แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 955 อู๋เสี่ยวเจี๋ยนรับผิดทุกอย่าง
ตอนที่ 955 อู๋เสี่ยวเจี๋ยนรับผิดทุกอย่าง
ในคืนวันส่งท้ายปีเก่า หลินเพ่ยและอู๋เสี่ยวเจี๋ยนถูกพาตัวไปยังสถานีตำรวจ
การค้ามนุษย์ไม่ใช่เรื่องเล็ก และมีถึงสี่คนที่เกี่ยวข้องกับคดีค้ามนุษย์คราวนี้ ตำรวจให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างยิ่ง พวกเขาเริ่มสอบปากคำในทันทีเมื่อไปถึงโรงพัก
แน่นอนว่าผู้โหดเหี้ยมผิดมนุษย์อย่างอู๋เสี่ยวเจี๋ยนและหลินเพ่ยปฏิเสธที่จะรับยอมว่าพวกเขาค้ามนุษย์
แต่วันต่อมา หลินเพ่ยก็ปล่อยมือจากอู๋เสี่ยวเจี๋ยนพร้อมบอกว่าเขาเป็นคนทำเรื่องนี้เพียงคนเดียว หล่อนไม่ได้สมรู้ร่วมคิดด้วย
หลินเพ่ยคิดอย่างนี้เพราะตระหนักได้ถึงบางอย่าง
เพราะมีคนถ่ายรูปหล่อนและอู๋เสี่ยวเจี๋ยนว่าขายพี่น้องอู๋เสี่ยวเถาให้กับขบวนการค้ามนุษย์ได้ อีกไม่นานตำรวจก็จะพบความจริง
มันจะดีกว่าหากต้องการลดหย่อนโทษด้วยการสารภาพ แล้วโยนความผิดทั้งหมดให้กับอู๋เสี่ยวเจี๋ยน เพื่อที่หล่อนจะได้รอดพ้นจากข้อกล่าวหาทั้งหมด
เมื่อตำรวจบอกกับอู๋เสี่ยวเจี๋ยนว่าหลินเพ่ยสารภาพผิดทั้งหมดว่าเขาคือผู้จัดการขายพี่น้องอู๋เสี่ยวเถาแต่เพียงผู้เดียว เขาไม่เพียงแต่ไม่ปฏิเสธ แต่ยังพยักหน้ารับอย่างง่ายดาย
ท่าทางของอู๋เสี่ยวเจี๋ยนอยู่เหนือความคาดหมายของตำรวจ
พวกเขาคิดว่าคู่รักหมาป่าตาขาวตัวนี้จะกัดกัน และพยายามโยนความผิดใส่กันและกันเสียอีก
แต่กลายเป็นอู๋เสี่ยวเจี๋ยนที่ยอมรับทุกข้อกล่าวหาทั้งหมด
แต่ในภาพถ่ายที่เหยาชุ่ยฮวาส่งมอบให้ตำรวจ หลินเพ่ยเองก็เป็นหนึ่งในกลุ่มนั้นเช่นกัน
เห็นชัดว่าหล่อนก็เกี่ยวข้องกับคดีค้ามนุษย์ที่น้องๆ ของอู๋เสี่ยวเจี๋ยนถูกขายออกไป
ตำรวจใช้สิ่งนี้เป็นหลักฐานในการสอบปากคำอู๋เสี่ยวเจี๋ยนและหลินเพ่ยต่อ
แต่ทั้งสองคล้ายกับมีกระแสจิตพูดคุยกันได้
คนหนึ่งกล่าวออกมาว่า หล่อนถูกหลอกใช้เป็นเครื่องมือเท่านั้น ทุกสิ่งอย่างล้วนเป็นฝีมือของอู๋เสี่ยวเจี๋ยน
หล่อนไม่รู้เรื่องมาก่อน เมื่อไปถึงสถานที่เห็นกันก็พบว่าอู๋เสี่ยวเจี๋ยนกำลังจะขายน้องสาวของเขาแล้ว
หล่อนกลัวจนลนลาน และยังขอร้องให้อู๋เสี่ยวเจี๋ยนอย่าทำร้ายน้องๆ ของตน
