แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 501 : นับว่าเป็ นอะไร
สามพีน้องตระกูลเจียงจึงแยกกันเป็ นสองทาง เจียงฉิงกับเลียวชุนหยู่กระโดดขึ’น บนรถม้าของตระกูลเจียงและไปนอกเมืองกันก่อน ส่วนเจียงป่ าวชิงก็นังรถม้าที หลินยู่หยุนองค์หญิงเล็กส่งมาให้ และมุ่งหน้าไปทีจวนองค์ชายหย่งชิน
ตอนนี’เจียงป่ าวชิงเป็นแขกผู้มีเกียรติของจวนองค์ชายหย่งชิน รถม้าจึงมุ่งเข้า ประตูสองโดยตรง หลังจากผ่านทางเดินหินยาว นางก็ลงจากรถตรงประตู พระจันทร์ ทันทีทีก้าวลงมาก็เห็นว่าหลินยู่หยุนส่งสาวใช้ข้างกายของนางมารออยู่ แล้ว
เมือสาวใช้เห็นนางลงจากรถม้าก็รีบเข้าไปต้อนรับด้วยใบหน้ายิมแย้ม ‘ “แม่นาง เจียงมาแล้ว องค์หญิงเล็กของเรากําลังรอแม่นางอยู่ในห้อง องค์หญิงสังให้ข้าน้อย มารับแม่นางเจ้าค่ะ”
เมือเจียงป่ าวชิงเห็นว่าสาวใช้ไม่ได้มีสีหน้าตืนตระหนกอะไร ทั’งยังบอกว่าให้ไป ทีห้องของหลินยู่หยุนก่อน นางจึงรู้สึกจิตใจมันคงมากขึ ‘นเพราะดูเหมือนว่า อาการประชวรของพระนางเจียฮุ่ยจะไม่ได้รุนแรงถึงขนาดทีว่าต้องรีบไปดู
เมือสาวใช้พาเจียงป่ าวชิงไปทีห้อง หลินยู่หยุนยืนรออยู่ทีประตูทางเข้าแล้ว เมือ นางเห็นร่างของเจียงป่ าวชิงปรากฏขึ’นจากมุมระเบียงทางเดินก็เดินเข้าไปต้อนรับ อย่างร้อนใจโดยทีมือขาวนวลดึงมือเล็กของเจียงป่ าวชิงไปจับไว้อย่างสนิทสนม “ป่ าวชิง ดีจังทีเจ้ามาแล้ว”
เจียงป่ าวชิงมองสํารวจหลินยู่หยุน เมือเห็นว่าสีหน้าขององค์หญิงดีขึ’นกว่าครั’งที แล้วมากก็รู้แล้วว่าปัญหาความเหินห่างระหว่างองค์หญิงกับพระชายาได้รับการ แก้ไขแล้ว นางจึงพูดขึ’นยิ’ม ๆ “องค์หญิงส่งจดหมายมาเชิญข้า ข้าจึงต้องมาเป็ น ธรรมดาเจ้าค่ะ”
สองข้างแก้มของหลินยู่หยุนปรากฏสีแดงเรือออกมาให้เห็น นางดึงมือเจียงป่ าว ชิงอย่างเขินอายเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปในเรือนและพูดขึ’นเสียงเบาไปด้วย “เจ้าเองก็อย่าได้รําคาญข้าเลย ทีข้าคบค้าสมาคมกับผู้คนในยามปกติเป็ นเพียงการ คบค้าสมาคมเพือให้เกียรติกันเท่านั’น ท่านแม่เองก็เคยบอกให้ข้าอยู่ร่วมกับคน เยอะ ๆ เพือฝึ กฝนความกล้าและนิสัยรู้จักวางตัวเวลาเจอผู้คนในแบบต่าง ๆ… แต่ จากทีข้าอยู่ ๆ มา มีแค่เจ้าเท่านั’นทีต่างไปจากคนอืน ไม่รู้ทําไมข้ามักมีความรู้สึก สนิทเหมือนรู้จักกันมานานทุกครั’งทีพบเจ้า”
