แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 946 โต้วโต้วโกหก
ตอนที่ 946 โต้วโต้วโกหก
หลินม่ายเปิดมันออกและเห็นว่าคุณครูเขียนคำชมมาให้ทั้งหมด
เธอเซ็นเอกสารด้วยรอยยิ้มก่อนจะถามว่า “อย่างนั้นบอกมาสิว่าอยากได้อะไร?”
เสี่ยวเหวินนึกคิดก่อนจะตอบกลับว่า “ผมไม่ได้ขาดอะไร ไม่ได้อยากได้อะไรครับ”
หลินม่ายเลยพูดต่อว่า “อย่างนั้นฉันจะซื้อจักรยานให้นะ”
เสี่ยวเหวินตอบรับอย่างมีความสุข
ถ้าเขามีจักรยาน เขาจะประหยัดเวลาการเดินทางไปกลับจากโรงเรียนได้มากขึ้น และจะมีเวลาอ่านหนังสือมากขึ้นด้วย
หลินม่ายคืนสมุดพกให้กับเสี่ยวเหวิน แล้วหันมาพูดกับโต้วโต้วว่า “แล้วสมุดพกของหนูล่ะ”
โต้วโต้วไม่ต้องการให้หลินม่ายเห็นมัน เพราะฉะนั้นหล่อนจึงขอให้คนอื่นเซ็นมันไปแล้ว
และถ้าหลินม่ายอ่านความเห็นจากครู เธอก็คงจะโกรธจัดยิ่งกว่าเดิม
อีกทั้งบนนั้นยังมีลายเซ็นของคุณปู่กู่ด้วย นี่อาจจะเป็นการราดน้ำมันลงบนกองไฟ
หล่อนแสร้งทำเป็นค้นกระเป๋านักเรียนอยู่นาน แต่ก็หาไม่พบ
สักครู่น้าถูก็เรียกทุกคนมารับประทานมื้อเที่ยง
หลินม่ายปลอบใจโต้วโต้ว “ถ้ามันหายก็ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวลูกค่อยมาบอกแล้วกันว่าคุณครูเขียนอะไรมาบ้าง”
โต้วโต้วถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะเดินไปช่วยเสี่ยวเหวินและน้าถูยกอาหารขึ้นโต๊ะ
ในมื้ออาหารเย็น โต้วโต้วบอกทุกคนเกี่ยวกับสิ่งที่คุณครูเขียนถึงหล่อน
หล่อนกล่าวออกไปอย่างภาคภูมิใจว่า “คุณครูบอกว่าหนูเก่งขึ้นมาก นอกจากการเรียนแล้วอย่างอื่นก็ดีมากด้วย”
คุณปู่ฟาง คุณย่าฟางและคนอื่น ๆ ได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกยินดีด้วยทันที และบอกกล่าวกับโต้วโต้วว่าให้พยายามต่อไป
แน่นอนว่าหลินม่ายก็ยังกล่าวชมเชยหล่อนด้วย
หลังจากโต้วโต้วหลอกลวงทุกคนสำเร็จแล้ว หล่อนก็ลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก
บ่ายวันนี้หลินม่ายไม่มีสอบ เธอพาเด็กทั้งสามคนไปซื้อออร์แกนไฟฟ้า จักรยาน และเสื้อผ้า รองเท้า ถุงเท้าสำหรับปีใหม่ด้วย
แต่หลินม่ายเพียงคนเดียวกลัวว่าตนจะไม่สามารถดูแลลูกทั้งสามคนได้ เธอจึงพาน้าทังไปด้วยเพื่อช่วยดูแลเด็ก ๆ ทั้งสามคน
ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ขายทั้งออร์แกนไฟฟ้าและจักรยาน
หลินม่ายขับรถพาเด็กน้อยทั้งสามและน้าทังไปห้างสรรพสินค้าที่ใกล้ที่สุด
