แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 457 : สมุดผ้า
ปี หยุนเห็นว่าพวกเจียงหยุนชานก็อยู่ด้วย แต่นางกลับไม่ได้ประหลาดใจอะไร นางถอนสายบัวเสร็จแล้วก็รีบพูดขึนอย่างรวดเร็ว “ทุกท่านเองก็อยู่ด้วยเช่นกัน จะได้ประหยัดเวลาไปบอกต่อข้อความพอดี ท่านอาจารย์สังให้คนไปเรียกช่างตัด เสือของเรือนเทียนอีและบอกว่าจะสังทําชุดใหม่ให้กับเรา ในเมือพวกท่านต่างก็ อยู่ทีนี เช่นนันปี หยุนไปเรียกช่างตัดเสือให้เลยเอาไหมเจ้าคะ ?”
ปี หยุนพูดจบด้วยนําเสียงสบายใจ ส่วนลู่เหมยไม่ได้พูดอะไร นางเอาแต่ยืนยิมอยู่ ด้านข้างเท่านันเอง
ทีแท้ก็เรืองนีนีเอง
แต่เจียงป่ าวชิงกลับปฏิเสธ “อาศัยอยู่ทีบ้านท่านอาจารย์ก็ต้องขอบคุณท่าน อาจารย์มากแล้ว ไม่มีเหตุผลทีจะให้ท่านอาจารย์มาสินเปลืองเงินกับเรืองเสือผ้า ของพวกเราอีกนะ”
ปี หยุนหัวเราะคิกคัก “ท่านอาจารย์ของเรามังคั งรํารวย ท่ านไม่สนใจว่าจะ สินเปลืองเงินกับของเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนีหรอกเจ้าค่ะ”
เมือคําพูดนีหลุดออกไป สีหน้าของลู่เหมยก็เปลียนไปเล็กน้อย หากพูดตามหลักนี ถือว่าเป็ นคําพูดหยอกล้อ แต่จุดเด่นของปี หยุนคือนางไม่ค่อยคํานึงถึงกาลเทศะ เมือนางพูดหรือทําอะไร
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี มันเหมาะสมแล้วหรือทีจะหยอกล้อด้วยคําพูดทีว่า “สินเปลืองเงิน” เช่นนี
เจียงหยุนชานเป็ นคนใจกว้างมาแต่กําเนิด ประกอบกับเวลาทีเขาอยู่กับปี หยุนนัน มีมากกว่าน้อง ๆ เจียงคนอืน ๆ อยู่หน่อย เขาจึงไม่ได้เก็บมันมาใส่ใจ ทําเพียงแค่ เม้มริมฝี ปากยิมเท่ านัน
ส่วนเจียงป่ าวชิงในวันนีดีหน่อย เพราะเมือวันก่อนปี หยุนมักจะเปลียนวิธี “มา หา” นางอยู่บ่อยครัง นางจึงค่อนข้างมีเกราะป้องกันในจุดนีแล้ว
ส่วนเลียวชุนหยู่นัน ความคิดของเขาไม่ยีหระต่อสิงใด เด็กชายจึงไม่ได้คิดอะไร มากมาย คิดเพียงว่าถ้าท่านอาจารย์ของพีชายเมตตาพวกเขาก็ถือว่าเป็ นเรืองดี นีก็ จะเป็ นการประหยัดเงินให้กับครอบครัวพวกเขาสีพีน้องได้เช่นกัน
มีเพียงเจียงฉิงเท่านันทีรู้สึกไม่ค่อยชอบใจนัก เด็กหญิงใช้ชีวิตปะปนอยู่ในกลุ่ม ขอทานตังแต่เล็กและเห็นการกระทําหรือคําพูดไร้นําใจ รวมถึงการเปลียนแปลง อารมณ์ของมนุษย์จนชินแล้ว ทีนางปี หยุนคนนีปฏิบัติต่อพวกพีน้องเจียงอย่าง จริงใจในขณะนีก็เพราะว่าพวกเขาปฏิบัติต่อนางอย่างดี แน่นอนว่ามันเป็ นการนํา ความตังใจไปแลกกับความจริงใจ
