แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 520 : อันตรายมาก
ตอนนี’ข่าวเรืองพระชายาตั’งครรภ์คงจะยังมาไม่ถึงทีนี เพราะอันหย่วนย่วนยังคงมี บรรยากาศอึมครึมเงียบสงัด
ท่ามกลางบรรยากาศเช่นนี’ ใครบ้างจะไม่รู้สึกจิตใจหดหู่สิ’นหวัง
เจียงป่ าวชิงส่ายหน้า นางสังให้สาวใช้เข้าไปรายงานอยู่ทีห้องหลัก ผ่านไปไม่นาน แม่นมกุ้ยก็ออกมาต้อนรับอย่างรีบร้อนและจับมือเจียงป่ าวชิงพลางเอ่ยถามยก ใหญ่ “หมอเทวดาเจียงจ๊ะ ทางฝังของพระชายาไม่เป็ นอะไรแล้วใช่ไหม ? หลังจากทีข้าน้อยกลับมาก็รู้สึกอกสันขวัญหายอยู่ตลอดเลยจ้ะ”
เจียงป่ าวชิงเม้มปากยิม’ “ทางนั’นไม่เป็ นไรแล้วจ้ะ แต่ข้ายังมีอีกหนึงข่าวดีทีต้อง บอกกับพระนางเจียฮุ่ยด้วยจ้ะ ไม่แน่เรืองนี’อาจทําให้พระนางเจียฮุ่ยดีขึ’นได้นะ จ๊ะ”
แม่นมกุ้ยดีใจมาก นางรีบพาเจียงป่ าวชิงเข้าไปทีห้องด้านในทันที
พระนางเจียฮุ่ยนอนราบอยู่บนเตียงและมองยอดของเตียงด้วยสีหน้าสงบเงียบ หากไม่ใช่เพราะยังมีลมหายใจทีอ่อนแอ คนอืน ๆ คงจะคิดว่าพระนาง
สิ’นพระชนม์ไปแล้ว
เจียงป่ าวชิงก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดขึ’นเสียงเบา “พระนางเจียฮุ่ยเจ้าคะ มีข่าวดีที ข้าน้อยต้องบอกกับพระนางเจ้าค่ะ… พระชายาตั’งครรภ์ได้สองเดือนแล้วเจ้าค่ะ”
ข่าวนี’สันสะเทือนเลือนลันทั วทั ‘งจิตใจของพระนางเจียฮุ่ย รวมทั’งแม่นมกุ้ยและ พวกคนรับใช้ทีอยู่ทีนันต่ างก็เผยสีหน้าดีใจออกมาให้เห็นกันถ้วนหน้า
นีเป็ นเรืองทีดีมาก!
ในจวนไม่มีเรืองน่ายินดีเช่นนี’มาเป็ นเวลากว่าสิบปี แล้ว อีกอย่าง ผู้ทีตั’งครรภ์ยัง เป็ นพระชายาอีกด้วย
ในทีสุดพระนางเจียฮุ่ยก็ขยับกาย เอียงศีรษะกลับมามองเจียงป่ าวชิง
เจียงป่ าวชิงเห็นว่ามีความหวังแล้วจึงแสร้งทําเป็ นถอนหายใจอย่างลําบากใจ จากนั’นก็พูดขึ’น “เกรงว่าพระนางไม่รู้ว่าสถานการณ์ของพระชายาเมือสักครู่นั’น อันตรายมากเลยเจ้าค่ะ พระนางถูกองค์ชายเข้าใจผิดว่าเป็ นคนวางยาทีไม่ทําให้ ท้องกับพระชายารองอิง และเป็ นลมหมดสติไปแล้วเจ้าค่ะ… พระชายาใกล้จะสี สิบปี แล้ว ยังต้องมาขัดแย้งกับองค์ชายด้วยเรืองพระชายารองอิงอีกในตอนนี’ มัน จึงเป็นเรืองยากทีจะพูดเกียวกับทารกองค์นี’เจ้าค่ะ…”
พระนางเจียฮุ่ยเบิกตากว้างทันที
