แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 472 : ห้าร้อยตําลึง
เมือได้ยินดังนัน กงหย่าหรูรู้สึกหนักใจจึงพูดขึนอย่างไม่ไว้ใจ “ทําไมฟังดูแล้ว เหมือนพวกเจ้ารู้จักกันมาก่อนเลยล่ะ นีพวกเจ้าสมรู้ร่วมคิดกันรึ ?”
ป้าจางดูเหมือนโกรธเล็กน้อย “แม้ว่าท่านจะเป็ นคุณหนูผู้สูงส่ง แต่ก็ไม่สามารถ ใส่ร้ายผู้อืนปากเปล่าเช่นกัน เมือวันก่อนข้านําแจกันใบนีมาให้เจ้าของร้านดู เจ้าของร้านให้ราคาอยู่ทีห้าร้อยตําลึง แต่ข้าเคยได้ยินคนเขาบอกกันว่าแจกันนี สามารถขายได้ถึงแปดร้อยตําลึง ข้าเห็นว่าเขาให้ราคาตําไปหน่อยจึงไม่ได้ขายให้ เขา และคิดว่าจะถือโอกาสตอนฉลองปี ใหม่ทีครอบครัวใหญ่หลายครอบครัวต่าง ก็ต้องเพิมสิงของเข้าบ้าน ถึงได้นํามาจัดวางอยู่บนแผงขายของข้างนอกยังไงเล่า”
เจ้าของร้านเองก็เหมือนถูกพูดหยาบคายใส่ เขาจึงเป่ าเคราแล้วพูดขึน “นีเกรงว่า เจ้าคงไม่รู้ล่ะสิท่าว่าพวกเราทํางานให้ตระกูลไหน ? เราทํางานให้จวนติงกัวโฮ่ C ว ของตระกูลกง จะทํางานในร้านอย่างคนชัวเช่ นนันได้ยังไง ?!”
กงหย่าหรูตกใจทันที นางมองกงจีโดยไม่รู้ตัว
แรกเริมนางยังไม่รู้สถานะของกงจี นางพยายามอย่างมากและเพิงมารู้เมือไม่กี วันทีผ่านมานีเองว่าทีแท้ผู้สูงศักดิD ทีนางคิดถึงอยู่ตลอดคนนันคือแม่ทัพกงผู้ไม่ พ่ายแพ้และกําลังเป็ นคนดังแห่งเมืองหลวงในช่วงนี!
เช่นนันก็แสดงว่าร้านนีเป็ นทรัพย์สินของครอบครัวกงจีน่ะสิ
กงหย่าหรูยังอยากทิงความประทับใจทีดีต่ อหน้ากงจี นางจึงไม่กล้าซักถาม เกียวกับความฉลาดของคนงานในร้านนีจึงได้แต่กัดฟันมองป้าจางคนนัน “ตอนนีแจกันใบนีแตกละเอียดขนาดนีแล้ว เจ้าจะพิสูจน์ยังไงว่านีคือใบทีเจ้า นํามาให้เจ้าของร้านดูเมือวันก่อน ?”
เจ้าของร้านลูบเคราแพะของตัวเอง “คุณหนูพูดได้อย่างมีเหตุผลมาก ข้ายังต้อง วินิจฉัยอย่างละเอียดอีกครัง”
ทว่าป้าจางกลับไร้กังวล นางผลักเศษกระเบืองเคลือบแตกทีวางอยู่บนตู้ไป ด้านหน้าเล็กน้อย “เอาเลย วินิจฉัยได้เต็มทีเลยไม่เป็ นไร ข้าจะรออยู่ตรงนี แหละ”
กงหย่าหรูอดไม่ได้ทีจะมองกงจี แต่ตอนนีเขาก้มหน้าลงเล็กน้อยและกําลังพูด อะไรบางอย่างกับเจียงป่ าวชิงทีอยู่ในชุดผู้ชายอยู่ตรงนัน
กงหย่าหรูเพิงเห็นเจียงป่ าวชิง ในแววตาของนางเต็มไปด้วยความเคียดแค้นและ แทบจะพ่นไฟแห่งความโกรธแค้นออกมาได้อยู่แล้ว ขณะนีนางลืมเรืองเศษ กระเบืองเคลือบไปเสียสนิท และอดไม่ได้ทีจะเดินเข้าไปพูดกับเจียงป่ าวชิงอย่าง หึงหวง “แม่นางเจียง ผู้หญิงทียังไม่แต่งงานอย่างเจ้ามาแต่งตัวแบบนีและออกมา กับผู้ชายทุกวัน มันดูไม่ค่อยเหมาะสมไปหน่อยไหม ?”
