แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 354 โยนความผิด
วันต่อมา หลังจากที่เจียงฉิงตื่นแล้วสภาพจิตใจนางดีขึ้นมาก นางถึงกับเป็นฝ่ายปลอบเจียงป่าวชิงที่หน้าซีดหน้าเซียวด้วยซ้ำ “พี่สาว ข้าไม่เป็นไร แค่ถูกขังช่วงเวลานึงเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรหรอกจ้ะ พี่อย่ากังวลไปเลยนะ” มือเล็กตบลงไปที่ทรวงอกของตัวเอง “ข้าสบายดี พี่วางใจได้เลย!”
หากไม่ใช่เพราะเด็กหญิงรู้สึกหวาดกลัวจนร้องไห้แม้กระทั่งในความฝัน เกรงว่าเจียงป่าวชิงคงเชื่อคำพูดของนางจริง ๆ
เจียงป่าวชิงถือยาสีดำปี๋มาถ้วยหนึ่ง เพียงแค่ดมกลิ่นนั้นนางก็รู้สึกขมจนแสบคอแล้ว เจียงฉิงเองก็รู้สึกขมคอด้วยเช่นกัน
เจียงป่าวชิงพูดปลอบน้อง “นี่เป็นยาผ่อนคลายความกังวล เจ้าดื่มเถอะ ข้าให้พี่หยุนชานไปซื้อผลไม้เชื่อมหวาน ๆ ให้เจ้าแล้ว ดื่มยานี้แล้วผลไม้เชื่อมทั้งหมดจะเป็นของเจ้า”
“แหม พี่สาวละก็… ข้าไม่ใช่เด็กเล็กสักหน่อยนะ” เจียงฉิงพึมพำ แต่นางยังคงรวบรวมความกล้า เงยหน้าดื่มยาดำปี๋นั้นจนหมดถ้วย หลังจากดื่มเสร็จแล้วนางรู้สึกขมจนอยากอาเจียนออกมาให้รู้แล้วรู้รอดแต่เจียงป่าวชิงกลับยัดผลไม้เชื่อมใส่ในปากนางอย่างมือไวเสียก่อน เด็กหญิงเคี้ยวผลไม้ ต้องกินไปมากถึงห้าชิ้นติดต่อกันรสขมในปากจึงค่อย ๆ จางลง
เจียงป่าวชิงเห็นสีหน้าน้องสาวดีขึ้นแล้ว นางก็ลูบเส้นผมเจียงฉิงเบา ๆ “ตอนนี้ถ้าเจ้าดีขึ้นแล้ว งั้นเราไปเจอเลี่ยวชุนหยู่กันดีไหม ไปดูกันว่าเขาจะพูดยังไง แล้วเจ้าค่อยตัดสินใจว่าให้อภัยเขาหรือไม่ให้ดี”
เจียงฉิงครุ่นคิดก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย
ในห้องโถง เลี่ยวชุนหยู่กับเจียงหยุนชานรออยู่ที่นั่นแล้ว
แม้การร่ำเรียนในช่วงนี้จะค่อนข้างวุ่น ๆ แต่เจียงหยุนชานก็ฝืนลาหยุดกับท่านอาจารย์เพื่อที่เขาจะได้อยู่บ้านในวันนี้ อย่างไรเสียสำหรับพี่ชายของบ้านอย่างเขา นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กเลย
ตอนที่เจียงป่าวชิงเดินจูงมือเจียงฉิงเข้ามา เลี่ยวชุนหยู่ขดตัวอย่างเห็นได้ชัด ไม่รู้ว่าเขากลัวเจียงป่าวชิงหรือกลัวเจียงฉิงกันแน่
“อาฉิง เมื่อวานเกิดอะไรขึ้น เจ้าเล่ามาหน่อย” เจียงหยุนชานมองเจียงฉิง “แต่ถ้าเจ้ารู้สึกไม่สบายใจก็ไม่ต้องพูดก็ได้ เดี๋ยวข้าถามชุนหยู่เอง”
เจียงฉิงส่ายหน้า “ไม่เป็นไรจ้ะพี่หยุนชาน” เจียงฉิงไม่ได้มองเลี่ยวชุนหยู่ที่เอาแต่ก้มหน้างุดไม่พูดอะไรมาตลอด นางพูดขึ้นเสียงเบา “อันที่จริงก็ไม่มีอะไรหรอก ตอนที่ข้าออกไปซื้อผักเมื่อวาน ชุนหยู่วิ่งตามข้ามาและบอกว่าอยากกินไก่ย่างที่ซอยหูลู บอกข้ามาแบบนั้นแล้วเขาก็วิ่งจากไปข้าจึงถามทางและหาร้านไก่ย่างไปด้วย แต่ตอนที่เดินผ่านซอยเล็ก ๆ ซอยหนึ่ง จู่ ๆ ใครก็ไม่รู้มาตีข้าจนสลบจากข้างหลัง ฟื้นขึ้นมาได้ข้าก็เห็นว่าตัวเองถูกขังอยู่ในที่มืดและแคบมาก ไม่ว่าข้าจะดิ้นรนแค่ไหนก็ออกไปไม่ได้…”
ร่างน้อย ๆ ของเจียงฉิงสั่นเทา เห็นได้ชัดว่านางยังคงรู้สึกผวากับเรื่องเมื่อวาน เจียงป่าวชิงโอบกอดน้องสาวด้วยความสงสารจับใจ “ไม่ต้องกลัว เรื่องมันผ่านไปแล้ว เจ้าอยู่นี่กับข้าแล้ว”
เจียงหยุนชานสูดหายใจเข้าลึก ๆ อยู่สักครู่ถึงสามารถควบคุมความโกรธและความผิดหวังในหัวใจเอาไว้ได้ เขาเรียกเลี่ยวชุนหยู่ด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
“เลี่ยวชุนหยู่!”
