แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 498 : จําปู่ ห้าได้ไหม
“หยุนชาน เจ้าลืมไปแล้วรึว่าข้าเคยพาเจ้าไปเล่นตอนเด็ก ๆ ?” เจียงเอ้อยา พยายามปลุกความเป็ นครอบครัวของเจียงหยุนชานให้ตืนขึน นําตานางคลอเบ้า “ตอนนันเจ้ายังเด็กมากอยู่เลย ข้ายังเคยพาเจ้าเล่นตํารวจจับโจรด้วยนะ”
เจียงหยุนชานพูดขึนอย่างจําใจ “ใช่ ข้ายังจําได้ว่าทุกครังทีข้าเป็ นโจรแล้วถูกพวก พีจับได้ ก็มักจะถูกพวกพีตีและบอกว่านีเป็ นบทลงโทษของโจรทีถูกจับได้”
สีหน้าเจียงเอ้อยาแข็งทือทันที เดิมทีนางอยากฉวยโอกาสตอนทีเจียงหยุนชานยัง เด็กและใช้ความทรงจําทีไม่ชัดเจนของเขามาหลอกล่อเขา แต่ไม่คิดว่าเจียงหยุน ชานจะจําได้ชัดเจนขนาดนี นางจึงรีบไตร่ตรองในใจอย่างรวดเร็วว่าสองพีน้องคู่ นีเคยมีความสัมพันธ์ทีดีกับใครบ้าง… จู่ ๆ ในหัวของนางก็นึกเรืองบางอย่างได้ นัยน์ตานางเป็ นประกายและรีบพูดขึนทันที “งันพวกเจ้าจําปู่ ห้าได้ไหม ?”
เมือเจียงเอ้อยาเห็นว่าเจียงหยุนชานชะงัก ประกอบกับเจียงป่ าวชิงเองก็ไม่ได้พูด อะไรเช่นกันก็รู้ว่าตัวเองมาถูกทาง
“พวกเจ้าลืมไปแล้วหรือยังว่าปู่ ห้าดีกับพวกเจ้าแค่ไหน ในครอบครัวของเขามี หลายชีวิตทีต้องกินข้าวกินนํา เขายังดีกับพวกเจ้าขนาดนัน เขาหมักเนือตากแห้ง โดยทีไม่แบ่งให้คนอืน เพือทีจะแบ่งให้พวกเจ้าสองพีน้อง…” เมือพูดถึงตรงนี เจียงเอ้อยาทํานําเสียงผสมความโศกเศร้า “ครอบครัวปู่ ห้าน่าสงสารมาก ตอนนํา ท่วมครังใหญ่ข้าเห็นพวกเขาวิงออกไปข้างนอกพร้อมพวกลูก ๆ หลาน ๆ แต่ พวก เขาจมอยู่ใต้นํา…” เจียงเอ้อยาพยายามบีบนําตา “ตอนนีนอกจากพวกเจ้าทีเป็ น ลูกหลานสาขาของตระกูลเจียงเรารวมถึงฝังของปูห้าแล้ว ก็มีข้าคนเดียวทีเหลืออยู่ ในตระกูลเจียง แล้วดูสิ พวกเจ้ายังทํากับข้าแบบนีอีก… ทําไมคนทีมีชีวิตรอดถึง ไม่เป็ นพวกปู่ ห้ากันนะ ครอบครัวพวกเขาดีขนาดนัน เห็นแก่ทีมีบรรพบุรุษ
ร่วมกัน ข้าเชือว่าเขาจะไม่ไล่ข้าออกไปตายอย่างแน่นอน…”
เมือพูดถึงเจียงเหล่าหวู่ เจียงป่ าวชิงก็เงียบลง แต่ผ่านไปสักครู่นางก็พูดขึนเสียง เย็น “อืม ต่อไปนีถ้าเจ้าอยู่ทีนีแล้วทําตัวดี ๆ ก็แล้วกันไป แต่ถ้าหากว่าก่อเรือง วุ่นวายหรือจู้จีจุกจิกอีก ก็อย่าหาว่าข้าไม่สุภาพแล้วกัน!”
