แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 486 : ชายผู้หามาใหม่
เจียงป่ าวชิงมีเพือนทีเมืองหลวงไม่มากนัก หลังเสร็จจากเรืองย้ายบ้าน นางก็ส่ง จดหมายเชิญให้กับเกิงจือเจียง ถูซีว่าง เผิงไฉ่เสียและเผิงชือจินลุงของเผิงไฉ่เสีย เพือเชิญให้พวกเขามาเป็นแขกทีบ้าน
ส่วนจะส่งจดหมายเชิญให้กับซูรุ่ยเอ๋อร์ไหมนัน นางเองก็ลังเลอยู่สักพัก แต่ต่อมา ก็คิดได้ว่าจะส่งให้หรือไม่นันไม่ได้ขึนอยู่กับนาง ถึงอย่างไรซูรุ่ยเอ๋อร์ก็เป็ นคน ตัดสินใจเองว่าจะมาหรือไม่มา นางไม่ใช่คนประเภททีเอาแต่ใจตัวเองจนไม่ สนใจร่างกายเช่นนัน แม้นางจะมาไกลถึงเมืองหลวงแต่ท้องนางกลับแข็งแรง อย่างเห็นได้ชัด และซูรุ่ยเอ๋อร์เองก็ให้ความสําคัญกับลูกในท้องของนางมาก เช่นกัน
เจียงป่ าวชิงจึงส่งจดหมายเชิญให้ซูรุ่ยเอ๋อร์
เมือถึงวันงานนางก็มาจริง ๆ แม้จะอุ้มท้องมาทีนี แต่นางยังคงเดินอย่างรวดเร็ว เจียงป่ าวชิงล่ะนับถือนางจริง ๆ
ไม่เพียงแต่เจียงป่ าวชิงเท่านัน คนอืน ๆ ทีเข้าร่วมงานเลียงต่างก็นับถือหญิงตัง ท้องคนนีมากเช่นกัน ถูซีว่างตาเป็ นประกายทันที เขากระซิบข้างหูเผิงไฉ่เสีย “ข้า ไปถามประสบการณ์กับพีสาวคนนันเอาไหม ? เพราะถึงยังไงก็คาดว่าเจ้าคง เป็ นแบบนางในอีกไม่นาน” ทว่าทันทีทีพูดจบ เขาก็ถูกเผิงไฉ่เสียกระหนําตีด้วย ใบหน้าหน้าแดงกํา
เกิงจือเจียงเองก็ไม่ได้เจอเจียงฉิงน้องสาวทีรักของเขาหลายวันแล้ว เมือมาเจอครัง นีก็พบว่าเจียงฉิงน้องสาวทีรักเหมือนจะสูงขึนจากเดิม ในขณะทีตัวเขาเองอาจ ผ่านช่วงเวลาของการเติบโตไปแล้ว ปี ทีแล้วทังปี เขาไม่สูงขึนแม้แต่ครึ งความยาว นิวมือตัวเองด้วยซํา แน่นอนว่าเมือมาเห็นเช่นนีเขารู้สึกถึงวิกฤตในทันใด ในใจ คิดว่าหากเป็ นแบบนีต่อไป ถ้าเวลาผ่านไปอีกสักแปดถึงสิบปี แล้วน้องสาวทีรัก ของเขาสูงกว่าเขาจะทําอย่างไร
เกิงจือเจียงดืมเหล้าไปหลายจอกอย่างกลุ้มใจ
เผิงชือจินเองก็รู้สึกกลุ้มใจด้วยเช่นกัน ตอนนีหลานสาวผู้เป็ นทีรักของเขาถูกไอ้ นักเลงถูซีว่างฉกชิงไปแล้ว และเมือครู่นี เขาเห็นว่าไอ้นักเลงคนนันจะไปขอ คําแนะนํากับแม่นางซูเรืองตังท้อง!