เลี่ยวชุนหยู่ก้มหน้าเดินมาข้างหน้า เขาพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ “อันที่จริงข้าก็ไม่ได้อยากทำอะไรนางหรอก แค่อยากขู่ขวัญนางเท่านั้น”
เจียงป่าวชิงเก็บสีหน้าหงุดหงิดพลางมองเลี่ยวชุนหยู่และพูดขึ้นนิ่ง ๆ “ขู่ขวัญอย่างนั้นรึ เจ้าไม่กลัวว่าเจียงฉิงจะประสบอุบัติเหตุหรือเจอเรื่องอะไรที่หนักกว่านั้นหรือไง ?!”
เลี่ยวชุนหยู่พูดขึ้นเสียงเบา “ที่นี่คือเมืองหลวง การรักษาความปลอดภัยดีมาก จะเกิดอะไรขึ้นได้ ?”
ดูเหมือนว่าเจ้าเด็กแซ่เลี่ยวนี่จะไร้เดียงสาเกินไป เจียงป่าวชิงหัวเราะเสียงเย็น “หึ ๆ ถ้าเจ้ายืนยันอย่างนั้น… ท่านที่อยู่ข้างนอก รบกวนพาตัวเขาเข้ามาได้เลยจ้ะ”
ทันใดนั้น ตงเส่ถูกใครคนหนึ่งคุมตัวเข้ามาด้วยสีหน้าห่อเหี่ยว
“ตงเส่!” เลี่ยวชุนหยู่เรียกอย่างตกใจ สีหน้าเด็กชายเต็มไปด้วยความโกรธทันที “นี่พวกเจ้าทำอะไร ?! ข้าลงมือทำคนเดียวก็ต้องรับผิดคนเดียว พวกเจ้าจับตงเส่ทำไม ?!”
“เหอะ ๆ เจ้านี่ช่างซื่อสัตย์ซะจริงนะ” เจียงป่าวชิงหัวเราะเยาะและพูดใส่ตงเส่โดยที่ไม่สนใจเลี่ยวชุนหยู่ นางเบนสายตาออกจากเด็กไม่ดีสองคนก่อนจะลุกขึ้นพูดกับชายคนที่คุมตัวตงเส่เข้ามาด้วยความเกรงใจ “งานนี้รบกวนท่านแล้ว”
ชายคนที่ควบคุมตัวตงเส่มาคือคนบังคับรถม้าผู้ซึ่งบังคับรถม้าให้เจียงป่าวชิงกับเจียงฉิงเมื่อไม่กี่วันก่อน ได้ยินดังนั้นเขาเกาศีรษะและพูดขึ้นยิ้ม ๆ “ก็แค่จับไอ้ชั่วตัวน้อยเท่านั้น ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก แม่นางเจียงไม่จำเป็นต้องเกรงใจข้าขนาดนี้ก็ได้ แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ข้าอยากให้แม่นางรู้ไว้ ตอนที่ข้าจับไอ้คนชั่วตัวน้อยนี้ ข้าบังเอิญเห็นเขาทำลับ ๆ ล่อ ๆ เหมือนกำลังติดต่อกับคนที่ดูเป็นคนไม่ดีคนหนึ่ง ข้าเลยจับพวกเขาพร้อมกันซะเลย ถามแล้วถึงได้รู้ว่าที่แท้ชายคนนั้นคือชายผู้ซึ่งทำงานอยู่ในซ่องโสเภณีที่ทำหน้าที่มองหาผู้หญิงส่งให้ซ่องนางโลม เดิมทีเขาจับแม่นางน้อยฉิงเตรียมพาเข้าซ่องนางโลม แต่ที่ไอ้คนชั่วตัวน้อยไปหาเขาก็เพื่อจะบอกเขาว่าแผนการไม่สำเร็จ ถุย! ช่างเลวร้ายจริง ๆ!”
เจียงหยุนชานเบิกตากว้างตกใจ …นี่หมายความว่าอย่างไร!
