แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 452 : แต่ข้าสนใจ
วันนีวิงวุ่ นอยู่ข้างนอกเกือบทังวัน เจียงป่ าวชิงรอกงจีจนเริมรู้สึกง่วงเล็กน้อย ตอน ทีนางเกือบหลับแล้วก็ได้ยินเสียงเคาะเบา ๆ ทีหน้าต่าง
เจียงป่ าวชิงกระปรี กระเปร่าขึนมาทันที นางวิงไปทีริมหน้าต่ างแล้วผลักหน้าต่าง ให้เปิ ดออกอย่างไว
กงจีเข้ามาทางหน้าต่างด้วยใบหน้ายิมแย้ม เขาสํารวจเจียงป่ าวชิงทีอยู่ ในชุดนอน “ใช่ได้หนิ มีความคืบหน้าแล้ว ไม่คิดว่าเจ้าจะกล้าเรียกข้าให้มาเจอแบบส่วนตัว ในตอนดึกเช่นนี”
เจียงป่ าวชิงปิ ดหน้าต่างแล้วปล่อยให้เขาหยอกล้อ ไม่นานก็ผลักกงจีให้เดินลึกเข้า ไปในห้อง
กงจีเดินมองสํารวจการตกแต่งภายในห้องไปด้วย แล้วเขาก็ทําท่าทีรังเกียจ เล็กน้อย “ถู ๆ ไถ ๆ”
เจียงป่ าวชิงชอบการตกแต่งของห้องนีมาก เมือได้ยินกงจีพูดเช่นนีก็เบะปาก แต่ เมือนึกถึงเรืองทีจะคุยในคืนนี นางก็ตัดสินใจว่าจะไม่ทะเลาะกับกงจีด้วยเรืองเล็ก ๆ น้อย ๆ นีจะดีกว่า
เจียงป่ าวชิงกําลังครุ่นคิด จู่ ๆ กงจีก็พูดขึน “ผิดปกติ” “อ๊ะ…” เจียงป่ าวชิงขมวดคิว “ผิดปกติตรงไหนรึ ?”
กงจีสังเกตนางและหลุดหัวเราะออกมา “แน่นอนว่าเป็ นเจ้าทีผิดปกติ คืนนีเจ้า ประพฤติตัวดีเกินไป… ข้าว่าเรืองทีเจ้าเรียกข้ามาคุยนันคงเป็ นเรืองทีข้าจะไม่เห็น ด้วยใช่ไหม ?”
ไอ้คุณชายนีเฉียบแหลมเกินไปแล้ว!
เจียงป่ าวชิงยิมหวาน กดเขาลงบนเก้ าอีก่อนจะทุบหลังให้อย่างกระตือรือร้น “ข้า คิดว่าคนทีรู้เหตุรู้ผลอย่างเจ้าต้องเห็นด้วย ตราบใดทีข้าพูดอย่างมีเหตุผล”
กงจีโต้แย้งเจียงป่ าวชิงอย่างใจเย็น “ไม่ เรืองทีข้าไม่เห็นด้วย ต่อให้เจ้าจะพูดอย่าง มีเหตุผลแค่ไหน ข้าก็ยังไม่เห็นด้วย”
“…”
สีหน้าเจียงป่ าวชิงแข็งทือ นางทําปากจู๋แล้วไม่พูดอะไรเลย
กงจีมองร่างบางพลางโอบนางเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดแล้วจับให้นางนังบนขาของ ตัวเอง ก่อนทีเสียงนุ่ม ๆ จะพูดขึนอย่างช้า ๆ “เจ้าลองบอกมาก่อนสิว่ามันเป็ น เรืองอะไรกันแน่”
เจียงป่ าวชิงตัดสินใจเสียสละร่างกายตัวเองเล็ก ๆ น้อย ๆ นางโอบกอดรอบคอเขา พลางเอาคางขยับเข้าไปบนไหล่ของเขาและพูดด้วยเสียงแผ่วเบา “ก็คือเรืองที บ้านข้าถูกคนบุกเข้าไปทําลายข้าวของก่อนหน้านี ข้าตัดสินใจว่าจะใช้วิธีตัดไฟ ตังแต่ต้นลมนะ”
นางเพิงพูดจบ กงจีก็หัวเราะอย่างเย็นชาแล้วมอบสามคําให้กับนาง “อย่าได้คิด”
เจียงป่ าวชิงโมโห วิธีออเซาะเอาใจใช้ไม่ได้ผลกับเขาในปี นีแล้วหรือไงนะ ?! นีนางหน้าตาสะสวยโดยเปล่าประโยชน์อย่างนันรึ