เจียงป่ าวชิงยิมพลางเหลือบมองหลิวจิ งอีCแล้วพูดกับกงหย่าหรูอย่างมีความหมาย “อ้อ ถ้ายึดตามทีเจ้าพูด เจ้าเองก็ออกมากับผู้ชายเหมือนกันมิใช่รึ งันเจ้าก็ทําตัวไม่ เหมาะสมอย่างมากยิงกว่ าข้าอีก รู้ทังรู้แต่ก็ยังทํา ความผิดของเจ้ามันมีเพิมเป็ น เท่าตัวเลยนะคุณหนูกง”
“เจ้า!” กงหย่าหรูโกรธหน้าแดงกํา นางอดไม่ได้ทีจะพูดกับกงจี “คุณชายกง คนข้าง ๆ คุณชายโหดเหียมมากรู้บ้างหรือเปล่า ?”
กงจีไม่คิดจะสนใจกงหย่าหรูตังแต่แรก แล้วนางยังต้องการเหยียบเท้าเจียงป่ าวชิง อย่างไม่ประมาณตัวเอง และทีสําคัญยังกล้าฟ้องเขาด้วย การไม่รู้จักดูอะไรเลย เช่นนีเป็ นอะไรทีคาดไม่ถึงในสายตาของกงจี
กงจีขมวดคิวมองกงหย่าหรู “สมองเจ้าผิดปกติรึ ?”
กงหย่าหรูเหมือนถูกตบหน้าอย่างแรง นางถึงกับตกตะลึงนําตารืน เห็นได้ชัดว่า จะร้องไห้ออกมาอยู่แล้ว
แต่มุกนีใช้ไม่ได้ผลกับกงจี เขาส่งเสียงหัวเราะเบา ๆ อย่างไม่ใส่ใจและหันไปพูด กับเจียงป่ าวชิงเกียวกับเรืองเมือสักครู่ต่อ
เจียงป่ าวชิงมองกงหย่าหรูทีใกล้ร้องไห้ เหอะ! แส่หาเรืองเองแบบนีใครจะไป สนใจ แต่ก็น่าสงสารอยู่นิด ๆ ทีอายุก็น้อยแล้วยังไม่รู้จักคิด ช่างน่าสงสารจริง ๆ
แม้ไม่หลงเหลือความรู้สึกระหว่างชายหญิงแล้ว แต่ถึงอย่างไรก็มีความผูกพันใน แบบของเพือนเล่นวัยเด็ก หลิวจิงอีCถอนหายใจและส่งผ้าเช็ดหน้าให้กงหย่าหรู ทว่านางไม่รับไว้ นําตาใสไหลลงมาจากเบ้าตาทังอย่างนัน
สาวงามหลังนํ าตา มีหลายคนทีมองดูแล้วรู้สึกสงสารระคนปวดใจ แต่คนทีกง หย่าหรูคิดถึงในใจ อย่าว่าแต่จะเงยหน้าขึนมามองเลย อีกฝ่ ายไม่เคยชายตามอง นางด้วยซํา
หลิวจิงอีCรู้สึกปวดศีรษะเมือเห็นท่าทางของกงหย่าหรู เขาคิดว่าเขาเองก็ไม่ควรยุ่ง อะไรมากเกินไป วันนีเขาไม่ควรใจอ่อนหลังจากทีถูกนางขอร้องให้พาออกมา เดินเล่นผ่อนคลายจิตใจด้วยซํา เป็นเพราะใจอ่อนแท้ ๆ ถึงเกิดเรืองแบบนีขึน
เมือสักครู่เขาอยากควักเงินออกไปจ่ายป้าคนนันจะได้จบ ๆ และมันดีกว่าปล่อย ให้บุตรสาวของครอบครัวมังมีอย่ างนางโผล่หน้าออกมาฉุดดึงกับผู้คนบนท้อง ถนน แต่กงหย่าหรูกลับไม่ยอมให้เขาจ่ายเงินชดใช้ป้าคนนันถึงได้เกิดการทะเลาะ กันเช่นนี
