แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 489 : รัศมีความงาม
“ช่างน่าโมโหจริง ๆ!” นายท่านกงกุมหน้าอกด้วยท่าทางเป็นทุกข์อย่างหนัก
นําเสียงกงจีเย็นยะเยือกแต่กลับมีพลังอย่างมาก “ข้าจะพูดไว้ตรงนีว่าถ้าหากเจียง ป่ าวชิงแต่งเข้ามาแล้ว แน่นอนว่าข้าจะพยายามอย่างเต็มทีเพือปกป้องนาง ใคร บางคนไม่ควรไม่เจียมตัวเกินกว่าจะมาท้าทายความอดทนของข้า เพราะความ อดทนของข้ามีจํากัด!” พูดจบเขาก็ประคองแขนคุณหญิงช่าง “ท่านแม่ ฟ้ามืด แล้ว ข้าจะพาท่านกลับจวน”
คุณหญิงช่างพยักหน้าอย่างอ่อนโยน พวกเขากําลังจะออกไปแต่นายท่านหญิงตีC กลับพูดขึนอย่างไม่พอใจ “สะใภ้บ้านใหญ่ เราไม่สามารถสังสอนลูกชายของเจ้า ได้ เจ้าเองก็จะไม่สังสอนเขาเช่นกันรึ ?”
คุณหญิงช่างพูดเสียงนุ่ม “สามีข้าถูกลอบฆ่าและลาจากโลกนีไปตังนานแล้ว ลูก ชายข้าได้รับความไม่เป็ นธรรมจึงต้องออกจากบ้านด้วยความเกลียดชังและทน ทุกข์ทรมานอยู่นานถึงสิบปี คนเป็ นแม่อย่างข้าไร้ความสามารถ ทําได้เพียงอยู่ใน หอกราบไหว้สรวงสวรรค์ทีคับแคบเพือสวดภาวนาให้เขาทุกวัน ตอนนีเขา กลับมา พ้นจากความทุกข์ทรมานแล้วและกําลังจะยกระดับชีวิตใหม่ คนเป็ นแม่ อย่างข้าไม่ต้องการบีบบังคับลูก เขาอยากแต่งกับใครก็ปล่อยเขาไปเถอะ ขอแค่ พวกเขามีความสุขก็พอ”
คุณหญิงช่างพูดโดยไม่ได้หยุดเดินแต่อย่างใด นางจับแขนกงจีเดินหน้าเชิด ออกไป
“ดู!!! ดูสะใภ้ใหญ่ทีเจ้าเลือก ข้าบอกตังแต่แรกแล้วว่าเห็นนางดูนอบน้อมเป็ น มิตรเช่นนี จริง ๆ ในใจนางเป็ นหนามยอกทีไม่ยอมรับคําสังสอนจากใคร! ชาย ใหญ่จากไปตังหลายปี แต่นางเคยทําตัวกตัญFูต่อเราสองคนบ้างหรือก็ไม่เลย!” นายท่านหญิงตีCอดไม่ได้ทีจะถลึงตาใส่นายท่านกง “แล้วตอนนีเป็ นยังไงล่ะ บ้าน ใหญ่ทังหลังต่างก็กลายเป็ นหนามทีสังสอนและพูดอะไรไปไม่ ได้ไปกันหมด!”
