซื้อลูกขนไก่นี้ได้ มันทำให้นักเรียนคนอื่นอิจฉาทันที
เวลานี้โต้วโต้วพยักหน้าอย่างภูมิใจ
เด็กหญิงคนหนึ่งเดินเข้ามามองดูลูกขนไก่สีสันสดใสในมือของโต้วโต้วด้วยความเย้ยหยัน ก่อนจะพูดจาถากถางว่า “ก็แค่ลูกขนไก่ราคาไม่เท่าไหร่ คุ้มแล้วล่ะกับคนอย่างเธอ!”
ก่อนจะยื่นเท้าข้างหนึ่งออกไปอวดโต้วโต้ว “นี่รองเท้าผ้าใบไนกี้จากอเมริกา ราคาคู่ละหลายร้อยหยวน ครอบครัวของเธอไม่ได้รวยเหรอ? ทำไมไม่บอกให้แม่ซื้อให้ล่ะ”
เด็กหญิงคนนี้ชื่อหวังเหมยเหมย และพ่อของหล่อนก็เป็นคนธรรมดาทั่วไป
แต่หล่อนมีนิสัยชอบเปรียบเทียบข้าวของกับเด็กคนอื่น ๆ
เห็นอีกฝ่ายใส่เสื้อผ้าราคาร้อยหยวน โต้วโต้วลอบหัวเราะเบา “แค่ร้อยหยวนเองเหรอ เสื้อขนเป็ดของฉันและของในตัวฉันทั้งหมดนี้รวมแล้วก็สองร้อยหยวนได้”
ทันทีที่หวังเหม่ยเหม่ยและโต้วโต้วโต้เถียงกัน ทั้งสองก็ไม่เคยลงรอยกันนับตั้งแต่วันนั้น
แน่นอนว่าปกติแล้วโต้วโต้วไม่สนใจหล่อน
แม้อาหารและเสื้อผ้าของหล่อนจะดีกว่าทุกอย่าง แต่หลินม่ายก็ยังมีบางอย่างที่ซื้อของถูกบ้าง ไม่ใช่แพงไปเสียหมด
ดังนั้นของที่หล่อนมีจึงไม่ได้แพงกว่าของหวังเหม่ยเหม่ยไปเสียทุกชิ้น แต่มีเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้นที่เอาชนะอีกฝ่ายได้
เพราะอย่างนี้หล่อนจึงไม่ได้เปรียบเทียบตัวเองกับหวังเหม่ยเหม่ย
และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โต้วโต้วก็สวมจี้ทองคำไปโรงเรียนโดยตั้งใจโอ้อวดและหยามหวังเหม่ยเหม่ย
วันนี้หวังเหม่ยเหม่ยสวมรองเท้าไนกี้รุ่นใหม่ ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่หล่อนต้องเอามาโอ้อวดใส่โต้วโต้ว
โต้วโต้วเม้มปากแน่นและไม่ตอบโต้
หวังเหม่ยเหม่ยรู้สึกภูมิใจมาก “แล้วจี้ทองคำไปไหนแล้วล่ะ ทำไมถึงไม่ใส่มา? แม่ของเธอจะซื้อจี้ทองคำหนักขนาดนั้นให้กับเธอได้ยังไง? รู้ไหมว่ามันราคาเท่าไหร่ แม่ของฉันยังไม่กล้าจะซื้อให้เลย ฉันเดาว่าเธอคงจะขโมยแม่มาแน่ ๆ เพราะอย่างนั้นถึงใส่ได้แค่ไม่กี่วัน!”
โต้วโต้วพยายามโต้แย้งอย่างหนักว่าทั้งหมดไม่ใช่ความจริง แต่หวังเหม่ยเหม่ยก็ยังกล่าวย้ำว่าหล่อนขโมยจี้ทองคำของแม่มาใส่
เวลานี้นักเรียนทั้งหมดเริ่มเชื่อคำพูดของหวังเหม่ยเหม่ยแล้ว
เรื่องนี้ทำให้โต้วโต้วอับอายมาก
หล่อนตะโกนเสียงดังทันที “แม่ของฉันเป็นเจ้าของห้องเสื้อจิ่นซิ่ว ทำไมหล่อนจะซื้อทองคำให้ฉันไม่ได้?”
หวังเหม่ยเหม่ยเย้ยหยัน “เพราะเธอไม่ใช่ลูกหล่อนจริง ๆ ไงล่ะ ต่อให้หล่อนจะรวยแค่ไหนก็ไม่ซื้อให้หรอก!”
ในที่สุดอาจารย์ใหญ่ก็ออกมายุติการทะเลาะวิวาทระหว่างเด็กทั้งสองคน
โต้วโต้วไม่ใช่เด็กแล้ว นับตั้งแต่เข้าโรงเรียนในฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา หลินม่ายไม่ได้จัดให้คนรับส่งหล่อนอีกต่อไป และหล่อนต้องไปกลับโรงเรียนเองทุกวัน
หลังจากเลิกเรียน โต้วโต้วเดินกลับบ้านพร้อมกับกู่จ้าวตี้เพื่อนสนิทของตน
เพียงแต่ว่าหล่อนไม่ได้โชคดีแบบโต้วโต้ว ตรงที่ถูกเลี้ยงดูในครอบครัวธรรมดา
เมื่อเห็นว่าโต้วโต้วไม่มีความสุข กู่จ้าวตี้อดไม่ได้ที่จะถามอย่างห่วงใย “ยังเสียใจที่ทะเลาะกับหวังเหม่ยเหม่ยเมื่อเช้าอยู่เหรอ?”