เจียงป่าวชิงพยักหน้า “ข้าทำให้ท่านลำบากแล้ว ข้ารู้แล้วจ้ะ ขอบคุณท่านมากจริง ๆ ที่ช่วยเป็นหูเป็นตาให้”
คนบังคับรถม้าโค้งให้เจียงป่าวชิงก่อนจะกลับออกไป
ตงเส่ถูกมัดแน่นราวกับมัดบ๊ะจ่าง เขาคุกเข่าอยู่ที่พื้น เนื้อตัวสั่นงันงก
“เมื่อคืนตอนที่เลี่ยวชุนหยู่พาเราไปหาอาฉิง ข้าก็รู้สึกว่าปฏิกิริยาของเจ้าค่อนข้างผิดปกติจึงขอให้คนมาคอยจับตาดูเจ้าเป็นพิเศษ” เจียงป่าวชิงมองตงเส่ด้วยสีหน้านิ่ง “เจ้ายังมีอะไรจะพูดอีกหรือเปล่า ?”
ตงเส่ร้องไห้ออกมา เขากระแทกศีรษะกับพื้นอย่างแข็งขันและร้องขอความเมตตาไปด้วย “แม่นางเจียงยกโทษให้ข้าด้วยเถอะนะ ข้าขาดสติไปชั่วขณะ พอเห็นว่าคุณชายเล็กมาหาข้า มาปรึกษาว่าจะกำจัดคุณหนูสองยังไง ข้าก็เดินทางผิดและใช้วิธีผิด ๆ”
เลี่ยวชุนหยู่เบิกตากว้าง ตงเส่เสนอความคิดให้เขาเอง ทำไม… ทำไมตอนนี้ถึงปัดความรับผิดชอบมาให้เขาเช่นนี้
“อ้อ” เจียงป่าวชิงพูดขึ้นอย่างเย็นชา “งั้นก็หมายความว่าเลี่ยวชุนหยู่สั่งให้เจ้าไปหาผู้ชายที่ทำงานในซ่องโสเภณีคนนั้น ร่วมมือกันมัดอาฉิงเตรียมพานางส่งซ่องนางโลม แต่พอเรื่องแดง การค้าระหว่างเจ้ากับชายจากซ่องคนนั้นเลยไม่สำเร็จงั้นสิ ?”
ตงเส่พยักหน้าเป็นพัลวัน “ใช่… ใช่แล้วขอรับ”
เลี่ยวชุนหยู่ผู้ถูกหักหลังหน้าซีดเผือด เขามองตงเส่อย่างไม่อยากจะเชื่อและมองเจียงป่าวชิงที่ไม่รอช้า นางถีบลงไปตรงอกของตงเส่อย่างแรงทำให้ตงเส่ล้มหงายกลิ้งกลับหัวกลับหางดูน่าสมเพช
ตงเส่ไม่คิดว่าคุณหนูใหญ่ที่สวยเพริศพริ้งจะแรงเยอะถึงเพียงนี้ แรงถีบของนางทำให้หน้าอกของเขาเจ็บมาก
“ข้าประเมินเจ้าต่ำไปจริง ๆ เจ้าร้ายกาจกว่าที่ข้าคิดไว้มาก” เจียงป่าวชิงยืนอยู่ตรงหน้าตงเส่ด้วยสายตาเย็นชาและมองร่างที่นอนอยู่บนพื้นอย่างผู้อยู่เหนือกว่า “เลี่ยวชุนหยู่ไม่คลาดสายตาพี่ชายข้าตั้งแต่เมื่อคืน แล้วแบบนี้เขาจะไปบอกให้เจ้ารีบแจ้นไปบอกชายจากซ่องโสเภณีว่าแผนการล้มเหลวตอนไหน ?”
สีหน้าตงเส่พลันเปลี่ยนไปและเขาเริ่มติดอ่าง “ตะ… ตะ… ตอน… ตอนก่อนที่จะปรึกษาเสร็จ…”
ตงเส่หันหน้าไปทางเลี่ยวชุนหยู่ “คุณชายเล็ก ท่านรีบบอกสิว่าท่านเป็นคนสั่งให้ข้าทำเรื่องนี้ ถ้าหากว่าท่านโยนความผิดให้ข้า ข้าคงไม่รอดแน่ ๆ!” เขาร้องทุกข์น้ำตาไหลพราก
ได้ยินตงเส่บอกว่าตัวเองจะไม่รอด เดิมทีใบหน้าที่ยังคงโกรธของเลี่ยวชุนหยู่ชะงักค้าง เขาสับสนอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายกัดฟันพูดยอมรับ “เป็นข้าเอง…”
เพี๊ยะ!
เลี่ยวชุนหยู่ถูกตบหน้าอีกครั้ง แต่คนที่ตบเขาครั้งนี้กลับเป็นเจียงหยุนชาน
เจียงหยุนชานโกรธจนตัวสั่น มองเลี่ยวชุนหยู่ด้วยความผิดหวังเจ็บปวด เขาเป็นคนอ่อนโยนมาโดยตลอด ไม่ค่อยดุหรือมีเรื่องตบตีใคร ครั้งนี้ไม่รู้ว่าเลี่ยวชุนหยู่ทำร้ายจิตใจเขาจนสาหัสเกินไปหรือว่าอะไร เขาถึงได้ลงไม้ลงมือภายใต้ความผิดหวังเช่นนี้
.