แม่ปากร้ายยุค 80 - ตอนที่ 956 เจ้าสาวหายตัวไป
งานแต่งงานของเถาจืออวิ๋นและฟางจั๋วเยวี่ยคือวันที่ 26 ของเดือน 12 ทางจันทรคติ ซึ่งตรงกับวันปีใหม่จีนพอดี
คุณปู่ฟางและคุณย่าฟางเองก็ให้ความสำคัญกับงานแต่งงานของหลานชายคนเล็กมาก
ไม่กี่วันหลังจากหลินม่ายกลับมาถึงเมืองหลวง เธอก็ต้องพาคุณย่าฟางและทุกคนกลับไปที่เมืองเจียงเฉิงอีกครั้ง เว้นแต่ฟางจั๋วหรานที่ติดงานยังไม่สามารถตามไปได้
ทันทีที่เธอมาถึงเจียงเฉิง คุณย่าฟางให้หลินม่ายตรวจสอบความพร้อมของงานแต่งงานฟางจั๋วเยวี่ยทันที
บ้านใหม่ของฟางจั๋วเยวี่ยเป็นบ้านพักตากอากาศที่หลินม่ายสร้างขึ้นเพื่อเขาโดยเฉพาะ
หลินม่ายไปตรวจสอบการตกแต่งภายใน และรู้สึกว่าทุกสิ่งดูดีสบายตา อุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ทั้งหมดครบครัน เพียงหิ้วกระเป๋าก็สามารถเข้าอยู่ได้ทันที
ส่วนอาหารภายในโรงแรมก็เรียบร้อยดีเช่นกัน
คุณย่าฟางได้ยินหลินม่ายตอบอย่างนั้นแล้ว นางก็ผ่อนคลายลงได้
อีกสองวันจะถึงงานแต่งงานของฟางจั๋วเยวี่ย
หลินม่ายเดินทางไปที่สำนักงานใหญ่เพื่อจัดประชุมเตรียมงานในปีหน้า
เพราะการทำงานหนักของว่านทงกรุ๊ป อาคารพาณิชย์ในเมืองเจียงเฉิงได้รับการตอบรับอย่างดี และสามารถพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายในเจียงเฉิงต่อได้อีก
หลินม่ายขอให้ผู้จัดการโม่หาซื้อที่ดินเพิ่ม เพื่อเปิดตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้มากขึ้นในช่วงปีใหม่
ยิ่งกว่านั้น มีร้านค้าเครือข่ายมากกว่าหนึ่งร้อยแห่งภายในประเทศ และมีร้านค้าเครือข่ายมากกว่าร้อยแห่งทั่วโลก ซึ่งสามารถเปิดร้านแฟรนไชส์ได้
ร้านแฟรนไชส์เหรินเจียนเยียนหั่วกับร้านแฟรนไชส์ของจิ่นซิ่วแตกต่างกันมาก
ห้องเสื้อจิ่นซิ่วเป็นแฟรนไชส์ที่นำร้านค้าและเงินทุนมาร่วมลงทุน
แต่ร้านแฟรนไชส์เหรินเจียนเยียนหั่วคือการเปลี่ยนร้านสาขาที่มีอยู่ให้กลายเป็นร้านแฟรนไชส์
คราวแรก ผู้บริหารทุกคนไม่เข้าใจวิธีการของหลินม่ายที่โอนร้านค้าสาขาซึ่งทำกำไรได้มากให้กับแฟรนไชส์
แต่ไม่นานพวกเขาก็ตระหนักถึงความตั้งใจและการหาเงินของเธอ
การโอนร้านค้าเครือข่ายที่สามารถทำกำไรให้กับผู้ซื้อแฟรนไชส์จะมีค่าธรรมเนียมการโอนเริ่มต้นที่ 300,000 หยวน
ปัจจุบัน ร้านค้าในเครือเหรินเจียนเยียนหั่วถูกซื้อโดยว่านทงกรุ๊ปและเช่าในระยะยาว
หลังจากแฟรนไชส์เหล่านั้นเขาครอบครองกิจการ พวกเขาจะต้องจ่ายค่าเช่าและค่าธรรมเนียม
เช่นนี้จึงสามารถสร้างรายได้มากมายจากการโอนและค่าเช่าเพียงอย่างเดียว
และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
ยิ่งในอนาคตมีร้านแฟรนไชส์มากเท่าใด ก็จะยิ่งมีรายได้จากค่าเช่ามากขึ้นเท่านั้น
สิ่งนี้ทำให้เจิ้งซวี่ตงและคนอื่น ๆ ถึงกับเบิกตากว้าง มีการหาเงินเช่นนี้อยู่จริง ๆ และพวกเขาสามารถทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไปพร้อมกับร้านแฟรนไชส์ได้
หลินม่ายเรียนรู้การหาเงินแบบนี้จาก KFC
แหล่งรายได้ของ KFC คือการขายแฟรนไชส์จากค่าธรรมเนียมการโอนและค่าเช่าร้าน
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของ KFC ทำให้เหล่าผู้เฒ่าผู้แก่น้ำลายไหลด้วยความอิจฉา
เวลานี้หลินม่ายถามเหรินเป่าจูว่าโรงงานสิ่งทอที่ขอให้จัดการนั้นไปถึงไหนแล้ว
เหรินเป่าจูตอบว่างานผลิตยังคงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนเขาไม่มีเวลาจะไปฮ่องกงหรืออเมริกาเพื่อซื้ออุปกรณ์ใหม่ ๆ ที่ทันสมัยกว่า
หลังจากวันปีใหม่สิ้นสุดลง หล่อนจะส่งคนไปซื้ออุปกรณ์ แล้วโรงงานจะเริ่มทำการผลิตอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
หลินม่ายถามต่อว่า “แล้วตอนนี้เถ้าแก่เฉายังหาผ้าให้กับเราอยู่ไหม?”
“ค่ะ” เหรินเป่าจูพยักหน้า “ตอนนี้สินค้าของเถ้าแก่เฉาเป็นปกติ ไม่มีผ้าอื่น ๆ ปะปนมาแล้วล่ะค่ะ”
หลินม่ายนึกถึงโรงงานฝ้ายแห่งชาติหมายเลข 3 ในเมืองหลวง เพราะก่อนหน้านี้ผู้อำนวยการฉีหอบเงินหนีไปทั้งหมดและทิ้งไว้เพียงความยุ่งเหยิง
เป็นผลให้โรงงานแห่งนี้ต้องปิดตัวลงโดยสมบูรณ์ ทรัพย์สินภายในจะต้องถูกจัดการ บางทีอุปกรณ์ระดับสูงพวกนั้นอาจจะถูกขายทอดตลาด
หากพวกเขาต้องการขายมันจริง ๆ เธอก็ต้องการซื้อเช่นกัน ด้วยเหตุผลนี้เหรินเป่าจูจะได้ไม่ต้องส่งคนไปฮ่องกงหรืออเมริกาเพื่อซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ
ไม่เพียงแต่อุปกรณ์เหล่านั้นจะมีราคาแพง แต่การขนส่งอุปกรณ์ทั้งหมดกลับมาก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
หลินม่ายบอกให้เหรินเป่าจูพักเรื่องการซื้ออุปกรณ์ใหม่ ให้รอจนกว่าเธอจะสอบถามเรื่องนี้จากโรงงานฝ้ายแห่งชาติหมายเลข 3 เสียก่อน
หลังจากประชุมเสร็จสิ้นแล้ว หลินม่ายขับรถกลับมาที่บ้าน และเห็นว่าฟางจั๋วเยวี่ยกับหวังเหวินฟางกำลังทะเลาะกันตรงริมถนน
หลินม่ายขมวดคิ้วพร้อมหยุดรถตรงหน้าพวกเขา เธอเปิดประจกพร้อมตะโกนเรียกฟางจั๋วเยวี่ยอย่างจงใจ
เมื่อหวังเหวินฟางได้ยินเสียงของหลินม่าย หล่อนก็ตื่นตระหนกราวเห็นผีก่อนจะวิ่งหนีไปทันที
