แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 496 : ข้าคือพี่เอ้อยาของเจ้า
เกิดความเงียบขึนในลานบ้าน ทว่าในหูของหลิวจิงอีCยังคงดังก้องไปด้วยเสียงพรํา บ่นของกงหย่าหรู แต่ผ่านไปสักครู่เขาก็ถอนหายใจ “เฮ้อ… จากมุมของเจ้า แน่นอนว่าเจ้าไม่ผิด แต่จากมุมของข้า เจ้าเกือบฆ่าลูกชายและภรรยาของข้าแล้ว นันถือเป็ นความผิดพลาดครั งใหญ่”
“หืม! ภรรยากับลูกชายรึ ?” สีหน้ากงอย่าหรูไม่อยากจะเชือ “พีจิงอีC พีเป็ นบ้า ไปแล้วหรือไง ?! ท่านป้าไม่ยอมให้พีแต่งโจรเข้าบ้านแน่นอน!”
แต่หลิวจิงอีCกลับยิมอย่ างไม่สนใจ “งันก็ดี ไล่ข้าออกจากวงศ์ตระกูลไปเลยก็ดี” พูดจบ เขาก็ถือต้มไก่ร้อน ๆ ถ้วยนันเข้าไปในห้องโดยไม่สนใจกงหย่าหรูทีตก ตะลึงอยู่กับทีอีก
กงหย่าหรูสะเทือนใจก้าวถอยหลังไป ไม่นานนางก็วิงออกไปอย่ างตืนตระหนก
……
ความเจ็บปวดทีขาของของเจียงหยุนชานดีขึนเพราะพักฟื นมาเป็ นเวลาหนึงเดือน กว่าแล้ว เขาเป็ นชายหนุ่ม เดิมทีก็พักฟื นได้เร็วมากอยู่แล้ว ประกอบกับน้องสาว เขาดูแลอย่างดี คอยทําอาหารและต้มยาบํารุงให้เขาสามมือต่อวันอย่างต่อเนือง ไม่ นานเขาก็สามารถลุกขึนยืนและลุกเดินได้บ้าง
เจียงป่ าวชิงเฝ้าดูอย่างเข้มงวดมาก ก่อนทีกระดูกเชิงกรานของเจียงหยุนชานจะ ฟื นตัวเสร็จสมบูรณ์ นางไม่อนุญาตให้พีชายตัวเองเดินแม้แต่ก้าวเดียว ทําเอาจน เจียงหยุนชานต้องอึดอัดอดกลันอยู่นานกว่าสองเดือนกว่าน้องสาวจะยอมให้ลุก เดินจากเตียงหลาย ๆ ก้าวได้
หลังจากนันอีกครึ งเดือน ในทีสุดเจียงป่ าวชิงก็ยอมให้เจียงหยุนชานออกไปข้าง นอกได้บ้าง
เจียงหยุนชานเป็ นคนทีไม่ชอบออกไปข้างนอก แต่เขาอุดอู้อยู่แต่ในบ้านมาสอง เดือนติดต่อกัน เป็ นใครก็อยากออกไปเดินข้างนอกกันทังนัน เขาเพลิดเพลินกับ
อากาศบริสุทธิD ทีหายากอย่างยิง ชูสีเด็กรับใช้ยังคงดูแลเอาใจใส่ อยู่ด้านข้างอย่าง ไม่ขาดตกบกพร่อง “คุณชายใหญ่ขอรับ ถ้าหากว่าคุณชายรู้สึกไม่สบายตรงไหน ให้รีบบอกเลยนะขอรับ”
เจียงหยุนชานมองชูสียิม ๆ เขาไม่โทษทีอีกฝ่ ายเข้มงวดกับเขามาก เป็ นเพราะป่ าว ชิงของเขาทีออกคําสังอย่างเข้มงวดกับชูสีว่าถ้าหากขาเขาเป็ นอะไรขึนมา นางจะ ลดเงินค่าจ้างของชูสี
แล้วชูสีจะกล้าไม่ระมัดระวังได้อย่างไร
เจียงหยุนชานค่อย ๆ เดินไปตามกําแพงเมือง ทันใดนัน เสียงเอะอะโวยวายดังมา จากข้างหน้า ชูสีแทบจะมาปกป้องอยู่ตรงหน้าเจียงหยุนชานทันทีราวกับมี ปฏิกิริยาตอบโต้ต่อทุกสิงอย่างไรอย่างนัน
เสียงเอะอะนี ราวกับเสียงขอทานทีร่อนเร่พเนจรเข้ามาในเมือง และบังเอิญพบเข้า กับทหารทีเฝ้ารักษาเมือง
“คุณชายใหญ่ ข้าน้อยว่าเราเดินอ้อมกันเถอะขอรับ” ชูสีแนะนําอย่างไม่ลังเล
เจียงหยุนชานเองก็ไม่ใช่คนทีรู้ว่ามีเรืองยุ่งยากแต่ยังเลือกทีจะเข้าไปใกล้ ยิงไป กว่านันตอนนีขาเขายังต้องฟื นฟูอีกมาก จึงต้องระมัดระวัง พวกน้อง ๆ จะได้ไม่ ต้องเป็ นห่วงเขามากจนเกินไป
เขาพยักหน้าให้ชูสี กําลังจะเดินอ้อมไปด้านข้างอย่างไม่รีบร้อน แต่จังหวะนันเอง ผู้หญิงผมเผ้ากระเซอะกระเซิง หน้าตาสกปรกมอมแมมทีกําลังผลักกันไปกันมา กับทหารคนหนึงมองมาทางนีพอดี
นางส่งเสียงกรีดร้องทันที “กรีEดดด!”
