แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 485 : ทะลุปรุโปร่ง
เมือตงเส่เห็นว่าเจียงป่ าวชิงสังให้คนห้ามเลียวชุนหยู่ เขาก็ยิงแน่ใจขึนเรือย ๆ ว่า
ตอนนีเจียงป่ าวชิงต้องห่วงชือเสียงตัวเองมาก เขาคํายันพืนลุกขึนนังอย่ างลําพอง
ใจ และมองเจียงป่ าวชิงด้วยสายตาโลภมาก “ยังคงเป็ นคุณหนูใหญ่ทีเข้าใจ
สถานการณ์ คุณหนูใหญ่ฉลาดเฉลียวและตอนนีก็รวยแล้วด้วย คุณหนูแค่เอาเงิน
ออกมานิด ๆ หน่อย ๆ ก็พอแล้ว…”
เจียงป่ าวชิงไม่สนใจตงเส่ นางพูดอย่างช้า ๆ โดยไม่มองอีกฝ่ ายด้วยซํา “ข้านึก
เรืองเก่า ๆ ในอดีตขึนมาได้”“ว่ากันว่ามีชายเร่ร่อนเนือตัวสกปรกคนหนึงตกหลุมรักคุณหนูจากตระกูลรํารวย
บางคนทีงานวัด เขาถือโอกาสตอนทีคนเยอะเข้าไปแย่งผ้าขนหนูปักลายทีคุณหนู
คนนันปักเองกับมือมา วันต่อมาเขานําผ้าขนหนูผืนนันไปโวยวายทีจวนของ
คุณหนูคนนันโดยอ้างว่าเขากับนางถูกตาต้องใจและมีสัมพันธ์ลึกซึงกัน แม้
คุณหนูจากตระกูลรํารวยจะพยายามปฏิเสธแต่ไม่เป็ นผลเพราะชายคนนันยึด
ผ้าขนหนูปักลายทีนางพกติดตัวผืนนีเป็ นหลักฐาน เขาถือผ้าเช็ดหน้าไว้ในมือ
กลิงตัวโวยวายอยู่ บนพืนโดยไม่เสียดายศักดิDศรีของตัวเองและโวยวายเสียงดังจน
เพือนบ้านในละแวกนันรู้กันหมด ต่อมามีการตกลงกันเป็ นการส่วนตัวพร้อม
กําหนดว่าจะต้องอยู่ด้วยกันตลอดชีวิต เวลาผ่านไปสุดท้ายชายเร่ร่อนคนนันถูก
ขับไล่ออกไปจากจวนของคุณหนูถาวร แต่ถึงยังไงชือเสียงของนางก็เสือมเสียไป
แล้วและการแต่งงานทีทางผู้ใหญ่ของนางกําลังเจรจาให้อยู่ในช่วงนันก็ล้มเหลว
ด้วยเช่นกัน จุดจบคือนางวิงเข้าไปในป่ า เต็มตื นไปด้วยความอับอายโกรธแค้น
และเลือกทีจะผูกคอจบชีวิตตัวเองด้วยเชือกขาว…”
เลียวชุนหยู่ไม่คิดว่าเจียงป่ าวชิงจะเล่าเรืองเช่นนีออกมาเขาจึงตําหนิตัวเองทันที
“พี ข้าไม่ดีเอง ถ้าหากว่าตอนนันข้าระวังสักหน่อยไม่ได้ให้ถุงหอมของพีกับไอ้
บ้าตงเส่…”
ความลําพองใจฉายวาบอยู่ในแววตาของตงเส่ เขาส่ายหน้าพลางพูดลากเสียงให้
ยาวขึน “คุณหนูใหญ่มองเหตุการณ์ได้อย่างทะลุปรุโปร่งจริง ๆ”
มาถึงขนาดนี เลียวชุนหยู่จะยังอาลัยอาวรณ์ในความสัมพันธ์แบบเจ้านายและคน
รับใช้หลงเหลือกับตงเส่อยู่ได้อย่างไร เลียวชุนหยู่อยากต่อยไอ้คนเนรคุณเจตนา
ชัวร้ายคนนี ให้ตายเพือให้เรืองจบลงจริง ๆ!
