แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 511 : ไร้จิตสํานึก
เหล่าซุนถอนหายใจ “พี ข้าเห็นว่าของในบ้านพีจัดวางไว้ดีมาก แต่ทําไมถึงไม่มี อาหารเลยล่ะ ข้าคิดว่าถึงยังไงข้าก็เป็ นแขกและมาทีนีได้สักพักแล้ว แต่พีผู้หญิง เมียพีกลับไม่รินชาหรือเอาผลไม้อะไรมาให้ข้าเลย”
เรืองอย่างการต้อนรับแขกถือเป็ นพื’นฐานทีสุด หากทําไม่ได้ก็เท่ากับว่าเสีย มารยาท เมือถูกชี’แนะออกมาตรง ๆ เช่นนี’เหล่าหนิวก็หน้าแดงกําทันทีและความ
น่าเกรงขามของเขาอ่อนลงไม่น้อยเลย แต่เขากลับยังคงพูดเสียงดังอยู่ตรงนั’น “เมียข้ามีธุระ เจ้าค่อยมาพรุ่งนี’อีกที ข้าจะจัดอาหารว่างแปดอย่างจากร้านเต้าเซียง ชุนให้กับเจ้าเลยเป็ นไง!”
เหล่าซุนตาเป็ นประกาย เขาแสร้งทําเป็ นสนอกสนใจและกดเสียงพูดให้เบาลง “ไอ้โย! ดูเหมือนว่าพีจะเป็นคนมีฝี มือจริง ๆ นีแสดงว่าพีเพิงลงทุนทําอะไร บางอย่างไปแล้วกําลังจะได้ประโยชน์กลับคืนมาในวันพรุ่งอย่างนั’นรึ ? ข้าขอ บอกกับพีอย่างไม่ปิ ดบังเลยว่าข้าเองมีความสามารถแต่กลับไม่มีทีจะแสดง ถ้า หากว่าพีมีเคล็ดลับดี ๆ ในการหาเงินก็สอนข้าหน่อยได้ไหม ?”
แววตาเลือมใสทีเหล่าซุนมองมาทําให้เหล่าหนิวผู้ซึงมีชีวิตอยู่มาจนอายุปูนนี’และ ยังไม่เคยเห็นแววตาทีมองมาอย่างเลือมใสแบบนี’ทีไหนเลยรู้สึกตืนเต้นมาก ความ ภาคภูมิใจทีอยู่ในใจของเขาพลุ่งพล่านอย่างมาก
เหล่าหนิวหัวเราะคิกคัก “น้องเหล่าซุน ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากสอนเจ้า แต่การลงทุน นี’แทบไม่ต้องเหนือย เจ้าน่ะทําไม่ได้หรอก”
เคราเลขแปดของเหล่าซุนกระตุกเล็กน้อย เขาขยับเข้าไปใกล้เหล่าหนิวอย่าง รีบเร่ง “พี พูดตรง ๆ แบบไม่ปิ ดบังเลยนะ การเก็บเกียวทีหมู่บ้านเคยไม่ดีมาก่อน ซึงข้าเองก็เคยใช้วิธีทีไม่ค่อยดีในการเอาตัวรอดมาก่อนเหมือนกัน พีบอกข้าเถอะ ว่าพีลงทุนทําอะไรไป ?”
วันนี’เหล่าหนิวดืมมาจนเมามาย เขาเหลือสติเพียงน้อยนิดเท่านั’นและยิงก่ อนหน้า นี’เขาเพิงถูกชายวัยกลางคนเคราเลขแปดคนนี’พูดชมจนตัวลอย ความระแวดระวัง ต่อเหล่าซุนคนนี’จึงลดลงมาก ในทีสุดเขาก็พูดออกมา “น้องเหล่าซุน ไม่ใช่ว่าข้า ไม่อยากบอกเจ้านะ… แต่เจ้าไม่มีญาติพีน้องทีรํารวยทรงอิทธิพล…”
เหล่าซุนตืนเต้น ในทีสุดคนเลวก็คายความจริงออกมาบ้างแล้ว เขากําลังจะถาม เพิมอีกทว่ าทันใดนั’นเหล่าหนิวกลับคอพับคอตกและล้มนอนลงไปบนเตียงซะ อย่างนั’น
เหล่าซุนเขย่าตัวเหล่าหนิว เมือเห็นว่าอีกฝ่ ายนอนกรนโดยไม่มีทีท่าจะตืนง่าย ๆ เขาก็ส่ายหน้าก่อนจะเดินออกจากบ้านโดยทีไม่ลืมปิ ดประตูให้ด้วย
แม้พูดออกมาไม่หมดแต่เพียงแค่นี’ก็พอ จากคําพูดเหล่าหนิว แสดงว่าครอบครัว ของเจียงเอ้อยามีส่วนเกียวข้องกับเรืองการลักพาตัวเจียงฉิงจริง ๆ นีถือว่าพีถูสัง ให้เขามาสืบหาได้ถูกคน
เหล่าซุนฮัมเพลงเดินออกไปจากหน้าบ้านของเจียงเอ้อยา
……
พระอาทิตย์คล้อยลงใกล้ตกดิน แต่คนทีนัดกันไว้ว่าจะนําเงินมาส่งก็ยังคงไม่มา เจียงเอ้อยานังไม่ ติดทีมาพักใหญ่แล้ว ตะวันคล้อยเช่นนี’นางยิงนั งไม่ ติด เอาแต่ เดินไปเดินมาอยู่ในบ้านอย่างต่อเนืองด้วยสีหน้าวิตกกังวล
เหล่าหนิวเดินนวดขมับออกมาจากในห้องแล้วพูดขึ’นเสียงดัง “หิวนํ’า นํ’าล่ะ
?!”
