แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 482 : จวนเจียง
แม้เวลานีเป็ นหญิงท้องแก่ทีมีรอยยิมนุ่ มนวล แต่ท้ายทีสุดแล้วสถานะของซูรุ่ย เอ๋อร์ยังคงเป็ นหัวหน้าสองแห่งหมู่บ้านโจรภูเขาซึงถือว่าเป็นบุคคลอันตราย บน ถนนทีมีผู้คนผ่านไปผ่านมาเช่นนี ไม่ใช่สถานทีทีเหมาะจะพูดคุยกันเลย เจียงป่ าว ชิงกับซูรุ่ยเอ๋อร์จึงไปหาร้านอาหารแถวนีเพือนังคุยกั น
ซูรุ่ยเอ๋อร์พิงกายอยู่บนเก้าอีอย่างสบาย ท่าทางเกียจคร้านนันไม่ต่างอะไรจาก เมือก่อน
เจียงฉิงรินนําอุ่นให้ซูรุ่ยเอ๋อร์ นางจึงเอ่ยชมเด็กหญิง “อาฉิงเองก็โตเป็นสาวขึน เรือย ๆ แล้วนะ”
เจียงป่ าวชิงยิมพลางถาม “หัวหน้าสองมาทีเมืองหลวงตังแต่เมือไหร่รึ ?”
ซูรุ่ยเอ๋อร์ปิ ดปากหาว “ไม่กีวันทีผ่านมานีแหละ หลังจากทีพวกเจ้าออกไปได้ไม่ นาน เทียนหยู่ก็พาพวกเด็กหนุ่มในหมู่บ้านไปเป็นทหาร และไม่รู้ว่าพีใหญ่ไป สมคบกับหญิงหม้ายในหมู่บ้านตอนไหน ไป ๆ มา ๆ เขาก็มอบอํานาจให้หลู่เว่ ยต้งดูแลหมู่บ้านต่อซึงนันถือว่ าพีใหญ่วางมือแล้ว หลู่เว่ยต้งเป็ นมือดีคนหนึงแต่ เรืองดูแลหมู่บ้านเขากลับทําได้ไม่ดี ต่อมาพวกเราได้รับจดหมายทีเทียนหยู่ส่งมา เนือความคล้ายกับเป็ นการอวดให้เห็นถึงความสําเร็จของเขาทีด่านชายแดน หลู่เว่ ยต้งโมโหจึงพาคนกลุ่มหนึงไปเข้าร่วมเป็ นทหารทีด่านชายแดนเช่นกัน พอเป็ น เช่นนีหมู่บ้านฟู่ กุ้ยของเราจึงแยกย้ายกันไปหมดแล้ว ทุกคนต่างหยิบเงินออมที สะสมไว้หลายปี ออกมาหางานทําเพือไปมีชีวิตทีดี”
ซูรุ่ยเอ๋อร์หยุดชะงัก สีหน้านางสับสนงงงวยเล็กน้อย “แรกเริมนีข้าเองก็ไม่รู้จะ ไปทีไหนจึงคิดว่ามาเริมทีเมืองหลวงคงดี พวกซิวผิงก็อยากตามข้ามาเช่นกันแต่ คนในครอบครัวของพวกนางไม่ยอมให้เด็กผู้หญิงจากบ้านไปไกล สุดท้ายคน ทีมาเมืองหลวงจึงมีเพียงข้าคนเดียว”
เจียงป่ าวชิงไม่รู้ว่าจะพูดอะไรชัวขณะหนึง
นําเสียงของซูรุ่ยเอ๋อร์ค่อนข้างผ่อนคลาย ดูเหมือนนางไม่รู้สึกเสียดายทีทุกคนใน หมู่บ้านแยกย้ายกันไป เพราะไม่ใช่แค่นางเท่านันทีรู้สึกว่าโจรอย่างพวกเขา แม้จะ เป็ นคนอันตรายแต่ถ้าจุดหนึงเมือถึงเวลา อาจเป็ นเรืองดีสําหรับพวกเขาก็ได้ทีจะ กลับไปใช้ชีวิตในแบบคนปกติทัวไปและทํามาหากิ นเลียงตัวเองกับครอบครัว
เจียงป่ าวชิงยังคงเงียบไม่ได้พูดอะไร
ซูรุ่ยเอ๋อร์ยิมจาง ๆ แล้วพูดขึ นทําลายความเงียบนี “ข้าเพิงมาถึงเมืองหลวงเมือ ไม่กีวันและบังเอิญได้ยินผู้คนกําลังคุยกันอยู่ พวกเขาคุยกันว่ามีหมอเทวดาหญิง ในเมืองหลวงชือเจียงป่ าวชิงซึงได้รักษาโรคให้ไทเฮาจนหายเป็ นปกติ ฮ่องเต้จึง พระราชทานบ้านใหญ่ให้หนึงหลัง… วันนีข้าเลยอยากมาดูบ้านหลังนันสัก หน่อยและก็ได้พบว่ามันมีสง่าราศีมากจริง ๆ”
เจียงป่ าวชิงเอือมมือไปจับชีพจรให้ซูรุ่ยเอ๋อร์ เมือเห็นว่าสภาพชีพจรนางยัง แข็งแรงก็รู้สึกดีใจทีได้รู้ว่านางดูแลตัวเองเป็ นอย่างดีจึงยิมออกมาและพูดเชิญอีก ฝ่ าย “สําหรับบ้านหลังนี คงอีกไม่กีวันก็ย้ายเข้าไปอยู่ได้แล้ว บ้านใหญ่มาก หัวหน้าสองมาอยู่ด้วยกันไหมจ๊ะ ?”
