แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 455 : โกรธ
ชิวเพ่ยโหลวคิดแผนรับมือไว้ตังแต่เนิน ๆ แล้ว นางแสดงสีหน้าตกตะลึง “พีจัว นีพีกําลังสงสัยข้าอย่างนันรึ ?! ข้าดีกับเสียวฝูขนาดนัน มันจําเป็ นด้วยหรือทีข้า ต้องโกหกเรืองนี! วันนันบรรดาคุณหนูทังหลายก็มีเยอะถมไปใช่ว่ามีข้าคนเดียว ซะหน่อย… ถ้าหากว่าพีไม่เชือพีก็ถามเสียวเชียนได้เลย…” สายตาของนาง เคลือนไปหาเด็กสาวในชุดสีเขียวทีอยู่ไม่ไกล เด็กสาวคนนันลุกลีลุกลนเล็กน้อย แต่นางยังคงพยักหน้าอย่างต่อเนือง
“ใช่จ้ะพีจัว ตอนนั นข้าอยู่ทีนันและได้ยินกั บหูตัวเองว่าสาวใช้ทีมาส่งต่อ ข้อความหงุดหงิดมาก นางบอกว่าแม่นางเจียงยุ่งเพราะต้องไปรักษาพระนางเจียฮุ่ ยจึงไม่มีเวลามาสนใจคนอืน นางบอกว่ารักษาไม่ได้และบอกให้ฝูเอ๋อร์ไปหาหมอ คนอืนมาตรวจอาการแทนจ้ะ” เด็กสาวชุดเขียวเงียบไปครู่หนึงก่อนจะพูดเสริม “บางทีอาจเป็ นคําพูดนีทีถูกคนอืนพูดออกไปโดยบิดเบือนข้อมูลก็ได้นะจ๊ะ”
“ผู้คนทีอยู่ในเหตุการณ์ตอนนันต่างก็เป็นพยานให้กับข้าได้!” ชิวเพ่ยโหลวสา บานอย่างหนักแน่นจริงใจ “เป็ นเพราะคําว่ารักษาไม่ได้นันแหละถึงทําให้อารมณ์ ของเสียวฝูหดหู่มาก นางกลับไปตังแต่เนิน ๆ… ก็เห็นอยู่ว่าเสียวฝูแค่เหนือย เกินไป พักผ่อนสักหน่อยก็ดีขึนแล้ว แต่เพราะคําพูดทีขาดความรับผิดชอบของ แม่นางเจียง สุดท้ายก็เป็ นสาเหตุทีบีบบังคับกดดันให้เสียวฝูผูกคอจบชีวิตตัวเอง… เสียวฝู ทําไมเจ้าถึงได้โง่เขลาเช่นนี”
พูดจบ ชิวเพ่ยโหลวก็ใช้มือปิ ดหน้าแล้วร้องไห้ทันที
คําพูดละเอียดและมีพยานอืน หลายคนทีฟังแล้วเชือจึงใช้สายตาประณามมอง เจียงป่ าวชิง
“แม่นางเจียง เจ้าใช้อํานาจบาตรใหญ่เกินไปหรือเปล่า ต้องรู้ว่าคําพูดขาดความ รับผิดชอบของเจ้าคร่าชีวิตคนไปแล้ว!” ใครคนหนึงพูดตําหนิเจียงป่ าวชิง
และมีหลายคนทีพูดคล้อยตาม “ใช่… จิตใจชัวร้ายขนาดนี มาเป็ นหมอได้ ยังไง…”
เจียงป่ าวชิงปล่อยให้คนอืนพูดวิจารณ์ตัวเองแต่นางไม่โกรธแม้แต่น้อย “คนอย่าง ข้ามีข้อดีอย่างหนึงนันก็ คือความจําดีมาก ส่วนคําพูดทีว่ารักษาไม่ได้นี ข้าไม่เคย พูดแน่ ๆ สาวใช้ของพระนางเจียฮุ่ยในตอนนัน ข้าจําได้ว่านางชือชิงชู นาง มาตามหาข้าและนางก็อยู่ในเหตุการณ์ตอนนันด้วยเช่นกัน ลองให้นางนึก ย้อนกลับไปได้ว่าข้าพูดว่า ‘รักษาไม่ได้’ อะไรแบบนันหรือเปล่า”
ชิวเพ่ยโหลวใช้ผ้าเช็ดหน้าซับตรงหางตาเล็กน้อย แต่นําตายังคงไหลลงมาตาม สองข้างแก้มของนาง “แม่นางเจียงกําลังบอกว่าเราร่วมมือกันใส่ร้ายเจ้าอย่างนันรึ ? นําหนักของคําพูดเรารวมกันมันไม่เท่าสาวใช้เพียงคนเดียวอย่างนันสิ”
เจียงป่ าวชิงพูดขึนอย่างสงบ “อ้อ ถ้างันคุณหนูชิวเพ่ยโหลวหมายความว่าชิงชู สาวใช้ข้างกายของพระนางเจียฮุ่ยกล้าพูดปดอย่างนันสิ ?”