เจียงป่ าวชิงจึงเพิมไฟลงไปอีก “พระนางดูสิเจ้าคะ พระนางเองก็ทรงประชวร ตอนนี’พระชายาตั’งครรภ์และไม่มีเวลาดูแลตัวเอง แบบนี’ต่อไปในจวนก็จะตกเป็ น โลกทั’งใบของพระชายารองอิงไม่ใช่หรือเจ้าคะ ? นัน… ช่ างน่าสงสารองค์ชาย หลินยู่ถิง องค์หญิงหลินยู่หยุน และหลานชายหรือหญิงทียังไม่ไม่เกิดของพระ นางจริง ๆ เจ้าค่ะ เฮ้อ…”
คําพูดนี’เหมือนเป็ นการจุดประกายจิตวิญญาณการต่อสู้ของพระนางเจียฮุ่ย เจียง ป่ าวชิงเพียงรู้สึกว่าลึกในดวงตาของพระนางฟื’ นฟูเจตจํานงทีจะอยู่รอดขึ’นมาบ้าง แล้ว ไม่นานพระนางก็อ้าปากอย่างยากลําบากและเปล่งเสียงอ่อนแอออกมาว่า “นํ’า…”
เมือแม่นมกุ้ยทีคอยปรนนิบัติอยู่ด้านข้างได้ยินเสียงนี’ ก็เหมือนกับความแห้งแล้ง ได้พบเจอกับนํ’าหลังจากทีแห้งแล้งมาเป็ นเวลานาน นางรีบขานรับและเตรียมไป เอานํ’ามาอย่างดีใจ “ข้าน้อยจะ… จะไปรินนํ’าให้พระนางเดีAยวนี’เจ้าค่ะ”
เจียงป่ าวชิงรู้สึกโล่งใจ ณ ตอนนี’สีหน้านางยิมแย้ม ‘ “ถ้าอย่างนั’นข้าน้อยขอ ล่วงเกิน ขอจับชีพจรให้กับพระนางหน่อยนะเจ้าคะ”
สภาพชีพจรของพระนางเจียฮุ่ยอ่อนแอมาก ประกอบกับเดิมทีพระนางอยู่ในช่วง พักฟื’ นอยู่แล้ว แต่กลับหยุดยาอย่างเอาแต่ใจตัวเองซะอย่างนั’น สภาพชีพจรเดิมที ค่อย ๆ ดีขึ’นนั’นจึงกลับมาอยู่ในขั’นอันตรายอีกครั’ง เจียงป่ าวชิงถึงกับต้องแอบพูด ในใจว่านีมันอันตรายมาก
ถ้าหากว่าคิดแผนการรับมือได้ช้ากว่านี’ เกรงว่าร่างกายของพระนางเจียฮุ่ยคงถูก ทําลายจนถึงทีสุดไปแล้ว
ยุ่งอยู่ทีจวนองค์ชายหย่งชินเกือบทั’งวัน เจียงป่ าวชิงเมือยจนต้องทุบเอวตัวเองใน ตอนทีนังรถม้ากลับจวนเจียง
มีแขกไม่ได้รับเชิญสองคนมาทีจวนเจียง และเจียงฉิงกําลังนังเป็ นเพือนแขกอยู่ ที นันด้วยใบหน้าทีออกจะบึ ‘งตึง บรรยากาศภายในบ้านก็แลดูตึงเครียดมากเช่นกัน
เจียงป่ าวชิงไม่คิดว่ากงหว่านจากบ้านสองและกงจิ’งจากบ้านสามทีเป็ น ลูกพีลูกน้องของกงจี’จะมาทีนี
กงหว่านยิมราวกั ‘ บดอกไม้แรกแย้ม “แม่นางเจียงออกไปข้างนอกมารึ ? เป็น สาวน้อยทีกําลังเตรียมตัวแต่งงานแต่กลับออกไปข้างนอกบ่อย ๆ ดูเหมือนจะไม่ ค่อยดีเท่าไหร่เลยนะ”
มาถึงก็พูดเหน็บแนมกันเสียแล้ว ไม่แปลกใจเลยทีเจียงฉิงจะหน้าบึ’งหน้าตึงขนาด นั’น ดูเหมือนว่านางรับมือมานานจนหงุดหงิดแล้ว
เจียงป่ าวชิงยิมน้อย ๆ ‘ “อ้อ แม่นางสองหมายความว่าเป็ นเรืองผิดทีข้าไปตรวจ พระอาการให้กับพระนางเจียฮุ่ยของจวนองค์ชายหย่งชินอย่างนั’นสิ ?”