แต่ความรู้สึกไวทีนางฝึ กฝนมาตังแต่เด็กนันราวกับสลักอยู่ในกระดูกของนาง ต่อ ให้ใช้รอยยิมไร้เดียงสามาปกปิ ดก็ ไม่สามารถลบคําพูดเสียมารยาทออกได้
เมือปี หยุนพูดหยอกล้ออย่างไม่ถูกกาลเทศะเช่นนี เจียงฉิงก็เงยหน้าขึนมองปี หยุน ด้วยสีหน้าเย็นชาเล็กน้อย
ความประทับใจของเจียงฉิงทีมีต่อปี หยุนนันไม่ค่อยดีนัก เด็กหญิงจําได้ว่าปี หยุน พูดหยอกล้อเจียงป่ าวชิงพีสาวของนางเมือตอนทีพวกเขามาบ้านผู้เฒ่าหยุนไห่ครั ง แรก ตอนนันนางอยากถลึงตาใส่อีกฝ่ ายอย่างโหดเหียมแต่ก็รู้ว่าถ้าหากก่อกวน เช่นนีมันจะส่งผลไม่ดีต่อพวกพี ๆ ของนางเอาได้จึงพยายามอดทนอดกลัน ต่อมา ปี หยุนก็มักมาหาเจียงป่ าวชิงบ่อยครั ง นางพักอยู่ในห้องเดียวกับเจียงป่ าวชิง ทําไมนางจะไม่รู้ มีหลายครั งทีนางอยากโบกไม้กวาดเพือไล่ปี หยุนผู้น่ารําคาญคน นีออกไปแต่นางรู้ว่าทําเช่นนันไม่ได้จริง ๆ
มนุษย์เราเกิดมาบนโลกใบนี จะสนใจเพียงแค่ในสิงทีตัวเองสบายใจได้อย่างไร
อดีตขอทานตัวน้อยทีเคยก่อความวุ่นวายไปทัวจึงทําได้เพียงเก็ บกรงเล็บเพือพี น้องทีนางรัก
แต่อดกลันครังแล้วครังเล่า ปี หยุนคนนีก็ไม่เคยคิดได้และปรับปรุงตัวเองเลย เจียงฉิงกลันความหงุดหงิดไว้จนรู้สึกทรมานไม่ไหวแล้ว นางจึงพูดขึนเสียงเบา “พีปี หยุนช่างยอดเยียมมากจริง ๆ ดูก็รู้ว่าพีสามารถเป็ นเจ้านายของจวนนีได้”
ทันทีทีคําพูดนีหลุดออกไป บรรยากาศภายในห้องก็มีความอึดอัดเล็กน้อย และ รอยยิมทีอ่ อนโยนของปี หยุนแลดูยิมค้างอย่ างเห็นได้ชัด
เจียงป่ าวชิงชะงักพลางมองเจียงฉิง
เจียงฉิงคิดว่าความรู้สึกดีใจทีเห็นแก่ได้ชัวขณะของตัวเองสร้างปัญหาให้กั บเจียง ป่ าวชิง นางจึงแสดงสีหน้าเสียใจทีหลังออกมาทางใบหน้าและหดตัวปิ ดปากเงียบ
เจียงป่ าวชิงลูบศีรษะเจียงฉิงเบา ๆ ทันใดนันเด็กหญิงทีหงอยเหงาเซืองซึมก็ กลายเป็ นมีความปลืมปี ติอยู่เต็มในสองตาของนาง และนางกระปรี กระเปร่าขึนมา ทันที
คงเป็ นเพราะลู่เหมยสังเกตเห็นถึงความผิดปกติของบรรยากาศจึงรีบบอกขึนมา เพือทําลายบรรยากาศน่าอึดอัด “ยังมีอีกเรืองทีต้องบอกกับแม่นางเจียงเจ้าค่ะ” ลู่เหมยหยิบซองจดหมายเชิญสีแดงสดออกมาส่งให้กับเจียงป่ าวชิงด้วยสองมือ
