แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 524 : พ่อเสียชีวิตแล้ว
นีคือเสียงของหลิวหมิงอันผู้เป็นพีชายของหลิวจิ’งอีA
ซูรุ่ยเอ๋อร์เคยเห็น “พีชายของสามี” คนนี’ นางอยากออกไปดูสถานการณ์ด้วย ความกังวลแต่เจียงป่ าวชิงกลับกดนางลง “เจ้าดูหยวนหยวนอยู่ในบ้านนีแหละ ข้าจะออกไปดูเอง”
ซูรุ่ยเอ๋อร์พยักหน้าอย่างเป็ นกังวล
เจียงป่ าวชิงผลักประตูออกไปก็เห็นหลิวหมิงอันมองนางอย่างคาดไม่ถึงราวกับไม่ คิดว่านางจะอยู่ทีนีด้วย
“เบา ๆ เสียงหน่อย หยวนหยวนนอนอยู่” เจียงป่ าวชิงพูดขึ’น
เมือพูดถึงหยวนหยวน รอยยิมบนใบหน้าของหลิวหมิงอันมีมากขึ ‘ ‘น “หลานชาย ข้ากําลังนอนอยู่รึ… ได้ ๆ ๆ”
หลิวจิ’งอีAทีอยู่ในครัวเช็ดมือแล้วเดินออกมาด้านนอก “พีมีธุระอะไร ? ถ้ามีธุระ อะไรก็รีบพูดมา เพราะข้ายังต้องทํากับข้าวให้รุ่ยเอ๋อร์อีก”
เมือหลิวหมิงอันเห็นท่าทางเช่นนี’ของหลิวจิ’งอีAเขาก็รู้สึกไม่พอใจจึงมองสํารวจ น้องชายแล้วพูดขึ’นอย่างหงุดหงิด “เมือสองสามวันก่อนมีพ่อบ้านจากบ้านเรามา ทีนีพวกเขาถูกเจ้าด่ากลับไปทั’งหมดเลยรึ ?”
หลิวจิ’งอีAมีท่าทีประมาณว่าก็สมควรทีจะเป็ นเช่นนั’นอยู่แล้ว “ลองพีได้ฟังคําพูด เลว ๆ ทีพวกนั’นพูดสิ พูดเหมือนว่าการให้รุ่ยเอ๋อร์เข้ามาเป็ นเมียน้อยถือเป็ นความ เมตตาทียิงใหญ่แล้ว ถ้าข้าไม่ด่าพวกเขาแล้วจะให้ข้าไปด่าใครล่ะ!”
หลิวหมิงอันถลึงตาใส่หลิวจิ’งอีAอย่างเหี’ยมโหด รอยแผลเป็ นของเขายาวไปกว่า ครึงหน้าจึงทําให้เขาดูดุร้ายหน่อย ๆ “เอาล่ะ อย่าแสร้งทําเป็ นไม่รู้ไม่ชี’หน่อยเลย พวกเขาก็แค่คนส่งข้อความ เจ้าด่าพวกเขาก็เท่ากับว่ากําลังด่าแม่ของเจ้าเองไม่ใช่ หรือไง แม่อายุมากแล้ว เมือได้ฟังคนมารายงานเรืองเกียวกับเจ้าในช่วงไม่กีวันที ผ่านมาก็เอาแต่ร้องไห้ ส่วนพ่อก็อยากฟันเจ้าให้รู้แล้วรู้รอด!”
เมือพูดถึงพ่อแม่ก็มีความละอายใจฉายวาบขึ’นมาบนใบหน้าของหลิวจิ’งอีA เขาเม้ม ปากก่อนจะพูดขึ’น “พี เมือก่อนพีไม่ชอบทีข้าไม่ทําเรืองทีถูกต้อง ไม่รับผิดชอบ และเป็ นลูกหลานของตระกูลรํารวยทีว่างการว่างงานไปวัน ๆ ไม่ใช่รึ ? ตอนนี’ รุ่ยเอ๋อร์กับหยวนหยวนคือความรับผิดชอบของข้า ถ้าข้าไม่สนใจพวกเขาแล้วจะ ให้ข้าทํายังไง ?!”
“ใครใช้ให้เจ้าไม่สนใจพวกนางล่ะ” หลิวหมิงอันรู้สึกเซ็ง “ความฉลาดตอนที เจ้าเรียนหนังสือเมือก่อนไปไหนหมด ? ข้าไม่มีข้อโต้แย้งอะไรถ้าหากว่าเจ้า อยากให้ซูรุ่ยเอ๋อร์เข้ามาเป็ นภรรยาหลัก แต่ติดอยู่อย่าง เจ้าช่วยดึงสถานการณ์ กลับคืนมาให้มันดีดังเดิมได้ไหม ไอ้ทีเจ้าทําต่อต้านคนในบ้านมันเป็นปัญหาไป หมดและตอนนี’แม่โมโหเจ้าจนป่ วยแล้ว นีเป็ นสิงทีลูกชายอย่างเจ้าควรทํารึ ?”
