แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 487 : โรครัก
“แม่นางเจียง!” หลิวจิงอีCพูดขึนอย่างเศร้าสลดใจ “ข้ารู้ว่าหรูเอ๋อร์เคยล่วงเกิน เจ้าหลายครัง และหลายครังทีข้าเองก็รู้สึกว่าไม่อยากสนใจนางอีกแล้ว… แต่ถึง ยังไงนางก็เปรียบเหมือนพีน้องของข้าทีโตมาด้วยกัน ข้าทนเห็นนางตายโดยไม่ ช่วยอะไรไม่ได้จริง ๆ ถึงได้แบกหน้ามาขอร้องให้เจ้าช่วย”
ซูรุ่ยเอ๋อร์ไม่อยากฟังต่อจึงหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในบ้าน
ชายผู้นี… ช่วยไม่ได้แล้วจริง ๆ เจียงป่ าวชิงชีคําขาดอย่างเย็นชาในใจ แต่ก็ช่าง เถอะ เห็นแก่หลิวหมิงอันก็แล้วกัน
ตังแต่กลับมาเมืองหลวง แม่ทัพหลิวคนนันเคยช่วยกงจีไว้ไม่น้อยเลย
“เจ้าลองบอกอาการป่ วยของนางมาสิ” ผ่านไปสักครู่ ในทีสุดเจียงป่ าวชิงก็พูด ขึน
หลิวจิงอีCดีใจมาก เขารีบพูดขึน “ช่วงนีหรูเอ๋อร์นอนไม่หลับตลอด จิตใจห่อเหียว ไม่อยากอาหาร ข้าไม่ได้ไปเยียมนางไม่นานเท่าไหร่ แต่ตอนทีไปเยียมอีกครังก็ เห็นนางเป็ นเหมือนต้นไม้ทีแห้งเหียว เดีCยวพูดพึมพํากับตัวเอง เดีCยวหัวเราะอย่าง บ้าคลัง คนในครอบครัวนางเชิญหมอมาหลายคนแล้วแต่ ก็ช่วยอะไรไม่ได้และ เห็นได้ชัดว่าสภาพชีพจรของนางไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่เมือเปลียนวิธีกลับไร้ ประโยชน์… ตอนนีทังตัวนางใกล้จะหมดกําลังจนถึงทีสุดแล้วด้วย”
เจียงป่ าวชิงขมวดคิว
อาการป่ วยของกงหย่าหรูคล้ายกับตัวอย่างของ “โรครัก” ซึงโรคนีไม่ใช่เรือง ล้อเล่น มันคืออาการภายนอกบางอย่างของมนุษย์โดยคนทีเป็ นโรคนีมักมี แนวโน้มซึมเศร้าเล็กน้อย
ได้ฟังหลิวจิงอีCบรรยาย เจียงป่ าวชิงเกือบยืนยันได้แล้วว่าโรคทีกงหย่าหรูเป็ นคือ โรครัก
“เฮ้อ ถ้านางเป็ นโรคนี ข้าเองก็ไร้ความสามารถทีจะรักษา” เจียงป่ าวชิงพูดอย่าง เย็นชา “นางป่ วยเป็ นโรครัก อันทีจริงก็ถือว่าเป็ นโรคประสาทอย่างหนึง ในกรณี รุนแรง ไม่เพียงแต่นอนไม่หลับและเบืออาหารแล้ว ยังอาจเกิดอาการคลุ้มคลัง ซึมเศร้า และคิดเพ้อเจ้อได้”
“โรครักงันรึ ?” หลิวจิงอีCไม่ค่อยอยากเชือ แต่นีเป็ นคําพูดทีออกมาจากปาก ของเจียงป่ าวชิงเขาจึงต้องเชือ “โรคนี… จะไม่อันตรายถึงชีวิตใช่ไหม ?”
เจียงป่ าวชิงพูดขึน “ตังแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบัน มีคนมากมายตายเพราะ กลุ้มใจจากโรครักนี”
สีหน้าหลิวจิงอีCดูเหมือนคิดต่อสู้กับตัวเองอยู่ในใจระหว่างความยุติธรรมกับกิเลส ส่วนตัว เขาลังเลเล็กน้อยแต่ก็เรียกเจียงป่ าวชิงอย่างอ้อนวอน
เจียงป่ าวชิงรู้สึกโกรธหลิวจิงอีC “หุบปากของเจ้าซะคุณชายหลิว ข้าหวังว่าเจ้าจะ รู้จักว่าอะไรคือความพอดี! ก่อนอืนเจ้าก็รู้อยู่แก่ใจว่าเพือนเจ้าเป็ นเช่นนีเพราะใคร ซึงนันคือคนรักของข้า หรือว่ าเจ้าอยากให้ข้ายกคนรักของข้าให้เพือนเจ้ายืมไป บรรเทาความทุกข์ใจ ?”