“เจ้ายังไม่ได้ฟังแผนการของข้าเลย!” เจียงป่ าวชิงยืดตัวขึนบ่นกงจีอย่างโกรธ เคือง
กงจีจ้องนาง “ทุกแผนการทีมีคําว่าตัดไฟตังแต่ต้นลม มีอันไหนทีไม่เอาตัวเข้าไป เสียงบ้าง ? สําหรับข้า เพียงแค่ให้เจ้าเข้าไปเสียง ไม่ว่าจะแผนการไหนก็ไม่ได้ ทังนัน”
เจียงป่ าวชิงรู้สึกซาบซึงใจไปก็เท่านัน นางยังคงเถียงด้วยเหตุผล “ทีข้าบอกว่าตัด ไฟตังแต่ต้นลม คราวนีข้าปลอดภัยมากจริง ๆ นะ อย่างน้อยคุณชายก็ควรฟังข้า พูดให้จบก่อนสิ” หลังจากเหตุการณ์นี นางได้เรียนรู้บทเรียนแล้วว่าต่อไปถ้าจะ ตังชือแผนการอะไร พยายามตังชือทีมันเป็ นมงคลและน่ายินดีสักเล็กน้อยดีกว่า
กงจีเห็นว่าเจียงป่ าวชิงมุ่งมันจึงพยักหน้า “งันเจ้าลองพูดมาสิ”
การปฏิวัติทียากลําบากได้รับชัยชนะในขันตอนแรก เจียงป่ าวชิงทําจิตใจให้สงบ ก่อนจะเล่าให้กงจีฟังเกียวกับเรืองทีจัวไต้ฝูปลิดชีพตัวเอง “ข้าลองคิดไปคิด มาแล้ว สิงทีข้าอาจไปยุแหย่ในช่วงนีก็มีแค่เรืองนีแหละ”
สีหน้าของกงจีอึมครึมเล็กน้อย เขาเฉียบแหลมมากจึงค้นพบหัวใจสําคัญของ เรืองราวได้ในทันใด …มีคนจงใจใช้เจียงป่ าวชิงเป็ นแพ
เขาหอมแก้มนางแล้วพูดขึนเสียงเบา “เจ้าสืบได้แค่นีก็ดีแล้ว ต่อไปให้ข้าจัดการ เอง”
แต่เจียงป่ าวชิงกลับปฏิเสธกงจีอย่างเด็ดขาด “ไม่ได้”
“เรืองนีปล่อยให้เจ้าเอาแต่ใจตัวเองไม่ได้ มันอันตรายมาก” กงจีกลับใจเย็น ผิดปกติ เขาพูดกับเจียงป่ าวชิงอย่างจริงจัง “เรืองนีเกียวข้องไปถึงขุนนางในราช สํานัก ความชัวร้ายของวงการราชการนั นซับซ้อนซ่อนเงือนยากทีจะจัดการ ข้า ปล่อยให้เจ้าบุกเข้าไปทําให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บไม่ได้ เข้าใจไหม ?”
เจียงป่ าวชิงเองก็สบตากงจี “ข้าไม่ได้อยากบุกเข้าไป แต่เรืองในตอนนีมันเริมจาก ข้า และหัวหอกก็กําลังชีมาทีข้า มีครังแรกก็ต้องมีครังทีสอง และถ้าหากว่าข้าไม่ จัดการกับเรืองนี คนอืนอาจคิดว่าข้าเป็ นเต้าหู้ทีบีบเล่นง่าย ๆ ก็ได้”
กงจีจึงบีบแก้มเจียงป่ าวชิงเล็กน้อย ก่อนทีเขาจะพูดขึนอย่างช้า ๆ “มีข้าคอย ปกป้องเจ้า ใครก็อย่าคิดทีจะบีบเต้าหู้ของข้า”
เจียงป่ าวชิงรู้ว่ากงจีเป็นลูกผู้ชายเสมอมา นางเองก็จิตใจสงบด้วยเช่นกัน “แทนที จะให้เป็ นเช่นนี มันจะดีกว่าหรือไม่ถ้าข้าไม่เป็ นเต้าหู้ กงจี ข้ารู้ดีว่าเจ้าปกป้องข้า อย่างดีมาโดยตลอด แต่ดูคุณหนูจัวไต้ฝูคนนั นสิ หรือว่าตังแต่เล็กจนโตนางไม่มี คนปกป้องเลยรึ ? ไม่ใช่ว่านางต้องมาตายเพราะถูกข่าวลือข้างนอกบีบบังคับ หรือไง ?”