“เฮ้ย! เจ้าจะส่งเสียงดังทําไม ?!” ทหารผลักผู้หญิงคนนันแต่นางไม่ยอมแพ้ แหกปากส่งเสียงร้องราวกับคนจมนําทีต้องการคว้าฟางเส้นสุดท้ายเอาไว้ “หยุน ชาน หยุนชาน! ข้าคือพีเอ้อยาของเจ้าไง! มาช่วยข้าหน่อยเร็ว!”
เจียงหยุนชานหยุดฝี เท้าลงทันที เขาเดินไปทีประตูเมืองและหันกลับไปมอง ผู้หญิงทีเสือผ้าขาดรุ่งริงคนนันอย่างละเอียดพร้อมความรู้สึกยากจะเชือผุดขึนใน ใจ
ชูสีรวบรวมพลังทัวทั งร่างกายของเขามาปกป้องอยู่ตรงหน้าเจียงหยุนชานอย่าง ระมัดระวังเพราะกลัวว่าคนบ้าคลังจะเข้ามาทําให้คุณชายใหญ่ ของเขาเดือดร้อน
แต่ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนันไปเอาแรงมาจากทีไหน นางหลบหลีกหอกของทหารทีเอา ออกมาขวางนางและวิงตรงมาหาเจียงหยุนชานได้
ชู่สีกลันหายใจยืนบังอยู่ตรงหน้าคุณชายของเขาอย่างแน่วแน่ “เฮ้! เจ้าระมัดระวัง หน่อย”
ผู้หญิงคนนันคิดจะผลักชูสีทีกําลังขวางทางอย่างฉุนเฉียว แต่นางกลับพบว่าชูสี เป็ นเหมือนภูเขาทองแดงและกําแพงเหล็กจึงถลึงตาใส่ชูสีและร้องไห้ออกมา จง ใจให้เจียงหยุนชานทีอยู่ด้านหลังเห็นใจ “ฮือ ๆ ๆ หยุนชาน เจ้าจําข้าไม่ได้แล้วรึ ? ข้าคือพีเอ้อยาของเจ้าไง!”
เจียงหยุนชานไม่ค่อยแน่ใจเพราะความสกปรกทีอัดแน่นเต็มอยู่บนใบหน้าผู้หญิง คนนัน เขามองสํารวจโครงหน้านางอย่างละเอียด
อาจเป็ นเพราะร่อนเร่พเนจรอยู่ข้างนอกตลอด เจียงเอ้อยาจึงดูแก่กว่าอายุจริงมาก นางทังร้องไห้และหัวเราะราวกับคนบ้า แล้วนางก็พูดซําอีกครังอย่างสับสน “ใน ทีสุด ในทีสุดก็หาญาติเจอแล้ว ในทีสุด…”
นายทหารเฝ้ารักษาเมืองคนนันเข้ามาผลักเจียงเอ้อยา “ผู้อพยพอย่างพวกเจ้าคิดจะ มุดเข้าไปในเมืองเสมอ นีเป็ นสาเหตุทีทําให้เกิดความไม่สงบสุข! ไป ๆ ๆ! ออกไปเลย! ข้างนอกมีทีให้พวกเจ้าปักหลักไม่ใช่รึไง ?”
เจียงเอ้อยาตะโกนขึนเสียงดัง “ข้ามีญาติอยู่ในเมือง ทําไมข้าจะเข้าเมืองไม่ได้ นัน คือน้องชายข้า! เขาคือน้องชายข้า ให้ข้าเข้าไปสิ!”