สีหน้ากงหว่านเปลียนไปทันที ทันใดนั’นกงจิ’งพูดขึ’นได้ถูกเวลาพอดี “แม่นาง เจียงเข้าใจพีกงหว่านผิดแล้วจ้ะ พีกงหว่านก็แค่หวังดีและเป็ นห่วงว่าวันออกเรือน เหลืออีกไม่กีวันแล้ว กลัวว่าแม่นางเจียงจะมีตรงไหนทียังไม่ได้เตรียมก็เท่านั’นเอง จ้ะ”
กงหว่านจัดการกับสีหน้าของตัวเองใหม่อีกครั’ง ก่อนจะพูดขึ’นยิม ๆ ‘ “ใช่ ๆ ๆ เป็ นเช่นนั’นแหละจ้ะ เพราะถึงยังไง ในบ้านของแม่นางเจียงก็ไม่มีผู้ใหญ่ทีคอย จัดการดูแลบ้านเรือน และคิดว่าคงจะไม่เข้าใจในบางสิง เราก็เลยมาออกแรง ช่วยน่ะจ้ะ”
เจียงฉิงเริมหน้าเขียวเล็กน้อย นีไม่เท่ากับกําลังบอกอย่างโจ่งแจ้งว่าพีสาวของนาง เป็ นเด็กไม่มีแม่จึงไม่เข้าใจกฎระเบียบหรอกรึ
ครอบครัวทีพีสาวของนางกําลังจะแต่งเข้าไปคือครอบครัวทีมีนิสัยแบบนี’หรือไง
?!
เจียงฉิงทีรู้สึกดีใจกับการแต่งงานของเจียงป่ าวชิงเสมอมาเกิดข้อสงสัยอย่างลึกซึ’ง เป็ นครั’งแรก
เจียงป่ าวชิงเคยเห็นคนเหล่านี’แสดงละครต่อหน้าท่านย่าของกงจี’ นางจึงมีความ เข้าใจคนเหล่านี’ในใจและนางไม่ได้แปลกใจอะไร เพียงแค่ยิมให้อีกฝ่ ายและโต้ ‘ กลับอย่างไม่ใส่ใจนัก “แม่นางสองและแม่นางสามเองก็เป็ นเด็กสาวทียังไม่ออก เรือนเช่นกัน ข้าคิดว่าก็คงจะไม่เข้าใจบางสิงเช่นกัน”
นีเหมือนเป็นการบอกไปตรง ๆ ว่าพวกเจ้าเองก็ยังไม่ได้แต่งงาน จะมาทําตัวรู้มาก ทําไมทีนี
สีหน้ากงหว่านและกงจิ’งเปลียนไปทันที
แต่เจียงป่ าวชิงไม่หยุด นางพูดเสริมอย่างเอ้อระเหยอีกครั’ง “แต่นีไม่ได้เป็ นเรือง น่ากังวลอะไร เนืองจากการแต่งงานครั’งนี’ฮ่องเต้พระราชทานให้โดยตรง และข้า ได้ยินพีชายใหญ่ของพวกแม่นางบอกว่าจะมีแม่นมจากในวังมาให้คําแนะนํา ก่อนทีจะเข้าพิธีแต่งงาน เอาเป็ นว่าข้าไม่ต้องรบกวนแม่นางทั’งสองหรอกจ้ะ”
กงหว่านและกงจิ’งนังรอมาเป็ นเวลาตั ‘งสองก้านธูป ทว่าในทีสุดพวกนางก็ต้องพา กันกลับไปโดยไม่ประสบความสําเร็จ