อย่างไรก็ตาม ท่าทางในตอนนีคงต้องเสียเงินอย่างแน่นอนแล้ว เสียเวลาเพิมแต่ ผลลัพธ์ยังเหมือนเดิม เขาไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดีเลยจริง ๆ
หลิวจิงอีCอดไม่ได้ทีจะนึกถึงหญิงขีอ้อนน่ารักคนเดิมในวัยเด็กคนนันอีกครัง ดวงตาของนางงดงามไม่แพ้หญิงใด ดูน่าทะนุถนอมราวกับดอกกุหลาบสีแดงที เปราะบางทีสุดอย่างไรอย่างนัน ทว่าผู้หญิงขีอ้อนอย่างนางกลับทําอะไร คล่องแคล่วมาก อากัปกิริยานางเหมือนจงใจให้เขาต้องมนตร์โดยเฉพาะ… เขารู้ ว่านางเป็ นศัตรู แต่ก็ยังอดไม่ได้ทีจะตกลงไปในตาข่ายของนาง
“เป็นแจกันใบทีเจ้าเคยนํามาจริง ๆ ด้วย!” เจ้าของร้านตะโกนเสียงดัง เขาหยิบ เศษเครืองเคลือบทีมีลายดอกบัวครึงดอกประทับอยู่บนนันขึนมา “พวกเจ้าดู ดอกบัวทีอยู่บนนีสิ สีสวยสดราวกับซึมอยู่ในเครืองกระเบืองเคลือบนี นีคือเครือง เคลือบพิมพ์ลายทีน่ายกย่องทีสุดในราชวงศ์ก่อน แล้วดูร่องรอยผิวเคลือบมันนีสิ
น่าจะเป็ นโบราณวัตถุเมือสามร้อยปี ทีแล้ว… ถ้าหากว่าแจกันใบนียังสมบูรณ์ ห้า ร้อยตําลึงถือเป็นราคาทีตําจริง ๆ และถ้าหากว่าเจอกับคนทีชืนชอบในการเก็บ สะสม ราคาสิงของระดับนีควรอยู่ระหว่างแปดร้อยถึงหนึงพันตําลึงเลยทีเดียว”
ทุกคนต่างส่งเสียงอุทานอย่างเสียดาย ป้าจางยืดอกด้วยท่าทางโศกเศร้าทีถูกใส่ร้าย นางพูดกับกงหย่าหรูอย่างเคืองแค้น “นีแม่นางผู้สูงศักดิD เห็นรึยังว่าข้าไม่ได้ หลอกเจ้า ทีข้าต้องการให้เจ้าชดใช้ห้าร้อยตําลึงนันไม่ได้หลอกเจ้าจริง ๆ นีถือว่า เป็ นราคาตําทีสุดแล้วเพราะจริง ๆ มันขายได้แปดร้อยถึงพันตําลึงด้วยซํา แต่เอา เถอะ ข้าเป็ นคนซือสัตย์คําไหนคํานัน แน่นอนว่าไม่เอาเงินแปดร้อยตําลึงจากเจ้า เจ้าชดใช้ให้ข้าห้าร้อยตําลึงก็ได้แล้ว และข้าจะถือว่าขายไปเมือไม่กีวันก่อน”
กงหย่าหรูใช้ผ้าเช็ดหน้าซับนําตาพลางแอบกัดฟัน “ในเมือเป็ นเช่นนี เจ้าบอกว่า ห้าร้อยตําลึงก็ตามนัน”
นางมองกุ้ยจือ “กุ้ยจือ ให้เงินนางไปซะ!”