แต่ก็เหมือนทีเรืองนันบอกไว้… ชายร่อนเร่คนนันทําทุกวิถีทางโดยไม่เสียดาย
ศักดิDศรีหรืออะไรเลย พยายามแต่จะบีบบังคับให้คุณหนูตระกูลรํารวยจนมุม ทํา
ได้เพียงผูกคอจบชีวิตตัวเอง
เลียวชุนหยู่โกรธแค้นอย่างหนักแต่เจียงป่ าวชิงกลับยิม “เดีCยวก่อน เรืองนียังไม่
จบ…”
“…บางทีชีวิตของคุณหนูคนนันอาจยังไม่ถึงจุดจบ เพราะนางได้รับความ
ช่วยเหลือจากขุนนางทีเดินผ่านไปทางนัน ซึงบังเอิญว่าขุนนางคนนีกําลังจะเข้า
ดํารงตําแหน่งนายอําเภอในท้องทีพอดี เขาจึงถามคุณหนูคนนันว่ามีเรืองถูกใส่
ร้ายอะไรหรือเปล่า ถึงกับทําให้คิดไม่ตกแสดงความกลัดกลุ้มออกมาทางสีหน้า
เช่นนี คุณหนูจากตระกูลรํารวยจึงบอกนายอําเภอเกียวกับเรืองราวทังหมดอย่าง
ละเอียด แต่นายอําเภอกลับยิมและพูดมาว่ า ‘ก็แค่เรืองเล็กน้อย ไม่เห็นต้องทําเช่นนีเลย’ …ต่อมานายอําเภอนําผ้าไหมขาวทีคุณหนูจากตระกูลรํารวยคนนัน
ใช้มาผูกคอแล้วไปเข้าดํารงตําแหน่งทีทีว่าการ คําสังแรกทีเขาลงนามคือใช้ให้คน
ไปจับตัวชายเร่ร่อนคนนันกลับมาเพราะโทษความผิดทีว่าวางแผนตังใจฆ่า
ตอนนีเห็นทีว่าการลงโทษตีห้าสิบไม้กระดานคงไม่พอ…”
“…แน่นอนว่าชายเร่ร่อนคนนันไม่ยอมรับ เขาบอกว่าตัวเองถูกปรักปรํา
นายอําเภอจึงโยนผ้าไหมสีขาวไปในห้องโถงแล้วตะคอกเสียงดังว่าถ้าหากต้องใจ
กันจริง ๆ ก็ควรไปเชิญแม่สือมาเจรจาทีบ้าน แต่เจ้ากลับไม่ทําอะไรสักอย่าง แถม
ยังจงใจโวยวายจนชาวบ้านรู้เรืองนีกันหมด เห็นได้ชัดว่าเจ้าคิดจะบีบบังคับให้
นางจนมุม! ตอนนีนางผูกคอตายแล้ว เจ้าคงพอใจแล้วสิ!…”
“…ชายเร่ร่อนคนนันรีบพูดขึนว่าพวกเขาต้องใจกัน และการกระทําของ
คุณหนูจากตระกูลรํารวยไม่ใช่ว่าถูกเขาบีบบังคับ แต่เป็นเพราะนางยอมตายด้วย
