แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 424 ก่อกวนไร้เหตุผล
“องค์ชาย องค์ชายอย่าไปฟังนางเถียงข้างๆ คูๆ นะเพคะ พูดจากลับไปกลับมา ไม่มีหลักฐานอะไรเลยสักนิด” พระชายารองอิงฉุดดึงแขนเสื้อขององค์ชายหย่ง ชินด้วยท่าทางสวยเพริศพริ้งและพูดออดอ้อน “ท่านไม่ได้มานั่งที่ห้องของข้า
นานแล้วนะเพคะ วันนี้ข้าเห็นปิ่นปักผมรูปหางหงส์อันนั้นก็นึกถึงช่วงเวลาที่ข้า กับองค์ชายเพิ่งรู้จักกันในตอนแรก คืนนี้องค์ชายต้องอยู่กับข้านะเพคะ”
องค์ชายหย่งชินยังไม่ทันได้พูดอะไร พระชายาก็วางถ้วยชาในมือลงบนโต๊ะอย่าง รงน้ําเสียงของนางไม่ดังไม่เบา แต่กลับเต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม “พระ ชายารองอิง ให้ความสนใจกับสถานการณ์หน่อย หยุนเอ๋อร์ยังอยู่ที่นี่นะ!”
หลินหยุนองค์หญิงเล็กเม้มริมฝีปากแล้วหลุบสายตาลง
องค์ชายหย่งชินอายุค่อนข้างมากแล้ว เขาตกอยู่ในสภาพอึดอัดใจทันทีพลางทํา หน้าขรึม กระแอม ไอเล็กน้อยและกําลังจะพูดอะไรบางอย่างแต่กลับได้ยิน องครักษ์ที่เฝ้าประตูอยู่ด้านนอกเข้ามารายงานว่า “ผู้สืบทอดมาแล้ว” เสียก่อน
หลินถึงเดินเข้ามาจากข้างนอกอย่างรีบร้อน เขาสวมเสื้อคลุมตัวใหญ่สีขาวเงิน
เขาปลด
ไว้ด้านนอกซึ่งมันช่วยขับให้เป็นคนที่ดูมีปณิธานความตั้งใจมากยิ่งขึ้น เสื้อคลุมออกแล้วคารวะองค์ชายหย่งชินกับพระชายาก่อนจะพูดขึ้นยิ้ม ๆ “ทางฝั่ง ของท่านย่าคึกคักถึงเพียงนี้ ท่านพ่อกับท่านแม่มาทําอะไรที่นี่หรือขอรับ ?”
พระชายามองบุตรชายด้วยความรัก เมื่อเห็นว่ามีเหงื่อซึมตรงจมูกของบุตรชาย นางก็รีบให้สาวใช้ส่งผ้าเช็ดหน้าให้นาง และกลัวว่าเขาจะกระหายน้ําจึงให้สาวใช้
ยกชาร้อนมาให้แต่กลับไม่ได้ตอบคําถามที่บุตรชายถามแต่อย่างใด “แค่จัดการ เรื่องนิดหน่อย….. แล้วถึงเอ๋อร์มาได้ยังไงลูก ?”
“ลูกมาดูว่าท่านย่าตื่นแล้วหรือยังน่ะขอรับ” หลินถึงพูดด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม แล้วมองเจียงป่าวชิง “รอให้ท่านย่าหายดีประมาณหนึ่งแล้ว ข้าจะต้องเชิญแม่นาง เจียงมาดื่มชาอย่างแน่นอน”
“ท่านพี่อย่าลืมเรียกน้องด้วยละเมื่อถึงตอนนั้น” น” หลินหยุนพูดขึ้นเสียงเบา
“แน่นอน”
“อ้อ ใช่แล้ว” หลินหยุนมองเจียงป่าวชิง น้ําเสียงของนางยังคงนุ่มนวลเช่นเดิม “เมื่อสักครู่แม่นางเจียงบอกว่านึกเรื่องอะไรบางอย่างได้แต่บังเอิญถูกพระชายา รองขัดจังหวะเสียก่อน หยุนเอ๋อร์รู้สึกประหลาดใจขึ้นมาว่าแม่นางเจียงนึกเรื่อง อะไรได้อย่างนั้น ?”