ตอนนี’เจียงเอ้อยากําลังร้อนใจ นางจะมีเวลาไปสนใจเขาทีไหนกันจึงมองตาขวาง ใส่เขาและพูดขึ’นอย่างไม่สบอารมณ์ “มีอยู่ในเหยือกนํ’า เจ้าไปเอามาดืมเองสิ!”
เหล่าหนิวกระทืบเท้าเข้าไปในครัว ตักนํ’าในเหยือกและเงยหน้าดืมจนหมดเกลี’ยง จากนั’นก็เช็ดปากพลางเอ่ยถามเจียงเอ้อยา “เงินถึงมือแล้วหรือยัง ?”
พูดถึงเรืองนี’เจียงเอ้อยายิงไม่ สบอารมณ์มากกว่าเดิม “เหอะ! นีเจ้ายังสนใจเรือง เงินอยู่อีกรึ ?! ข้าเห็นเจ้านอนตลอดทั’งบ่ายเลยคิดว่าเจ้าลืมไปแล้วเสียอีก!”
เห็นท่าทางฉุนเฉียวของเจียงเอ้อยา เหล่าหนิวก็รู้แล้วว่ายังไม่มีใครนําเงินมาส่ง นันทําให้สีหน้าเขาเปลียนไปทันที “อะไรนะ! จนป่ านนี’แล้วยังไม่นําเงินมาส่งอีก เรอะ คนทีเจ้าหามานันมันเชือถือได้หรือเปล่ า คงไม่ใช่ว่าเชิดเงินหนีไปแล้วหรอก นะ”
สีหน้าเจียงเอ้อยาเปลียนไปทันที คําพูดประชดทีเหล่าหนิวพูดกลับเป็ นการเตือน นาง หัวผีคนนั’นกลับกลอกมาก หรือว่าหนีไปกับเงินแล้วจริง ๆ! นางรู้เพียงว่า พวกเขาเคยทําความผิดมาแล้วหลายหน พวกเขาคงไม่สนใจถ้าหากว่าจะทําเรือง เลวร้ายเพิมอีกสักเรือง
เจียงเอ้อยายิงคิดก็ ยิงตกใจ “ไม่ได้การ ข้าต้องไปดูหน่อยแล้ว”
เรืองเงินเรืองใหญ่ แน่นอนว่าเจียงเอ้อยาไม่กล้าให้เหล่าหนิวไปดู มิเช่นนั’น ไม่แน่ เขาอาจแอบนําเงินไปกินดืมเทียวอีกก็ได้ นางหยิบเสื’อคลุมมาสวมอย่างรีบเร่ง ก่อนจะผลุนผลันเปิ ดประตูบ้านออกไป ทว่า…
เจียงป่ าวชิงยืนอยู่นอกประตูและกําลังยกมือทําเหมือนว่าจะเคาะประตู!
ทันทีทีเจียงเอ้อยาเห็นเจ้าทุกข์อย่างเจียงป่ าวชิงนางจึงใจฝ่ อเป็ นธรรมดา ขาทีก้าว อย่างรีบเร่งเมือครู่พลันก้าวถอยหลังและใบหน้าก็ขาวซีด
อย่างไรก็ตาม นางชอบยกตนข่มเจียงป่ าวชิงมาแต่ไหนแต่ไร ตอนนี’ก็ยังคงเป็ น เช่นนั’น นางพูดขึ’นอย่างแข็งกระด้าง “เจ้ามาทําอะไรทีนี ?”
