แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 465 : อยู่เหนือกฎระเบียบ
เจียงป่ าวชิงไม่ได้พูดอะไรทีรุนแรงเกินไปแม้แต่นิดเดียว แต่ปี หยุนกลับกลืนไม่ เข้าคายไม่ออกเหมือนถูกตบหน้าหลายครังอย่างแรง
ต่อให้นางไม่รู้จักตนเองดีว่าเป็นอย่างไร แต่สายตาของทุกคนในห้องโถงบอก คําตอบกับนางแล้ว พูดตามตรง ปี หยุนเองก็เป็ นสาวน้อยตาโตแก้มแดงทีจัดได้ว่า น่ารักคนหนึง เพียงแต่ว่ารูปโฉมของเจียงป่ าวชิงเหนือกว่าจนบอกว่าสวยน่ารักก็ ยังน้อยไป ยิงไม่ ต้องพูดถึงท่าทางสงบดูสง่าทีเจียงป่ าวชิงแสดงออกเลย นันยิ ง เพิมระดับให้รูปโฉมของนางงดงามสูงส่ งยิงขึนไปอีก
เจียงป่ าวชิงไม่จําเป็ นต้องเถียงกับปี หยุน แค่นังอยู่ ตรงนันเงียบ ๆ นางก็ชนะแล้ว
ปี หยุนกัดริมฝี ปากล่างอย่างแรง แม้ใบหน้านางจะทาแก้มแดง แต่ก็ไม่สามารถ ปกปิ ดอาการหน้าซีดของนางในขณะนีได้
มีหลิวทียืนอยู่ด้านหลังเจียงป่ าวชิงพูดขึนเสียงเบา “แม่นาง…” เจียงป่ าวชิงไม่ได้หันกลับไป แต่เลือกทีจะพยักหน้าเล็กน้อย
เมือได้รับอนุญาตจากเจียงป่ าวชิง มีหลิวก็ออกมายืนพูดอย่างราบรืนด้วยเสียงดัง ฟังชัดเจน “ข้าน้อยมีนามว่ามีหลิว มีเรืองบางอย่างทีไม่เข้าใจจึงอยากถามแม่นาง ปี หยุนสักเล็กน้อยนะจ๊ะ”
ปี หยุนเห็นว่าเป็ นมีหลิวจึงฝื นยิม “พีมีหลิวเชิญพูดจ้ะ”
มีหลิวจึงเดินออกมาจากข้างหลังเจียงป่ าวชิง เมือนางเดินไปถึงตรงกลางห้องโถง ก็ทําความเคารพคนชันเจ้านายทีนังอยู่ ในงานเลียงทีละคน
แม้กู่ชวนจะไม่ได้พูดอะไร แต่เขากลับแอบชืนชมมีหลิวในใจว่าสาวใช้คนนียังไม่ พูดอะไรสักคํา แค่มารยาททีรอบคอบนีก็สูงกว่าปี หยุนมากแล้ว
“แม่นางปี หยุน” หลังจากทีทําความเคารพเสร็จแล้ว มีหลิวมองปี หยุนด้วยสี หน้าจริงจัง ไม่มีความอบอุ่นปนมาในสายตาอย่างทีเคยเป็ น “ข้าขอถามแม่นางปี หยุนว่าแม่นางเป็ นสาวใช้ของจวนท่านอาจารย์หยุนไห่จริง ๆ หรือ ?”