เจียงเอ้อยาดีใจ นางรีบลุกขึนจากบนพืนมายืนตบอกรับประกัน “ไม่ทําอีกแล้ว! ข้ารับรองว่าจะไม่ทําอีกแล้ว!”
……
วันต่อ ๆ มา เจียงเอ้อยาประพฤติตัวดีอยู่สองสามวัน แต่ยังผ่านไปได้ไม่เท่าไหร่ คนเฝ้าประตูก็มารายงานด้วยสีหน้าขมขืนโดยบอกว่ามีผู้ชายอุ้มเด็กคนหนึงมา ถามหาภรรยา
สินเสียงรายงาน เจียงเอ้อยาวิงเร็วกว่ ากระต่าย และตอนทีเจียงป่ าวชิงไปถึงก็เห็น เจียงเอ้อยาดึงขอทานสองพ่อลูกเข้ามาในจวน จากนันทังสามคนก็กอดกันร้องไห้
เจียงเอ้อยาร้องไห้และแอบมองปฏิกิริยาของเจียงป่ าวชิงทีอยู่ตรงหน้าไปด้วย เมือ เห็นว่าเจียงป่ าวชิงมองพวกเขาด้วยสีหน้าราบเรียบ เสียงร้องของนางก็ค่อย ๆ เบา ลง จากนันนางกระแอมไอเล็กน้อย “มาสิป่ าวชิง ข้าจะแนะนําให้เจ้ารู้จักสัก หน่อย นีคือพีเขยของเจ้า เจ้าเรียกเขาว่าเหล่าหนิวก็ได้ ส่วนนีคือหลานของเจ้า หนิวหวา… เป็นครอบครัวเดียวกัน เจ้าไม่ต้องให้ของขวัญสําหรับเจอหน้ากันกับ หลานของเจ้าก็ได้…”
ภายใต้การจ้องมองอย่างไร้อารมณ์ของเจียงป่ าวชิง เสียงเจียงเอ้อยาก็ค่อย ๆ เบาลง
หลังจากความเงียบทีทําให้เก้อเขินผ่านพ้นไป จู่ ๆ เจียงเอ้อยาก็ผลักสามีของนางที ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับนางเมือสองสามวันก่อน “เอาล่ะ พวกเจ้ารีบไป
เถอะ! น้องสาวข้าไม่ต้อนรับญาติพีน้องจน ๆ อย่างพวกเจ้า พวกเจ้าเองก็ทํา เหมือนว่าไม่มีข้าแล้วกัน รีบไปซะ!”
เจ้าเด็กหนิวหวาอายุน่าจะสองถึงสามขวบเห็นจะได้แต่กลับดูผอมกว่าเด็กรุ่น เดียวกันเล็กน้อย เขาร้องไห้หนักมาก ปากก็ร้องเรียก “แม่! ข้าต้องการแม่!”
ส่วนชายทีชือเหล่าหนิวคนนันเองก็ก่นด่าและผลักเจียงเอ้อยาอย่างโหดเหียม “เอ้อยา เจ้ามันเป็ นเมียใจดํา เมือไม่กีวันก่อนข้าก็ว่าเจ้าหายไปไหนอย่างกะทัน กันจึงพาหนิวหวาแอบเข้ามาในเมืองด้วยความยากลําบาก หลังจากไถ่ถามอยู่ หลายวันถึงจะรู้ว่าทีแท้เจ้าก็มาหาทีพึงจากญาติพีน้องรํารวยและกินดีอยู่ดีอยู่ทีนี เจ้ารังเกียจทีเราเป็ นตัวถ่วงเจ้าใช่ไหม ?! ก็ได้ ในเมือเจ้าไม่สนใจพวกเราแล้ว เราสองคนก็จะไปกระโดดนําตายเดีCยวนี เจ้าจะได้ไม่มีภาระ!” พูดจบชายคนนัน ก็อุ้มเด็กหนิวหวาและทําเหมือนจะวิงออกไปข้างนอก
เจียงเอ้อยากระชากผู้ชายคนนันอย่างแรงและร้องไห้สนันไปทั ว “ป่ าวชิง เจ้าไม่ สามารถทนเห็นเราไปตายได้ใช่ไหม เจ้าปล่อยให้เรามีชีวิตอยู่ต่อเถอะนะ เจ้าช่วย เราเถอะ!”