เจียงป่ าวชิงไม่สนใจเจียงเอ้อยา นางเดินอ้อมเจียงเอ้อยาแล้วตรงเข้าไปในบ้าน
เจียงเอ้อยารู้สึกขาดความมันใจอย่ างมาก ตอนนี’นางจึงไม่ยอมให้เจียงป่ าวชิงเข้า บ้าน แต่นางเห็นว่าเจียงป่ าวชิงพาชายหนุ่มรูปงามมาด้วยคนหนึงซึงชายหนุ่มคน นั’นดูไม่ได้ตืนตระหนกและไม่เหมือนว่าพากันมาเอาเรืองอะไรทํานองนั’น นาง พยายามสงบสติอารมณ์ทีแตกกระเจิงของตัวเองแล้วหมุนตัวกลับไปขวาง ตรงหน้าเจียงป่ าวชิง
“ไอ้โยคุณหนูใหญ่เจียง เจ้าเป็ นแขกผู้มีเกียรติ บ้านหลังเล็กของเราไม่รองรับเจ้า หรอก เชิญกลับไปให้เร็วเถอะ”
เด็กน้อยหนิวหวาไม่รู้ว่าเจียงป่ าวชิงเป็ นใคร เขารู้เพียงว่าเจียงป่ าวชิงเป็ น “คน เลว” ทีโยนครอบครัวของพวกเขามายังบ้านเล็ก ๆ แห่งนี’ เขาจึงโบกหมัดไปหา เจียงป่ าวชิง “ไสหัวออกไปเลยนะไอ้ผู้ใหญ่ใจร้าย!”
เจิ’งหนานหยุดหนิวหวาด้วยสีหน้าราบเรียบ นางโยนเด็กหนิวหวาใส่ในอ้อมกอด ของเหล่าหนิวแล้วพูดเตือนเสียงเข้ม “ดูลูกเจ้าให้ดี ถ้ามีครั’งหน้าอีกข้าจะโยน ออกไปข้างนอกอย่างไม่เกรงใจ”
เจียงเอ้อยาถลึงตาอย่างไม่พอใจ “พวกเจ้ามันไร้จิตสํานึก ทําได้แม้กระทังเด็ก เล็ก!”
เจียงป่ าวชิงทีไม่ได้พูดอะไรมาตลอดค่อย ๆ หัวเราะออกมาในตอนนี’ “หึ ๆ นีเจ้า ว่าข้า ‘ไร้จิตสํานึก’ อย่างนั’นรึ ?” นางพูดสีคํานี’ซํ’าอย่างใคร่ครวญ “ทีแท้เจ้า เองก็รู้จักคําว่าไร้จิตสํานึกเหมือนกันหนิ”
เจียงเอ้อยาสังหรณ์ใจไม่ดี นางก้าวถอยหลังอย่างไม่ตั’งใจและมองเจียงป่ าวชิงด้วย ท่าทางเลิกลัก “เจ้าหมายความว่าไง ?!”
เจียงป่ าวชิงไม่สนใจแต่เลือกทีจะหันไปพูดกับเจิ’งหนานแทน “เจิ’งหนาน ถ้าหาก ว่าเจ้าเคยเป็ นขอทานทีขอข้าวคนอืนกิน พลัดทีนาคาทีอยู่และใช้ชีวิตอย่าง ยากลําบากมาก่อน แล้วจู่ ๆ ก็มีคนให้บ้านพร้อมทั’งจัดเตรียมเรืองอาหารให้กับเจ้า เจ้าจะทํายังไง ?”
เจิ’งหนานครุ่นคิดก่อนจะพูดอย่างจริงจัง “ข้าจะยกให้เขาเป็ นผู้มีพระคุณของข้า ไปตลอดชีวิต และข้าจะตอบแทนเขาอย่างดีไปตลอดชีวิตของข้า”
เจียงป่ าวชิงมองเจิ’งหนาน “ก็นันน่ ะสิ คนปกติเขาคงคิดกันแบบนี’แหละ อันทีจริง ข้าเองเคยทําความดีทํานองนั’นให้ขอทานบางคนแถวนี’ด้วยนะ ซึงข้าเองก็ไม่ได้
ขอให้อีกฝ่ ายตอบแทนแต่อย่างใด แค่ใช้ชีวิตอยู่ให้ดี ๆ และอย่ามาสร้างปัญหาให้ ข้าก็แค่นั’น เงือนไขเล็กน้อยแค่นี’แต่ทําไมถึงยังมีคนทําไม่ได้อีก แล้วไม่เพียงแต่ ทําไม่ได้เท่านั’น ยังจะมาแว้งกัดข้าด้วย”
เจิ’งหนานพูดขึ’นอย่างไร้อารมณ์ “อาจเป็ นเพราะฝ่ ายนั’นเนรคุณชัวช้าเกิ นไปเลย ไม่รู้จักตอบแทนบุญคุณคนกระมังขอรับ”
เจียงเอ้อยาหน้าถอดสี ในหัวนางเต็มไปด้วยความคิดทีว่า “หรือเจียงป่ าวชิงจะรู้ แล้ว” นางจับแขนเหล่าหนิวไว้แน่น เนื’อตัวสันเทาแต่ก็พยายามฝื นยิมและพูด ‘ ขึ’น “ป่ าวชิง เจ้าพูดเรืองอะไรข้าไม่เข้าใจ”
เจียงป่ าวชิงมองเจียงเอ้อยาด้วยแววตาเย็นยะเยือก มองจนอีกฝ่ ายสะดุ้งโหยง เหมือนถูกกระตุ้น
ในทีสุดเจียงเอ้อยาก็เข้าใจได้ว่า… เจียงป่ าวชิงรู้แล้วแน่ ๆ!