ปี หยุนหน้าซีดลงอีกครัง “แน่นอนจ้ะ”
จากนันมีหลิวจึงชีไปทีชุดกระโปรงยาวสีแดงลายผีเสือร้อยปี ทีอยู่บนตัวปี หยุน “แต่ชุดทีแม่นางปี หยุนใส่นันค่อนข้างเห็นถึงความผิดปกติเล็กน้อยนะ แม้ สถานการณ์ในจวนต่าง ๆ จะไม่เหมือนกัน บางจวนมังคั งมีกิ นมีใช้ พวกสาวใช้จึง ได้สวมใส่เสือผ้าดี ๆ แต่ว่ามีหลิวขอพูดอะไรทียิงใหญ่ หน่อยนะจ๊ะ ตอนทีมีหลิว รับใช้อยู่ในจวนองค์ชายหย่งชิน ขนาดพวกสาวใช้ในจวนบางคนเป็ นทีโปรด ปรานของผู้เป็ นเจ้านาย ก็ยังไม่เคยมีใครได้สวมใส่เสือผ้าดี ๆ แบบนีเลยจ้ะ”
เมือพูดถึงตรงนี ในแววตาปี หยุนมีความดือรันไม่ยอมให้เห็นเล็กน้อย “นันเป็ น เพราะท่านอาจารย์ดูแลพวกเราเป็ นอย่างดี ย่อมไม่เหมือนกับจวนอืน ๆ เป็ น ธรรมดา”
มีหลิวถอนหายใจแล้วส่ายหน้า “ไม่ใช่ แม่นางปี หยุนอยู่ในจวนของท่านอาจารย์ ก็ควรรู้และเข้าใจเกียวกับจรรยาบรรณทีว่า ‘คนแต่ละระดับชันมีม้าดึงไม่ เท่ากัน’ สิจ๊ะ ผู้คนจากหลากหลายชนชันย่อมมีรูปแบบมาตรฐานการกินการใช้ สิงของ รวมถึงการใช้ชีวิตทีแตกต่างกัน ถ้าหากว่าเกินมาตรฐานของชนชันที ตัวเองอยู่ แบบนันเรียกว่าอยู่เหนือกว่ากฎระเบียบนะ”
ตอนทีพูดถึงช่วงสุดท้าย นําเสียงมีหลิวเปลียนเป็ นเด็ดขาด “ดูจากวันนี แม่นางปี หยุนใส่เสือผ้าทีสาวใช้ไม่ควรใส่ก็ยังพอขอให้เหล่าเจ้านายให้อภัย แต่ถ้าหากว่า ไม่ยับยังตักเตือนเสียตังแต่วันนี ไม่แน่พรุ่งนีแม่นางอาจก่อเรืองอะไรอีกก็ได้ ตอนนีเราทุกคนอยู่ใต้การปกครองของฮ่องเต้ และท่านอาจารย์หยุ่นไห่มีชือเสียง
อย่างทุกวันนีได้ด้วยการศึกษาค้นคว้าทีขยันหมันเพียรมาตลอดชีวิต แล้วเช่ นนี คนรับใช้อย่างเราจะมีความสุขเพือตัวเองโดยไม่คํานึงถึงชือเสียงของผู้เป็ นเจ้านาย ได้ยังไง”
พูดถึงตรงนี นางก็หมุนตัวกลับไปทําความเคารพผู้เฒ่าหยุนไห่โดยไม่สนใจปี หยุนทีหน้าขาวซีดถึงขีดสุดอีก “ท่านผู้เฒ่า ข้าน้อยเสียมารยาทแล้วเจ้าค่ะ โปรด ท่านให้อภัยข้าน้อยด้วยนะเจ้าคะ”
ผู้เฒ่าหยุนไห่ถอนหายใจ “คนทีเสียมารยาทคือเจ้าทีไหนล่ะ” ถ้าบอกว่าเมือสักครู่ปี หยุนหน้าซีด เช่นนันตอนนีก็คงไร้สีเลือดโดยสินเชิง “ท่าน อาจารย์…”