กุ้ยจือพูดขึนเสียงเบาอย่างเก้อเขิน “คุณหนูเจ้าคะ วันนีเราพกเงินออกมาเพียง เล็กน้อยเองเจ้าค่ะ”
ตระกูลจาวฮุยโฮ่วนันกําลังตกตําลงแล้ว ก่อนทีจะเกิดเรืองขึนกับกงหย่าหรู เนืองจากความสวยของนางสามารถเรียกได้ว่าเป็ นของหายากทีพอจะเอามาใช้เก็ง กําไรได้ ทีบ้านของนางจึงค่อนข้างเอืออาทรเรืองการใช้จ่ายของนาง แต่หลังจากที นางถูกช่วยกลับมาจากการถูกจับตัวไป ทีบ้านนางคิดว่าราคาของนางลดลงอย่าง มากและเชือว่านางจะนําเรืองโชคร้ายอะไรมาอีกในอนาคต สิงทีนางได้จากที บ้านแย่ลงทุกวัน ๆ แต่นางยังคงทํานิสัยเดิมของตัวเองทีว่าทําอะไรก็ต้องฟุ่ มเฟื อย ในทุกสิง ผงสําหรับทาแก้มออกใหม่ ซือ! แป้งแต่งหน้าออกใหม่ ซือ! ว่ากันว่า กลินหอมของนํามันดอกกุ้ยฮวาทีเพิงออกใหม่ได้รับการปรับแล้ว นางก็คิดว่าต้อง ซือ! …เมือเป็ นเช่นนีไปนีเรือย ๆ การเงินก็เริมขัดสนมากขึน
หลิวจิงอีCถอนหายใจก่อนจะหยิบเงินออกมา หลังจากทีนับได้ครบจํานวนแล้วเขา ก็ส่งให้ป้าจางคนนัน “ช่างเถอะ ข้าชดใช้แทนนางเอง”
เสียงขอบคุณของกงหย่าหรูเบาเหมือนเสียงบินของตัวริน “ขอบคุณพีจิงอีCจ้ะ”
อันทีจริงนางรู้ดีว่าตนเองไม่มีเงินห้าร้อยตําลึง ทีถามกุ้ยจือเมือสักครู่ก็ถามไปทังที รู้อยู่แก่ใจแต่จําเป็ นต้องแสดงท่าทีเช่นนีออกมา มิเช่นนัน หลิวจิงอีCจะจ่ายเงิน แทนนางได้อย่างไร
กงหย่าหรูมองกงจี ก่อนจะพูดด้วยนําเสียงทีดังขึน “พีจิงอีC แม้ว่าเราสองพีน้องจะ มีความผูกพันลึกซึง แต่ข้าไม่สามารถเอาเปรียบพีอย่างนีได้ กลับไปข้าจะคืนให้พี นะจ๊ะ”
หลิวจิงอีCหัวเราะอย่างขมขืน เขารู้เกียวกับสถานการณ์การเงินทีบ้านของกงหย่า หรูในตอนนีดี แล้วเขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่ากงหย่าหรูแกล้งพูดให้ตัวนางดูดีไป อย่างนันเอง เขาจึงไม่ได้นําคําพูดทีว่า “จะคืนให้พี” มาใส่ใจ ได้แต่พยักหน้า กลับไปให้นางเท่านัน