น้อยครังมากทีเจียงป่ าวชิงจะโกรธ แต่ตอนนีนางไม่ไหวแล้วจริง ๆ
หลิวจิงอีCทังรู้สึกละอายใจและอับอาย “แม่นางเจียง ข้า… จริง ๆ แล้วข้าอยากให้ เจ้ามองว่านีเป็ นการช่วยชีวิตและสร้างเจดีย์เจ็ดชัน ไม่ใช่ให้เจ้ายกแม่ทัพกงให้หรู เอ๋อร์ ขอแค่ให้แม่ทัพกงไปดูหรูเอ๋อร์สักหน่อยได้ไหม ?”
“พอ! เจ้าไม่ต้องพูดถึงเจดีย์อะไรนันแล้ว อย่ าเห็นแก่ตัวและข้าไม่เชือเรืองพวก นัน เจ้าเองก็รู้อยู่แก่ใจว่าด้วยนิสัยของกงหย่าหรู นางจะพอใจการได้พบกงจีแค่ ครังเดียวอย่างนันรึ ? เมือถึงตอนทีนางได้ลิมรสความหวานแล้ว นางก็ จะเอา ชีวิตตัวเองมาเป็ นข้ออ้างบีบคันคนอืนอย่างเอาแต่ใจ” เมือเจียงป่ าวชิงพูดถึงตรง นี คงเป็ นเพราะโกรธมากนางถึงได้ทําสีหน้าหงุดหงิดอย่างถึงทีสุดใส่อีกฝ่ าย ตอนนีนางดูเหมือนดอกไม้งามทีมีพิษร้ายแรงทีสุด “จะบอกอะไรให้ว่าข้าไม่
สนใจชีวิตนางแม้แต่นิดเดียว นางจะตายหรือจะมีชีวิตอยู่ก็เรืองของนาง ทําไมข้า ต้องถูกบังคับให้สนใจคนทีไม่อยากสนใจด้วย นางทําเหมือนว่ากงจีเป็ นอะไร เจ้า ก็ด้วยเช่นกัน!”
หลิวจิงอีCถูกเจียงป่ าวชิงพูดจนเขาอยากมุดลงไปใต้ดินให้รู้แล้วรู้รอด เขาประสาน มือคารวะ “แม่นางเจียงพูดถูก ข้าทําเกินไปจริง ๆ แต่ข้ายังอยากให้แม่นางเจียง แนะนําอีกสักหน่อย โรคทีหรูเอ๋อร์เป็ นอยู่ มันไม่มีทางรักษาอืนแล้วจริง ๆ หรือ
?”
เจียงป่ าวชิงเห็นว่าท่าทียอมรับผิดของหลิวจิงอีCยังถือว่าจริงใจจึงส่งเสียงออกมา ทางจมูกอย่างไม่พอใจแต่ก็แนะนําเขาเพิมเติม “ให้นางดืมยาต้มสมุนไพรทีช่วย กล่อมจิตใจ ถ้านางไม่ดืมก็กรอกใส่ปากนางซะ และคอยบอกให้นางแยกแยะ ความจริงด้วยว่ากงจีไม่มีทางชอบนางแม้แต่เส้นผม นางควรเบียงเบนความสนใจ ไปทีอืนแทน จะได้ไม่ต้องเสียเวลากับปัญหาทีแก้ไม่ได้”
หลิวจิงอีCถอนหายใจพลางมองดูประตูบ้านทีเตรียมจะปิ ดใส่ตัวเองอย่างเลือนลอย ความเหนือยล้าบนใบหน้าของเขาทําให้เขาดูเหมือนแก่ขึนสิบปี ในทันใด
เจียงป่ าวชิงรู้สึกโมโหเมือเห็นท่าทางของหลิวจิงอีC เขามีซูรุ่ยเอ๋อร์อยู่ในใจแต่ก็เอา แต่ห่วงกงหย่าหรู แล้วแบบนีคนอย่างหัวหน้าซูจะยอมไปกับเขาได้อย่างไร!
“ข้าขอพูดเป็ นครังสุดท้ายนะคุณชายหลิว ข้ารู้สึกไม่สบายใจจริง ๆ เมือเห็น
ท่าทางลืมไม่ลงของเจ้า” เจียงป่ าวชิงพูดขึนอย่างสงบ “ในเมือเจ้ารู้ความรู้สึก ของตัวเองแล้ว ทําไมถึงยังเข้าไปยุ่งเรืองของกงหย่าหรูอยู่ได้ นางเป็ นอะไรกับเจ้า เจ้าถึงได้วิงวุ่นแทนขนาดนัน เหอะ… เจ้าเป็ นเช่นนีอย่าว่าแต่หัวหน้าซูเลย ต่อไป หญิงสาวคนไหนจะยอมแต่งงานกับผู้ชายทีห่วงแต่เรืองของคนอืนอย่างเจ้า ?”