“พอได้แล้วปี หยุน” ผู้เฒ่าหยุนไห่ยังคงอ่อนโยนเหมือนวันก่อน ๆ แต่กลับมี ความเหนือยใจในสีหน้าของเขา “เมือก่อนข้าปล่อยให้เจ้าทําตามใจเกินไปเพราะ คิดว่าพวกเจ้าสองสามคนยังเป็ นเด็ก จึงไม่ได้จํากัดอะไรพวกเจ้าในยามปกติ ปี หยุน เมือก่อนเจ้าก่อเรืองบ่อยแต่ข้าก็ปล่อยเจ้าไปตลอด เอาแต่คิดว่าเจ้าควรได้มี ความสุขสักสองสามปี ก่อนทีจะออกเรือน แต่เมือมาคิด ๆ ดูแล้ว มันกลับเป็ นการ ทําผิดพลาดต่อเจ้า ข้าตามใจจนเจ้าเสียนิสัยและลืมตัว”
ปี หยุนรีบวางพิณอย่างลุกลีลุกลนแล้วคุกเข่าลงกับพืน ดวงตากลมโตของนางเต็ม ไปด้วยนําตา “ท่านอาจารย์ ท่านอย่าได้พูดเช่นนี เป็นปี หยุนทีก่อเรืองเองเจ้า ค่ะ…”
ลู่เหมยก็คุกเข่าลงด้วยเช่นกัน นางน้อมคํานับอย่างลึกซึงแต่ไม่ได้พูดอะไร
เดิมทีงานเลียงทีบรรยากาศดีมากกลับกลายเป็ นอึดอัด แน่นอนว่าคนทีจริงจังอย่าง กู่ชวนเกลียดสาวใช้ทีชอบก่อเรืองแบบนี เขาจึงพูดขึนอย่างเคร่งขรึม “ท่าน อาจารย์ไม่จําเป็ นต้องตําหนิตัวเองหรอกขอรับ เป็ นสาวใช้เหมือนกันแต่ศิษย์เห็น ว่าลู่เหมยคนนีมีพฤติกรรมเหมาะสม ได้ยินว่างานเลียงในคืนนีนางเป็ นคนจัดการ สามารถกล่าวได้ว่านางคุมงานบ้านเรือนได้ดีและเก่งมาก เห็นได้ว่าท่านอาจารย์ ไม่ได้ตามใจจนเป็ นการทําร้ายปี หยุน แต่เพราะปี หยุนพฤติกรรมยําแย่เอง นาง แยกแยะไม่ออกว่าอะไรสําคัญไม่สําคัญ และจําเป็ นต้องได้รับการสังสอนจริง ๆ”
ผู้เฒ่าหยุนไห่มองดูงานเลียงทีถูกจัดอย่างตังใจนี และคิดว่าในยามปกติลู่เหมยเอง ก็ร่าเริงมาก แต่เรืองการต้อนรับผู้คนกับการปฏิบัติต่อสิงของนัน นางไม่เคยทํา พลาดเลยสักครัง
ผู้เฒ่าหยุนไห่อดไม่ได้ทีจะถอนหายใจอีกครัง
ลู่เหมยโน้มศีรษะลงกับพืนอย่างแรง “เป็ นข้าน้อยทีไม่ได้ตักเตือนปี หยุนเองเจ้า ค่ะ นางถึงได้สับสนเช่นนี ท่านอาจารย์อย่าได้ตําหนิตัวเองเลยนะเจ้าคะ ข้าน้อยจะ พาปี หยุนออกไปตักเตือนให้ดี ๆ ในช่วงไม่กีเดือนนีข้าน้อยจะไม่ให้นางออกมา ถ้าหากว่านางยังเรียนรู้กฎระเบียบได้ไม่ดี”
นีก็เท่ากับว่าเป็ นการกักบริเวณน่ะสิ!
ปี หยุนยังอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่ครังนีลู่เหมยกลับใช้ดวงตากลมโตของนาง ถลึงตาใส่ปี หยุนอย่างไม่ใยดี
ก่อเรืองจนท่านอาจารย์ต้องมาตําหนิตัวเองเช่นนี นางจะไม่ตามใจจนปี หยุนก่อ เรืองอีกเด็ดขาด!