ทังสองคนจึงดืมเหล้าอย่างกลุ้มใจ
ซูรุ่ยเอ๋อร์เป็ นคนทีชืนชอบในการดืมเหล้าเช่นกัน แต่หลังจากทีนางรู้ว่าตัวเองท้อง ก็ไม่เคยแตะเหล้าเลยสักหยด เมือเห็นเกิงจือเจียงและเผิงชือจินดืมเหล้าในตอนนี นางเองก็รู้สึกอยากดืมมาก แต่เพือยับยังความอยากจึงบอกเจียงป่ าวชิงก่อนจะลุก ออกไปเดินข้างนอกเพือสูดอาการศบริสุทธิD สักหน่อย ทว่าเมือเดินไปใกล้ ๆ จุดที มีคนเฝ้าประตู นางก็ได้ยินเสียงคนเฝ้าประตูกําลังพูดคุยกับใครบางคน
ร่างนางแข็งทืออยู่กับทีทันที ก็เสียงนัน… นางไม่เคยลืมเลยแม้สักวัน
“เจ้าไปบอกคุณหนูใหญ่ของเจ้าว่าหลิวจิงอีCมาขอพบ” เสียงนันฟังดูเหมือนจน ปัญญาเล็กน้อย “เจ้าไปบอกแม่นางเจียงว่าลูกพีลูกน้องของข้าป่ วยเป็ นโรคหา ยาก ข้าเชิญหมอหลายคนมาตรวจอาการแล้วแต่ทุกคนกลับไร้ซึงหนทาง ข้าจึงทํา ได้เพียงมารบกวนขอความช่วยเหลือจากแม่นางเจียงเพราะข้าจนปัญญาแล้วจริง ๆ”
ซูรุ่ยเอ๋อร์สูดหายใจเข้าลึก ๆ ยกยิมเยาะหยันทีมุมปากแล้วหมุนตัวจากไป นาง กําลังคาดหวังอะไรอยู่กันแน่…? ไม่เจอกันเกือบครึงปี แต่ในใจของเขายังคงนึก ถึงแต่คนของเขาเช่นเคย
ตอนทีซูรุ่ยเอ๋อร์กําลังหมุนตัวกลับ หลิวจิงอีCรู้สึกถึงบางอย่าง เขาเงยหน้าขึนมอง ในลานบ้านทีอยู่ด้านหลังคนเฝ้าประตู และเมือมองดูก็พลันแข็งทือราวกับถูก ฟ้าผ่าทันที
ภาพทีเห็นนัน แม้ร่างดูหนากว่าเมือก่อนเล็กน้อย แต่ท่าทางการเดินทีคุ้นเคยนัน ถ้าไม่ใช่คนทีเขาคิดถึงแล้วยังจะเป็ นใครได้อีกเล่า!
“รุ่ยเอ๋อร์?!” หลิวจิงอีCโพล่งออกมา
ซูรุ่ยเอ๋อร์หยุดชะงักแต่นางไม่ได้หันกลับไป ทังยังเพิมความเร็วในการเดินจากไป อย่างเร่งรีบ
เมือมาถึงบ้าน เจียงป่ าวชิงเห็นว่าสีหน้าซูรุ่ยเอ๋อร์ดูแปลกไปมาก ดูตืนตระหนก อย่างไรพิกลจึงถามขึน “เอ่อ… รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า ?”
ซูรุ่ยเอ๋อร์เหมือนเพิงดึงสติกลับมาได้ นางยิมเล็กน้อย “อ้อ เมือกีนีข้าเห็นหลิวจิงอีC ทีทางเข้า…”
“…” เจียงป่ าวชิงตกตะลึงตาค้าง นางไม่ได้เชิญหลิวจิงอีCมิใช่หรือ นีช่างเป็ น… พรหมลิขิตทีเลวร้ายจริง ๆ
“เขามาทําอะไรกันนะ ?” เจียงป่ าวชิงพึมพํา
สีหน้าซูรุ่ยเอ๋อร์ตอนนีดูปกติมากแล้ว “ข้าได้ยินเขาบอกกับคนเฝ้าประตูว่า ลูกพีลูกน้องของเขาป่ วยเป็ นโรคหายากอะไรสักอย่าง เชิญหมอหลายคนมาตรวจ อาการแล้วก็ไร้ซึงหนทางรักษาจึงต้องมาขอความช่วยเหลือจากเจ้า”
เป็ นใครก็ฟังรู้ถึงความถากถางในคําพูด
ทันใดนันเอง เสียงร้องตะโกนของหลิวจิงอีCดังมาจากข้างนอก “รุ่ยเอ๋อร์!”
“ไอ้ยา! คุณชาย ท่านจะบุกเข้ามาแบบนีไม่ได้นะขอรับ… ผู้ดูแลจวน! ผู้ดูแล จวน!”
เจียงป่ าวชิงผลักประตูออกไปอย่างทนไม่ไหว นางออกไปยืนมองหลิวจิงอีCอยู่ใน ลานบ้าน
หลิวจิงอีCขวัญหนีดีฝ่ ออย่างเห็นได้ชัด “แม่นางเจียง เมือกีนีข้าเห็นแม่นางซูรุ่ย เอ๋อร์… นางอยู่ทีบ้านเจ้าใช่ไหม ?”
