แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 474 : ทําตัวเองให้ดี ๆ เถอะ
“เจ้ากําลังพูดอะไร ?” กงหย่าหรูส่งเสียงออกมาทางจมูกอย่างเย็นชา “ข้าชน มันแตกเองแล้วข้าจะไม่รู้รึไง แม้ตอนนันข้าไม่ทันสังเกต แต่ก็เห็นว่ามีแจกันใบ หนึงวางอยู่ตรงนัน มันจะแตกก่อนหน้านันได้ยังไง ?”
เมือป้าจางได้ยินกงหย่าหรูพูดเช่นนี สีหน้านางค่อย ๆ ผ่อนคลายลงและรีบอธิบาย ทันที “ใช่ แม่นางคนนีก็บอกแล้วว่าก่อนหน้านันมันยังสมบูรณ์อยู่… หนุ่มน้อย เจ้าอย่าพูดเหลวไหลเพือเงินห้าร้อยตําลึงนีสิ”
เจียงป่ าวชิงส่ายหน้า “ป้านีก็เหลือเกินเลยนะ” นางส่ายเศษเครืองเคลือบทีแตก ในมือไปมาแล้วพูดขึนยิม ๆ “เครืองเคลือบประทับลายจากราชวงศ์ก่อนแบบนี มักจะขายได้ราคาสูงเพราะความสมบูรณ์ของมัน แต่ถ้าหากว่ามีส่วนทีชํารุด ราคา มันจะลดลงไปมาก”
นีเป็ นสิงทีกงจีบอกกับนางเมือสักครู่ เขาบอกว่าแจกันประทับลายนี ถ้าหากว่า สมบูรณ์ก็สามารถขายได้แปดร้อยถึงหนึงพันตําลึงจริง ๆ แต่ถ้าหากว่ามีส่วน ชํารุด แม้ซ่อมแซมได้ แต่ราคากลับขายไม่ได้แม้กระทังหนึงร้อยตําลึงด้วยซํ า
“ป้านําแจกันชํารุดทีไร้ค่าและมีราคาไม่ถึงหนึงร้อยตําลึงเช่นนีมาวางตรงหน้า ร้านโดยวางแบบไม่มันคง แล้วก็ คอยจ้องหาโอกาสลงมือในตอนทีมีคนชนมัน อย่างไม่ระวัง… แบบนันก็จะสําเร็จ และได้รายรับหลายร้อยตําลึงเมือเปลียน มือ” เจียงป่ าวชิงพูดขึนยิม ๆ “จะว่าไปแล้วคุณหนูกงคนนีเดินไม่ระวังจริง ๆ นันแหละ แต่ ร้านของป้าวางแจกันยืนออกมามากกว่าร้านอืน ไม่ต้องไปวัดความ ยาวทียืนออกมาหรอก เพียงแค่มีคนไปโดนมันนิดเดียวหรือไม่ป้าก็แอบดันมัน อย่างลับ ๆ เรืองแจกันทีแตกนีก็เอาไว้ใช้อ้างให้นางรับผิดชอบได้แล้ว”
ป้าจางหน้าซีด เจียงป่ าวชิงพูดถึงขันนีแต่นางยังคงพยายามโต้เถียงอยู่อีก “นี… นี เจ้าพูดเหลวไหล เจ้าไม่มีหลักฐานด้วยซํา ตอนนันก็เห็นอยู่ว่าแจกันใบนียัง สมบูรณ์…”
“หลักฐานอยู่บนมือข้าแล้ว ป้ายังเถียงอีกนะ” เจียงป่ าวชิงยืนมือออกไปเพือให้ ป้าจางดูเศษเครืองเคลือบแตก ๆ อันทีนางคีบอยู่ระหว่างนิวมือ “เห็นหรือยัง ? รอยร้าวทีขอบของเครืองเคลือบนีซึมอยู่ในส่วนตราประทับซึงมีสีเหลือง เล็กน้อย” จากนันก็หยิบเศษเครืองเคลือบอีกอันขึนมา “แต่ส่วนทีแตกเมือ สักครู่แบบนัน รอยร้าวกลับเป็ นสีขาวบริสุทธิD นีแสดงให้เห็นถึงอะไร แสดงให้ เห็นว่าเศษเครืองเคลือบทีแตกอันก่อนนันอย่างน้อยก็คงแตกตังแต่เนิน ๆ แล้ว เห็นชัดว่าป้าเอาแจกันทีชํารุดมาหลอกรับเงินห้าร้อยตําลึง เรืองนี ยังไงป้าก็เถียง ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว”
ป้าจางขาไร้เรียวแรงลงไปนังกองบนพื นทันที
เจ้าของร้านตืนตระหนกอย่างเห็นได้ชัด “ข้าไม่คิดว่าหญิงคนนีจะกล้าใช้แจกันที เคยแตกแล้วมาหลอกข้า โชคดีทีคุณชายสายตาคมกริบมองปัญหาออก…”
“พอได้แล้วเจ้าของร้าน” เจียงป่ าวชิงพูดขึนยิม ๆ “ดูจากสีเหลืองเล็กน้อยทีอยู่ ตรงจุดตราประทับริมขอบก็รู้แล้วว่ามันแตกมาสักพักแล้ว เมือกีนีเจ้าบอกว่าป้า คนนีนําแจกันทีสมบูรณ์มาให้ตรวจราคาเมือวันก่อน เจ้าเองก็ยืนยันเรืองสีแล้ว ด้วย จะมาแกล้งโง่อะไรตอนนีอีกเล่า ?”