ปี หยุนเงียบปากอย่างน้อยใจ สุดท้ายนางปล่อยให้ลู่เหมยลากตัวเองออกไปอย่าง จํายอม
หากไม่ใช่เพราะเรืองในช่วงหลัง เดิมทีนีคงเป็ นงานเลียงต้อนรับทีมีความสุขและ อบอุ่นมากงานหนึง แต่หลังจากทีเกิดเรืองนีขึน บรรยากาศคึกคักสนุกสนานก็ถูก ทําลายทันที
ไม่นานงานเลียงก็สินสุดลง
หลังจากกลับมาบ้านตัวเอง เจียงหยุนชานถอนหายใจพลางมองเจียงป่ าวชิง “เรืองวันนี เอ่อ… ปี หยุนก่อเรืองซะจน… เฮ้อ… ถึงยังไงก็ทําให้เจ้าได้รับความไม่ เป็ นธรรมแล้วล่ะนะ”
เจียงป่ าวชิงส่ายหน้า “พีมองปี หยุนสําคัญเกินไปแล้ว ฝี มือแค่นันของนางจะทํา ให้ข้าได้รับความไม่เป็ นธรรมได้ยังไงจ๊ะ ?” เจียงป่ าวชิงยิม “แต่ข้าเห็นท่าน อาจารย์หยุนไห่เหมือนจะอารมณ์ไม่ดีเล็กน้อยนะ”
เจียงฉิงพูดขึนอย่างโกรธแค้น “ข้าคิดว่าแม่นางปี หยุนจงใจ! วันนันทีลองชุดกัน ทีนี ช่างตัดเย็บเสือผ้าก็บอกนางแล้วว่าสีและลายในเล่มนันไม่ใช่สิงทีสาวใช้อย่าง นางจะเลือกได้ ข้าไม่คิดเลยว่านางจะ ‘ใจกล้า’ ถึงขันไปจองชุดทีเรือนเทียนอี ด้วยตัวเอง! …นางจงใจใส่มาในวันนีเพือต้องการให้พีกลืนไม่เข้าคายไม่ออก! แต่ พีสาวพูดถูกทีบอกว่าการใส่เสือผ้าชนกันไม่ได้น่ากลัวอะไร ใครหน้าตา อัปลักษณ์ก็เก้อเขินไปเลย พีสาวของข้ารูปโฉมงดงามมาก ตัวตลกใส่ชุดเดียวกัน จะมาเทียบได้ยังไง”
พูดถึงช่วงสุดท้าย เจียงฉิงก็ยิมเยาะ
เจียงป่ าวชิงเคาะศีรษะเล็กของเด็กหญิงเบา ๆ “พอได้แล้ว เจ้าสามารถคุยโวพีสาว ของเจ้าได้ถ้าหากว่าเราปิ ดประตูบ้านแล้ว แต่ถ้าออกไปข้างนอกก็อย่าลืมระวัง ความเหมาะสมด้วย”
เจียงฉิงพยักหน้าอย่างว่านอนสอนง่าย
เจียงป่ าวชิงมองเลียวชุนหยู่ “ไม่ต้องไปพูดเรืองปี หยุนแล้ว ข้ารู้สึกว่าวันนีชุนหยู่ แสดงออกได้ดีมาก เขาสงบเสงียมประพฤติตัวดีทีเดียว”
เลียวชุนหยู่เบิกตาโตด้วยความรู้สึกเขินเล็กน้อย “จะ… จริงหรือขอรับ ?”
เจียงหยุนชานเองก็พูดขึนยิม ๆ เช่ นกัน “พีป่ าวชิงของเจ้าพูดถูก การแสดงออก ของเจ้าในวันนีเป็ นลูกผู้ชายขึนเรือย ๆ แล้ว”
เลียวชุนหยู่เกาศีรษะพลางยิมอย่ างเก้อเขิน