ซูรุ่ยเอ๋อร์ยิมนุ่ มนวล “เสียวชิงชิง เจ้ากําลังดูแคลนข้ารึ ? เงินออมในหลายปี ของข้าเพียงพอทีจะทําให้ข้ากับลูกสามารถใช้ชีวิตอย่างสบายไปได้ตลอดชีวิต ข้า ซือบ้านหลังเล็ก ๆ ไว้ใกล้ ๆ เมืองหลวงและยังจ้างสาวใช้ไว้ซึงแน่นอนว่าจะใช้ ชีวิตได้อย่างสบาย ทําไมข้าต้องมาอยู่ทีบ้านเจ้าด้วยล่ะ ?”
พูดถึงขันนีแล้ว แน่นอนว่าเจียงป่ าวชิงเคารพการตัดสินใจของซูรุ่ยเอ๋อร์
พูดคุยกันต่ออีกสักพัก ทังสองก็พากันไปทีบ้านหลังเล็กของซูรุ่ยเอ๋อร์ เมือเจียง ป่ าวชิงมองดูอย่างละเอียดแล้ว ทีนีไม่ห่างจากบ้านใหม่ของนางเท่าไหร่นัก ใช้ เวลาเดินทางมาเพียงสองชัวยามก็ ถึงแล้ว
แม้จะบอกว่าเพิงซื อบ้านหลังเล็กนี แต่ซูรุ่ยเอ๋อร์เป็ นคนทีชอบเสพสุขกับความ สบายมานานแล้ว นางจึงสังให้สาวใช้เก็บกวาดบ้านเตรียมไว้ให้ดูเรียบร้อยสบาย ตา หลาย ๆ ห้องถูกจัดเก็บอย่างดีแต่ห้องนอนดูน่าสบายทีสุดเพราะมีเตียงนุ่มทีปู ด้วยพรมหนา ๆ น่านอน วันใดว่าง ๆ ก็นอนลงไปบนเตียมนุ่มนันในวันทีแดดดี และแง้มหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทอีกสักหน่อย ไม่ต้องพูดเลยว่ามันจะรู้สึกสบาย มากเพียงใด
ตอนทีเจียงป่ าวชิงกับเจียงฉิงกลับจากบ้านซูรุ่ยเอ๋อร์ เจียงฉิงยังคงมีความสนใจใน ตัวหัวหน้าซู นางยังเด็กจึงมีบางอย่างทียังไม่เข้าใจเล็กน้อย “พีสาวจ๊ะ ทําไม หัวหน้าสองต้องอุ้มท้องโตมาไกลถึงเมืองหลวงด้วยล่ะจ๊ะ ? หากเพียงแค่ ต้องการอยู่ในบ้านทีสบายแบบนัน บนโลกนีมีตังหลายเมือง อยู่ทีไหนก็ เหมือนกันไม่ใช่หรือจ๊ะ ?”