“นีเป็ นจดหมายเชิญทีทางจวนองค์ชายหย่งชินส่งมาให้ พ่อบ้านของจวนองค์ชาย รออยู่ทีห้องยามเฝ้าประตู ดูเหมือนว่ากําลังรอคําตอบจากแม่นางเจ้าค่ะ” ลู่เหมย ยิมจนดวงตาของนางโค้งลง “บังเอิญว่าข้าน้อยกําลังเดินผ่านทางนันพอดีจึง รับคําแล้วมารายงานให้แม่นางทราบเจ้าค่ะ”
จวนองค์ชายหย่งชินส่งมอบจดหมายเชิญนีให้แก่นางอย่างนันรึ ช่างแปลก ประหลาดจริง ๆ
เจียงป่ าวชิงรับจดหมายเชิญมาเปิ ดดู ทีแท้ก็เป็ นหลินยู่หยุนทีให้คนนํามาส่ง
เนือความในจดหมายบอกว่านางได้ยินว่าเรืองของตระกูลจัวได้รับการแก้ ไขอย่าง น่าพอใจแล้วและต้องการถามว่าช่วงนีมีเวลาว่างหรือไม่ นางอยากนัดมาพบกัน อีกครังก่อนปี ใหม่
เจียงป่ าวชิงครุ่นคิดอยู่สักครู่ก่อนจะขอให้ลู่เหมยช่วยไปตอบกลับพ่อบ้านคนนัน ให้ เพือเป็ นการตอบรับคําเชิญ
ในเมือรับหน้าทีแล้ว ลู่เหมยกําลังจะออกไป แต่นางเห็นว่าปี หยุนทียืนอยู่ตรงนัน เม้มปากราวกับไม่พอใจจึงรีบพูดขึน “พีปี หยุน ไม่ใช่ว่าพียังต้องเชิญช่างตัดเสือ ของเรือนเทียนอีมาทีนีหรอกหรือ รีบไปสิ ยังมีผ้าและลวดลายอีกมากมายทีต้อง เลือกนะ”
พูดจบ นางก็ลากปี หยุนทีไม่ค่อยเต็มใจออกไปด้วย
หลังจากสาวใช้ทังสองออกไปแล้ว ภายในห้องก็เงียบอยู่ครู่หนึงก่อนทีเลียวชุน หยู่จะหันไปพูดกับเจียงป่ าวชิงอย่างงุนงง “พีป่ าวชิง ทําไมข้าถึงรู้สึกว่าสีหน้า ของพีปี หยุนเมือกีนีดูไม่ค่อยดีเลยขอรับ”
เจียงฉิงทําปากแบนแต่ไม่ได้พูดอะไร ในขณะทีเจียงหยุนชานถอนหายใจยาว “เฮ้อ… นิสัยของปี หยุนค่อนข้าง…” เขาหยุดชะงักก่อนจะพูดต่ออย่างนุ่มนวล “สรุปคือนางไม่ใช่คนนิสัยไม่ดีอะไรขนาดนัน นางโตมากับท่านอาจารย์ ก่อน หน้านีนางอยู่ทีบ้านทางมณฑลเหอเป่ ยมาตลอดและนางเพิงมาเมืองหลวงด้วยกัน กับท่านอาจารย์ในปี นีเอง ท่านอาจารย์รักสาวใช้เหล่านันมาก บอกว่าเป็ นเจ้านาย กับคนรับใช้ แต่อันทีจริงท่านอาจารย์เลียงดูแลพวกนางไม่ต่างจากเป็ นหลานสาว แน่นอนว่าพวกนางถูกเลียงมาอย่างตามใจ นิสัยของพวกนางบางคนจึงค่อนข้าง… เอ่อ…”
เจียงหยุนชานไม่ชอบวิจารณ์คนลับหลัง เขาจึงพูดถึงแค่ตรงนี
“ถ้าอย่างนันเมือกีทีข้าพูดเสียดสีนาง” เจียงฉิงไม่สบายใจเล็กน้อยจึงพูดขึน อย่างเป็ นกังวล “คงไม่ได้สร้างปัญหาให้พีชายใช่ไหมจ๊ะ ?”