เจียงป่ าวชิงมองดูครอบครัวนันร้องไห้อยู่สักครู่ด้วยท่าทางเย็นชา ก่อนจะหมุนตัว จากไปโดยไม่พูดอะไรสักคํา
นีเป็ นโอกาสครังสุดท้ายสําหรับพวกเขา ต่อไปนีถ้าหากว่าพวกเขายังใช้แผนการ และเล่ห์เหลียมแบบนีอีก ก็อย่าหาว่านางไม่เตือน
……
เจียงหยุนชานค้นพบอย่างงุนงงว่าในหมู่คนทีกินอาหารด้วยกัน จู่ ๆ ก็มี “พีเขย” และ “หลานชาย” ทีอายุประมาณสามขวบเพิมเข้ามา
เหล่าหนิวคนนันยิมอย่ างกระตือรือร้น เขาดูเป็ นคนซือ ๆ แต่ความเร็วในการหยิบ อาหารใส่ถ้วยของตัวเองนันเหมือนกําลังแย่งของลําค่า เขาตักอาหารไปวางซ้อน กันในถ้วยตัวเองจนสูงถึงจะหยุดมือ จากนันก็ก้มหน้าก้มตากินอย่างมูมมามจน บนโต๊ะเต็มไปด้วยเศษข้าว แม้แต่ในจานอาหารบนโต๊ะก็กระจัดกระจายไปด้วย ข้าวทีกระเด็นออกมาจากปากของเขา
ทีน่าเศร้าคือเด็กน้อยกินมูมมามยิงกว่า ท่าทางการกินก็ไม่ได้ดีไปกว่าพ่อของเขา สักเท่าไหร่ ตอนนีกับข้าวแทบทุกจานบนโต๊ะเต็มไปด้วยข้าวทีกระเด็นออกมา จากครอบครัวของเจียงเอ้อยา
กระเด็นมาใส่ขนาดนี คนอืนจะกินต่อได้ยังไง!
เจียงป่ าวชิงวางตะเกียบลงทัง ๆ ทียังไม่ได้แตะอาหารแม้แต่นิดเดียว เจียงฉิง กับเลียวชุนหยู่พากันบอกว่าอิมแล้ว จากนันก็วางถ้วยข้าวทียังไม่ได้ตักสักคําและ ออกจากห้องไป ส่วนเจียงหยุนชานถือถ้วยด้วยสีหน้าลําบากใจอยู่นาน สุดท้าย เขาเองก็วางถ้วยข้าวลงและถอนหายใจ
ในปากของหล่าหนิวคนนันเต็มไปด้วยข้าวและเนือ เขาเคียวกร้วม ๆ ไปด้วยพูด ไปด้วย “เอ้า พวกเจ้ากินสิ ทําไมไม่กินล่ะ รีบกินเร็วเข้าสิ” จังหวะนันมือก็ยัง คีบเนือในจานต่าง ๆ มาไว้ในถ้วยข้าวของตัวเอง
ช่างน่ารังเกียจจริง ๆ
เจียงหยุนชานไม่อยากกินแล้ว ตอนทีเขากลับเข้าห้องนอนในตอนกลางคืน เขา ต้องหาอาหารว่างเล็ก ๆ น้อย ๆ มานังกิ นรองท้องและนังถอนหายใจอย่ างเซ็ง ๆ ‘ช่างเถอะ คนพวกนันคงหิวมานาน ต่อไปอาจดีขึนก็ได้’ เจียงหยุนชานทําได้ เพียงคิดเช่นนี
แต่วันทีสองและวันทีสามก็ยังเป็ นอีหรอบเดิม
แน่นอนว่าไม่สามารถปล่อยให้เด็กสองคนรองท้องด้วยอาหารว่างในตอน กลางคืนไปตลอดได้ เจียงป่ าวชิงจึงใช้ให้คนจัดโต๊ะอาหารให้กับทังสามคนใน ส่วนทีจัดไว้ให้เจียงเอ้อยาพักอาศัย
เหล่าหนิวรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย “เอ้อยา พวกญาติพีน้องของเจ้านีไม่ได้เรืองเลย ข้าดูแล้วอาหารในคืนนีน้อยลงมาก”
แน่นอนว่าเป็ นอย่างนัน เมือก่อนมีอาหารสําหรับคนเจ็ดคนจัดวางอยู่บนโต๊ะ ตอนนีมีแค่พวกเขาสามคนทีกิน ปริมาณจึงน้อยลงเป็ นธรรมดา แต่เจียงป่ าวชิง มันใจว่ าปริมาณเท่านีพวกเขาสามคนสามารถกินได้อิมอย่ างแน่นอน
เจียงเอ้อยาทําตาขวางใส่สามีของนาง “เจ้าหุบปากไปเลย มีกินก็ดีเท่าไหร่แล้วยัง จะจู้จีจุกจิกอีก!”
