แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 494 : อย่ายอมแพ้
คนในเมืองหลวงทีรู้ตัวตนจริง ๆ ของซูรุ่ยเอ๋อร์มีไม่มากนัก แล้วคนทีรายงานโดย ไม่เปิ ดเผยตัวตนคนนันจะเป็ นใครกันล่ะ
คนผู้นันรู้เรืองของซูรุ่ยเอ๋อร์มากน้อยแค่ไหน ถ้าหากว่ารู้เพียงเล็กน้อย เป็นพวก ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียดแบบนันก็คงจัดการได้ง่ายหน่อย คาดว่าจะสามารถ พาซูรุ่ยเอ๋อร์ออกมาได้ด้วยการใช้เงินและช่องทางอีนอีกเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ถ้าหาก ว่าคนทีรายงานโดยไม่เปิ ดเผยตัวตนคนนันรู้เรืองของซูรุ่ยเอ๋อร์อย่างละเอียด
ช่องทางในการพานางออกมาก็จะยากขึนเป็ นธรรมดา
การค้นหาผู้แจ้งเบาะแสทีไม่ประสงค์ออกนามคนนีมีความสําคัญต่อการติดตาม พฤติกรรมการช่วยคนออกมาของพวกเขามาก เมือคิดไปถึงเรืองทีเจ้าหน้าทีฝ่ าย ราชการจับซูรุ่ยเอ๋อร์ออกไปจากบ้านของนางเองแล้ว… เจียงป่ าวชิงก็หรีตามอง หลิวจิงอีC
หลิวจิงอีCมองกลับมาอย่างสงสัย “มองข้าแบบนีหมายความว่ายังไง ?”
เจียงป่ าวชิงพูดอย่างตรงไปตรงมา “คนทีรู้ทีอยู่ของบ้านหัวหน้าซูมีไม่มาก ใน เมือเจ้าหน้าทีรู้ทีอยู่ของบ้านหัวหน้าซูจากคนทีไปบอกเบาะแสแต่ไม่ประสงค์ ออกนาม ดูเหมือนว่าไม่เจ้าก็ข้านีแหละทีเป็ นคนบอก… เจ้าเผลอไปพูดเปิ ดเผย ข้อมูลอะไรเมือตอนทีกําลังค้นหาทีอยู่ของบ้านหัวหน้าซูหรือเปล่าล่ะ ?”
“เป็นไปไม่ได้ ข้าระมัดระวังมาก…” หลิวจิงอีCรีบปฏิเสธ แต่จากนันเขาก็เหมือน นึกอะไรบางอย่างได้ สีหน้าเขาพลันเปลียนกลายเป็ นยําแย่
เจียงป่ าวชิงมองสีหน้าของหลิวจิงอีCก็รู้แล้วว่าเขาคงนึกอะไรบางอย่างได้ และเขา นันแหละทีอาจหลุดปากบอกทีอยู่ ใครก็ไม่รู้ไปแล้วจริง ๆ นางจ้องเขาเขม็ง “ข้า ขอเตือนเจ้าว่านึกอะไรได้ก็รีบบอกมาซะ อย่ามัวชักช้ารําไรมันจะยิงเสียเวลา ”
หลิวจิงอีCจึงพูดออกมาด้วยความลําบากใจ “เอ่อ… ตอนก่อนทีข้าจะมาหาซูเอ๋อร์ หรูเอ๋อร์เคยเห็นอยู่ครังหนึง” เขาหยุดชะงัก ท่าทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ก่อน จะอธิบายต่ออย่างหมดแรง “แต่คงไม่ใช่หรูเอ๋อร์หรอก เพราะนางไม่ใช่คนแบบ นัน”
“ไม่ใช่คนแบบนันรึ ? เจ้าเอาอะไรมาพูด!” เจียงป่ าวชิงหัวเราะเยาะ “ข้ากับ เจ้าต่างมีมิตรภาพทีดีต่อหัวหน้าซู แต่กงหย่าหรูไม่มี ไม่เพียงแต่จะไม่มีแล้ว ยังมี ความเป็ นไปได้สูงด้วยว่านางเกลียดพวกโจรทีจับตัวนางไปเข้ากระดูกดํา เจ้าอย่า ลืมสิว่าหัวหน้าซูเป็ นหัวหน้าสองในหมู่บ้านโจรทีนางเกลียดทีสุด ถ้าหากนางรู้ว่า หัวหน้าซูออกมาจากภูเขาและมาอยู่ทีใดสักทีในเมืองหลวง เจ้าลองเดาสิว่านางจะ ทําอะไร เหอะ! แทบจะเป็ นเช่นนันอย่างไม่ต้องสงสัยเลย”
หลิวจิงอีCถึงกับเถียงไม่ขึนเลยทีเดียว
เจียงป่ าวชิงครุ่นคิดสักครู่ ก่อนจะถามหลิวจิงอีC “เจ้ารู้จักคนในทีว่าการบ้างหรือ เปล่า ?”