ฟางจั๋วเยวี่ยขึ้นรถของหลินม่ายพร้อมใบหน้าที่ยังบึ้งตึง
หลินม่ายเหลือบมองเขาก่อนจะออกรถ “ทำไมถึงมาทะเลาะกับแม่ตัวเองริมถนน? นายกำลังจะแต่งงานในมะรืนนี้อยู่แล้ว ควรจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย และอย่าสร้างปัญหาให้กระทบงานแต่ง”
ฟางจั๋วเยวี่ยพยักหน้า “ผมรู้แล้ว”
หลินม่ายเห็นว่าเขาไม่ได้เล่าถึงสาเหตุการทะเลาะกับหวังเหวินฟาง เธอจึงไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม
ทันทีที่ทั้งสองกลับมาถึงบ้าน ฟางจั๋วเยวี่ยก็เห็นรถออดี้คันใหม่จอดอยู่หน้าลานบ้าน
เขาถามด้วยความประหลาดใจ “รถใครเหรอครับ?”
หลินม่ายลงจากรถก่อนจะกล่าวตอบ “จะรถใครอีกล่ะ พี่ชายนายสั่งซื้อมาจากอเมริกาให้เป็นของขวัญแต่งงานของนายน่ะ”
ฟางจั๋วเยวี่ยยิ้มกว้างอย่างมีความสุข ก่อนจะลองขับรถออกไปทันที
วันที่ฟางจั๋วเยวี่ยและเถาจืออวิ๋นรอคอยมาถึงในพริบตา
หลินม่ายต้องการไปรับเจ้าสาวกับฟางจั๋วเยวี่ยด้วย
เพราะสิ่งที่เธอเห็นบนถนนวันก่อนทำให้เธอรู้สึกกังวลว่าหวังเหวินฟางจะออกมาสร้างปัญหาภายหลัง
ซึ่งถ้าเธอไปด้วยก็พอจะช่วยอะไรได้บ้าง
แต่ฟางจั๋วเยวี่ยปฏิเสธหนักแน่น เขากล่าวด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว “ผมจะให้พี่สะใภ้ไปรับเจ้าสาวของผมได้ยังไง”
หลินม่ายไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมแพ้
ฟางจั๋วเยวี่ยขับรถออดี้ออกไปรับเจ้าสาว
ครอบครัวของหลินม่ายตรงไปที่พักของพวกเขา เวลานี้ทั้งหมดยืนอยู่กับแขกเพื่อรอต้อนรับเจ้าสาวเข้างาน
ที่พักของฟางจั๋วเยวี่ยอยู่ไม่ไกลจากบ้านเกิดของเถาจืออวิ๋นเท่าใด เวลานี้เขาควรจะพาเจ้าสาวกลับมาได้แล้ว
คุณย่าฟางบอกให้เสี่ยวเหวินเตรียมประทัด และให้จุดประทัดทันทีที่เจ้าสาวมาถึง
เวลานี้เองโทรศัพท์ในห้องนั่งเล่นก็ดังขึ้น
โต้วโต้วและเสี่ยวมู่ตงวิ่งไปแย่งกันรับสาย
เสี่ยวมู่ตงยังเด็กเกินไป เขาจึงวิ่งได้ช้ากว่า ทำให้โต้วโต้วคว้าโทรศัพท์ได้ก่อน เด็กชายตัวน้อยทำได้เพียงกระทืบเท้าอย่างไม่พอใจ
โต้วโต้วรับสายแล้วจากนั้นเรียกหาหลินม่าย “แม่คะ คุณอาเรียกหาคุณค่ะ”
หัวใจของหลินม่ายถึงกับร่วงไปอยู่ตาตุ่ม บางทีหวังเหวินฟางอาจจะสร้างปัญหาแล้ว
เธอหยุดต้อนรับแขกก่อนจะเดินไปรับโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว
และตอนนี้เพราะเสี่ยวมู่ตงไม่ได้รับโทรศัพท์ เขาจึงงอแงและต้องการจะถือโทรศัพท์ไว้ หลินม่ายไม่มีทางเลือกจึงให้เขาถือโทรศัพท์
หลินม่ายถามว่า “นายโทรหาฉันเพราะไม่มีปัญญาพาเจ้าสาวมาที่นี่เหรอ?”