แต่เมือนางยิงคิดกลับยิ งรู้สึกไม่ สบายใจจึงแอบย่องไปทีบ้านของเจียงหยุนชาน แล้วมองดูอาหารทีจัดวางอยู่บนโต๊ะของพวกเขาทังสีคนและพบว่าเหมือนกับของ พวกนาง นางถึงจะสงบลงเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม การมาของครอบครัวนี ปัญหากลับอยู่ในช่วงหลัง
เจียงป่ าวชิงจ่ายเงินให้แต่ละบ้านในทุก ๆ เดือน ในเมือตอนนีมีเจียงเอ้อยามาพัก อยู่ด้วย นางจึงมีนําใจให้เงินหนึงตําลึงเป็ นเงินใช้จ่ายในแต่ละเดือนให้กับบ้าน ของพวกเขา ถึงอย่างไรตอนนีครอบครัวนีก็กินใช้สวมใส่สิงของจากพวกนาง และไม่มีความจําเป็ นทีจะต้องใช้เงินคราวละมาก ๆ เงินหนึงตําลึงทีให้นีเป็ น เพียงแค่สัญลักษณ์ของนําใจเท่านัน
เงินหนึงตําลึง หากว่าเป็ นเมือก่อนครอบครัวเจียงเอ้อยาสามารถใช้กินอยู่ได้เป็ น เวลาครึ งปี กว่าเลยทีเดียว แต่เจียงเอ้อยารู้สึกว่ามันไม่พอ ยิงหลังจากทีนางออกไป เดินรอบเมืองหลวงและถูกอกถูกใจปิ นปักผมทองราคาสิบห้าตําลึงด้วยแล้ว กว่า จะซือมันได้ นางยังต้องเก็บเงินอีกปี ครึงเชียวนะ!
เจียงเอ้อยาจึงตังใจจะหาเรืองเจียงฉิง นางถือโอกาสตอนไม่มีคนอยู่รอบ ๆ ยืน ขวางเจียงฉิงไว้ “นีเด็กน้อย ข้าล่ะอิจฉาคนดวงดีอย่างเจ้าจริง ๆ เลยนะ”
เจียงฉิงไม่ชอบครอบครัวเจียงเอ้อยาตังแต่แรกแล้ว ทีนางยอมอดทนมาจนถึง ตอนนีก็เพราะพีสาวของนางยังไม่ได้ลงไม้ลงมือ อย่างไรก็ตาม วันนีเจียงฉิง ตระหนักได้ว่าบางทีนีอาจเป็ นโอกาสพลิกสถานการณ์ก็ได้ เด็กหญิงจึงแสร้งทํา ท่าทางอ่อนแอ ทําทีเป็ นคนไม่สู้คน “เจ้ามาหาข้ามีธุระอะไรหรือเปล่า ?”