อู๋เสี่ยวเจี๋ยนและน้อง ๆ หัวเราะออกมาและบอกว่าไม่มีการทำร้ายใครทั้งนั้น มันเป็นเพียงการแสร้งขายและรับเงิน หล่อนเพียงต้องให้ความร่วมมือเพื่อให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี
หลินเพ่ยกล่าวออกมาพร้อมน้ำตาไหลพรากอาบแก้ม หล่อนเชื่อคำพูดของอู๋เสี่ยวเจี๋ยนและน้องๆ จริง ๆ ว่ามันไม่มีอะไร
ดูเหมือนว่าน้องๆ ของอู๋เสี่ยวเจี๋ยนเองก็จะถูกหลอกลวงด้วยเช่นกัน พวกเขาคิดว่ามันเป็นเพียงการขายแบบปลอม ๆ แต่ไม่คิดว่าจะถูกขายจริง ๆ
และคำอธิบายอื่น ๆ ก็เหมือนกันกับหลินเพ่ยชัดเจน
แต่ใช่ว่าสุนัขชายหญิงทั้งสองนี้สามารถส่งกระแสจิตถึงกันได้
พวกเขาคิดถึงสถานการณ์เลวร้ายที่สุดมาก่อนแล้วว่าหากถูกจับจะตอบอย่างไร เช่นนี้จึงเตรียมแผนรับมือไว้ล่วงหน้าแล้ว
เสียเรือเพื่อรักษาขุน ตราบใดที่สามารถปกป้องหลินเพ่ยได้ อู๋เสี่ยวเจี๋ยนจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง
เพราะอู๋เสี่ยวเจี๋ยนยืนยันจะรับผิดชอบทุกอย่างด้วยตนเอง ตำรวจไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากควบคุมตัวเขาไว้ และปล่อยตัวหลินเพ่ยในวันที่เจ็ดของปีใหม่
นับตั้งแต่หลินม่ายหยุดซื้อพืชผลจากครอบครัวของหลินสง ชีวิตของหลินสงก็ไม่ได้ดีนัก
คนอื่น ๆ สร้างบ้านหลังเล็ก และในช่วงปีใหม่บนโต๊ะอาหารของพวกเขาเต็มไปด้วยปลาและเนื้อจำนวนมาก อีกทั้งยังมีเสื้อผ้าใหม่ใส่ด้วย
ครอบครัวของพวกเขาต้องอาศัยอยู่ในบ้านทรุดโทรม สวมใส่เสื้อผ้าเก่าของปีที่แล้ว มีเพียงลูกชายสองคนเท่านั้นที่ได้สวมเสื้อผ้าใหม่ จึงพอจะมีบรรยากาศของปีใหม่อยู่บ้าง
เติ้งซิ่วจือมีอารมณ์เกรี้ยวกราดจนเขวี้ยงหม้อ ชาม ไหในทุกวัน และยังดุด่าหลินสงราวกับเขาเป็นเด็กน้อย
หลินเพ่ยมาถึงที่นี่เห็นสถานการณ์ทั้งหมด เติ้งซิ่วจือถามว่าหล่อนเป็นใคร เพราะอีกฝ่ายมีผ้าโพกหัวปิดใบหน้ามิดชิดจนจำไม่ได้
หลินเพ่ยตอบกลับด้วยเสียงเล็กแหลมราวกับยุง
แน่นอนว่าเสียงมันเบาเกินกว่าที่เติ้งซิ่วจือจะได้ยิน
หลังจากถามอยู่สามครั้ง ในที่สุดก็ได้ยินคำว่า หลินเพ่ย ชัดเจนสักที
เติ้งซิ่วจือโกรธจัดกว่าเดิม ก่อนจะคว้าไม้กวาดแล้วทุบตีหล่อนอย่างโหดเหี้ยม
หลินเพ่ยหลบซ่อนอยู่นอกหมู่บ้านก่อนจะร้องไห้อย่างหนัก หล่อนเกลียดเติ้งซิ่วจือและสามีของหล่อนมาก