ความรักต่างหาก!…”
เจียงป่ าวชิงหยุดพักหายใจชัวขณะหนึงแล้วเล่ าต่อ “…นายอําเภอจึงหัวเราะ
อย่างเย็นชาแล้วบอกว่าคุณหนูเพิงอายุสิบห้า แต่ชายเร่ร่อนอายุมากกว่าสามสิบปี
แล้ว ตอนนีคนหนึงตายคนหนึงยังมีชีวิต เห็นได้ชัดว่าเขาทําผิดต่อหญิงสาว ยังไง
ก็ต้องถูกลงโทษตีห้าสิบไม้กระดานอยู่ดี…”
“…ชายเร่ร่อนคนนันเห็นว่าจนปัญญาแล้ว เขาจึงต้องสารภาพความจริงโดย
บอกว่าตนแค่มีความโลภชัวขณะและไม่ รู้จักคุณหนูจากตระกูลรํารวยคนนัน ซึง
ตนไม่ได้มีความคิดทีจะวางแผนตังใจฆ่านางและไม่ได้ลักพาตัวหลอกลวงหญิง
สาว แค่แย่งผ้าขนหนูนางมาลองเสียงดู ถ้าหากว่าดวงดีไม่แน่ก็อาจได้สาวงามมา
โดยไม่ต้องลงแรงอะไรมาก แต่ถ้าหากว่าดวงไม่ดีก็อาจได้รับเงินค่าปิ ดปากมา
บ้าง…”
“…มาถึงตอนนีความจริงก็ถูกเปิ ดเผยอย่างชัดเจนแล้ว…”
เจียงป่ าวชิงหยุดเล่าพลางยิม ก่ อนจะเล่าต่อโดยจงใจมองหน้าตงเส่ไปด้วย “…
ชายเร่ร่อนคนนันแม้ไม่ได้ตังใจจะให้ถึงกับมีการตาย แต่เนืองจากความผิดทีเขา
โลภ ขโมยของคนอืนหวังผลประโยชน์ให้ตัวเอง สุดท้ายเขาถูกลงโทษตีหนึงร้อย
ไม้กระดานพร้อมขังคุก เคราะห์ร้ายทีเขาร่างกายอ่อนแอ ทนอยู่ในคุกได้ไม่
เท่าไหร่ก็ตาย”
ตงเส่ทีนังอยู่ บนพืนหน้าซีดทันทีแต่ยังคงยืนกรานพูดออกมา “ไม่ต้องมาขู่ นีเป็ น
เรืองทีคุณหนูแต่งขึนมาเองล่ะสิ!”เจียงป่ าวชิงไม่สนใจตงเส่ นางหันไปพูดกับคนเฝ้าประตู “เจ้าดูเขาไว้ให้ดี ๆ”
จากนันก็พูดกับจ้านหลูว่า “ส่วนเจ้าไปแจ้งเจ้าหน้าที ทางฝังราชการจะได้มา
จัดการ”
ตรงไปตรงมา ไม่มีการชักช้ายืดยาดแต่อย่างใด
ตงเส่ร้อนรนมาก เขารีบตะโกนเสียงดัง “ข้ามีถุงหอมทีคุณหนูปักเองกับมือ!
คุณหนูไม่กลัวว่าข้าจะพูดเรืองนีออกไปให้คนรับรู้กันหมดรึ ?!”