เมือเจียงเอ้อยาเห็นท่าทางอ่อนแอของเจียงฉิงก็รู้สึกดีใจพลางเอือมมือไปดึงปิ น ปักผมหยกทีเสียบอยู่บนศีรษะเจียงฉิงและพูดข่มขู่อย่างโหดเหียม “ข้าจะบอกให้ เจ้ารู้ว่าเจ้าเป็ นแค่เด็กทีคนว่างอย่างเจียงป่ าวชิงรับเลียงดูเล่น ๆ เท่านัน พวกข้านีสิ ทีเป็ นญาติพีน้องจริง ๆ ของนาง! ทางทีดีเจ้าควรประพฤติตัวดี ๆ กับข้าดีกว่า”
เจียงฉิงพยักหน้าด้วยนําตาคลอเบ้า
หลังจากทีเจียงเอ้อยาทําสําเร็จเป็ นครังแรก นางก็นําปิ นปักผมหยกอันนันออกจาก บ้านไปจํานํา แต่สิงทีนางคิดไม่ถึงคือมันสามารถจํานําได้ถึงยีสิบตําลึงเลยทีเดียว
เจียงเอ้อยาจึงรู้สึกเกลียดชังในใจมากขึนเรือย ๆ ‘เจียงป่ าวชิงไอ้เด็กบ้า! ปฏิบัติ กับไอ้ลูกหมาทีไหนไม่รู้อย่างใจกว้างขนาดนี แม้แต่ปิ นปักผมหยกทีมีราคายีสิบ กว่าตําลึงก็ยังให้คนนอกสวมใส่ได้ตามอําเภอใจ แต่ดูญาติพีน้องจริง ๆ อย่าง ครอบครัวพวกข้าสิ เจ้ากลับขีงกถึงขันให้เงินในแต่ละเดือนแค่หนึงตําลึง’
ทําเกินไปแล้ว!
ตอนที 499 : อย่าโทษว่าข้าจิตใจโหดเหียม
นีเป็ นครังแรกทีเจียงเอ้อยานําปิ นปักผมหยกไปจํานํา นางจึงยังกังวลเล็กน้อยว่า เจียงฉิงจะนําเรืองนีไปฟ้องคนในบ้าน แต่เมือนางลองรออยู่หนึงวัน นอกจากเห็น
ว่าเจียงฉิงหลบหน้านางก็ไม่มีความผิดปกติอืนอีกจึงรู้สึกลําพองใจและคิดว่า เด็กผู้หญิงคนนันหลอกง่ายจริง ๆ
ต่อมานางใช้แผนการเดิมอีกครังโดยครังนีไปแย่งจีหยกของเจียงฉิงมา ทังยังผลัก อย่างแรงจนทําให้เด็กหญิงถึงกับล้มลงไปบนพืนแล้วนางก็เดินจากไปอย่าง ลําพองใจ แต่สิงทีเจียงเอ้อยาไม่รู้คือตอนทีนางจากไป สีหน้าทีดูอ่อนแอของเจียง ฉิงเกือบจะหายไปในทันที แทนทีด้วยรอยยิมเยือกเย็น
เจียงป่ าวชิงเอาใจใส่เจียงฉิงมาก หลังจากทีเกิดเรืองนีขึนถึงสองครัง เจียงป่ าวชิงก็ สังเกตเห็นถึงสิงผิดปกติจึงดึงเจียงฉิงมาถาม “อาฉิง ตอนเทียงข้ายังเห็นเจ้าห้อยจี หยกไว้ทีเอวอยู่เลย ทําไมตอนนีถึงไม่มีแล้วล่ะ หรือว่าไปทําตกทีไหน ?”
เจียงฉิงกัดริมฝี ปากแต่ไม่ได้พูดอะไร นางไม่อยากหลอกเจียงป่ าวชิงด้วยคําพูด โกหกพกลม
เจียงป่ าวชิงเป็ นคนฉลาดจึงรู้ถึงความผิดปกติของเรืองนีได้ในทันที “ไม่ได้ตก หล่นและไม่ได้เปลียนใหม่ เจียงเอ้อยาแย่งไปรึ ?”
เจียงฉิงโถมตัวเข้าไปในอ้อมกอดเจียงป่ าวชิงและพูดด้วยเสียงอู้อี “พีสาว ข้า ไม่ได้ต่อต้าน เมือวานนางยังแย่งปิ นปักผมหยกของข้าไปด้วย แล้ววันนีก็มาแย่งจี หยกของข้าอีก เห็นชัดเลยว่านางโลภอย่างไม่บันยะบันยังและกําเริบเสิบสาน มาก! ข้าไม่ชอบนางเลย ในดวงตานางเหมือนวางแผนอะไรบางอย่างอยู่เสมอ ข้า กลัวว่าวันไหนทีพีสาวไม่ได้ระมัดระวังตัวจะทําให้เสียเปรียบพวกเขาในทีสุด!”