หลินยู่หยุนเป็ นคนกระดากอายง่าย ไม่บ่อยนักทีนางจะพูดคําพูดทีเจือด้วย ความรู้สึกส่วนตัวเช่นนี’ และเมือเจียงป่ าวชิงได้ฟังก็ตกตะลึงทว่าก็รู้สึกตื’นตันใจ นางกับหลินยู่หยุนถือได้ว่าผ่านเรืองด้วยกันมามาก นางเองก็ดูออกว่าองค์หญิง
เล็กผู้นี’ปฏิบัติกับนางอย่างจริงใจจริง ๆ และในเมือมีผู้อืนมาปฏิบัติดี ๆ ด้วยเช่นนี’ แน่นอนว่านางเองก็จะปฏิบัติกับคนผู้นั’นอย่างจริงใจเช่นเดียวกัน
เจียงป่ าวชิงหัวเราะคิกคักพลางก้มศีรษะรับคําพูดของหลินยู่หยุน “นันเป็ นเพราะ ข้ารูปโฉมงดงามมาก ถึงได้ทําให้องค์หญิงเกิดความรู้สึกสนิทเหมือนรู้จักกันมา นานอย่างนั’นยังไงล่ะเจ้าคะ”
คุณหนูทีถูกเลี’ยงดูอยู่ในห้องลึกอย่างหลินยู่หยุนจะเคยพบเคยเห็นคนทีพูดชม ตัวเองเมืออ้าปากเช่นนี’ทีไหนกัน นางตกตะลึงแต่ก็อดหัวเราะไม่ได้ สุดท้ายก็พยัก หน้าอย่างจริงใจ “อื’ม ดูเหมือนว่าเจ้าจะพูดจามีเหตุมีผลอยู่นะ…”
สาวใช้ชงชากาใหม่ให้หลินยู่หยุนกับเจียงป่ าวชิงแล้ว เจียงป่ าวชิงจึงยกขึ’นมาจิบ เล็กน้อย “ใช่แล้วเจ้าค่ะ องค์หญิงบอกในจดหมายเชิญว่าพระนางเจียฮุ่ยมีอาการ ประชวรเล็กน้อย อาการพระนางเป็ นยังไงหรือเจ้าคะ ข้าน้อยจําได้ว่าเมือไม่นาน มานี’เคยจับชีพจรให้พระนางก็พบว่ากําลังฟื’ นตัวดีอยู่มิใช่หรือเจ้าคะ ?”
เมือพูดถึงสุขภาพร่างกายของพระนางเจียฮุ่ย หลินยู่หยุนถอนหายใจออกมาเบา ๆ
หลังจากทีพระนางเจียฮุ่ยเป็ นอัมพาตครึ งซีก ในภายหลังได้รับยาตามทีเจียงป่ าว ชิงตรวจอาการและเขียนรายการยาทีต้องใช้รักษาไว้ให้ พระอาการจึงค่อย ๆ ดีขึ’น และฟื’ นตัวอย่างช้า ๆ แต่ใครจะไปรู้ว่าตอนทีพระนางกําลังเดินเล่นอยู่ในสวน ก็ ได้ยินเสียงดีดพิณอยู่ไกล ๆ ซึงแรกเริมพระนางหยุดฟังอยู่ครู่หนึง แต่หลังจากที ได้ยินในตอนหลังว่าคนทีดีดพิณคือพระชายารองอิง สีหน้าของพระนางก็ เปลียนเป็ นโกรธแค้นและมีอาการหายใจลําบากในคืนนั’น
เป็ นใครก็ดูออกว่ามีความผิดปกติกับร่างกายของพระนางเจียฮุ่ย แต่ไม่รู้ว่าพระ นางกริ’วผู้ใด
หลินยู่หยุนพูดเสียงเบาอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อย “ข้าเองก็ไม่รู้ว่าควรทํายังไงดี คิดว่า ท่านย่าดีกับเจ้าจึงอยากให้เจ้ามาตรวจอาการสักหน่อย คงต้องขอรบกวนเจ้าด้วย นะ”
ทีแท้ก็เป็ นเช่นนี’นีเอง
ใบหน้าของพระนางเจียฮุ่ยเต็มไปด้วยความเมตตาและสงสาร แต่เจียงป่ าวชิงเคย ได้ยินมาบ้างทีพวกคนในเมืองหลวงเขาว่ากันว่าตอนทียังเยาว์วัย นายท่านหญิง คนนี’ทั’งเข้มแข็งและซือตรง ได้ยินว่าพระนางเคยเป็ นผู้ทีมีความซือตรงถึงขั’นที ฮ่องเต้คนก่อนรู้สึกหวาดเสียวเล็กน้อย ต่อมาบุตรชายของพระนางได้รับการ แต่งตั’งให้เป็นองค์ชายผู้มีอํานาจในเมืองหลวง สถานการณ์ก็ปกติดีอยู่ช่วงหนึงแต่