ทั้งกลุ่มไปซื้อออร์แกนไฟฟ้าก่อน
หลินม่ายเดินอยู่ด้านหน้าพร้อมกับเสี่ยวมู่ตงในอ้อมแขน ส่วนโต้วโต้วเดินตามหลังหลินม่ายก่อนจะพูดว่า “ทำไมแม่ไม่ให้น้าทังอุ้มน้องชายล่ะคะ”
หลินม่ายตอบว่า “มันไม่ต่างกันหรอกจ้ะ”
โต้วโต้วเม้มปากแน่นและไม่ได้พูดอะไรต่อ
หล่อนต้องการให้หลินม่ายยื่นเสี่ยวมู่ตงให้น้าทังอุ้ม เพื่อที่หล่อนจะได้จับมือกับหลินม่าย แต่กลายเป็นว่าหลินม่ายปฏิเสธ
โต้วโต้วพลันมองเสี่ยวมู่ตงอย่างนึกรังเกียจขึ้นมา
ถ้าไม่ใช่เพราะเขา หล่อนก็จะเป็นที่โปรดปรานของครอบครัวตลอดไป
ตอนนี้โต้วโต้วยิ่งอึดอัดใจทุกขณะ
หลินม่ายเลือกออร์แกนอย่างพิถีพิถัน เธอเลือกออร์แกนไฟฟ้ามูลค่ากว่าสองร้อยหยวนให้กับโต้วโต้ว
สำหรับเธอแล้ว หากอีกฝ่ายต้องการเรียนรู้มัน เธอควรจะซื้อสินค้าที่มีคุณภาพจะได้ส่งเสริมการเรียนรู้ให้ดียิ่งขึ้น
เวลานี้โต้วโต้วมีความสุขมาก เธอพาหลินม่ายไปจ่ายเงินที่แคชเชียร์
จากนั้นจึงหันไปพูดกับน้าทัง “น้าทัง มาเอาน้องชายหนูไปหน่อยค่ะ แม่จะได้หยิบออร์แกนไฟฟ้าได้”
เสี่ยวเหวินพูดขึ้นว่า “เดี๋ยวฉันถือให้เอง”
โต้วโต้วรีบหยุดเขาทันที “อ้าว แล้วถ้าพี่ทำมันหล่นล่ะ ของนี่ราคาสองร้อยหยวนเชียวนะ แม่ควรจะถือมันสิ”
หลินม่ายชำเลืองมองเด็กหญิงก่อนจะพูดกับน้าทังว่า “ช่วยหยิบออร์แกนนี่ไปทีนะคะ”
จากนั้นเธอเดินไปซื้อเสื้อผ้าปีใหม่ให้กับเด็กทั้งสามคน ก่อนจะไปซื้อจักรยาน
หลินม่ายให้เสี่ยวเหวินเลือกจักรยานที่เขาชอบ
เสี่ยวเหวินเลือกจักรยานคร่ำครึโบราณมาหนึ่งคัน
ตอนนี้มีจักรยานใหม่วางขาย และจักรยานเก่าเป็นของค้างสต็อก มีคนซื้อน้อยมากและดูไม่สวยงาม ราคาของมันถูกกว่าหลายสิบหยวนเลยทีเดียว
หลินม่ายรู้ทันทีว่าเสี่ยวเหวินต้องการประหยัด เธอเลยพูดขึ้นว่า “ซื้อจักรยานใหม่ดีกว่า จักรยานเก่าดูไม่ดีแล้ว”
เสี่ยวเหวินตบเบาะจักรยานที่เขาเลือก “ถึงมันจะดูคร่ำคร่าไปหน่อย แต่ก็ยังดีอยู่นะครับ ขี่ได้หลายปีเลยล่ะ”
หลินม่ายรู้สึกว่าเขามีเหตุผลของตัวเอง จึงยินยอมฟังคำเขา
มีเพียงหลินม่ายที่อุ้มเสี่ยวมู่ตงและไม่ได้ถืออะไร ส่วนคนอื่น ๆ เต็มไปด้วยถุงน้อยใหญ่ในมือ แม้แต่มือเล็ก ๆ ของโต้วโต้วก็เต็มไปด้วยถุงมากมายเช่นกัน
โต้วโต้วรู้สึกเสียใจมาก ก่อนหน้านี้เวลาไปซื้ออะไรหลินม่ายไม่เคยขอให้เธอถืออะไรเลย เพราะกลัวว่าหล่อนจะเหนื่อยด้วยอาการจากโรคหัวใจ