เจียงป่ าวชิงลูบผมเปี ยของเจียงฉิง “เจ้าเด็กน้อย ถ้าเจ้าไม่ชอบพวกเขาก็มาบอกข้า ตรง ๆ ก็ได้ ทําไมต้องใช้วิธีแบบนีจนทําให้เสียปิ นปักผมและจีหยกไปโดยเสีย เปล่าเล่า ?”
เจียงฉิงกัดริมฝี ปาก “ข้าเห็นว่าพีสาวเองก็เกลียดเจียงเอ้อยาคนนันมากเช่นกันแต่ พีกลับทนให้พวกเขาพักอยู่ทีนี ข้ารู้ว่าพีก็มีเหตุผลของพี แต่ข้าไม่อยากให้พีเก็บ กดแบบนีทุกวันนะจ๊ะ”
“เด็กโง่…” เจียงป่ าวชิงถอนหายใจเบา ๆ ณ ตอนนีนางตัดสินใจแล้วว่าตัวเอง เห็นแก่เจียงเหล่าหวู่ได้เพือช่วยรักษาสายเลือดให้กับตระกูลเจียง แต่นางไม่เห็น จําเป็ นต้องทําให้ตัวเองและครอบครัวทีแท้จริงในตอนนีไม่ได้รับความเป็ นธรรม
เจียงป่ าวชิงดําเนินการอย่างรวดเร็วมาก นางเช่าบ้านหลังเล็กในเมืองหลวงแบบที คนทัวไปอาศัยอยู่ จากนันก็ซือเครืองเรือนง่าย ๆ ลงนามทําสัญญากับผู้ให้เช่าว่า จะจ่ายเงินค่าเช่าปี ละครั ง
ทําให้ถึงขันนี เจียงป่ าวชิงก็คิดว่าตัวเองให้ความเมตตาจนถึงทีสุดแล้ว
ตอนทีเจียงเอ้อยาพยายามไปแย่งเครืองประดับของเจียงฉิงอีกเป็ นครังทีสาม เจียง ป่ าวชิงก็โผล่มา นางมองพวกเขาอย่างเย็นชาและถามด้วยสีหน้าราบเรียบว่าจะย้าย ออกไปเองหรือต้องให้นางหาคนมาลงไม้ลงมือ
เจียงเอ้อยายังอยากแสร้งทําเป็ นโง่แต่เจียงป่ าวชิงไม่ฟังคําแก้ตัวนําขุ่น ๆ อีกต่อไป หลังจากทีนางโบกมือ ผู้คุ้มกันบ้านทีแข็งแรงบึกบึนสองสามคนก็จับเจียงเอ้อยา มัดและใช้ผ้าอุดปากนาง จากนันก็โยนนางขึนไปบนรถม้า เมือเหล่าหนิวเห็น ท่าทางของเจียงป่ าวชิงเขาก็ไม่กล้าพูดอะไรเพราะกลัวว่าเจียงป่ าวชิงจะมองมา ทางเขาและสังจับเขามัดอีกคน เขาอุ้มลูกไปนังขดตัวอยู่ ในมุมหนึงของรถม้าอย่าง ว่าง่าย
พวกสาวใช้รีบช่วยกันเก็บเสือผ้าและของใช้ให้กับครอบครัวของเจียงเอ้อยาอย่าง ดีอกดีใจ เสร็จแล้วก็โยนขึนไปบนรถม้าคันนันและรีบส่งครอบครัวของเจียง เอ้อยาออกไปอย่างรวดเร็ว
เมือไปถึงทีบ้านเช่าเล็ก ๆ หลังนัน เจียงป่ าวชิงสังให้ผู้คุ้มกันแก้มัดเจียงเอ้อยาและ ประกาศว่าต่อไปทีนีคือทีอยู่อาศัยของครอบครัวพวกนาง
พักอยู่ทีห้องสวยหรูหราจนเคยชินแต่ต้องมาล้มลงสู่พืนดินในทันทีเช่นนี เจียง เอ้อยาจะยอมรับได้อย่างไร
แต่ครังนีไม่ว่านางจะส่งเสียงโวยวายเพียงใด เจียงป่ าวชิงก็กําชับผู้คุ้มกันต่อหน้า เจียงเอ้อยาด้วยสีหน้าราบเรียบ “ถ้าหากว่าเจียงเอ้อยากล้ามาพัวพันทีบ้านอีก ก็ให้ พวกเจ้าลงไม้ลงมือให้หนัก ๆ และไล่ออกไปได้เลย”
เจียงเอ้อยาตะโกนขึนด้วยความโกรธ “ป่ าวชิง! นีเจ้าไม่กลัวว่าข้าจะไปฟ้อง เจ้าหน้าทีว่าเจ้าปฏิบัติต่อญาติพีน้องอย่างโหดร้ายทารุณรึ ?!”