เวลานี้หล่อนมุ่งหน้าไปยังคลินิคในเมืองและขอให้แพทย์ช่วยจ่ายยาระบายให้สักหน่อยเพราะตนท้องผูก
กลางดึก หล่อนย่องกลับเข้ามาที่บ้านของหลินสง ก่อนจะโรยยาระบายใส่บนอาหารที่ยังไม่ได้ปรุงของพวกเขาแล้ววิ่งหนีหายไปในความมืด
เวลานี้หลินเพ่ยไม่มีที่ไปอีกแล้ว หล่อนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกลับไปที่บ้านตระกูลอู๋
วันถัดมาตอนเช้า หลินเพ่ยปรากฏตัวที่หมู่บ้านตระกูลอู๋ เวลานี้ภายในหมู่บ้านกลายเป็นปั่นป่วนทันที
ทุกคนมองหล่อนราวกับเป็นตัวโชคร้าย อีกทั้งหลายคนอดไม่ได้ที่จะลอบยกย่องอู๋เสี่ยวเจี๋ยนในใจ
อู๋เสี่ยวเจี๋ยนรักผู้หญิงคนนี้มากแค่ไหน ผู้หญิงที่มีรูปลักษณ์ราวกับภูตผี แต่เขาก็ยังแบกรับความผิดทั้งหมดแทนหล่อนได้
เหยาชุ่ยฮวาตื่นขึ้นในตอนเช้า เมื่อเปิดประตูออกจากบ้าน ก็เห็นว่าหลินเพ่ยยืนอยู่ตรงนั้น
คราวแรกเธอตกใจเล็กน้อย ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นเย็นชาอย่างรวดเร็ว “ทำไมเขาจึงปล่อยแกออกมา?”
หลินเพ่ยแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน “ฉัน… ฉันไม่ได้เป็นคนทำ ตำรวจสอบสวนฉันแล้วถึงปล่อยฉันออกมา”
ทันทีที่เหยาชุ่ยฮวาได้ยินอย่างนั้นแล้ว นางก็ตระหนักได้ทันทีว่าลูกชายคนโตรับผิดแทนหลินเพ่ยทั้งหมด มันยิ่งทำให้นางโกรธเกลียดหลินเพ่ยมากขึ้น
นังสารเลวคนนี้ถึงกับทำให้อู๋เสี่ยวเจี๋ยนหลงใหลจนกระทั่งยอมสละชีวิต อีกทั้งยังมีใจกล้าหาญคิดจะสังหารพ่อแม่เพื่อหล่อนได้ด้วย
เวลานี้นางจึงเอ่ยปากอย่างเกรี้ยวกราด “แล้วแกมาทำอะไรที่บ้านของฉัน?”
หลินเพ่ยกำชายเสื้อตัวเองแน่นก่อนจะพูดว่า “ฉันกับเสี่ยวเจี๋ยนเป็นสามีภรรยา เพราะฉะนั้นที่นี่ก็เป็นบ้านของฉันด้วย…”
ขณะพูดอย่างนั้นสายตาของหล่อนเหลือบมองชาวบ้านที่รายล้อมอยู่ด้านนอกประตู
หล่อนแสร้งทำตัวน่าสงสาร และสงสัยว่าคนเหล่านั้นได้ยินเสียงของตนหรือไม่?
แน่นอนว่าชาวบ้านเหล่านั้นไม่ได้ยินหลินเพ่ย แต่ต่อให้ได้ยิน พวกเขาก็จะไม่มีวันช่วยเหลือหล่อน
อสรพิษแบบนี้ ใครจะอยากช่วยหล่อน มันสายเกินไปด้วยซ้ำที่หล่อนจะต้องถูกทำร้ายตอนนี้
เมื่ออู๋จินกุ้ยได้ยินหลินเพ่ยตอบอย่างนั้น เขาก็เปิดฉากลงไม้ลงมือ
“นังสารเลว แกทำให้ครอบครัวของฉันพัง แต่ยังกล้ามาพูดว่าที่นี่คือบ้านของตัวเองงั้นเหรอ! ฉันจะตีแกให้ตายนังงูพิษ!”