คําพูดของเจียงป่าวชิงถูกพระชายารองอิงขัดจังหวะทว่านางกลับไม่ได้รีบร้อน
อะไร ทําเพียงแค่ปิดปากไม่ได้พูดอะไรอีก เมื่อหัวข้อสนทนานี้ถูกหลินหยุนดึง กลับมา นางก็รับความกรุณาของหลินหยุนด้วยสีหน้าราบเรียบและถือโอกาส พูดขึ้น “ก่อนหน้านี้ที่พระชายารองหาปิ่นปักผมรูปหางหงส์ที่หายไปได้จากใน
กล่องผ้าไหมที่ข้าน้อยฝากให้คนขนออกจากจวน ข้าคิดว่าพระชายารองไม่
สามารถพิสูจน์ได้ว่าใครเป็นคนใส่ปิ่นปักผมรูปหางหงส์นี้ลงไปในกล่องของ
ข้าน้อยเจ้าค่ะ”
“กล้านัก!” เสียงของพระชายารองอิงสูงขึ้นทันที นางพูดด้วยน้ําเสียงที่ดัง
พอสมควร “เจ้าหมายความว่าพระชายารองอย่างข้าต้องการใส่ร้ายคนไร้ตําแหน่ง
อย่างเจ้างั้น ? !”
เจียงป่าวชิงยิ้ม “ข้าน้อยไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นเจ้าค่ะ สิ่งที่ข้าน้อยคิดเมื่อกี้นี้ คือแม้ว่าข้าน้อยจะพิสูจน์ไม่ได้ว่าใครเป็นคนใส่เข้าไป แต่สามารถพิสูจน์ได้ว่า ไม่ใช่ข้าน้อยที่ใส่มันเข้าไปต่างหากล่ะเจ้าค่ะ”
แม่นมซุนที่อยู่ข้างกายพระชายารองอิงหัวเราะเยาะ “โธ่! คําพูดของแม่นางช่าง แปลกประหลาดจริง ๆ ถ้าแม่นางไม่ได้เป็นคนใส่เข้าไป เช่นนั้นปิ่นปักผมมันมีขา แล้ววิ่งเข้าไปในกล่องได้เองอย่างนั้นสิ ?”
เจียงป่าวชิงไม่สนใจคําพูดไร้เหตุผลของแม่นมซุนแต่อย่างใด นางมองสิ่งหรูที่ถูก มัดอยู่อย่างแน่นหนา “สิ่งที่ข้าฝากให้มีหลิวนําไปให้เจ้า นอกจากกล่องผ้าไหม เหล่านี้แล้ว ยังมีจดหมายเขียนถึงบ้านอีกหนึ่งฉบับไม่ใช่รึ จดหมายนั่นล่ะอยู่ไหน
?”
สิงหพูดขึ้นทั้งที่ขดตัวอยู่อย่างหวาด ๆ “ถูกค้นไปขอรับ”
เจียงป่าวชิงมองพระชายารองอิงแล้วพูดขึ้นอย่างสงบ “พระชายารอง นั่นคือ จดหมายที่ข้าน้อยเขียนให้กับพี่ชายที่บ้าน พระชายารองช่วยคืนให้ข้าน้อยได้ไหม
เจ้าคะ ?”
“เหอะ! ก็แค่กระดาษจู้จี้จุกจิกไม่กี่แผ่นเท่านั้น” พระชายารองอิงเบะปากอย่าง ไม่แยแส “ ไม่ได้อยู่ที่ข้าสักหน่อย”
พระชายามองพระชายารองอิงอย่างไม่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งและเรียกขึ้นมาเสียง
เฉียบ “พระชายารองอิง!”
“อะไรจ๊ะพระชายา ข้ารู้ว่าเจ้าจิตใจดีและมองว่าข้าเป็นคนร้าย ช่างเถอะ ข้าแค่ทํา เพื่อตรวจสอบว่าเจียงป่าวชิงคนนี้จะนําเรื่องในจวนของเราออกไปพูดมั่วชั่วหรือ
เปล่า และทําเพื่อจวนของเราก็เท่านั้น…. แต่กลับถูกพระชายาปฏิบัติใส่เช่นนี้
พระชายารองอิงแสดงท่าทางน้อยใจ “ช่างเถอะ ไม่เข้าใจก็แล้วกันไป… แม่นม
ซุน”
แม่นมซุนล้วงจดหมายออกมาจากในอ้อมแขนแล้วก้าวไปข้างหน้าเพื่อส่งให้เจียง
ป่าวชิง “แม่นางเจียง รับไปซะสิ”
ขี้ผึ้งปิดผนึกซองจดหมายถูกเปิดแล้ว เห็นได้ชัดว่ามันถูกฉีกออกเป็นที่เรียบร้อย
เจียงป่าวชิงเทกระดาษข้างในออกมาจากในซองจดหมายและพบว่าไม่มีอะไร
หายไป
พระชายารองอิงพูดขึ้นอย่างเยาะเย้ย “เจ้าสงสัยว่าข้าจะยึดจดหมายของเจ้า ?”
เจียงป่าวชิงยิ้มพลางเก็บกระดาษที่มีเนื้อความจดหมายใส่กระเป๋าเสื้อ จากนั้นก็ฉีก
ซองจดหมายอย่างระมัดระวัง
หลินถึงมองดูอย่างสงสัยจากด้านข้าง และอดพู อดพูดขึ้นอย่างตก างตกตะลึงไม่ได้
“ด้านหลังซองจดหมายยังมีกระดาษแปะอยู่อีกหนึ่งใบหนิ นั่นคืออะไรนะ ?”