เจียงป่ าวชิงหัวเราะเบา ๆ “บ้านใครไม่มีญาติพีน้องยากจนบ้างล่ะ หรือว่าต้องรับ ญาติพีน้องยากจนทุกคนมาปรนนิบัติอย่างดี ? ข้าเช่าบ้านให้เจ้าอยู่และซือของ ใช้ให้ก็บุญโขแล้ว เจ้าเลือกได้แค่จะอยู่ในบ้านนีหรือไม่ก็มาทางไหนกลับไปทาง นัน”
สุดท้าย คําพูดทีว่า “มาทางไหนกลับไปทางนัน” ทําให้เจียงเอ้อยาตกใจมาก มาถึงขนาดนีนางจะกล้าพูดอะไรอีก ได้แต่ขมวดคิวยอมรับความจริงอย่าง ยากลําบากว่าต่อไปนางกับครอบครัวต้องมาใช้ชีวิตอยู่ทีนี โชคยังดีนางทําเงินได้ มากมายเมือสองวันก่อนจึงทําให้เพียงพอต่อการใช้จ่าย
เจียงเอ้อยาวางแผนในใจ เหล่าหนิวสามีของนางมองไปรอบ ๆ บ้านเช่าพร้อมลูบ จอบทีตังอยู่ข้างลานบ้านไปด้วย จากนันเขาก็พูดขึนอย่างไม่พอใจว่า “เอ้อยา ข้า บอกแล้วว่าญาติพีน้องของเจ้าเชือถือไม่ได้ คนรวยต่างก็ใจดํากันทังนัน เจ้าดูสิ เรา พักอยู่ทีนันได้แค่ ไม่กีวัน พวกเขาก็ไล่เรามาอยู่ทีทีชํารุดทรุดโทรมแบบนี! นีจะ ให้เราไปทําไร่ไถนารึ! ข้าคิดว่าเจ้าเองก็ไม่ได้เรืองเช่นกัน แม้แต่เด็กเล็กยังหลอก ไม่ได้ ไม่งันเราคงไม่ถูกไล่มาอยู่ทีแบบนีหรอก!”
เจียงเอ้อยารู้สึกไม่เป็ นสุขในใจ เมือเห็นว่าเหล่าหนิวยังคงโทษนางอยู่ตรงนัน นาง ก็รู้สึกโกรธและพูดขึนด้วยนําเสียงโหดร้าย “ให้เจ้าไปทําไร่ไถนานีถือว่าทําให้ เจ้าไม่ได้รับความเป็ นธรรมรึ ? อย่าลืมว่าเจ้าเป็ นแค่ขอทานสกปรก ๆ คนหนึง ถ้าไม่ใช่เพราะแต่งงานกับข้า ตอนนีเจ้าก็คงยังนังขอข้าวคนอืนกิ นอยู่ในวัดโทรม ๆ นอกเมืองนู่น!”