“ตอนนันไม่ใช่ว่าเจ้าเลือกจากนางไปพร้อมเพือนเล่นในวัยเด็กของเจ้าหรอกรึ ?” เจียงป่ าวชิงพูดขึนอย่างสงบ “เจ้าอย่ายุ่งเรืองของหัวหน้าซูให้มากนักเลย”
“ตะ… แต่…” หลิวจิงอีCพูดติดอ่าง “เจ้า… เจ้าให้ข้าเจอนางหน่อยเถอะนะ”
“พอได้แล้ว เจ้าอย่าทําให้แม่นางเจียงลําบากใจสิ” ซูรุ่ยเอ๋อร์รู้ว่าถ้าหากว่าไม่ให้ เขาเห็นนางวันนี เขาคงไม่ยอมเลิกรา “เป็นข้าทีไม่อยากพบเจ้าเอง”
หลิวจิงอีCได้ยินเสียงซูรุ่ยเอ๋อร์ ร่างเขาสันเทาเล็กน้อยแต่ปากก็เอ่ยถาม “ซูเอ๋อร์ ช่วง… ช่วงนีเจ้าสบายดีไหม ?”
ซูรุ่ยเอ๋อร์ยิมเยาะ “ดีมาก ข้าอยู่อย่างสบายใจและอิสระ ชายทีหามาใหม่ก็ดีกับข้า มากเช่นกัน”
‘ชายทีหามาใหม่รึ…?’ หลิวจิงอีCคิดในใจ เขาถึงกับไม่รู้ว่าควรพูดอะไรไป ชัวขณะ
ซูรุ่ยเอ๋อร์หัวเราะเบา ๆ เลิกม่านประตูแล้วเดินออกมา
ในขณะทีหลิวจิงอีCมองดูอีกฝ่ ายเลิกม่านประตูขึน เขาก็ดูเหมือนสดชืนขึนพลาง มองซูรุ่ยเอ๋อร์ตาเป็ นประกาย แต่ตอนทีเขามองเห็นท้องนูนสูงของนาง ทังร่างเขา สันสะท้านราวกับถูกฟ้าผ่า
ซูรุ่ยเอ๋อร์ไม่สนใจ นางฉุดดึงเกิงจือเจียงออกมาแนะนําหลิวจิงอีC “เขาคือพ่อของ ลูกข้า”
“…” เกิงจือเจียงทีได้แต่ยิมเก้ อ ๆ พยักหน้าทักทายหลิวจิงอีCเหมือนหุ่นเชิด “เฮ้! เอ่อ… เจ้าสบายดีนะ ?”
หลิวจิงอีCสูดหายใจเข้าลึก ๆ ไม่รู้ทําไมเขาถึงรู้สึกควบคุมความโกรธไม่ได้ ต้อง สูดหายใจเข้าลึก ๆ ครังแล้วครังเล่าถึงจะระงับอารมณ์โกรธและความอิจฉาริษยา ในใจลงได้ เขารู้สึกขมขืนยากทีจะทน สายตาก็มองซูรุ่ยเอ๋อร์อย่างตกใจ “อ่า… เห็นเจ้ามีทีพึงพิง ข้าก็เบาใจ”
ซูรุ่ยเอ๋อร์หัวเราะเบา ๆ “หึ ๆ ข้าไม่รบกวนให้คุณชายหลิวต้องเป็ นห่วงหรอก คน รักใหม่ดีกับข้ามาก เขาไม่มีลูกพีลูกน้องหรือเพือนเล่นในวัยเด็กอะไรนันและ บอกว่าจะไม่ทิงข้า ข้ารู้สึกสบายใจมาก ”
“…” หลิวจิงอีCพูดไม่ออก แต่ดวงตาทีเหมือนไฟลุกของเขากลับจ้องอีกฝ่ าย อยู่ตลอดเวลา
ซูรุ่ยเอ๋อร์พยายามกลันความหวาดผวาในใจเอาไว้และพยายามเผยรอยยิมอัน งดงามออกมา “อืม… ในเมือคุณชายหลิวได้พบข้าแล้วก็อย่าลืม ‘ธุระสําคัญ’ ทีมาทีนีล่ะ คุณชายไม่สนใจเรืองป่ วยของเพือนคนนันแล้วหรือไง ?”
พูดถึงตรงนี หลิวจิงอีCสูดหายใจเข้าลึก ๆ
ใช่ อาการป่ วยของกงหย่าหรู… เขามองเจียงป่ าวชิงพร้อมทังประสานมือคารวะ “แม่นางเจียง…”
แต่เจียงป่ าวชิงกลับพูดขึนอย่างตรงไปตรงมา “ข้าคิดว่าเจ้าเข้าใจข้าผิดแล้ว” “หมายความว่ายังไง ?” หลิวจิงอีCมองเจียงป่ าวชิงอย่างไม่เข้าใจ
“เจ้าทําเหมือนว่าข้าเป็ นหมอใจกว้างแต่ข้าไม่ได้เป็ นเช่นนัน” เจียงป่ าวชิงยิม “ข้าเป็นเพียงหญิงสาวชาวบ้านคนหนึงทีไม่สามารถรักษาโรคทีคุณหนูกงเป็ นได้ อ้อ และไม่ค่อยอยากรักษาด้วย”