เจียงป่ าวชิงนึกถึงท้องทีนูนสูงของหัวหน้าซูและอดทีจะด่าเพิมไม่ได้ “อีกอย่าง ข้าก็ไม่รู้ว่าเจ้าคิดอะไรอยู่ ความรับผิดชอบทีควรมีก็ไม่มี กลับรีบไปดูแลเรือง จุกจิกของคนอืนซะอย่างนัน”
คําพูดประโยคสุดท้ายทําให้หลิวจิงอีCขมวดคิวเมือได้ฟัง เขารู้สึกเหมือนมี บางอย่างผิดปกติแต่ไม่ทันได้คิดอย่างละเอียด ได้แต่โค้งตัวให้เจียงป่ าวชิงและ บอกว่าไว้เขาจะมาขอโทษอีกครังในวันถัดไป จากนันก็จากไปอย่างเร่งรีบ
เจียงป่ าวชิงกลับมาในบ้านก็เห็นซูรุ่ยเอ๋อร์นังอยู่ บนเก้าอีด้วยรอยยิม คล้ายกั บนาง ไม่ได้สนใจอะไร
“เจ้าเองก็อย่าโมโหเลย เขาเป็ นคนแบบนันแหละ มิเช่นนันคงไม่กล้าเอาตัวเข้าไป เสียงอันตรายในหมู่บ้านของเราเพือซ่อนอยู่ในกลุ่มศัตรูหรอก”
เจียงป่ าวชิงทังโมโหทังรู้สึกขํา “เห็นคนโง่ทีหลงผิดอย่างกู่ไม่กลับเช่นนี บางทีก็ อดไม่ได้ อยากเข้าไปถีบเขาให้ตืนจริง ๆ แต่ช่างเถอะ ไม่พูดถึงเขาแล้ว ”เจียงป่ าว ชิงหยุดชะงักแล้วมองดูท้องของซูรุ่ยเอ๋อร์ “อีกสองสามเดือนเด็กก็เกิดออก มาแล้ว หัวหน้าซูต้องเตรียมทุกอย่างไว้ล่วงหน้าแล้วนะ”
ซูรุ่ยเอ๋อร์พยักหน้ายิม ๆ ก่ อนจะหันไปขอโทษเกิงจือเจียง “น้องเกิง ข้าต้องขอ โทษด้วยจริง ๆ เมือสักครู่ข้าอ้างเจ้าก็เพราะต้องการทําให้ไอ้คนสับสนคนนัน โมโห เจ้าไม่ต้องห่วง ข้าไม่ได้จะให้เจ้ารับผิดชอบลูกในท้องข้าอย่างแน่นอน”
เกิงจือเจียงไม่คิดมาก “ไม่เป็ นไร”
ทว่าตอนนีถูซีว่างจ้องตาเป็ นมัน เขาพูดข้างหูเผิงไฉ่เสีย “ข้าเองก็อยากเป็ นพ่อ เช่นกัน…”
แก้มทังสองข้างของเผิงไฉ่เสียแดงระเรืออีกแล้วจนเผิงชือจินได้แต่มองดูทังสอง คนแล้วถอนหายใจ จากนันเขาก็เริมดืมเหล้าอีกครัง
……
งานแต่งงานของเจียงป่ าวชิงกับกงจี ตามทีฮ่องเต้กําหนดให้ไว้คือวันทีสิบห้าใน เดือนแรกของปี หลังจากนันจะมีการมอบรางวัลเป็ นสินสอดทองหมันสองกล่อง และยังมีคทาสมปรารถนาทีทําจากหยกเขียวอีกหนึงคู่
ตอนทีเจียงป่ าวชิงออกเรือน คทาสมปรารถนาคู่นี จะต้องวางอยู่บนหัวสินสอด ทองหมันเป็ นธรรมดา ไม่พูดถึงอย่างอืน เพียงแค่คทาสมปรารถนาทีฮ่องเต้มอบ ให้นีก็ยิงใหญ่ และได้หน้าได้ตากว่าสตรีผู้สูงส่งส่วนใหญ่ในเมืองหลวงเมือพวก นางแต่งงานเสียอีก
ผู้ทีมาประกาศพระราชโองการจากฮ่องเต้คือขันทีผูผู้ได้รับความไว้วางใจและอยู่ ข้างกายไทเฮา เขาพูดด้วยใบหน้ายิมแย้ม “องค์ไทเฮาสังให้ข้านําข้อความมาบอก กับหมอเทวดาเจียงว่าอีกสองสามวันยังมีคําสังเพิ มเติม” ขันทีผูขยิบตาให้เจียง ป่ าวชิง
เจียงป่ าวชิงยิม “ขอบพระคุณคํามงคลจากผูกงกง และข้าขอขอบพระคุณทีองค์ ไทเฮาเมตตาและนึกถึงข้า ตอนนีสุขภาพร่างกายของพระนางดีขึนแล้วหรือยังเจ้า คะ ?”