เหล่าหนิวกินดีอยู่ดีมาตลอดสองสามวันนี เขาลําพองตนราวกับว่าตัวเองได้ กลายเป็ นคนทีมีตําแหน่งสูงในสังคมไปแล้วอย่างไรอย่างนัน เมือเห็นว่าเจียง เอ้อยาใช้นําเสียงรังเกียจมาพูดใส่เขาอย่างโหดร้าย ความโกรธของเขาพลันปะทุ ตาแดงกําพร้อมพูดขึนอย่างเหียมโหด “บ๊ะ! เจ้ามันผู้หญิงมัวโลกี ย์ รังเกียจทีเรา สองคนพ่อลูกเป็ นตัวถ่วงเจ้าจริง ๆ ด้วย! วันนันถ้าเราไม่ไปหาเจ้า เจ้าก็จะทิงเรา ไว้นอกเมืองและหนีไปเสพสุขคนเดียวล่ะสิท่า ?”
เหล่าหนิวยิงพูดก็ยิงโมโห เขาใช้จอบโบกใส่ เจียงเอ้อยาจนได้
เจียงเอ้อยาหลบไม่ทันจึงถูกจอบกระทุ้งใส่ศีรษะเต็ม ๆ นางส่งเสียงร้องอย่างน่า เวทนาพร้อมกับทีเลือดไหลลงมาจากบนศีรษะอย่างต่อเนือง
เมือเห็นเลือด สติปัญญาของเหล่าหนิวก็เหมือนกลับคืนมา จอบในมือร่วงหล่นลง บนพืนก่อนทีตัวเขาจะทรุดนังลงไปด้วยเนื อตัวสันเทา “ข้า… นีข้าฆ่าคนแล้วรึ
?”
“แม่ แม่!” เด็กน้อยหนิวหวาโถมตัวใส่เจียงเอ้อยาและร้องไห้เสียงดัง
…
ถือได้ว่าเจียงเอ้อยาดวงดี จอบนีทําให้หัวนางแตกแต่ไม่ตาย แต่เดิมทีค่ายาในเมือง หลวงก็แพงมากอยู่แล้ว เงินทีนางหามาได้ด้วยวิธีสกปรกก่อนหน้านันจึงถูกใช้ไป มากกว่าครึง
ทีเหลือถูกเหล่าหนิวผู้ซึงเจ้าเล่ห์แอบเห็นทีเก็บซ่อน และเขาถือโอกาสตอนทีนาง ล้มหมอนนอนเสือแอบขโมยไปเล่นพนันจนหมดเกลียง
เจียงเอ้อยา เมือเห็นสามีทีคุกเข่าร้องไห้ขอร้องนางอยู่บนพืนด้วยสีหน้าซือ ๆ ประกอบกับตอนนีนางเองก็ยังล้มหมอนนอนเสือ แล้วนางยังจะทําอะไรได้อีก ถ้า หากว่าเหล่าหนิวโบกนางด้วยจอบอีกล่ะ ?
นอกจากก่นด่าและร้องไห้เสียใจในชีวิตทีขมขืนของตัวเองก็ไม่มีอะไรอืนให้ทํา อีกแล้ว
เจียงป่ าวชิงเองก็ทราบข่าวคราวและช่วยเหลือพวกเขาอยู่บ้างเช่นกันซึงเพียง พอทีจะประคับประคองได้ระยะหนึง ทว่าในเมือมีแต่รายจ่ายไม่มีรายรับ นานเข้า ครอบครัวของเจียงเอ้อยาก็อับจนอย่างรวดเร็ว
ทังหมดนีเป็ นผลมาจากความขีเกียจสันหลังยาวของพวกเขา แต่ครอบครัวเจียงเอ้ อยากลับไม่คิดเช่นนี ในหัวของพวกเขา ตัวการของเรืองทังหมดคือผู้หญิงดุร้ายที ไม่ให้ความสําคัญกับญาติพีน้องอย่างเจียงป่ าวชิง
เจียงเอ้อยาลูบรอยแผลเป็ นยาวบนศีรษะของนางแล้วกัดฟันคิดในใจ ‘ไอ้น้องบ้า ไร้เมตตา ตอนนีชีวิตข้าไม่มีอะไรจะเสียแล้ว อย่าโทษว่าข้าจิตใจโหดเหียมแล้ว กัน!’
นางมองไปยังทิศทางของจวนเจียงทีอยู่เฟิ งผิงเหมินจากระยะไกล พลันแสงชัว ร้ายฉายวาบอยู่ในดวงตา