เจ้าของร้านกลอกตาไปมา แล้วเขาก็ตะโกนขึนเสียงดัง “ป้าคนนันมีแจกันที สมบูรณ์อยู่กับตัวจริง ๆ แต่คงมีมีอันแตกอีกหนึงอัน คราวก่อนนางนําแจกันที สมบูณณ์อันนันมาทีร้านข้าและนําแจกันชํารุดออกไปหลอกคน… ข้าไม่รู้จริง ๆ!” จากนันเขาก็เรียกกงจี “คุณชายใหญ่ต้องเชือข้าน้อยนะขอรับ ข้าน้อยไม่รู้ จริง ๆ ขอรับ!”
“เรียกข้าจะมีประโยชน์อะไร” กงจีพูดขึนอย่างช้า ๆ “เจ้ารู้เห็นด้วยหรือไม่รู้ เจ้าไปบอกพวกเจ้าหน้าทีเองเถอะ… แต่ต่อให้เจ้าไม่รู้จริง ๆ โรงรับจํานํานีก็ไม่ กล้าใช้งานเจ้าอีกแล้ว ข้าจะไปคุยกับท่านอาสาม แม้แต่ ‘น้องชาย’ ของข้าที เป็ นคนนอก ไม่ได้ทํางานดูของเพือตีราคาอย่างเจ้ายังมองออกถึงปัญหานี เจ้าใน ฐานะเจ้าของโรงรับจํานํากลับมองไม่ออก แม้แต่ความสามารถแค่นีก็ไม่มี ไม่รู้ว่า โรงรับจํานํานีขาดทุนไปตังเท่าไหร่ การไล่เจ้าออกถือว่าเบาแล้ว”
นําเสียงกงจีไม่ได้ดุดันอะไรมาก แต่ความหมายในคําพูดกลับทําให้เจ้าของร้านตัว สันเลยทีเดียว เขาพยายามตะโกนว่า “คุณชายใหญ่ยกโทษให้ข้าน้อยด้วยขอรับ”
หลิวจิงอีCทีเห็นทุกสิงกับตารู้สึกนับถือเจียงป่ าวชิงจากใจจริง “แม่นางเจียงช่างยอดเยียมจริง ๆ” เขาเอ่ยชม
เจียงป่ าวชิงมองหลิวจิงอีC “ยอดเยียมตรงไหนกัน ? ถ้าหากว่าเป็ นของลําค่าที สมบูรณ์และมีมูลค่านับพันตําลึงจริง ๆ ใครจะโง่เอาไปวางไว้นอกสุดของร้าน ขายของกันล่ะ นีไม่เท่ากับตังใจให้คนอืนมาชนเพือหลอกเอาเงินหรอกรึ เรืองนีมี ความผิดปกติตังแต่แรกแล้ว”
“แกล้งให้คนอืนมาชนเพือหลอกเอาเงินงันรึ ?” หลิวจิงอีCรู้สึกงุนงง ก่อนจะพูด ขึนยิม ๆ “อืม ดูยังไง ๆ ก็ใช่จริง ๆ ด้วย”
แต่กงหย่าหรูยังคงพูดขึนอย่างแค้นใจ “เจ้ารู้ตังแต่แรกแล้วว่ามันมีปัญหา แต่ ทําไมต้องจงใจให้ข้าทําเรืองน่าขํา เจ้ามันจงใจ ช่างจิตใจชัวร้ายจริง ๆ! ”
เจียงป่ าวชิงไม่สนใจกงหย่าหรู นางนําเงินห้าร้อยตําลึงกลับมาจากป้าจางแล้วส่ง ให้หลิวจิงอีC พร้อมทังพูดขึนอย่างมีความหมาย “ต่อไปก็ระวังหน่อยล่ะ”
หลิวจิงอีCยิมอย่างขมขืน
องครักษ์ของกงจีไปแจ้งเจ้าหน้าทีประจําเมืองหลวง ไม่นานคนของทางราชการก็ มาจับกุมป้าจางกับเจ้าของร้านไป คนละแวกนีรู้แล้วว่าพนักงานโรงรับจํานําของ ตระกูลกงร่วมมือกับคนอืนเพือโกงคน แม้เป็ นเพียงร้านเดียวทีมีปัญหา แต่สิงที ตามมาคือการล่มสลายของความไว้วางใจ