พระชายารองอิงเกิดลางสังหรณ์ไม่ดีในใจ แล้วตอนนี้เจียงป่าวชิงยังจงใจมองมา
ที่นางอีก
สายตาของเจียงป่าวชิงทําให้นางรู้สึกขนลุก
“ตอบองค์ชายหลินถึงเจ้าค่ะ เนื่องจากวันนี้องค์ชายหย่งชินและพระชายามอบ สิ่งของมีค่าให้แก่ข้าน้อยมากมาย มีสิ่งของจํานวนมากที่ข้าน้อยน่าจะไม่ได้ใช้ ชั่วคราวจึงทําการเลือกออกมาบางส่วน นํามาใส่ในกล่องผ้าไหมและคิดจะฝากให้
คนส่งออกไปที่บ้านเจ้าค่ะ” เจียงป่าวชิงพูดเสียงเรียบ “ เนื่องจากสิ่งของที่องค์ ชายและพระชายามอบให้นั้นต่างก็เป็นสิ่งของที่ล้ําค่ามากข้าจึงจดใส่กระดาษไว้ เพื่อป้องกันเผื่อเกิดกรณีที่มีบางอย่างขาดหายไปหรือมีเพิ่มมาเจ้าค่ะ ถ้าข้าไม่ทํา เช่นนี้แล้วเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นจริง ๆ ถึงตอนนั้นต่อให้ข้ามีปากก็อาจอธิบาย อะไรไม่ได้แล้วเจ้าค่ะ”
เจียงป่าวชิงหยุดชะงักเล็กน้อย นางมองพระชายารองอิงพร้อมยกยิ้มมุมปากอย่าง
สะใจ “ที่ข้าน้อยฝากให้คนช่วยส่งของออกไปในครั้งนี้ ข้าน้อยเขียนใบแสดง รายการสิ่งของไว้เจ้าค่ะ” เจียงป่าวชิงส่งกระดาษที่แปะอยู่ตรงซองจดหมาย
พร้อมกับซองจดหมายที่ฉีกแล้วให้กับหลินถึงที่เอ่ยถามเป็นคนแรก “ท่านเชิญดู ได้เลยเจ้าค่ะ สิ่งของทุกอย่างในกล่องผ้าไหมนี้มีเขียนระบุอยู่บนกระดาษใบนี้ ทั้งสิ้นเจ้าค่ะ”
หลินถึงมองอย่างลวก ๆ แล้วพยักหน้า “อืม ข้ามีภาพความทรงจําเกี่ยวกับ สิ่งของสองสามอย่างที่อยู่ในกระดาษใบนี้ มันเป็นสิ่งของที่ท่านพ่อและท่านแม่ เพิ่งมอบให้แก่เจ้าในวันนี้จริงๆ ด้วย” เขาหยุดชะงักเล็กน้อยคล้ายกับรู้สึกดีใจ “อื้ม ไม่มีปิ่นปักผมรูปหางหงส์ของพระชายารองเขียนอยู่ในนี้”
หลินถึงส่งใบรายการให้องค์ชายหย่งชิ้น “ท่านพ่อ เชิญดูขอรับ” องค์ชายหย่งชินนวดขมับ “ข้ารําคาญที่จะดูสิ่งเหล่านี้ ให้ท่านแม่ของเจ้าดูเถอะ” หลินถึงจึงส่งกระดาษนั้นให้กับพระชายาอย่างจนปัญญา พระชายากวาดสายตา มองอย่างคร่าวๆ ก่อนที่คิ้วทรงใบหลิวที่ขมวดเป็นปมมาตลอดคลายลง ลายลงในที่สุด
ใบหน้างามเผยให้เห็นรอยยิ้มเล็กน้อย “เป็ “เป็นอย่างที่ถึงเอ๋อร์พูดจริงๆ ปิ่นปักผมรูปหางหงส์ประดับจี้หยกเล็ก ๆ อันนั้น”
ในนี้ไม่มี
องค์ชายหย่งชินมองพระชายารองอิง สายตาของเขามัวหมองยากจะเข้าใจ “อิง
เอ๋อร์ เจ้าว่าอย่างไร ?”
“นี่ไม่สามารถพิสูจน์อะไรได้นะเพคะ!” พระชายารองอิงลุกลี้ลุกลน “องค์ชาย
เพคะ บางทีเจียงป่าวชิงอาจจงใจไม่เขียนเพื่อต้องการหนีความผิดก็ได้นะเพคะ…. องค์ชายลองคิดดูสิเพคะว่านางรู้ดีว่าถ้านางขโมยปิ่นปักผมรูปหางหงส์นี้ มันก็ถือ เป็นของโจร แล้วนางจะจดลงไปในใบรายการตั้งแต่แรกทําไมล่ะเพคะ ข้าว่าที่
นางทําแบบนี้ก็เพื่อป้องกันไม่ให้คนในจวนพบเจอ….”