เจียงป่ าวชิงยิมเย็นเยือก “เจ้าโง่! ถุงหอมนันมีลายปักชือของชุนหยู่ซึงก็
เหมือนกับของอาฉิง เพือเป็ นการแยกว่าของใครเป็ นของใครข้าจึงปักชือไว้
ด้านหลัง เจ้าดูได้เลยว่ามีตัวอักษรเล็ก ๆ คําว่า ‘หยู่’ ปักอยู่บนนันจริงหรือ
เปล่า”
ตงเส่รีบหยิบถุงหอมออกมาดูอย่างรวดเร็ว และเป็นเช่นนันจริง ๆ ด้านหลังถุง
หอมนีมีคําว่า “หยู่” ตัวเล็ก ๆ ปักไว้
ถุงหอมร่วงหล่นจากมือของตงเส่ลงไปบนพืน เขาทรุดนังลงและหัวเราะอย่ างบ้า
คลัง แต่ เสียงหัวเราะนันกลับแย่ยิงกว่าเสียงร้องไห้
……
หลังจากถูกลงโทษตีห้าสิบไม้กระดาน ตงเส่ก็ถูกโยนออกไป เขาคลานไปทีมุม
ซอยอย่างทุรนทุราย ขดตัวและหายใจอ่อนแรง
แสงสีในยามราตรีค่อย ๆ ปกคลุมท้องฟ้า จังหวะเดียวกับทีมีร่างหนึงมาหยุดอยู่
ตรงหน้าตงเส่ ซึงเขารีบแบมือขอเงินชายคนนันอย่างอ่อนแรง ทว่าชายคนนันที
สวมหมวกคลุมทําให้มองไม่เห็นสีหน้าของเขา ยกเท้าขึนเหยียบลงไปอย่าง
เหียมโหด
ตงเส่ส่งเสียงร้องอย่างน่าเวทนาเพราะนิวมือของเขาหักไปนิวหนึง
ชายคนนันพูดเสียงเย็นยะเยือก “นีเป็ นบทเรียนเล็ก ๆ น้อย ๆ สําหรับเจ้า และเป็ น
โอกาสครังสุดท้ายของเจ้าเช่นกัน ถ้าหากว่าเจ้าคิดชัวอะไรอีก เจ้าจะไม่ ได้อยู่ใน
โลกนีอีกต่อไป”
……
หลังจากทีย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านใหม่ เจียงป่ าวชิงได้รับจดหมายเชิญมากมาย ส่วน
ใหญ่จะเป็ นงานเลียงเล็ก ๆ ทีนายหญิงหลังบ้านจัดขึนและเชิญนางไปเข้าร่วมเจียงป่ าวชิงไม่ชอบไปทีทีคนเยอะมาแต่ไหนแต่ไร นางพลิกดูจดหมายเชิญ
เหล่านันและเห็นจดหมายทีมาจากจวนองค์ชายหย่งชินสองฉบับ เมือเปิ ดดูก็
พบว่าพีชายของนางได้รับเชิญจากหลินยู่ถิงผู้สืบทอดจวนองค์ชายหย่งชิน ส่วน
นางได้รับเชิญจากหลินยู่หยุนองค์หญิงเล็ก นีน่าจะเป็ นงานเลียงเดียวกันแต่
แบ่งเป็ นแขกชายและหญิง
เจียงป่ าวชิงครุ่นคิดเล็กน้อย ช่วงเวลาทีอยู่ในวัง หลินยู่หยุนมักเข้าวังมาอยู่กับนาง
บ่อย ๆ และปฏิบัติกับนางดีมาก นางจึงตัดสินใจให้คนไปตอบกลับรับคําจดหมาย
เชิญนี และบอกว่าเมือถึงตอนนันนางจะไปงานเลียงให้ตรงเวลา
ส่วนจดหมายทีเชิญเจียงหยุนชานกลับทําได้เพียงต้องปฏิเสธไป อาการของพีชาย
นางตอนนีแม้จัดการกับอาการบาดเจ็บได้ดีและใกล้หายดีแล้ว แต่เพือความ
ปลอดภัย ไม่ออกไปข้างนอกจะเป็ นการดีทีสุด
ช่วงนีผู้เฒ่าหยุนไห่ให้เจียงหยุนชานหยุดเรียนไปก่อน เพือให้เขาได้พักผ่อนอยู่ที
บ้านสักพัก
เจียงป่ าวชิงนําจดหมายเชิญทีองค์หญิงเล็กหลินยู่หยุนเชิญมาไปถามเจียงฉิงว่าจะ
ไปด้วยกันไหม แต่เด็กหญิงไม่สนใจเรืองนีแม้แต่น้อย
“ข้ายอมเล่นหมากล้อมกับเลียวชุนหยู่อยู่ทีบ้านดีกว่า” เด็กหญิงเอ่ยมาเช่นนัน