ฟางจั๋วเยวี่ยร้องไห้พร้อมกับกล่าวติดขัด “จืออวิ๋นหายตัวไป”
หลินม่ายประหลาดใจมากก่อนจะกล่าวเสียงกระซิบ “จืออวิ๋นภายไปตั้งแต่เมื่อไหร่?”
ในคืนแรกของงานแต่งงาน เจ้าสาวควรจะอยู่แต่ในบ้านไม่ออกไปที่อื่น
เถาจืออวิ๋นหายตัวไปตั้งแต่เมื่อคืนงั้นเหรอ? เป็นไปไม่ได้หรอก!
ฟางจั๋วเยวี่ยตอบ “แม่ยายของผมบอกว่าจืออวิ๋นเข้าไปทำผมที่ร้านทำผมเซียงกั่งเมื่อตอนตีห้า และตอนนี้ยังไม่กลับมา”
เวลานี้เองหัวใจของหลินม่ายก็เริ่มเต้นระส่ำ คาดเดาสิ่งเลวร้ายต่าง ๆ นานา ทันที
เธอรีบถาม “นายไปค้นหาหล่อนที่ร้านตัดผมเซียงกั่งหรือยัง?”
“ผมไปมาแล้ว พนักงานในร้านตัดผมบอกว่าจืออวิ๋นทำผมเสร็จตอนแปดโมง และออกไปแล้ว”
หลินม่ายมองคุณย่าฟางและคนอื่น ๆ ในแขกคนอื่น ๆ ภายในห้องโดยไม่ได้พูดอะไร
เธอกลัวว่าการเปิดเผยเรื่องทั้งหมดนี้จะทำให้ทุกคนต้องเป็นกังวล
เธอหันไปตอบฟางจั๋วเยวี่ย “ไม่ต้องกังวล เดี๋ยวฉันจะรีบไป”
เธอวางสายก่อนจะพูดกับทุกคนว่า “ทุกคนในหมู่บ้านของพี่สาวเถารู้ว่าหล่อนได้แต่งงานกับเศรษฐีใหญ่ ทุกคนจึงอยากจะมาร่วมสนุกด้วย เวลานี้เด็ก ๆ ทั้งหมดปิดกั้นพวกเขาตั้งแต่หน้าประตูหมู่บ้านจนถึงประตูบ้าน และถ้าไม่มีซองให้กับพวกเขา พี่สาวเถาจะออกจากบ้านไม่ได้ ต่อให้ไม่มีซอง ก็ควรจะมีช็อคโกแลตให้เด็ก ๆ เดี๋ยวฉันจะช่วยซื้อช็อคโกแลตไปให้พวกเขาค่ะ”
คุณย่าฟางรีบโบกมือ “งั้นก็รีบไปเถอะ ขืนชักช้าจะไม่ทันฤกษ์”
หลินม่ายอุ้มเสี่ยวมู่ตงส่งให้กับเสี่ยวเหวินก่อนจะรีบขับรถไปบ้านของเถาจืออวิ๋น
ไม่ใช่แค่ฟางจั๋วเยวี่ยเท่านั้นที่ร้อนใจ แม้แต่ครอบครัวเถาจืออวิ๋นเองก็เต็มไปด้วยความตึงเครียดเช่นเดียวกัน
มีเพียงเด็กน้อยฉีฉีที่นั่งอย่างเชื่อฟังบนโซฟา
หลินม่ายดึงฟางจั๋วเยวี่ยไปใกล้ก่อนจะถามเสียงเบา “ค้นหาระหว่างทางหรือยัง?”