เจียงป่ าวชิงลูบศีรษะเจียงฉิง นางยังเด็ก แน่นอนว่าย่อมไม่เข้าใจอะไรทีเกียวกับ การเลือกเมืองเพือคนคนหนึง
……
เมือเจียงป่ าวชิงไปดูบ้านทีได้มาเป็ นรางวัลอีกครังหลังจากผ่านไปสองสามวัน บ้านใหม่ก็จัดเก็บเสร็จทุกห้องแล้ว เดิมทีบ้านทีเคยดูแลอย่างดี แม้จะถูกทิงร้างมา นานกว่าครึ งปี แต่เมือปรับปรุงใหม่ให้ดี ๆ มันก็ดูดีขึนมากเลยทีเดียว
เจียงป่ าวชิงรู้สึกพึงพอใจ ตอนทีนางเดินออกมาจากประตูบ้านและเงยหน้าขึน มองจุดแขวนป้ายทีว่างเปล่า นางก็คิดว่าถ้ากลับไปจะขอให้อาจารย์หยุนไห่ช่วย เขียนป้ายให้สักหน่อยโดยทีไม่ต้องหรูหราโอ่อ่าเกินไป เขียนเพียงแค่คําว่า “จวน เจียง” ก็เพียงพอ
ในตอนทีเจียงป่ าวชิงกําลังยืนครุ่นคิด จวนของครอบครัวทีอยู่ฝังตรงข้ามซอยของ พวกเขาก็เปิ ดประตูและมีรถม้าเคลือนออกมาจากข้างใน
เนืองจากคนทีอาศัยอยู่เฟิ งผิงเหมินในตอนนี โดยพืนฐานแล้วเป็ นครอบครัวทีมี อํานาจ ในวันธรรมดาเช่นนีจึงมีรถม้าเข้าออกเป็ นธรรมดา ถนนในซอยก็กว้าง และเรียบ เว้นแต่รถม้าคันนันจะเคลือนทีเป็ นแนวนอน มิเช่นนันคงไม่สามารถ ส่งแรงกระแทกเจียงป่ าวชิงได้ นางยืนอยู่ตรงนันไม่ได้ขยับไปไหน แต่รถม้าคัน นันกลับมุ่งตรงมาทีนาง สุดท้ายก็มาหยุดทีข้างตัวนาง
ม่านประตูรถม้าถูกเลิกขึนเผยให้เห็นใบหน้ายิมแย้มของใครคนหนึงซึงดู อ่อนโยนและสุภาพอย่างมาก
“แม่นางทีแต่งกายเป็ นชาย เราเจอกันอีกแล้ว”
เจียงป่ าวชิงความจําดีมาก นางจําคนทีอยู่บนรถม้าคันนีได้ทันที พวกนางทังสอง เคยเจอหน้ากันครังหนึงจริง ๆ ในร้านขายฟื นของตระกูลจาง นีคือคุณหนูจ้งเอ้อ จากจวนอินเวยโป๋ ซึงเคยบีบบังคับให้นางขายถ่านกระดูกเงินชันดีห้าตะกร้าให้ แต่สุดท้ายก็ถูกนางขับไล่ด้วยคําพูดสัน ๆ
เจียงป่ าวชิงยิมทักทายอีกฝ่ าย “ทีแท้ก็คุณหนูจ้งเอ้อนีเอง”
เมือมองดูใบหน้ายิมแย้มของเจียงป่ าวชิง แม้คุณหนูจ้งเอ้อจะยังเผยรอยยิ มออกมา ทางสีหน้า แต่ในใจนางกลับอยากฉีกหนังหน้าของเจียงป่ าวชิงให้รู้แล้วรู้รอด เพราะไอ้คนตําต้อยตรงหน้าคนนีเคยไม่ยอมขายถ่านกระดูกเงินชันดีห้าตะกร้า จนทําให้นางลําบากมากในตอนนัน
ตอนนัน เพือซือถ่านกระดูกเงินเพิมอีกห้าตะกร้า นางเอาเงินส่วนตัวเกือบทังหมด มาใช้และถึงกับขอแม่เลียงของนางเรืองเงิน ๆ ทอง ๆ ถึงจะสามารถรวบรวมเงิน ได้เพียงพอต่อการเอามาใช้ซือถ่านกระดูกเงินชันดีสามสิบตะกร้า
คุณหนูจ้งเอ้ออยากเอาอกเอาใจด้วยถ่านกระดูกเงินทีดีทีสุดนันจึงนําไปส่งให้กับ นายท่านหญิงของจวนของพวกเขา และนายท่านหญิงเอ่ยชมว่านางดูแลบ้านเป็ น อย่างดีต่อหน้าทุกคนอีกด้วย บอกว่าถ่านนีไม่มีควันแม้แต่น้อย ทังยังมีกลินหอม ของไม้จาง ๆ ทีทําให้ผ่อนคลาย
เมือคุณหนูจ้งเอ้อได้รับคําชมก็รู้สึกภาคภูมิใจและคิดว่าเงินส่วนตัวของตัวเอง ไม่ได้ถูกใช้ไปอย่างสูญเปล่า แต่เมือลูกสะใภ้คนโตของจวนอินเวยโป๋ ไปคารวะ นายท่านหญิงในวันนัน นางก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติจึงกลับไปใส่อารมณ์กับ นายจ้ง สามีของนางว่านางกําลังตังท้อง ในเมือในจวนมีถ่านชันดี ทําไมไม่นํามา ให้นางใช้