ตอนทีเจียงฉิงส่งแขกในตอนท้าย ไม่ต้องถามเลยว่าสีหน้าของนางทีใช้มองกง หว่านนั’นจะรู้สึกสบายใจแค่ไหน
แต่ก่อนทีกงหว่านจะกลับก็มีเรืองเล็ก ๆ น้อย ๆ เกิดขึ’น พวกนางบังเอิญได้พบ กับเจียงหยุนชานและเผยหยู่เจ๋อตรงประตูทางเข้าจวนเจียงพอดี
ทั’งสองฝ่ ายต่างชะงักงัน เจียงฉิงจึงรีบอธิบายว่านีคือสองแม่นางจากตระกูลกง
เมือพูดถึงตระกูลกง เจียงหยุนชานเข้าใจได้ทันที นีคงจะเป็ นน้องสาวสามีใน อนาคตของน้องสาวของเขากระมัง
สีหน้าเผยหยู่เจ๋อหม่นลงเล็กน้อย เขาเบียงสายตาไปทางอืนเพราะถึงอย่างไร มัน จะเป็ นการเสียมารยาททีจ้องมองแขกผู้หญิงของจวนคนอืน ซึงนันทําให้เขาไม่ รู้ เลยว่าสายตาของแขกผู้หญิงฝังตรงข้ามทีใช้มองเขานั’นมีความเร่าร้อนดังไฟแค่ ไหน
……
กงหว่านนังอยู่ ในรถม้าและยังคงอดไม่ได้ทีจะเลิกม่านหน้าต่างรถม้าเพือมองดู เผยอยู่เจ๋อคนนั’น
กงจิ’งเตือนเสียงเบา “พี คุณชายคนนั’นคงจะเข้าไปในบ้านแม่นางเจียงแล้วล่ะ”
กงหว่านปล่อยม่านรถในมือลงอย่างใจคอเหียวแห้งประหนึงเป็นเด็กผู้หญิงทีมี อารมณ์รักข้างเดียว นางพูดพึมพําด้วยใบหน้าทีแดงกํา “เขา… เขารูปงามจริง ๆ ไม่รู้ว่าเป็ นคุณชายจากตระกูลไหนกันถึงได้หล่อเหลาเพียงนี’…”
กงจิ’งลังเลเล็กน้อย ในทีสุดก็เอ่ยถาม “พีสาวหมายถึงคุณชายในชุดเสื’อคลุมสีขาว พระจันทร์ทีสวมหมวกหยกเขียวคนนั’นรึ ?”
กงหว่านมองกงจิ’งอย่างไม่สบอารมณ์ “แหงสิ ข้าคงไม่ได้หมายถึงพ่อหนุ่มเจียง คนนั’น คนทีไม่มีพื’นฐานทางครอบครัวเช่นนั’นน่ะ ไม่มีใครชอบหรอก”
กงจิ’งหลุบตาลง “ถ้าอย่างนั’นข้ารู้คร่าว ๆ แล้วว่าเขาเป็ นคุณชายจากตระกูล ไหน”
กงหว่านรู้สึกกระปรี’ กระเปร่าขึ’นมาทันทีและเผลอจับแขนกงจิ’งอย่างแรง “เขา เป็ นใคร ?!”
กงจิ’งแอบเจ็บทีแขนแต่ก็ฝื นยิมให้อีกฝ่ าย มีแสงประกายเจ้าเล่ ‘ ห์ทียากจะคาดเดา ได้ฉายวาบอยู่ในแววตาของนางขณะทีนางพูดพึมพําเสียงเบา “พี เขาน่ะเป็ นคน ดังในเมืองหลวงเลยนะ”