“ผมหาหมดแล้ว หาทุกที่ที่ผมนึกออก ถ้าขุดดินได้ก็คงขุดลึกลงไป 3 ฉื่อแล้ว”
ฟางจั๋วเยวี่ยกล่าวออกมาอย่างสิ้นหวัง “พี่สะใภ้ หรือว่าจืออวิ๋นจะไม่อยากแต่งงานกับผมแล้ว”
หลินม่ายส่ายศีรษะ “ไม่น่าจะใช่ ฉันคิดว่าพี่สาวเถาอาจจะถูกแม่ของนายลักพาตัวไปก็ได้”
“เป็นไปไม่ได้” ฟางจั๋วเยวี่ยปฏิเสธทันที “แม่เสียใจกับการกระทำของตัวเองมาก หล่อนคงจะไม่…”
แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบ ใบหน้าของเขาราวกับนึกบางอย่างขึ้นได้ เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นอย่างเคร่งขรึม “อืม เป็นไปได้”
แต่ไม่ถึงสิบวินาที เขาก็เปลี่ยนคำพูดอีกครั้ง “ไม่สิ ผมว่าเป็นไปไม่ได้ ถ้าแม่ของผมลักพาตัวจืออวิ๋นไป หล่อนควรจะโทรหาผมแล้วสิ”
หลินม่ายตอบกลับ “แม่ของคุณไม่ต้องการให้คุณแต่งงานกับพี่สาวเถา แล้วหล่อนจะโทรหาคุณทำไม? นั่นเป็นการเปิดเผยที่อยู่ของหล่อนหรือเปล่า?”
ฟางจั๋วเยวี่ยส่ายศีรษะก่อนจะพูดต่อว่า “แม่ไม่ได้ห้ามผมเรื่องแต่งงานกับจืออวิ๋นแล้ว”
“ในเมื่อแม่ไม่ได้ห้าม อย่างนั้นบอกฉันมาหน่อยว่าทำไมแม่นายต้องลักพาตัวพี่สาวเถาไปด้วย?”
ฟางจั๋วเยวี่ยเงียบไปสักครู่ก่อนจะตอบว่า “เพราะแม่ผมเงินหมด”
หลินม่ายพูดต่อ “ถ้าแม่นายไม่มีเงิน นายก็แค่ให้เงินหล่อนไป นี่คือเหตุผลที่นายไปยืนทะเลาะกับหล่อนข้างถนนเมื่อวันก่อนเหรอ?”
ฟางจั๋วเยวี่ยพยักหน้า “ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากให้เงินแม่ แต่แม่ขอเงินผมไปช่วยหวังเฉียงที่เป็นหนี้การพนัน ผมจะช่วยเขาได้ทุกครั้งเหรอ?”
หลินม่ายเป็นกังวลทันทีเมื่อได้ยินอย่างนั้น “ถ้าอย่างนั้นก็เป็นไปได้
“ถ้าแม่พาตัวจืออวิ๋นไปจริง ๆ ทำไมหล่อนถึงไม่มาขอเงินจากผมแทนล่ะ?”
หลินม่ายเงียบ
พฤติกรรมของหวังเหวินฟางตอนนี้ยากจะคาดเดาจริง ๆ
ทันใดมีเสียงตะโกนดังขึ้น “เจ้าสาวกลับมาแล้ว!”
………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ตกใจหมดเลย นึกว่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ให้ต้องจัดการเสียแล้ว
ไหหม่า(海馬)