ทหารคนนันหันกลับมามองเจียงหยุนชานอย่างงงงวยเล็กน้อย เมือเห็นเจียงหยุน ชานอยู่ในชุดสูงศักดิD หน้าตาผิวพรรณก็ดีมาก เห็นได้ชัดว่าคงเป็ นคุณชายเล็กที ออกมาจากตระกูลปัญญาชน แล้วเขาก็หันกลับมามองขอทานหญิงหน้าตา สกปรกมอมแมมเสือผ้าขาดรุ่งริงคนนี ดูยังไงก็ดูไม่ออกว่าพวกเขาเป็ นพีน้องกัน
“คุณชาย นีคือพีสาวของท่านจริง ๆ หรือขอรับ ?” ทหารถามอย่างไม่ค่อย แน่ใจ
เจียงหยุนชานถอนหายใจพลางพยักหน้า แม้ในอดีตจะมีความแค้นต่อกัน แต่ เหตุการณ์นําท่วมทีร้ายแรงครังนันก็คงจะพัดพาไปจนหมดสินแล้ว
ตอนทีเจียงเอ้อยาตามเจียงหยุนชานไปทีบ้าน นางจ้องเสือผ้าเครืองประดับทีเจียง หยุนชานสวมใส่ตลอด
“นี ๆ ผ้านีแพงมากใช่ไหม ?”
“ไม่คิดว่าไม่เจอกันแค่สีปี หยุนชานจะลําหน้าคนอืนแล้วจริง ๆ”
ตอนทีเข้าไปในจวนเจียง ลูกตาเจียงเอ้อยาแทบถลนออกมา นางดูอย่างไรก็ไม่ เพียงพอ เอาแต่กวาดตามองสํารวจซ้ายขวา แสงในดวงตาก็เป็ นประกายขึนเรือย ๆ
“นีคือบ้านตระกูลเจียงของเรารึ ?” ในลําคอของเจียงเอ้อยาเหมือนมีเสมหะติด อยู่ตลอดเวลา ชูสีรู้สึกไม่สบายใจอย่างมากเมือได้ยิน เขาคิดว่าตัวเองไม่ใช่คนที ชอบดูถูกคนอืน แต่ขอทานคนนี เพิงเข้ามาก็มาพูดว่า “บ้านตระกูลเจียงของเรา” เสียแล้ว ไม่รู้ทําไมเขาถึงรู้สึกว่ามันแปลกเล็กน้อย
เมือเข้ามาในบ้าน เลียวชุนหยู่ก็เข้ามาต้อนรับก่อนเป็ นคนแรก แต่เมือเห็นขอทาน ทีดูท่าทางแปลก ๆ เดินตามอยู่ข้างหลังพีชายก็ตกใจ แต่ด้วยมารยาทเขาจึงไม่ สามารถพูดอะไรทีเสียมารยาทต่อหน้าคนอืนได้ จําต้องอดกลันความรู้สึกอยากรู้ อยากเห็นทีรบกวนใจเอาไว้
“มีอะไรกินไหม เร็วเข้าสิ ข้าหิวจะตายอยู่แล้วนะ!” เจียงเอ้อยาตะเบ็งเสียง
มีขนมและนําชาเตรียมอยู่ในห้องครัวตลอด สาวใช้ทังสองของเจียงหยุนชานรีบ ยกอาหารว่างเข้ามา เจียงเอ้อยามองดูขนมในจานด้วยสายตาเป็ นประกาย นางใช้ ทังสองมือหยิบอาหารยัดใส่ปากอย่างตะกละตะกลามจนเศษอาหารกระจัด กระจาย
เลียวชุนหยู่มองอย่างตะลึงเลยทีเดียว เขาถือโอกาสตอนทีเจียงเอ้อยากินอย่าง มูมมามถามเจียงหยุนชาน “พี นางคือใครรึ ?”
“ลูกพีลูกน้องข้าเอง เราเคยอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกันแต่แยกกันเพราะนําท่วม ครังนัน” ตอนนีเจียงหยุนชานรู้สึกซับซ้อนในใจแต่ก็ไม่สามารถเล่าให้เลียวชุน หยู่ฟังเกียวกับการทะเลาะเบาะแว้งในอดีตได้ ตอนนีเขาจึงต้องพูดอย่างกระชับ รัดกุม
“อ้อ ถ้าแบบนันก็น่าสงสารจริง ๆ” เลียวชุนหยู่เองก็เป็ นคนทีประสบเหตุการณ์ นําท่วมในครั งนันเช่นกัน เขาจึงถอนหายใจ
หลังจากกินไปหกจานเต็ม เจียงเอ้อยาก็ใช้มือกุมท้องตัวเองและรู้สึกอิมอกอิ มใจ อย่างมาก “อ้า… อิมดีจริง ๆ ข้าไม่ได้กินอะไรมานานแล้ว”
ตอนนีเจียงป่ าวชิงและเจียงฉิงรู้เรืองทีเจียงหยุนชานพาขอทานกลับมาทีบ้านแล้ว จึงพากันเข้ามาในบ้าน
เจียงป่ าวชิงจําได้ทันทีว่าขอทานสกปรกทีกําลังลูบคลําสิงของในบ้านไปมาคน นันคือเจียงเอ้อยา