แววตาของชิวเพ่ยโหล่วค่อนข้างลนลาน “ข้าไม่ได้พูด แต่ตอนนันเราได้ยินอย่าง ชัดเจนและฟังไม่ผิดแน่ สาวใช้ข้างกายของพระนางเจียฮุ่ยต้องฟังผิดแน่นอน…”
จู่ ๆ เจียงป่ าวชิงก็ส่งเสียงหัวเราะออกมา จัวไต้จงพูดขึ นอย่างรังเกียจ “เจ้าหัวเราะอะไร ?!”
“ก็อะไรล่ะ หรือว่าเจ้าไม่รู้สึกว่ามันน่าขัน ?” เจียงป่ าวชิงค่อย ๆ พูด “คําพูดที ไม่มีต้นสายปลายเหตุเช่นนี แต่คุณหนูชิวเอ้อกลับยืนยันว่าข้าเป็ นคนพูด ราวกับ ว่าคุณหนูเห็นกับตาตัวเองว่าข้าคุยกับสาวใช้ ถ้างันทําไมคุณหนูชิวเอ้อไม่คิดบ้าง ว่าบางทีอาจเป็ นสาวใช้ทีกําเริบเสิบสานและแอบเปลียนความหมายก็ได้ มัน ค่อนข้างเห็นชัดว่าคุณหนูต้องการใช้สามคํานีเย็บติดกับข้าให้ได้ ทําแบบนีไม่คิด ว่ามันเป็ นการพยายามอย่างสุดความสามารถไปหน่อยหรือ ?”
ทุกคนชะงักไป ก็จริง บางทีอาจเป็ นสาวใช้ทีส่งต่อข้อความพูดมัว ๆ เองก็ ได้ แต่ ทําไมชิวเพ่ยโหลวกับเพือนของนางกลับเชืออย่างหนักแน่นว่าเจียงป่ าวชิงพูด แม้ว่าเจียงป่ าวชิงจะยืนยันว่าไม่ได้พูดและให้ลองถามสาวใช้ดี ๆ อีกทีก็ตาม
นีออกจะคล้ายกับการใช้ข้ออ้างมาใส่ความผู้อืน
แต่ชิวเพ่ยโหลวกลับเตรียมรับมือได้อย่างรวดเร็วมาก “เป็นเพราะพวกเรารู้สึกว่า พวกคนรับใช้ของจวนองค์ชายหย่งชินถูกสังสอนมาอย่างดี จึงไม่คิดว่าสาวใช้จะ บิดเบือนคําพูดของเจ้านายโดยพละการเช่นนี พอมาลองคิดดูก็เหมือนจะมีความ เป็ นไปได้นีจริง ๆ”
แม้คําอธิบายนีจะดูธรรมดาไปหน่อย แต่ก็สามารถผ่านไปได้อย่างถู ๆ ไถ ๆ
ทว่าจัวไต้จงกลับรูสึกงุนงงเล็กน้อย เขาเองก็ เริมคิดแล้วว่าบางที คําว่า “รักษา ไม่ได้” นีอาจไม่ได้ออกมาจากปากของเจียงป่ าวชิงทีเขาจงเกลียดจงชัง เช่นนัน ความเกลียดชังอันลําลึกทีปักหลักมาจากคําว่า “รักษาไม่ได้” ก็กลายเป็ นเรือง ตลกทียิงใหญ่ อย่างนันสิ
จัวไต้จงหดตัวลีบราวกั บลูกโป่ งทีถูกปล่อยลม
ชิวเพ่ยโหลวส่งสายตาให้เด็กสาวทีมาเข้าร่วมพิธีศพคนหนึงด้วยสีหน้ายําแย่ เล็กน้อย เมือเด็กสาวคนนันได้รับสัญญาณ นางก็ตัดสินใจบิดเนือตัวเองทันที
นางร้องไห้พูดกับเจียงป่ าวชิง “ไม่ต้องพูดถึงเรืองอืน ถ้าหากว่าเจ้ายอมช่วยฝู เอ๋อร์ในตอนนัน เพือให้ผู้คนทีอยู่ในงานรู้ว่าสุขภาพร่างกายของฝูเอ๋อร์ไม่ได้เป็ น อะไรเลย เรืองนีก็คงจะไม่บานปลายมาจนเป็ นเช่นนีหรอก!”