“พระชายารองพูดตลกแล้วเจ้าค่ะ” เจียงป่าวชิงยิ้มเย็นชา “ถ้าหากว่าข้าขโมย ปิ่นปักผมนี้จริง ๆ ข้าจะกล้าใช้ให้สาวใช้ในจวนช่วยหาคนขนกล่องผ้าไหม ออกไปจากจวนให้ข้าหรือเจ้าคะ ?”
งๆ
“นั่นเป็นเพราะเจ้าไม่คิดว่าข้าจะพบปิ่นปักผมที่หายไปซ่อนอยู่ในกล่องผ้าไหม
ยังไงล่ะ!”
“ได้ ถ้าหากว่าข้าน้อยคิดไม่ถึง เหตุใดข้าน้อยต้องทําเรื่องเกินความจําเป็นเช่นนี้ แต่กลับไม่เขียนปิ่นปักผมรูปหางหงส์ลงไปในรายการล่ะเจ้าคะ ? ถ้าหากว่ามัน นับไม่พอดี เมื่อถึงตอนนั้นพี่ชายข้าน้อยก็คงไม่รู้เช่นกันน่ะสิเจ้าคะ ?”
“นั่น… นั่นเป็นเพราะเจ้าจงใจวางแผนการไว้ จะได้มาเถียงข้าง ตัวเองในตอนหลังเช่นนี้ยังไงล่ะ!”
ๆ ๆ ให้กับ
เจียงป่าวชิงยิ้มอย่างระอาใจ “ พระชายารองเจ้าคะ ดูสิ เรื่องนี้อ้อมกลับมาอีกแล้ว ถ้าหากว่าข้าน้อยคิดวางแผนการไว้เช่นนั้นเหตุใดข้าน้อยต้องให้คนที่ไม่รู้จักนํา กล่องผ้าไหมออกไปส่งแทนตัวข้าน้อยเองด้วย ? เรื่องนี้พระชายารองไม่รู้สึก ว่ามันขัดแย้งไปหน่อยหรือเจ้าคะ ? บอกว่าข้าน้อยวางแผนการ แต่ก็เห็น ๆ อยู่ ว่ามันไม่แยบยลเอาเสียเลย คนอย่างข้าน้อยคิดแผน ได้ดีกว่านี้เจ้าค่ะถ้าจะขโมย ของจริงๆ”
พระชายารองอิงถึงกับพูดไม่ออก นางกัดริมฝีปากล่างและเริ่มทําตัวปลิ้นปล้อน
“ข้าไม่สน รู้แค่ว่าปิ่นปักผมรูปหางหงส์ของข้าถูกพบในกล่องผ้าไหมของเจ้า
และเจ้าต้องให้คําอธิบายกับข้า”
“เอาล่ะทุกคนหยุดพูดเถอะ” องค์ชายหย่งชินพูดด้วยอารมณ์โกรธ
เมื่อเห็นดังนั้นเจียงป่าวชิงก็หยุดต่อกรและก้มหน้า นางรู้อยู่แล้วว่าพระชายารอง
อิงทีคิดแผนการยัดของใส่ร้ายอันห่วยแตกย่อมทนกับการโต้แย้งไม่ได้
เรื่องนี้จะถูกหรือผิดขึ้นอยู่กับว่าองค์ชายหย่งชินเต็มใจจะเชื่อใคร
เจียงป่าวชิงเสนอหลักฐานที่นางสามารถเสนอได้ไปหมดแล้ว แต่พระชายารองอิง
กลับยังคงยืนกรานอย่างเด็ดเดี่ยวว่าเจียงป่าวชิงเป็นคนขโมยปิ่นปักผมของนางไป
นางไม่สามารถแสดงหลักฐานอื่น ๆ ได้ ได้แต่พึ่งพาแต่ฝีปากที่พูดยืนกรานไร้ เหตุผลอย่างเดียว
โดยเฉพาะตอนนี้ ใช้นิ้วเท้าคิดก็รู้ว่าเจียงป่าวชิงยังต้องทําการรักษาพระนางเจียฮุ
ยต่อ แต่พระชายารองอิงกลับกระโดดออกมาดักขาเจียงป่าวชิงให้ล้ม เจียงป่าวชิง
ไม่รู้จะพูดว่านางประเมินตัวเองสูงเกินไปหรือนางกลัวว่าจะส่งผลเสียกับตัวเอง หากพระนางเจียฮุยกลับมาแข็งแรงแล้วกันแน่ถึงได้รีบตีตนไปก่อนไข้