“เจ้าไม่เหมือนนาง” กงจีพูดอย่างมันใจ
“แน่นอนว่าข้าไม่เหมือน แม้ข้าจะไม่กลัวข่าวลือเหล่านันแต่ข้าอยากแต่งงานกับ เจ้าให้ดี ๆ หน่อย” เจียงป่ าวชิงขยับเข้าไปหอมแก้มเขา ทําเอาเขาหน้าแดงแต่ นางเองก็หน้าแดงเช่นกัน “มีคนคิดอยากดึงข้าลงนํา ข้าเดาว่าขันตอนต่อไป จะต้องเป็ นการทําลายชือเสียงของข้าแน่ ๆ ถ้าหากว่าข้าไม่ล้างชือเสียงนีด้วย ตัวเอง ต่อไปจะแต่งงานกับเจ้าโดยไม่เป็ นขีปากชาวบ้านได้ยังไง ข้ารู้ดีว่าเราสอง คนรักกัน ถ้าเจ้าไม่อยากให้ผู้คนหัวเราะทีแต่งงานกับผู้หญิงทีเคยทําร้ายคนอืนจน ตายแบบนัน เจ้าก็ต้องเห็นด้วยและช่วยข้าตังแต่ตอนนี”
กงจีมองเจียงป่ าวชิงนิง ๆ “ข้าไม่สน”
“แต่ข้าสน!” เจียงป่ าวชิงมองกงจีอย่างไม่ท้อถอย “ก็เหมือนกับทีเจ้ารักและ เป็ นห่วงกลัวว่าข้าจะเป็ นอันตรายนันแหละ ข้าเองก็ รักเจ้าเช่นกัน เจ้าดูจุดจบของ
คุณหนูจัวสิ ถูกกดดันจนไม่ สามารถเอาชีวิตรอดได้จากข่าวลือ เห็นได้ว่านางรู้สึก สินหวังแค่ไหน คําพูดทีไม่ดีก็เหมือนมีดแหลม ข้าไม่อยากให้คนอืนมาพูดจา ทุเรศหรือวิจารณ์อะไรเจ้าทังนัน”
เจียงป่ าวชิงหอมแก้มกงจีอย่างนุ่มนวลอีกครัง “ได้โปรดเถอะคุณชายกงจี ข้ารู้ว่า เจ้าจะปวดใจหากว่าข้าได้รับบาดเจ็บ ข้าจะพยายามดูแลปกป้องตัวเองเป็ นอย่างดี ไม่ให้ได้รับบาดเจ็บหรือโดนใครเล่นงานอะไร หรือว่าเจ้าไม่เชือใจข้าอย่างนันรึ
?”