“พอ!” นายท่านกงตบโต๊ะด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
คุณหญิงเหวินก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดขึนอย่างอ่อนโยน “ท่านพ่อ ท่านแม่ เรือง มาถึงขันนีแล้ว เราพูดอย่างอืนตอนนีก็คงไม่มีประโยชน์แล้วเจ้าค่ะ ตอนนีเจ้าสาว
ใกล้แต่งเข้ามาเต็มที การเตรียมตัวสําหรับการแต่งงานเป็นสิงสําคัญทีสุด ในตอนนีนะเจ้าคะ”
คุณหญิงถังเองก็พูดคล้อยตาม “จริงอย่างทีพีสะใภ้สองพูดจ้ะ จวนติงกัวโฮ่ C วของ เราก็ไม่ได้มีเรืองมงคลมานานแล้วเหมือนกันนะจ๊ะ”
“ช่างเถอะ สะใภ้บ้านสอง เดิมทีเจ้าก็ดูแลเรืองในบ้านอยู่แล้ว งันเจ้าดูเองแล้วกัน ว่าจะจัดการยังไง แต่เอาแค่พอประมาณก็พอ เพราะถึงยังไงการทีแต่งหลานสะใภ้ ไร้อํานาจเช่นนีเข้ามา ศักดิDศรีของตระกูลกงเราก็ไม่เหลือตังแต่แรกแล้ว” นาย ท่านหญิงตีCพูดอย่างไม่พอใจ
คุณหญิงเหวินสบตากับคุณหญิงถังแล้วตอบตกลง ในเมือ “เอาแค่พอประมาณ” เช่นนันก็มีพืนทีมากพอสําหรับการจัดการ
……
ข่าวลือการแต่งงานของกงจีกับเจียงป่ าวชิงพรังพรูปากต่อปากในเมืองหลวง บอก ว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ แต่จะบอกว่าเล็กก็ไม่ได้เล็กอะไร ดีทีผู้คนไม่ค่อยรู้จักทังสอง คนเท่าไหร่นักจึงเพียงแค่มีคนพูดถึงหรือวิจารณ์กันเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านัน
ถึงอย่างไร ในเมืองหลวงใหญ่แห่งนีไม่เคยขาดหัวข้อสนทนาหลังมืออาหารอยู่ แล้ว
วันนีเป็ นวันทีจวนองค์ชายหย่งชินจัดงานเลียงเล็ก ๆ เนืองจากเจียงป่ าวชิงตอบ ตกลงจดหมายเชิญของหลินยู่หยุนตังแต่เนิน ๆ เมือถึงเวลาถ้าหากว่าไม่ไปก็คงดู ไม่ดี กฎของยุคราชวงศ์ต้าหลงนีก็ไม่ได้บอกว่าเจ้าสาวทีกําลังจะเข้าพิธีวิวาห์ไม่ สามารถออกไปพบปะสังสรรค์ได้
ออกจากบ้านครังนีเจียงป่ าวชิงเลือกเครืองประดับชันดีออกมาใช้และแต่งกาย อย่างพิถีพิถัน สถานะของนางในตอนนีคือว่าทีภรรยากงจี นางจึงไม่สามารถ แต่งตัวตามใจตัวเองจนเกินไปได้
น้อยครังมากทีนางจะเลือกใช้เครืองประดับทีเป็ นพลอยแดง แต่ครังนีนางนํา เครืองประดับพลอยแดงชุดทีผู้เฒ่าหยุนไห่มอบให้เมือปี ก่อนออกมาสวมใส่ทีละ ชิน หลังจากทีแต่งกายเสร็จ เจียงฉิงถึงกับมองอย่างตะลึงและพูดพึมพํา “ไอ้โย! วันนีข้าเข้าใจแล้วว่าอะไรทีเรียกว่ารัศมีความงาม… พีชายกงนีช่างมีวาสนาและ ตาถึงจริง ๆ” เจียงฉิงยิมอย่ างยัวเย้า
เจียงป่ าวชิงมองน้องสาวตัวน้อยทีช่วงนีชอบชืนชมนางบ่อยขึนเรือย ๆ จากนันก็ ขึนไปบนรถม้า