หลิวจิงอีCชะงักไปเล็กน้อย “พีชายข้าอาจจะรู้จัก”
เจียงป่ าวชิงมองหลิวจิงอีC นางขีเกียจจะเสียแรงด่าเขาแล้วจริง ๆ “ตอนนีเจ้าควร กลับไปพูดกล่อมลูกพีลูกน้องของเจ้าให้ดี ๆ กงหย่าหรูต้องการแก้แค้นถือเป็ น เรืองทีเข้าใจได้ แต่หัวหน้าซูไม่ได้ทําอะไรนาง อย่างมากก็แค่จับตัวลูกพีลูกน้อง ของนางไปเป็ นชายบําเรอเท่านัน”
“ชายบําเรอ” หลิวจิงอีCทวนคํา สีหน้าของเขาดูยําแย่เล็กน้อย
เจียงป่ าวชิงไม่สนใจหลิวจิงอีCอีกต่อไป นางเลือกทีจะเดินไปเรียกเจิงหนานเบา ๆ อยู่ในมุมหนึงแทน
เจิงหนานปรากฏตัวต่อหน้าเจียงป่ าวชิงอย่างลึกลับ นางยังคงอยู่ในชุดผู้ชายทีดู ทรงพลัง เจียงป่ าวชิงคาดว่านอกจากกงจีแล้วก็ไม่มีใครรู้ว่านางเป็ นผู้หญิง
“ข้าขอรบกวนเจ้าเรืองหนึง เจ้าช่วยไปติดต่อกงจีให้ข้าหน่อยสิ” เจียงป่ าวชิงพูด ขึน
เจิงหนานพยักหน้า ทันใดนันร่างนางก็กระโดดไปมาระหว่างพุ่มไม้และหายไป อีกครัง
ทีเหลือก็ทําได้แค่รอเท่านัน
กงจีมาเร็วมาก เพียงเวลาสองก้านธูป ม้าพันธุ์ดีสีขาวทังตัวก็วิงมาหยุดตรงทางเข้า ทีว่าการ เขาพลิกตัวลงจากหลังม้าแล้วพูดกับนาง “เจ้าอย่าได้ร้อนใจ ข้าได้ฟังที เจิงหนานบอกแล้ว”
เจียงป่ าวชิงพยักหน้า “หัวหน้าซูท้องลูกน้อยซึงท้องแก่แล้ว ข้าเป็ นห่วงนาง”
กงจีตบไหล่เจียงป่ าวชิงเบา ๆ แล้วเขาก็มองหลิวจิงอีCซึงรีบประสานมือคารวะเขา ด้วยรอยยิมฝื น ๆ “อ่า… แม่ทัพกง เกรงว่าต้องรบกวนแม่ทัพกงแล้วขอรับ”
กงจีพูดขึนนิง ๆ “ไม่รบกวนหรอก เมือสักครู่พีชายเจ้าอยู่กับข้าพอดี หลังจากที เขาทํางานในหน้าทีเสร็จแล้วจะตามมาทีนีเช่นกัน”
ช่วงนีหลิวจิงอีCไม่ค่อยลงรอยกับหลิวหมิงอันอย่างเห็นได้ชัดจึงชะงักไปเล็กน้อย แต่ตอนนีการพาซูรุ่ยเอ๋อร์ออกมาสําคัญกว่า เขาจึงกัดฟันไม่พูดอะไร
ผ่านไปไม่เท่าไหร่ หลิวหมิงอันก็ขีม้ามาทีนี เมือเห็นหลิวจิงอีCเขาก็ยิมให้อีกฝ่ าย เล็กน้อย