หลังจากทีฮ่องเต้คนก่อนสิ’นพระชนม์ พระนางกับองค์ชายหย่งชินบุตรชายก็ออก จากวัง ซึงเรืองราวนี’ดึงดูดความสนใจของผู้คนมากทีเดียว
ทั’งสองคนสนทนากันต่ออีกเล็กน้อย จากนั’นหลินยู่หยุนก็ลุกขึ’นพาเจียงป่ าวชิงไป ทีอันหย่วนย่วนทีพักอาศัยของพระนางเจียฮุ่ย
…
วันนี’แดดดีมาก แสงแดดอุ่น ๆ สาดลงมาบนร่างทําให้รู้สึกสบายอย่างยิง ระหว่าง ทางทีเดินผ่าน มีสาวใช้มากมายกําลังยุ่งอยู่กับการตากเครืองนอนและหมอนนุ่ม ๆ อยู่ทีนัน
แต่ในอันหย่วนย่วนกลับแตกต่างไปโดยสิ’นเชิง ภายในว่างเปล่าและเงียบมากจน พวกสาวใช้กลั’นหายใจและเดินเบา ๆ ราวกับกําลังเผชิญหน้ากับศัตรู
หลินยู่หยุนกับเจียงป่ าวชิงมองหน้ากัน และทั’งสองคนก็พากันเดินเบา ๆ ไปด้วย อย่างไม่รู้ตัว
แม่นมกุ้ยเดินถือถ้วยต้มสมุนไพรร้อน ๆ ออกมาจากในห้องนํ’าชาพอดี เมือเงย หน้าขึ’นมาเห็นหลินยู่หยุนกับเจียงป่ าวชิงพาสาวใช้เดินเข้ามาจากประตูทางเข้า นางจึงชะงักงันทว่าจากนั’นก็เดาได้ว่าองค์หญิงเล็กหลินยู่หยุนทีแสนกตัญ;ูคง เชิญเจียงป่ าวชิงมาตรวจดูพระอาการให้พระนาง
นางค่อนข้างดีใจเล็กน้อย รีบส่งถ้วยต้มสมุนไพรบํารุงร่างกายในมือให้กับสาวใช้ ทีอยู่ข้าง ๆ แล้วเดินเข้ามาต้อนรับโดยทีพูดเสียงเบาอย่างไม่รู้ตัว “องค์หญิง หมอ เทวดาเจียง มาเยียมพระนางหรือเจ้าคะ ?”
หลินยู่หยุนพยักหน้าแล้วพูดเสียงเบาเช่นเดียวกัน “อื’ม พระอาการของท่านย่าเป็ น ยังไงบ้าง ?”
แม่นมกุ้ยเผยสีหน้าเป็ นกังวลออกมาให้เห็นเล็กน้อย พระนางยังคงรู้สึกปวดศีรษะ เล็กน้อยเจ้าค่ะ แต่ใบหน้าของพระนางซีดเซียวมาก มีอะไรไม่พูดเอาแต่เก็บไว้ใน ใจทําให้ข้าน้อยร้อนใจจริง ๆ เจ้าค่ะ หมอเทวดาเจียงมาได้เวลาพอดี ลองดูให้ หน่อยได้ไหมจ๊ะว่าตกลงแล้วพระนางเป็นอะไรกันแน่”
เจียงป่ าวชิงพยักหน้า
ตอนทีแม่นมกุ้ยพาหลินยู่หยุนและเจียงป่ าวชิงเข้ามาทีห้องด้านใน ก็เห็นว่า บรรยากาศภายในห้องเงียบสงัดน่าอึดอัดเป็ นอย่างยิง สาวใช้สองสามคนยืนอยู่
ด้านข้างอย่างเงียบ ๆ และดูเหมือนไม่กล้าหายใจแรงด้วยซํ’า ส่วนพระนางเจียฮุ่ย หันหลังให้ผู้คนในท่านอนไม่ขยับตัวอยู่บนเตียงดอกไม้แกะสลักอันวิจิตรงดงาม
แม่นมกุ้ยก้าวเข้าไปด้วยความทุกข์ใจก่อนจะเอ่ยถามเสียงเบา “พระนางเจ้าขา องค์หญิงเล็กกับหมอเทวดาเจียงมาเยียมเจ้าค่ะ พระนางจะว่าอย่างไรเจ้าคะ ?”