สิงสําคัญทีสุดของการทําโรงรับจํานําคืออะไร…? นันคือความไว้วางใจ การล่มสลายของความไว้วางใจจึงเป็ นปัญหาทีรุนแรงทีสุด
ไม่นาน เรืองนีก็ไปถึงหูกงหยวนโจ ผู้นําบ้านสามของตระกูลกง เมือเขารู้ว่ากงจี สอดแทรกเข้ามาเบืองหลังอย่างลับ ๆ ก็โมโหพังข้าวของในบ้านมากมาย แต่เมือ เริมตังสติได้ก็ไปปรึกษากับกงหยวนหยู่ผู้เป็ นพีชายคนทีสองด้วยสีหน้าครําครึ
แน่นอนว่ากงจีกําลังอารมณ์ดีในตอนนี
แม้ว่ากิจการงานของจวนติงกัวโฮ่ C วเหล่านันจะตกตําทังหมด เขาก็ไม่ยอมให้พวก บ้านสองกับบ้านสามได้รับผลประโยชน์จากในนัน!
อันทีจริงถ้าหากว่าสืบสวนเรืองนีอย่างละเอียด ก็ถือได้ว่ากงจี “ทําเรืองเลวร้าย” ถ้าหากเขาไม่ได้แอบขัดขากิจการของจวนติงกั วโฮ่ C วบนสนามการค้าอย่างลับ ๆ ก่อนหน้านี จนทําให้ร้านจํานวนมากขาดทุนมากมาย เจ้าของร้านคนนีคงไม่สมรู้ ร่วมคิดกับป้าจางอย่างไม่มีทางเลือกและทําพฤติกรรมชัวช้า
กงหย่าหรูอยากเดินตามหลังกงจี แต่กงจีกลับไม่ชอบนางทีมาคอยป้วนเปี ยนขัดหู ขัดตาอย่างมาก ทว่าเขาไม่จําเป็ นต้องลงมือเองด้วยซํา ทําเพียงสังองครักษ์ให้ ขัดขวางหญิงผู้น่ารําคาญคนนี เขากับเจียงป่ าวชิงจะได้ไปเดินเล่นกันต่ออย่าง สบายอารมณ์
เหลือไว้เพียงกงหย่าหรูทีมองดูกงจีกับเจียงป่ าวชิงจากไปตาละห้อย ทําได้แค่ โมโหกระทืบเท้าไม่หยุด
เมือหลิวจิงอีCเห็นท่าทางกงหย่าหรู เขาก็ตัดสินใจเกลียกล่อมนางอีกครังด้วย ความหวังดี “หรูเอ๋อร์ เจ้าอย่าเอาเวลามาเสียกับแม่ทัพกงอีกเลย เขาไม่ชายตามอง เจ้าด้วยซํา ผู้หญิงอย่างทีเขาชอบไม่ใช่แบบเจ้าหรอก”
กงหย่าหรูนําตานองหน้า ไม่ว่าจะอย่างไรนางก็ไม่เชือ “ข้าไม่เชือ! แม่นางเจียง ป่ าวชิงนันมีอะไรดี ความสวยของข้าไม่ น้อยไปกว่านาง นางก็แค่สามัญชน ธรรมดา แต่ข้าเป็ นถึงบุตรสาวจวนโฮ่ว! คุณชายกงเกิดในตระกูลเก่าแก่ เขาจะ ชอบสามัญชนคนธรรมดาได้ยังไง ?! เขาต้องไม่จริงจังกับนางแน่นอน หญิงที คุณชายกงจะตบแต่งด้วยคือผู้หญิงสูงส่งจากตระกูลใหญ่อย่างข้า ไม่ใช่สามัญชน ธรรมดาอย่างแม่นางคนนัน!”
ช่างหลงผิดอย่างกู่ไม่กลับจริง ๆ
หลิวจิงอีCหมดคําจะเตือน ได้แต่บอกตัวเองในใจว่าตนนันให้ความเมตตาต่อมิตร สหายในวัยเด็กคนนีอย่างถึงทีสุดแล้ว
“เจ้าทําตัวเองให้ดี ๆ เถอะ” เขาพูดกับกงหย่าหรูอย่างเหนือยล้า