หลิวจิงอีCกัดฟันประสานมือคารวะหลิวหมิงอัน ใบหน้าทีมีรอยแผลเป็ นนันเผย รอยยิมเบาหวิวกลับมา
“เอาล่ะ ไปกันเถอะ ไปด้านหลังทีว่าการ ข้ากับท่านข้าหลวงมีมิตรไมตรีทีดีต่อ กันพอดี”
มีเส้นสายจึงทําอะไรได้ง่ายหน่อย ต้องขอบคุณหลิวหมิงอันกับกงจีทีทําให้เจียง ป่ าวชิงกับหลิวจิงอีCเห็นซูรุ่ยเอ๋อร์ทีถูกขังไว้ในห้องห้องหนึงซึงมีเจ้าหน้าทีเฝ้าอยู่ ได้อย่างรวดเร็ว สีหน้านางซีดเซียว แต่ในขณะทีเห็นหลิวจิงอีC นางก็รู้สึกโล่งใจ ขึนมาและยังมีแรงเหลือพอทีจะพูดยัวเย้าเจียงป่ าวชิง “พวกเจ้ามาเยียมนักโทษ กันรึ ?”
หากจะให้พูดอย่างเข้มงวดจริง ๆ ด้วยโทษของซูรุ่ยเอ๋อร์ นางสมควรถูกเนรเทศ ออกไปสามพันลี แต่ตอนนีปัญหาคือหมู่บ้านฟู่ กุ้ยเกือบยุบหายไปอย่างถาวรแล้ว และมีหลายคนเข้าร่วมกองทัพแล้วด้วย ถือได้ว่าพวกเขารับโทษไปบางส่วนและ ได้รับการละเว้นโทษบางส่วน
ปัญหาของหมู่บ้านฟู่ กุ้ยแทบจะถือได้ว่าเป็ นปัญหาเก่า ๆ ทีแก้ไขไปแล้ว หมู่บ้าน ของพวกเขายุบและคนส่วนใหญ่ก็อุทิศตนให้กับการทํางานร่วมป้องกันเขต ชายแดน ถ้าหากพูดตามหลัก การดึงรังจับกุมหัวหน้าสองของพวกโจรทีสลายตัว ไปทําเรืองดี ๆ อย่างไม่ยอมปล่อย เป็ นเรืองไม่เข้าท่าเท่าไหร่นัก
กงจีต้องการใช้โอกาสนีล้างความไม่บริสุทธิD ของหมู่บ้านฟู่ กุ้ย
ไม่ต้องพูดถึงอย่างอืน เจียงป่ าวชิงเคยเป็ นหมออยู่ในหมู่บ้านฟู่ กุ้ยนานถึงสามปี พูดอย่างเข้มงวดคือนางเองก็ถือว่าเป็ นสมาชิกคนสําคัญในหมู่บ้านด้วยเช่นกัน หากอดีตนีถูกหยิบขึนมาพูดถึงโดยไม่ได้เตรียมป้องกัน ถึงตอนนันไม่ว่าจะล้าง ความไม่บริสุทธิD อย่างไรก็คงสายเกินไป สุดท้ายมันจะทิงจุดด่ างพร้อยเอาไว้
อันทีจริงกงจีเริมจัดการเรืองนีตังแต่ตอนทีเขากลับมาเมืองหลวงแล้ว สิงสําคัญ อย่างหนึงคือเขาได้รับปึ กกระดาษเก่าทีมีข้อมูลเกียวกับการเงินจากกู่ฟู่ กุ้ยผู้เป็ น หัวหน้าใหญ่ของหมู่บ้านฟู่ กุ้ย หนึงในนันเป็ นเพียงกองกระดาษชํารุดซึงไม่มี ประโยชน์อะไร แต่บางอย่างก็ใช้เป็ นหลักฐานความผิดเก่า ๆ ทีเก็บมานานหลาย ปี