พระนางเจียฮุ่ยดูเหมือนขยับกายแต่ไม่ได้หันกลับมา แต่แล้วก็ยกมือขึ’นอย่าง ยากลําบากเพือโบกมือเล็กน้อย ซึงความหมายคือไม่ต้องการพบใครทั’งนั’น…
แม่นมกุ้ยไม่สามารถซ่อนความกังวลใจเอาไว้ได้ แต่ถึงอย่างไรนางก็ไม่กล้าฝ่ าฝื น คําสังของพระนางเจียฮุ่ยจึงหันกลับไปมองหลินยู่หยุนกับเจียงป่ าวชิงทียืนอยู่นอก ม่านไข่มุกและส่ายหน้าเบา ๆ อย่างเป็นกังวล
“ท่านย่า…” หลินยู่หยุนพูดขึ’นอย่างเป็ นทุกข์ พระนางเจียฮุ่ยเหมือนไม่ได้ยินเพราะไม่มีการเคลือนไหวใด ๆ เลย
แต่ในขณะนี’ อันหย่วนย่วนทีเงียบอยู่ตลอดและถึงกับแปลกประหลาดกลับมีเสียง ดังเกิดขึ’น
สีหน้าแม่นมกุ้ยเปลียนไปทันที ก่อนจะรีบสังชิงหวาย “ชิงหวาย เจ้าเฝ้าพระนาง อยู่ทีนี ข้าจะไปดูสถานการณ์ข้างนอก”
ชิงหวายพยักหน้า
แม่นมกุ้ยพูดกับหลินยู่หยุนและเจียงป่ าวชิงอย่างรู้สึกผิด “องค์หญิง หมอเทวดา เจียง ข้าน้อยต้องขอตัวก่อนนะเจ้าคะ ข้าน้อยจะออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ’นเจ้าค่ะ”
ต่อให้หลินยู่หยุนอยู่ทีนี พระนางเจียฮุ่ยก็คงไม่สนใจ นางรู้สึกเป็ นทุกข์ในใจแต่ เมือเห็นว่าแม่นมกุ้ยกําลังจะออกไปดูสถานการณ์ข้างนอก นางก็พูดขึ’น “ข้าไป ด้วย…” และนางก็มองเจียงป่ าวชิงทีพยักหน้ากลับมาให้
ทั’งสองคนเดินตามแม่นมกุ้ยออกไปและเห็นสาวใช้สองสามคนทีด้านล่างระเบียง ทางเดินกําลังพยายามหยุดผู้หญิงทีแต่งกายสวยเพียบพร้อมคนหนึงอย่างสุดชีวิต ผู้หญิงคนนั’นดิ’นรนอย่างทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทั’งหมดยื’อยุดกันจนเกิดเสียงดัง โวยวาย
“ขนาดอยู่ในอันหย่วนย่วนก็ยังจะไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบเช่นนี’ นับว่าเป็ น อะไร!” แม่นมกุ้ยตะคอกอย่างน่าเกรงขาม
แม่นมกุ้ยเป็ นหญิงชราทีติดตามอยู่ข้างกายพระนางเจียฮุ่ยมายาวนาน หลังจากที นางกลับมาจวนนางก็ดูแลอันหย่วนย่วนมาโดยตลอด เมือนางพูดออกมา ในตอนนี’ เสียงเอะอะโวยวายนอกลานบ้านก็ค่อย ๆ เบาลง