แต่วันนี้แม้แต่อาการเจ็บป่วยของหล่อนยังถูกเมินเฉย และยังถูกใช้ให้ถือของมากมายด้วย
แม่คงไม่รักหล่อนอีกแล้ว
ยิ่งโต้วโต้วนึกเรื่องนี้มากเท่าใด ใบหน้าของหล่อนยิ่งโศกเศร้ามากเท่านั้น น้ำตาแทบจะไหลออกมาอย่างช่วยไม่ได้
ก่อนหน้านี้หลินม่ายไม่ได้ให้โต้วโต้วถือเพราะไม่ได้ซื้อของเยอะเช่นวันนี้ และมันก็เป็นของ ๆ เธอทั้งสิ้น
วันนี้เธอซื้อของเยอะมาก จึงให้ทุกคนถือของของตัวเอง
และสิ่งที่ขอให้ช่วยถือคือเสื้อผ้า รองเท้า ถุงเท้าสำหรับปีใหม่ อีกอย่างมันก็ไม่ใช่การถือแล้วเดินทางไกล เพียงแค่เดินออกจากห้างก็จะได้เอาใส่ท้ายรถแล้ว
แต่เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้กลับสร้างความเจ็บปวดให้กับโต้วโต้วโดยที่หลินม่ายไม่รู้ตัว
เสี่ยวเหวินขี่จักรยานกลับบ้าน ส่วนหลินม่ายขับรถกลับบ้านพร้อมกับโต้วโต้ว เสี่ยวมู่ตง และน้าทัง
อย่างไรก็ตาม รถสี่ล้อเร็วกว่าสองล้อ หลินม่ายและคนอื่น ๆ มาถึงบ้านก่อน
ระหว่างมื้อเย็น คุณย่าฟางจดจำบางอย่างได้ก่อนจะหันมาพูดกับหลินม่ายและสามีของเธอว่า “ครูสอนพิเศษโต้วโต้วโทรมาตอนบ่าย บอกว่าเขามาสอนพิเศษให้กับโต้วโต้วในวันหยุดฤดูหนาวนี้ไม่ได้ เพราะเขาต้องกลับบ้านก่อน”
หลินม่ายเลยพูดขึ้นว่า “อย่างนั้นก็จ้างครูคนอื่นมาสอนก็ได้ค่ะ การบ้านของโต้วโต้วจะได้เสร็จด้วย”
เสี่ยวเหวินเงยหน้าขึ้นจากชามข้าวก่อนจะพูดว่า “ให้ผมสอนโต้วโต้วก็ได้นะครับ ช่วงวันหยุดผมว่าง”
หลินม่ายครุ่นคิดสักครู่ก่อนจะตอบตกลง “ถ้าเธอสอนการบ้านให้โต้วโต้ว อย่างนั้นฉันจะให้เงินชั่วโมงละ 1 หยวน สอนโต้วโต้ววันละ 2 ชั่วโมง ก็จะเป็น 2 หยวนต่อวัน”
เสี่ยวเหวินยกยิ้ม “พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน คุณป้าไม่ควรจ่าย!”
หลินม่ายตอบกลับจริงจัง “นี่คือการทำงานของเธอ เธอควรได้รับมันแล้ว”
หลังจากรับประทานมื้อเย็น เสี่ยวเหวินเขียนตารางวันหยุดในช่วงฤดูหนาวของโต้วโต้ว
ตื่นนอนแปดโมง รับประทานมื้อเช้า และเริ่มทำการบ้านตอนเก้าโมงเช้า
ในตอนบ่ายเขาจะสอนการบ้านให้หล่อนสองสามชั่วโมง และเวลาที่เหลือสำหรับทำกิจกรรมอื่น
โต้วโต้วพร่ำบ่น “วันหยุดทั้งทีแต่ฉันยังต้องตื่นเช้า!”
เสี่ยวเหวินตอบกลับ “แปดโมงมันก็ไม่เช้ามากหรอก พี่ตื่นตั้งแต่หกโมงแล้ว”
โต้วโต้วไม่รู้จะตอบโต้อย่างไร ก่อนจะพูดขึ้นว่า “แล้วทำไมไม่จัดตารางสำหรับการเรียนออร์แกนของหนูด้วยล่ะ?”