จะว่าไปแล้วรถม้าคันนีก็เป็นสิงทีกงจีให้คนสร้างขึนมาโดยเฉพาะ แม้มันจะเล็ก เรียบง่าย และไม่มีกฎระเบียบข้อปฏิบัติใด ๆ แต่ข้างในกลับตกแต่งอย่างดี เจียง ป่ าวชิงเอนกายพิงหมอนอิงในรถม้าและหลับตาพักผ่อนสักครู่ พวกนางมาถึงหน้า ประตูจวนองค์ชายหย่งชินโดยทีนางไม่รู้สึกตัวด้วยซํา
แขกทีมารวมตัวกันในเวลานีมีมากทําให้หน้าประตูจวนองค์ชายหย่งชินเต็มไป ด้วยผู้คนคลาคลํา ทว่าตอนทีเจียงป่ าวชิงลงจากรถ เดิมทีตรงทางเข้าจวนองค์ชาย ทีค่อนข้างเสียงดังเล็กน้อยก็เงียบลงอย่างน่าประหลาด
หลังจากนันไม่นาน หญิงชราทีหลินยู่หยุนส่งมาปรนนิบัติเป็นพิเศษก็เดินเข้ามา ต้อนรับด้วยใบหน้ายิมแย้ม นางพูดต้อนรับยกใหญ่ แล้วพาเจียงป่ าวชิงเดินไปที หลังจวน ซึงหลังจากทีพวกนางเดินไปกันแล้ว เสียงนินทาก็ค่อย ๆ ดังขึน
“นันคือแม่ นางจากตระกูลไหนกัน รูปโฉมช่างงดงามเหลือเกิน แต่ทําไมไม่เคย เห็นมาก่อนเลย”
“แต่สาวใช้สองคนทีอยู่ข้างหลังนาง ดูเหมือนข้าจะเคยเห็นทีจวนองค์ชายหย่งชิน มาก่อน…”
“หรือว่านีจะเป็ นหมอเทวดาเจียงคนทีเขาลือกัน ?” “โอ้! นางคือคู่หมันของแม่ทัพกงทีกําลังมาแรงในช่วงนีมิใช่รึ ?”
“ไอ้ยา… ดูจากรูปลักษณ์แล้วช่างเป็ นกิงทองใบหยกจริง ๆ แต่ตําแหน่งและ สถานะนัน หึ ๆ…”
“พวกเจ้าพอได้แล้ว เบาเสียงลงหน่อย เรารีบเข้าไปกันเถอะ ใกล้จะสายแล้ว นะ…”
…
หญิงชราคนนันพาเจียงป่ าวชิงเข้าไปในห้องโถงดอกไม้ของงานเลียง เมือเจียง ป่ าวชิงก้าวเข้าไป ความเงียบเข้าครอบงําทัวทุกพื นทีทันที สายตาหลากหลายของ ทุกคนจับจ้องมองมาทีนางอย่างพร้อมเพรียงกัน
คนทีดีใจอย่างจริงใจน่าจะมีเพียงหลินยู่หยุนคนเดียว นางก้าวเข้าไปควงแขนเจียง ป่ าวชิงแล้วพูดขึนเสียงเบา “ข้ายังไม่ทันได้แสดงความยินดีกับเจ้าเลย วันทีเจ้า เป็ นฝังเป็ นฝา ข้าจะเพิมสินสมรสให้เจ้าอย่างหนักเลยล่ะ…” ยังพูดไม่ทันจบ นางกลับหน้าแดงเสียก่อน
เจียงป่ าวชิงเองก็พูดด้วยใบหน้ายิมแย้มเช่ นกัน “เช่นนันข้าจะรอนะเจ้าคะ”
หลินยู่หยุนดึงเจียงป่ าวชิงไปแนะนํากับสตรีผู้สูงส่งทีนิสัยดีและเข้ากับคนง่ายมา แต่ไหนแต่ไร ในตอนทีนางยุ่ง ๆ ไม่มีเวลามาดูแลเจียงป่ าวชิง เจียงป่ าวชิงจะได้ ไม่เหงาจนเกินไป
ยังพูดคุยกันได้ไม่เท่าไหร่ ชิวเพ่ยโหลวก็พาหญิงสาวกลุ่มหนึงเดินเข้ามาหาด้วย ใบหน้ายิมแย้ม