กงจีสูดหายใจเข้าลึก ๆ ในหัวก็ครุ่นคิดตัดสินใจ
……
เช้าตรู่ทีฟ้ายังมืดอยู่ของวันต่อมา นีเป็ นวันทีหนาวเหน็บวันหนึง ท้องนภาทังหมด เป็ นสีเทาแทบมองไม่เห็นนิวมือถ้าแบมือชูขึนฟ้า คนบังคับม้าทีบังคับรถม้าให้ เจียงป่ าวชิงมีประสบการณ์ในการดูสภาพอากาศ เพียงแค่เขาเงยหน้ามองฟ้าปราด เดียวก็พูดยืนยันทันที “ฮืม เกรงว่าวันนีหิมะจะตกหนักอย่างแน่นอนขอรับ”
เจียงป่ าวชิงในวันนีห่อร่างตัวเองไว้อย่างมิดชิด มีหลิวประคองนางขึนรถม้าด้วย ความเป็ นห่วงเล็กน้อย
อันทีจริงมีหลิวอยากตามไปดูแล แต่เจียงป่ าวชิงบอกว่าเพียงแค่ไปร่วมพิธีงานศพ ทีบ้านคนอืนไม่นานก็กลับ ไม่จําเป็ นต้องพาสาวใช้ไปด้วยและสังให้มีหลิวกับ สุนถาวอยู่ในจวนพร้อมทังสังงานให้พวกนางสองคนนันก็ คือไปหาลู่เหมยเพือ ช่วยกันตัดกระดาษตกแต่งหน้าต่างในตอนปี ใหม่
“แม่นาง ว่ากันว่าวันนีหิมะจะตกหนัก แม่นางต้องรีบไปรีบกลับนะเจ้าคะ” มี หลิวเป็ นกังวลอย่างมาก แม้สุนถาวจะไม่ได้พูดอะไรแต่นางก็แสดงความห่วงใย ต่อเจียงป่ าวชิงผ่านทางสายตาของนางเช่นกัน
“ไม่ต้องห่วง ข้าทําธุระเสร็จแล้วก็กลับ ไม่อยู่ข้างนอกนานหรอก” เจียงป่ าวชิง พูดทิงท้ายพร้อมรอยยิ มแล้วมุดเข้าไปในห้องโดยสารรถม้า เมือม่ านรถปิ ดจนชาย เสมอกันแล้ว ความหนาวเย็นข้างนอกก็ลดลงบ้างเล็กน้อย
“ไปทีจวนองค์ชายหย่งชิน”
เสียงอู้อีของเด็กสาวดังออกมาจากในรถม้า เมือคนบังคับรถม้าได้รับคําสังก็ สะบัดแส้ม้า ในทีสุดล้อรถม้าก็บดกับแผ่นหินสีเขียว เคลือนทีไปทางจวนองค์ชาย หย่งชิน
……
ณ จวนองค์ชายหย่งชิน รถม้าหยุดทีเชิงกําแพงฝังตรงข้ามซึงห่างจากประตูใหญ่ เล็กน้อย เจียงป่ าวชิงแง้มม่านหน้าต่างรถม้าพลางมองประตูใหญ่ทีปิ ดสนิทของ จวน
หลังจากทีรอเวลาประมาณสองก้านธูปผ่านไป ประตูเคลือบสีแดงเข้มทีปิ ดสนิท ของจวนองค์ชายหย่งชินก็เปิ ดออกในทีสุด เผยให้เห็นองครักษ์ขีม้าสองสามคน คุ้มกันรถม้าหรูหราเคลือนออกมาจากจวนองค์ชาย
ตอนนีเอง เจียงป่ าวชิงลงจากรถม้าแล้วเดินไปทางขบวนรถนัน
องครักษ์ของจวนองค์ชายวางมือไว้ตรงดาบยาวบริเวณเอวอย่างระแวดระวังแล้ว พูดเตือน “ใคร! หยุดเดีCยวนี!”
เจียงป่ าวชิงยิมแล้วพูดขึ นเสียงดัง “องค์หญิง ข้าน้อยเจียงป่ าวชิง ทีข้ามาพบองค์ หญิงก็เพราะมีเรืองจะคุยกับองค์หญิงเจ้าค่ะ”
ม่านหน้าต่างของรถม้าถูกเลิกออกเล็กน้อย เผยให้เห็นใบหน้าเล็กทีปกปิ ดไว้อย่าง มิดชิด ไม่ใช่หลินยู่หยุนแล้วจะเป็ นใครได้อีก
หลินยู่หยุนดีใจเมือเห็นเจียงป่ าวชิง “โอ้! ป่ าวชิงเองรึ ? รีบเข้ามาสิ ข้างนอก หนาวมากนะ”
เจียงป่ าวชิงจึงขึนรถม้าขององค์หญิงและพบว่าภายในรถม้าขององค์หญิงนัน กว้างมาก มีเตาทําความร้อนชนิดควันน้อยอย่างดีซึงออกแบบมาอย่างเอาใจใส่ทํา ให้ปล่องไฟปล่อยควันขึนด้านบน ภายในรถม้าอบอุ่นมากและยังไม่มีควันเลย แม้แต่นิดเดียว
รู้สึกดีจริง ๆ