เสี่ยวเหวินตบศีรษะเบา ๆ “อ่า ฉันลืม งั้นฉันจะช่วยเธอทำการบ้านทุกวันหลังอาหารเย็นสองชั่วโมง”
เช้าวันต่อมา เสี่ยวเหวินตื่นหกโมงเช้าตามแผนการของเขา
หลังจากอาบน้ำแล้ว เขาออกไปวิ่งสองสามรอบก่อนจะกลับมาที่ห้องเพื่ออ่านหนังสือ
หลินม่ายมีความสุขมากที่เห็นว่าเขาค่อนข้างมีระเบียบวินัย
หลังมื้อกลางวัน เดิมทีหลินม่ายต้องการพาโต้วโต้วไปสมัครเรียนออร์แกนไฟฟ้า
แต่เสี่ยวเหวินรู้ว่าเธอต้องไปสอบในช่วงบ่าย เขาจึงอาสาจะพาโต้วโต้วไปเอง
หลินม่ายเห็นด้วยกับข้อเสนอของเขา เวลานี้เธอจึงพยักหน้าเห็นด้วย
เสี่ยวเหวินขี่จักรยานโดยโต้วโต้วนั่งเบาะหลังพร้อมถือออร์แกนไฟฟ้าในมือ ทั้งสองคนฝ่าลมหนาวไปพร้อมกัน
ครูสอนออร์แกนไฟฟ้ามีหน้าที่เพียงสอนเท่านั้น พวกเขาจะไม่จัดหาอุปกรณ์ให้ ดังนั้นโต้วโต้วจึงต้องนำออร์แกนมาเอง
เมื่อมาถึงทางเข้าเรียนสถาบันสอนพิเศษ มือของเสี่ยวเหวินแดงก่ำ และแสบร้อนใบหน้าเพราะปะทะกับลมหนาวมาตลอดทาง
ทันทีที่เขาลงจากจักรยาน เขาเป่าลมร้อนที่มือเพื่อให้มือกลับมาอุ่นอีกครั้ง
โต้วโต้วยัดออร์แกนไฟฟ้าใส่อ้อมแขนของเขาแล้วสอดมือเข้าแจ็กเก็ตนวม “ฉันจะแข็งตายอยู่แล้ว หนาวมาก!”
เสี่ยวเหวินสัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นทั่วร่างกายจากเครื่องออร์แกน มันยิ่งทำให้เขาหนาวมากขึ้น
แต่เมื่อคิดว่าโต้วโต้วเป็นโรคหัวใจ เขาจึงยอมถือให้หล่อน
หลังจากโต้วโต้วเป่ามือให้อุ่นไม่กี่นาที สองพี่น้องเดินเข้าประตูสถาบันฝึกสอนด้วยกัน
ครูฝึกสอนค่อนข้างแปลกใจว่าทำไมเป็นเด็กที่พาเด็กมาสมัคร
แต่ตราบใดที่พวกเขามีเงินจ่ายค่าลงทะเบียน พวกเขาก็จะยินยอมให้ลงทะเบียนเรียน
หลังจากลงทะเบียนแล้ว เสี่ยวเหวินจะพูดกับโต้วโต้วสักสองสามคำ แต่ว่าโต้วโต้วเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งเดินเข้าประตูมา หล่อนก็พูดขึ้นว่า “หวังเหม่ยเหม่ย แม่ฉันซื้อออร์แกนไฟฟ้ากว่าสองร้อยหยวนให้ฉัน แม่บอกว่าต้องซื้อออร์แกนไฟฟ้าในราคาสองร้อยหยวนขึ้นไป ไม่อย่างนั้นมันก็ไม่ต่างจากขยะ”
เสี่ยวเหวินหันมาดุหล่อนทันที “พูดจาไร้สาระอะไร คุณป้าไม่เคยพูดว่าออร์แกนราคาต่ำกว่าสองร้อยหยวนเป็นขยะนะ”
หวังเหม่ยเหม่ยหัวเราะก่อนจะปรบมือ “คนโกหกโดนแฉซะแล้ว!”