ถ้าหากว่าเป็ นคนอืนใช้อํานาจบาตรใหญ่เช่นนี นายจ้งคงรายงานทางจวน และไม่ แน่ทางจวนอาจจัดการกวาดให้นางกลับบ้านพ่อแม่ตัวเองไปแล้วก็ได้ แต่ลูกสะใภ้ คนโตคนนีไม่ธรรมดา นางเกิดในจวนองค์หญิง ทว่าในตอนทีนางออกเรือน ไทเฮาประทานให้นางไม่มีศักดินา มีเพียงศักดิDความเป็ นองค์หญิงเท่านัน
อย่างไรก็ตาม นางก็ถือเป็ นองค์หญิงชุ่นผิงผู้ทีเคยได้รับบรรดาศักดิDจากราชวงศ์ต้า หลง ถ้าหากพูดตามหลักแล้ว ลูกหลานของพวกเขาเอาแต่นังเสวยสุขโดยไม่ มุ่ง แสวงหาความก้าวหน้า หลายสิงทีมีจึงค่อย ๆ หมดไปหลังจากผ่านไปสองสามชัว อายุคน
อินเวยโป๋ นันไม่ใช่ตําแหน่งทีสืบเชือสายมาจากบรรพบุรุษ และแน่นอนการสืบ ทอดจะสินสุดลงทีรุ่นพ่อของเขา ดังนันความมังคั งในชีวิตข้างหน้าของเขายังไงก็ ต้องอาศัยภรรยาทีเป็ นองค์หญิงของเขาคนนี แล้วเขาจะกล้าล่วงเกินนางได้ อย่างไร
ด้วยเหตุนีเอง นายจ้งจึงไประบายอารมณ์กับน้องสาวทีเกิดจากเมียน้อยของพ่อเขา ทีเป็ นคนดูแลเรืองการซือถ่านกระดูกเงิน
แรกเริมคุณหนูจ้งเอ้อยังใช้โอกาสนียุแหย่ให้เกิดความขัดแย้งต่อหน้าอินเวยโป๋ อยู่ แต่อินเวยโป๋ กลับไม่สนใจ จนกระทังคุณหนูจ้งเอ้อร้องไห้และพูดความในใจ บอกว่าช่วงนีนางเห็นนายท่านหญิงมีอาการไอ จึงนําเงินส่วนตัวไปใช้ซือถ่าน กระดูกเงินชันดีให้นายท่านหญิงโดยเฉพาะ
เมืออินเวยโป๋ ถามถึงราคา เขาก็รู้สึกซาบซึงใจอย่างยิง ส่ วนนายท่านหญิงเองก็ รู้สึกซาบซึงใจเช่นกันและตัดสินใจทันทีว่าหลานสาวกตัญFูเช่นนีควรได้ดูแล เรืองครอบครัวมากขึน
ทว่าเรืองกลับพลิกผันเพราะคุณหญิงอินเว่ยโป๋ โผล่หน้ามาเปิ ดโปงเรืองทีว่าทําไม คุณหนูจ้งเอ้อถึงได้ใช้เงินส่วนตัวของตัวเองเพือเอาไปซือถ่านอย่างคร่าว ๆ เหตุผลคือว่านางคิดวิธีดูแลบ้านไม่ออก ถึงได้ใช้คนแอบเจาะตะกร้าใบใหญ่เพือ นําถ่านคุณภาพไม่ดีมาผสมตบตาในตอนทีออกไปซือถ่าน พูดง่าย ๆ คือนางใช้ ถ่านคุณภาพตําทีมีควันดํามาหลอกว่าเป็ นถ่านกระดูกเงินชันดี
คุณหนูจ้งเอ้อรู้สึกเก้อเขินทันที
นายท่านหญิงกับอินเวยโป๋ ต่างก็รู้สึกว่าตัวเองถูกหลอกจนเกิดความไม่พอใจ คุณหญิงอินเวยโป๋ จึงถือโอกาสนีเรียกคืนสิทธิD ในการดูแลเรืองซือถ่านของคุณหนู จ้งเอ้อ คุณหนูจ้งเอ้อจึงเป็ นฝ่ ายสูญเสียผลประโยชน์โดยสินเชิง
ช่วงเวลานัน คุณหนูจ้งเอ้อแอบด่าคุณหญิงอินเวยโป๋ รวมถึงเจียงป่ าวชิงทีแต่งกาย เป็ นชายเกือบทุกวัน บางครังนางก็ด่าองค์หญิงชุ่นผิงด้วยเช่นกัน ถ้าไม่ใช่เพราะ อีกฝ่ ายเรืองมาก เรืองนีก็คงจะผ่านไปโดยไม่ต้องเกิดเรืองอะไรแล้ว
เมือคุณหนูจ้งเอ้อเห็น “คู่อริเก่า” ทีนางคอยแต่จะนึกถึงเป็ นเวลาหลายวัน แม้ นางแสดงความอ่อนโยนออกมาทางสีหน้า แต่ไม่ต้องถามว่านางตืนเต้นอยู่ในใจ มากเพียงใด นางตืนเต้นจนอยากกระโดดลงจากรถม้าเพือไปด่าเจียงป่ าวชิงอย่าง เจ็บแค้นเลยทีเดียว