“ไม่ได้เจอกันไม่เท่าไหร่ก็มีการพัฒนาเลยนะ” ชิวเพ่ยโหลวมองสํารวจเจียง ป่ าวชิงด้วยใบหน้ายิมแย้ม “แม่นางเจียงสามารถแต่งงานกับตระกูลของจวนโฮ่ว ด้วยสถานะสามัญชนธรรมดาได้ ดีจริง ๆ”
เจียงป่ าวชิงไม่ได้โกรธแต่อย่างใด ทําเพียงพูดขึนยิม ๆ เท่ านัน “แน่นอนว่าต้อง ขอบคุณแม่นางชิวเอ้อ ถ้าไม่ใช่เพราะแม่นางชิวเอ้อยืดอกแนะนําข้าให้กับฮ่องเต้ เกรงว่าพระองค์ท่านคงยังไม่รู้ว่ามีคนอย่างข้าและข้าคงไม่ได้มีโอกาสแต่งงาน เช่นนี จะว่าไปแล้ว แม่นางชิวเอ้อช่างเป็ นคนดีจริง ๆ” เจียงป่ าวชิงยกแก้วชาขึน อย่างช้า ๆ “ข้าขอดืมชาแทนเหล้าเพือเป็นการขอบคุณแม่นางชิวเอ้อ และขอให้ แม่นางสมปรารถนาโดยเร็วรวมถึงมีการแต่งงานทีดีอย่างข้า”
ความไม่สบายใจฉายวาบอยู่ในแววตาชิวเพ่ยโหลว ทว่าเพียงวูบเดียวสีหน้านางก็ กลับมาสงบดังเดิม แต่ไม่ว่าจะดูอย่างไร รอยยิมของนางก็ ดูออกว่าฝื นเต็มทน
สายตาชิวเพ่ยโหลวไปหยุดทีสุนถาวซึงยืนอยู่ข้างหลังเจียงป่ าวชิง ความจําของ นางดีมากจึงจําได้ทันที “อ้อ นีคือสาวใช้เงอะงะทีสาดนําใส่ข้าเมือครังทีแล้วมิใช่ รึ ?”
สุนถาวหน้าซีดเล็กน้อยทว่าก็ยังคงฝื นทําความเคารพชิวเพ่ยโหลว
ชิวเพ่ยโหลวพูดขึนอย่างมีความหมาย “เป็นอย่างทีเขาว่ากันไว้จริง ๆ ด้วยว่าคน แบบไหนก็จะคู่ควรกับสาวใช้แบบนัน” พูดจบ นางก็เดินจากไปด้วยรอยยิม
สุนถาวพูดขึนเสียงเบา “แม่นาง ข้าน้อยขออภัยทีทําให้แม่นางขายหน้าเจ้าค่ะ…”
เจียงป่ าวชิงพูดขึนยิม ๆ “จะเป็นเช่นนันได้ยังไงล่ะ เห็นได้ชัดว่าแม่นางชิวเอ้อคน นันอับอายจนโมโหจึงต้องโจมตีสิงทีนางไม่มี เจ้าไม่จําเป็ นต้องเก็บมาใส่ใจ หรอก”
ชิวเพ่ยโหลวจะไม่โกรธได้อย่างไร ชายหนุ่มหล่อเหลาภูมิหลังครอบครัวมี ชือเสียงอย่างกงจี ใครเล่าจะไม่ชอบ แต่นางกลับรู้ตังแต่เด็กแล้วว่าภารกิจทีหนัก
อึงของนางคือต้องแต่งเข้าไปในราชวงศ์และกลายเป็ นคนทีอยู่ใกล้ฮ่องเต้ทีสุด … ต่อให้กงจีจะดีเพียงใดก็น่าเสียดายทีเขาไม่ได้แซ่หลิน และนีคือข้อเสียยิงใหญ่ ทีสุดของเขา
ชิวเพ่ยโหลวจึงปฏิบัติต่อกงจีด้วยความเสียดาย แต่ตอนทีนางเห็นเจียงป่ าวชิงทีขัด หูขัดตาและยังเป็ นเพียงสามัญชนคนธรรมดาได้แต่งงานกับกงจีทีนางมีความรู้สึก ดีด้วยราง ๆ นางก็รู้สึกแย่ในใจ ได้แต่คิดปลอบใจเข้าข้างตัวเอง ‘หึ ๆ เจียงป่ าว ชิง เจ้าลําพองใจได้แค่ช่วงเวลานีเท่านันแหละ หลังจากทีข้าแต่งกับองค์รัชทายาท ก็จะกลายเป็ นว่าทีฮองเฮาในอนาคต เมือถึงตอนนัน ข้าจะทําให้เจ้าคลานอยู่ใต้ฝ่ า เท้าข้าเลยคอยดู!’
นีสิ ถึงจะเป็ นสิงทีสบายใจทีสุด!