โต้วโต้วอับอายจนใบหน้าแดงก่ำ ก่อนจะลอบบ่นเสี่ยวเหวินว่าช่างไม่ไว้หน้าตนเสียเลย
เห็นว่าโต้วโต้วนำออร์แกนมาด้วย ครูจึงให้หล่อนเริ่มเรียนวันนี้เลย
โต้วโต้วเรียนออร์แกนไฟฟ้าแค่ชั่วโมงเดียว เสี่ยวเหวินจึงยังไม่กลับบ้าน เขานั่งรอเงียบ ๆ ที่มุมห้อง และเมื่อโต้วโต้วเรียนเสร็จแล้ว เขาก็พาหล่อนขี่จักรยานกลับบ้านด้วยกัน
เวลานี้เขาคิดว่าถ้าพรุ่งนี้มาส่งโต้วโต้วเรียนออร์แกนไฟฟ้าอีก เขาจะเอาหนังสือเรียนมาอ่านด้วย
โต้วโต้วมาเรียนออร์แกนไฟฟ้า ส่วนตัวเขาก็อ่านหนังสือ มันจะไม่เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์
เมื่อกลับมาถึงบ้าน เสี่ยวเหวินพาโต้วโต้วกลับไปที่ห้องของเขาก่อนจะเริ่มตักเตือนหล่อน “คุณป้าไม่ได้สอนพวกเราอยู่เสมอเหรอว่าห้ามเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น? แล้วทำไมเธอยังทำ?”
โต้วโต้วโต้กลับอย่างขุ่นเคือง “นั่นคือเพื่อนร่วมชั้นของหนู ความจริงหนูไม่คิดที่จะเปรียบเทียบกับหล่อนหรอก แต่หล่อนหัวเราะเยาะฉันตลอด และวันนี้เป็นวันแรกที่หนูได้พูดบ้าง”
เวลานี้ใบหน้าของเสี่ยวเหวินอ่อนลงเล็กน้อย “ถ้ามีคราวหน้า เธอก็แค่ปล่อยมันไป สุดท้ายแล้วเมื่อพวกเขาเปรียบเทียบกับเธอ แล้วเธอไม่สนใจ ในอนาคตพวกเขาก็จะหยุดปากไปเอง”
โต้วโต้วพึมพำคล้ายกับเชื่อฟัง
คุณปู่ฟางเรียกเสี่ยวเหวินจากนอกประตูเพื่อให้ออกไปช่วยเก็บส้ม
เสี่ยวเหวินหันมาถามโต้วโต้วว่า “เมื่อเช้าเธอทำการบ้านวันหยุดฤดูหนาวตามตารางหรือยัง? ถ้ายังไม่ได้ทำ ก็รีบทำเข้า เดี๋ยวหลังจากเก็บส้มเสร็จจะกลับมาตรวจให้”
หลังจากเสี่ยวเหวินออกไปแล้ว โต้วโต้วกำลังจะกลับไปที่ห้องของตัวเองเพื่อทำการบ้านวันหยุดฤดูหนาว แต่เสี่ยวมู่ตงเดินเข้ามาเสียก่อน
เขาเขย่งปลายเท้าเล็กน้อยก่อนจะวางกบเหลาดินสอรูปสิงโตลงบนโต๊ะ
พี่ชายเสี่ยวเหวินเคยพูดว่าถ้าเขาเบื่อแล้วให้เอามาคืน
ตอนนี้เสี่ยวมู่ตงเบื่อแล้ว เขาจึงนำมันมาคืนให้กับเสี่ยวเหวิน
เวลานี้ น้าทังเรียกเขาออกไปดื่มนม เสี่ยวมู่ตงเดินออกไปด้วยขาน้อย ๆ ทั้งสองข้าง
โต้วโต้วมองกบเหลาดินสอรูปสิงโตตรงหน้าก่อนจะนึกถึงถ้อยคำที่เสี่ยวเหวินตำหนิหล่อน
หล่อนหยิบกบเหลาดินสอแล้วขว้างลงพื้นอย่างแรง
ถึงกบเหลาดินสอนี้จะทำจากพลาสติก แต่หลังจากตกพื้นแล้วมันก็เกิดรอยแตกได้ไม่ยาก
โต้วโต้วไม่สนใจก่อนจะเดินออกไปทันที
หลังจากเสี่ยวเหวินกลับมาจากช่วยปู่ฟางเก็บส้มแล้ว เขาเห็นกบเหลาดินสอแตกอยู่บนพื้น
เวลานี้เขาคิดว่าเป็นตงตงที่เอากบเหลามาคืน แต่คงจะวางไว้บนโต๊ะได้ไม่ดี มันจึงร่วงหล่นลงมาแตกร้าว เขาจึงไม่ได้สนใจนัก
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เฮ้ย นี่ไป๋ซวงสองหรือเปล่าเนี่ย ทั้งคิดเล็กคิดน้อย ทั้งขี้อิจฉา
ไหหม่า(海馬)