“ไม่หรอก” เจียงหยุนชานรีบปลอบเจียงฉิง “ก็แค่อยากบอกพวกเจ้าว่านาง ไม่ได้มีเจตนากลันแกล้งแต่ อย่างใด แต่เพราะนิสัยของนางเป็ นแบบนีมานานแล้ว เกิดจากการถูกตามใจน่ะ”
เจียงป่ าวชิงเองก็พูดขึนยิม ๆ “เด็กเล็กอย่างเจ้ากลับมีอะไรให้เป็ นห่วงมากมาย พีชายของเจ้าไม่ได้พึงพาปี หยุนในเรืองไหนสักหน่อย ท่านอาจารย์หยุนไห่เองก็ ไม่ได้เป็ นคนทีฟังความข้างเดียวด้วย เจ้าแค่เป็ นเด็กทีเผลอพูดคําพูดในใจออกมา บ้างในตอนทีไม่พอใจก็เท่านัน มันจะเป็ นการสร้างปัญหาได้ยังไง อีกอย่าง ข้าคิด ว่าสิงทีเจ้าพูดเมือกีนีก็ไม่ได้มีอะไรผิดนะ”
เจียงฉิงเชือเจียงป่ าวชิงมาโดยตลอด เมือเห็นว่าเจียงหยุนชานกับเจียงป่ าวชิงพูด เช่นนี ในทีสุดนางก็ยิมได้
ผ่านไปไม่เท่าไหร่ช่างตัดเสือของเรือนเทียนอีก็มาทีนี ปี หยุนเดินตามอยู่ด้านหลัง แต่นางไม่ได้พูดอะไรในครังนี
ช่างตัดเสือทีเป็ นหัวหน้าของเรือนเทียนอีแซ่หลี เป็ นหญิงอายุสามสิบกว่าปี รูปร่าง อวบอิม นางทักทายทุกคนด้วยรอยยิมและเอ่ยชมออกมาอย่างต่อเนือง “ไอ้โย! คุณหนูคุณชายทังหลายช่างหล่อเหลาสะสวยกันจริง ๆ ข้าคิดว่าเป็ นเทวดานางฟ้า ทีอยู่ตรงหน้าพระโพธิสัตว์ลงมาเกิดเป็ นมนุษย์อย่างพร้อมเพรียงกันซะอีก”
พูดเสร็จนางก็หยิบเล่มตัวอย่างลายผ้าออกมาจํานวนมากพลางยิมอย่ าง กระตือรือร้นแต่กลับไม่ดูประจบประแจงจนเกินไป “คุณหนูคุณชายน้อยเลือกสี และลายผ้ากันไปก่อน ส่วนข้ากับผู้ช่วยจะขออนุญาตวัดขนาดตัวของพวกเจ้านะ จ๊ะ”
แน่นอนว่าไม่มีปัญหา เจียงป่ าวชิงรับเล่มตัวอย่างลายผ้านันมาเลือกดู
ไม่นาน นางก็เลือกสีและลวดลายมาแบบหนึงโดยทีเปิ ดเล่มค้างไว้หน้านัน นาง กําลังจะถามเจียงฉิงว่าชอบหรือเปล่า ปี หยุนทีอยู่ข้าง ๆ ก็เหลือบมองไปทีลายผ้า นัน ขมวดคิวสวยแล้วพูดกับช่างตัดเสือหลี “ช่างหลี เมือกีนีทําไมเจ้าถึงไม่หยิบ เล่มตัวอย่างลายผ้านีออกมา ทําไมข้าถึงไม่เห็นลวดลายนีในตอนทีกําลังเลือกเลย ล่ะ ?”