เหยาชุ่ยฮวาเข้าผสมโรงด้วยทันที
ทั้งคู่รุมทุบตีหลินเพ่ยจนหล่อนกรีดร้องอย่างน่าสมเพช ก่อนจะพยายามขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านโดยรอบ
ชาวบ้านยืนดูการแสดงครั้งใหญ่นี้อย่างสนุกสนาน และไม่มีใครคิดจะช่วยเหลือหล่อนสักคน
ถึงกับยุยงให้อู๋เสี่ยวเจี๋ยนขายน้องๆ ของเขาเพื่อทำศัลยกรรม เรื่องนี้ชั่วช้าเกินไป!
เมื่อเห็นว่าไม่มีใครช่วยเหลือ หลินเพ่ยก็คิดหนี ไม่อย่างนั้นหล่อนคงต้องโดนทุบตีจนตายอยู่ที่นี่แน่นอน
แต่เหยาชุ่ยฮวาจะปล่อยให้หล่อนหนีได้อย่างไร?
นางต้องการระบายความโกรธเกลียดทั้งหมดในใจ
เหยาชุ่ยฮวาและอู๋จินกุ้ยขังหลินเพ่ยไว้ในห้องเก็บผัก และวันใดหากพวกเขาอารมณ์เสียจะแวะมาทุบตีหล่อนเพื่อระบายความเครียด
อีกทั้งเหยาชุ่ยฮวายังปล่อยให้สามีตัวเองข่มเหงหลินเพ่ยด้วย
การได้ทรมานหลินเพ่ยเท่านั้นถึงทำให้นางรู้สึกดีขึ้น
ทุกคนในหมู่บ้านตระกูลอู๋รู้เรื่องนี้ แต่พวกเขาแสร้งทำหูหนวกตาบอด
ไม่มีใครคิดว่าหลินเพ่ยถูกกระทำเกินกว่าเหตุ คิดว่านี่คือผลกรรมที่หล่อนสมควรได้รับแล้ว
หลังผ่านพ้นเทศกาลโคมไฟ เหมาฉงมารายงานสถานการณ์ทั้งหมดให้หลินม่ายรับฟัง
หลินม่ายยกยิ้มพอใจ
อู๋เสี่ยวเจี๋ยนและหลินเพ่ยอาจจะเป็นคู่รักที่ดีและได้แต่งงานกันในท้ายที่สุด แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็เป็นเพียงคู่รักแค่ในนาม เพราะก่อนที่จะได้แต่งงาน อู๋เสี่ยวเจี๋ยนต้องชดใช้กรรมในคุกเสียก่อน
ไม่รู้เลยว่าหากอู๋เสี่ยวเจี๋ยนรู้ว่าเทพธิดาของเขาถูกบิดาผู้ให้กำเนิดข่มเหงเสียแล้ว เขาจะฆ่าพ่อของตัวเองไหม?
แน่นอนว่าเขาคงทำ
อู๋เสี่ยวเจี๋ยนถูกศาลตัดสินจำคุก 20 ปี ในคดีลักลอบค้ามนุษย์
เมื่อเขาออกจากคุก วันนั้นเขาจะอายุ 40-50 ปี แม้ว่าเขาจะยังไม่แก่ แต่เขาก็ไม่มีขา และจะไม่เป็นภัยต่อหลินม่ายอีกต่อไป
สำหรับหลินเพ่ย หล่อนไม่สามารถหลบหนีเหยาชุ่ยฮวาและอู๋จินกุ้ยได้ หล่อนจะถูกสามีภรรยาคู่นั้นทรมานไปตลอดชีวิต และจะไม่สร้างความวุ่นวายให้กับหลินม่ายอีก
จากนั้นหลินม่ายบอกกับเหมาฉงว่าให้หยุดติดตามหลินเพ่ยก่อน แล้วเธอจะหางานให้เขาใหม่ให้
แต่ให้หยุดพักสักระยะไปก่อน
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
จบเรื่องสองสุนัขชายหญิงคู่นี้เสียทีค่ะ เฮ้อ เครียดเหลือเกิน เมื่อไหร่จะมีตอนสุขนิยมเบาสมองมาให้แปลสักทีนะ
ไหหม่า(海馬)