ไม่ว่าจะยังไงก็ต้องการให้นางแบกรับความผิดทีจัวไต้ฝูฆ่ าตัวตายให้ได้เลยใช่ ไหม! เจียงป่ าวชิงหัวเราะในใจ เป็ นถึงบุตรสาวของตระกูลมังมีแต่ กลับใช้วิธีที ไม่มีเหตุผลแบบนีซะได้
เจียงป่ าวชิงยังไม่ทันได้พูดอะไร จู่ ๆ หลินยู่หยุนก็พูดขึนด้วยท่าทางเคร่งขรึม “นี ตอนนันพระนางเจียฮุ่ยทีไม่ได้สติเป็ นเวลานานเพิงฟื นขึนมา อาการประชวรของ ท่านอาจกําเริบขึนอีกครังก็ได้ ณ เวลานัน พวกเจ้าบอกมาสิว่าป่ าวชิงทีเป็นหมอ รับผิดชอบในการดูแลพระอาการประชวรของพระนางเจียฮุ่ยโดยเฉพาะ ควรไปดู พระนางทีอยู่ใกล้มือทีสุดก่อน หรือว่าทิงพระนางเพือไปดูสุขภาพร่ างกายของ ไต้ฝูก่อน ?”
น้อยครังมากทีหลินยู่หยุนจะพูดยาวเหยียดขนาดนีต่อหน้าผู้คน เมือนางพูดจบ ใบหน้าของนางก็แดงกําเหมือนเพิงรู้สึกอายในตอนหลัง
ขณะนีไม่มีใครกล้าตอบคําถามของหลินยู่หยุน
มีใครบ้างทีจะกล้าบอกว่าเจ้าไม่ต้องไปสนใจพระอาการประชวรของพระนาง แต่ ไปตรวจอาการให้คนอืนก่อนดีกว่า ถ้าหากคําพูดนีไปถึงหูของฮ่องเต้ทีให้ ความสําคัญกับคําว่า “กตัญFู” ทีสุด เกรงว่าพระองค์ต้องลงโทษจนไม่เหลือดี อย่างแน่นอน
เจียงป่ าวชิงตบไหล่หลินยู่หยุนราวกับกําลังปลอบนาง ก่อนจะพูดขึนเสียงหนัก แน่น “เอาล่ะ ข้ามีอะไรบางอย่างอยากจะพูดตังนานแล้ว เรืองนีมันเกียวอะไรกับ หมอทีรักษาผู้คนอย่างข้ารึ ? ข้าพูดมากและเผยแพร่เรืองในงานเลียงออกไปจน ทําให้ข่าวลือแพร่กระจายไปทัวอย่ างนันสิ หรือว่าข้าเผาใบวันเดือนปี เกิดของ คู่หมันจนทําให้แม่นางจัวถูกถอนการแต่ งงาน และทําให้แม่นางจัวอับอายจนไม่ รู้ ว่าจะมุดไปหลบอยู่ทีใด หรือว่าข้าโยนผ้าไหมสีขาวขึนไปบนคานแล้วปล่อยให้ แม่นางจัวผูกคอจบชีวิตอย่ างนัน ?”