โต้วโต้วส่ายศีรษะ “ไม่หรอก”
“แล้วทำไมถึงยังไม่สบายใจล่ะ?”
โต้วโต้วเล่าเรื่องที่ตนเปรียบเทียบกับน้องชายและถูกหลินม่ายต่อว่าให้กู่จ้าวตี้ฟัง
กู่จ้าวตี้กล่าวปลอบโยน “โอ้! เราเป็นแค่ลูกบุญธรรมนะ จะไปแข่งกับสายเลือดของพวกเขาได้ยังไง? ไม่มีทางหรอก ก่อนที่น้องชายจะเกิด ฉันก็คือสมบัติภายในบ้านเหมือนกัน แต่หลังจากน้องชายเกิดมา พ่อแม่ไม่สนใจฉันเลย พวกเขามีแค่ของกินและเสื้อผ้ามอบให้เพียงเพื่อไม่ให้ฉันอดตายหรือหนาวตายเท่านั้น เธอยังโชคดีกว่าฉันมากที่ไม่ต้องทำงานหลังจากกลับบ้าน แต่ฉันต้องทำทุกอย่างหลังจากไปถึงบ้าน”
หล่อนตบบ่าของโต้วโต้ว “พ่อแม่บุญธรรมของพวกเราดีมากแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ไม่ได้ให้กำเนิดเรา อย่าไปคาดหวังนักเลยนะ”
เมื่อโต้วโต้วกลับมาถึงบ้าน เสี่ยวมู่ตงกำลังกินลูกอมอยู่ มุมปากของเขาเต็มไปด้วยน้ำลายขาวขุ่น
เวลานี้เขาพุ่งไปหาโต้วโต้ว “พี่สาว…ให้!”
“ไม่กิน!” โต้วโต้วกล่าวตอบอย่างไม่ใส่ใจ
“ถ้าเธอไม่กินก็แค่พูดดี ๆ ทำไมต้องตะคอกน้องด้วย!” เสี่ยวเหวินเองก็เพิ่งกลับมาจากโรงเรียน เมื่อเห็นกิริยาของโต้วโต้วชัดเจน จึงตำหนิหล่อนทันที
โต้วโต้วไม่ตอบกลับก่อนจะเดินกลับห้องด้วยสีหน้าบูดบึ้ง
เสี่ยวเหวินอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาก่อนจะกล่าวปลอบโยน “พี่สาวไม่ชอบ แต่พี่ชายชอบ งั้นให้พี่ชายกินนะ”
เด็กชายตัวน้อยได้ยินอย่างนั้นเขาตื่นเต้นยินดี ก่อนจะลอกเปลือกลูกอมแล้วยื่นใส่ปากของเสี่ยวเหวิน
เสี่ยวเหวินพยักหน้า “หวานมาก หอมด้วย อร่อยจังเลย”
เด็กชายตัวเล็กมีความสุขมาก
เสี่ยวเหวินอุ้มเสี่ยวมู่ตงกลับไปนั่งในห้องนั่งเล่น ก่อนจะตรงไปที่ห้องของโต้วโต้ว
เขากล่าวเสียงเข้ม “ฉันไม่สนว่าเธอจะเจออะไรจากที่โรงเรียนมา แต่จะมาตวาดใส่น้องชายแบบนี้ไม่ได้!”
โต้วโต้วอยากจะโต้เถียง แต่เมื่อเห็นใบหน้าเข้มงวดของเสี่ยวเหวินแล้ว หล่อนก็หวาดกลัวเกินกว่าจะพูดออกไป
เห็นโต้วโต้วไม่ตอบกลับ เสี่ยวเหวินคิดว่าอีกฝ่ายคงสำนึกผิดแล้ว จึงเดินออกไปโดยไม่พูดอะไรต่อ
โต้วโต้วนั่งทำการบ้านด้วยจิตใจเหม่อลอย เวลานี้รองเท้าไนกี้ของหวังเหม่ยเหม่ยปรากฏขึ้นในหัวของหล่อนอีกครั้ง
หล่อนทุบกระปุกออมสินจนแตกและกำลังจะนับเงินภายในนั้น เวลานี้เองเสี่ยวเหวินก็วิ่งเข้ามาถามอย่างกังวล “เกิดอะไรขึ้น?”
เขารู้ว่าโต้วโต้วมีสภาพจิตใจที่ค่อนข้างแย่ในช่วงนี้ เมื่อมีเสียงดังขึ้นจากห้องของหล่อน เขาจึงรีบวิ่งมาดูเพราะกลัวจะเกิดอันตราย
เขาถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเพียงแค่ทุบกระปุกออมสิน
เขาจึงถามว่า “แล้วทุบกระปุกออมสินทำไม?”
โต้วโต้วหลบตาก่อนจะโกหก “ฉันไม่ได้ทุบ แต่แขนเสื้อของฉันปัดไปโดนกระปุกออมสินจนร่วงหล่นพื้นแล้วแตกแบบนี้ต่างหาก”
เวลานี้เสี่ยวเหวินจึงเดินออกไป โต้วโต้วเริ่มนับเงินในกระปุกออมสินและเห็นว่ามันมีเพียงร้อยหยวนนิด ๆ เท่านั้น ซึ่งยังไม่เพียงพอที่จะซื้อรองเท้าไนกี้ หล่อนจึงต้องล้มเลิกแผนการซื้อรองเท้าไนกี้ไปก่อนชั่วคราว
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
อาการน่าเป็นห่วงแล้วนะโต้วโต้ว หนูจะไม่เป็นไป๋ซวงสองใช่ไหมลูก ม่ายจื่อกับพี่หมอมาดูอาการหน่อยค่ะ
ไหหม่า(海馬)