กงจีจัดการเรืองนีอยู่หลายวัน และนีเป็ นอีกหนึงคุณงามความดียิงใหญ่ ทีทําโดย หมู่บ้านฟู่ กุ้ย ประกอบกับจินเทียนหยู่ หลู่เว่ยต้ง และคนอืน ๆ กล้าทีจะบุกฆ่า หลังจากเข้าร่วมกองทัพด่านชายแดน ตอนนีพวกเขาค่อย ๆ มีชือเสียงแล้ว ทํา ผลงานดีต่อเนืองจนโทษทีเคยทําได้รับการละเว้น ดังนันในตอนนีทีต้องการ ช่วยซูรุ่ยเอ๋อร์ออกมา เพียงแค่หมู่บ้านฟู่ กุ้ยมีคุณสมบัติเพียงพอให้ได้รับการละ เว้นโทษก็เพียงพอทีจะช่วยนางออกมาได้
กงจีกับหลิวหมิงอันมองหน้ากัน ทีทังสองคนมารวมตัวกันครังนีเพราะอยาก จัดการเรืองนีให้เรียบร้อยในคราวเดียว จากนันก็ไปรายงานต่อเหล่าเจ้าหน้าทีทีมี หน้าทีลงโทษ ทําตามขันตอนให้เสร็จ ๆ เรืองนีจะได้จบ
ทว่าสีหน้าซูรุ่ยเอ๋อร์กลับเปลียนไป นางเผยรอยยิมซบเซาออกมาให้เห็นและพูด พึมพํากับเจียงป่ าวชิง “ข้าเหมือนจะต้องเกิดลูกแล้ว”
เจียงป่ าวชิงสงบไม่ลุกลีลุกลน นางรีบเตรียมการโดยไม่หันหน้ากลับมาด้วยซํา ออกไปต้มนําร้อน!
มีเพียงหลิวจิงอีCคนเดียวเท่านันทียังคงตกตะลึงอยู่ เมือลองนับวันเวลาดู ถ้าหาก เด็กคนนีเกิดกับชายอืนหลังจากทีเขาจากไป อย่างมากเด็กคนนีก็มีอายุเพียงหก เดือนเท่านัน แล้วเช่นนีเด็กจะมีชีวิตรอดได้อย่างไร
หลิวจิงอีCปวดใจ เขาก้าวเข้าไปจับมือซูรุ่ยเอ๋อร์โดยไม่สนใจอะไรอีกแล้ว “ซูเอ๋อร์ เจ้าต้องเข้มแข็งไว้นะ… แม้ว่าอายุท้องเด็กคนนีจะยังน้อย แต่ไม่แน่อาจมีโอกาส ก็ได้ เจ้าอย่ายอมแพ้…”
ความเจ็บปวดค่อย ๆ เกิดขึน ตอนนีซูรุ่ยเอ๋อร์ไม่มีแรงด่าหลิวจิงอีCอีกแล้ว ลูกของ นางอายุได้แปดเดือนกว่า อะไรคืออายุท้องยังน้อย
‘สาปแช่งลูกของข้าเช่นนี เจ้าคงไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วกระมัง!’