เจียงป่ าวชิงย้อนถามอย่างต่อเนืองจนคนทีถูกถามพูดไม่ออกเลยทีเดียว
แต่เจียงป่ าวชิงกลับหัวเราะอย่างเย็นชา คนกลุ่มนีก่อเรืองวุ่นวาย ทีนางไม่ด่ากราด พวกเขาจนยําแย่สุด ๆ ในวันนีเพราะกลัวว่าพวกเขาจะโยนความผิดให้กับพวก หมอในอนาคต
กงจีส่งสายตาชืนชมให้เจียงป่ าวชิง
เจียงป่ าวชิงเลิกคิวขึนแล้วพูดต่ออย่างเต็มที ถ้าวันนีนางไม่ได้ตีแผ่เรืองนีออกมา จนถึงทีสุด เพือให้ผู้คนรู้ว่านางไม่มีส่วนเกียวข้องกับเรืองนีแม้แต่น้อย ไม่แน่ ต่อไปอาจมีข่าวลืออะไรทีกดนางลงในกองนําสกปรกนีอีกก็ได้
“จัวไจ้ตง ข้ามีอะไรบางอย่ างอยากถามเจ้าตังแต่แรกแล้ว” เจียงป่ าวชิงเรียกจัว ไต้จงแล้วส่งเสียงหัวเราะอย่างเย็นชา “มีคนให้น้องสาวเจ้าแต่งงานกับคนลามก ไร้ศีลธรรม เจ้ากังวลใจและโกรธคนคนนันไหม ? เจ้าไม่ มีคนปูดข่าวลือทํา ร้ายจนน้องสาวเจ้าชือเสียงด่างพร้อยและถูกถอนการแต่งงาน เจ้าได้กังวลใจและ โกรธคนเหล่านีไหม ? ก็ไม่ สุดท้าย เป็ นสภาพสังคมกินคนนีทีบีบบังคับ น้องสาวเจ้าให้ทําได้เพียงผูกคอจบชีวิตอย่างสินหวัง เจ้ามีความรู้สึกโกรธสภาพ สังคมนีไหม ? เจ้าก็ไม่อีก! งันเจ้าทําอะไรบ้าง ? เจ้าเลือกอย่างละเอียดแล้วรึ ในทีสุดเจ้าถึงได้เลือกผู้หญิงทีอ่อนแออย่างข้าให้เป็ นคนผิด ข้าเป็ นเพียงหมอทีไป ตรวจอาการให้น้องสาวเจ้าไม่ทันแต่เจ้ากลับจงเกลียดจงชังและมีท่าทีเหมือน อยากกลืนกินข้าให้รู้แล้วรู้รอด เจ้ารู้ตัวไหมว่าทีจริงเจ้าเป็ นคนรังแกคนทีอ่อนแอ กว่าแต่กลัวคนทีแข็งกร้าวกว่า เจ้าถึงได้กล้าเห่าอย่างบ้าคลังใส่ ผู้หญิงทีอ่อนแอ อย่างข้ายังไงล่ะ!”
เจียงป่ าวชิงด่าจนรู้สึกสบายใจไปมากโข
จัวไต้จงหน้าเป็ นสีดิน เขาส่ งเสียงออกมาเล็กน้อยและถึงกับกระอักเลือดออกมา เขาทีน่ากลัวคือตาเขาเหลือกและหมดสติไปในทีสุด
ผู้คนทีมาเข้าร่วมพิธีศพในวันนีส่วนใหญ่จะเป็ นพวกคุณหนู พวกนางเคยเห็น สถานการณ์เช่นนีเสียทีไหน แต่ละคนตกใจหน้าถอดสี และมีบางคนร้องเสียง หลง “ไป รีบไปตามหมอเร็วเข้า!”
เจียงป่ าวชิงไม่ยกเปลือกตาขึนด้วยซํา “เรียกทําไม หมออยู่นี”
นางวางนิวมือลงบนชีพจรของจัวไต้จง หลังจากทีหายใจไม่ กีครังก็ส่งเสียง หัวเราะแล้วเก็บนิวมือ “ไม่ได้เป็ นอะไรมาก เขาแค่อาเจียนเลือดทีสะสมอยู่ในอก ออกมาเท่านัน นีเป็ นเรืองทีดีซะด้วยซํา”