หลิวจิ’งอีAเงียบ ผ่านไปสักครู่เขาถอนหายใจออกมายาว ๆ “พี ถ้าข้าไม่เด็ดเดียวพอ เมือถึงตอนนั’นเกรงว่ารุ่ยเอ๋อร์กับหยวนหยวนก็คงไม่สามารถพบหน้ากันได้อีก และถ้าไม่ใช่เพราะข้าพูดคําพูดแรง ๆ ว่าถ้าพวกเขามาแย่งลูกไป ข้าก็จะสู้แลก ชีวิตกับพวกเขาแบบนั’น เกรงว่าตอนนี’ข้าคงถูกคนทีบ้านจับกลับไปแล้ว”
“สู้แลกชีวิต…” หลิวหมิงอันหัวเราะ “เจ้าช่างเก่งในเรืองข่มขู่คนอืนจริง ๆ! ไม่ แปลกใจเลยทีช่วงนี’แม่ร้องไห้จนเป็ นลมไปตั’งสองครั’งสองครา”
หลิวจิ’งอีAกัดฟัน “ความซือสัตย์และความมีสัจจะนั’นยากทีจะทําให้สมบูรณ์ได้ทั’ง สองอย่าง ถึงยังไงแม่ก็ยังมีพีอยู่ข้างกายและยังมีญาติพีน้องมากมายอย่างเช่นพ่อ กับพวกปู่ ย่า แต่รุ่ยเอ๋อร์กับหยวนหยวนมีเพียงข้าคนเดียว ข้าไม่สามารถทอดทิง’ พวกนางสองแม่ลูกได้”
ดังนั’น ตราบใดทีตระกูลหลิวปฏิเสธไม่ยอมรับซูรุ่ยเอ๋อร์กับลูก หลิวจิ’งอีAก็จะทํา ผิดต่อตระกูลหลิวของตัวเขาเอง
คําพูดนี’หลิวจิ’งอีAไม่ได้พูดออกไป แต่หลิวหมิงอันก็เข้าใจได้
เมือเห็นท่าทางเด็ดเดียวของน้องชาย หลิวหมิงอันรู้สึกปวดศีรษะเล็กน้อย ครอบครัวถูกจํากัดด้วยความคิดทีว่าถือผลประโยชน์ของกลุ่มเป็ นสําคัญ ไม่ว่าจะ
พูดอย่างไรพวกเขาต่างก็ไม่ยอมรับซูรุ่ยเอ๋อร์ แล้วตอนนี’หลิวจิ’งอีAเองก็ดื’อรั’ น เห็น ทีว่าเขาคงทําได้เพียงกลับไปพูดกล่อมแม่ของเขาให้ดี ๆ เสียแล้ว
หลิวหมิงอันคิดหาวิธีในใจ พลันสายตาของเขาเลือนไปจับจ้องเจียงป่ าวชิงและ เอ่ยทักทาย “สวัสดีพีสะใภ้ตัวน้อย”
เมือหลิวหมิงอันพูดคํานี’ออกไป เจียงป่ าวชิงก็ตัวสันพลางมองเขาอย่างระมัดระวัง “เจ้าอยากพูดอะไรก็พูดมาตรง ๆ ไม่ต้องประจบประแจง”
หลิวหมิงอันเลิกคิ’ว “เฮ้! ช่วยไม่ได้ ก็ข้ามีเรืองอยากขอร้องเจ้า ประจบสักหน่อย ถือว่าดีเสมอ… เอาล่ะ ข้าไม่พูดนอกเรืองอะไรมากมาย สะใภ้ตัวน้อยเจ้ามีเวลา ว่างตอนไหนรึ ? ช่วงนี’แม่ข้าร้องไห้จนเป็ นลมไปถึงสองครั’ง หมอหลวงในวังก็ บอกให้นางรักษาตัวให้ดี ๆ อันทีจริงก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ถ้าหากว่าเจ้าพอมี เวลาว่าง ข้าก็อยากขอให้เจ้าช่วยไปตรวจอาการให้แม่ข้าทีบ้านหน่อยได้หรือไม่
?”
หลิวจิ’งอีAมองเจียงป่ าวชิงอย่างประหม่า
เจียงป่ าวชิงถอนหายใจอย่างจนปัญญา “โดยปกติแล้วการร้องไห้จนเป็ นลมล้วน เกิดจากหายใจติดขัดชัวขณะและอารมณ์แปรปรวนมากเกิ นไป ถ้าหมอหลวงบอก ว่าไม่มีปัญหาอะไรและให้รักษาตัวให้ดี ๆ โดยพื’นฐานแล้วก็คือไม่มีปัญหาอืนใด อีก แค่พักผ่อนก็ดีขึ’นได้”
เมือหลิวหมิงอันเห็นว่าเจียงป่ าวชิงพูดมาเช่นนี’เขาก็พยักหน้า แล้วชําเลืองมอง หลิวจิ’งอีAทีอยู่ด้านข้างอีกครั’ง “จริง ๆ แล้วเป็ นลูกอกตัญ;ูคนนี’นีแหละทีสร้าง ปัญหาให้แม่”
เจียงป่ าวชิงเอ่ยถาม “ทีจวนไม่ยอมรับซูรุ่ยเอ๋อร์เข้าจวนรึ ?”
เมือพูดถึงเรืองนี’ หลิวหมิงอันรู้สึกเซ็ง “ไม่ใช่ว่าไม่ยอม เพียงแต่ถ้าหากว่าอยาก เข้าจวนก็ต้องเข้าไปในฐานะเมียน้อยเท่านั’น…”
หลิวจิ’งอีAพูดแทรกขึ’นมาทันที “ไม่ ข้าจะไม่ให้รุ่ยเอ๋อร์เป็ นเมียน้อยเด็ดขาด!”
หลิวหมิงอันโมโหเมือได้ฟังหลิวจิ’งอีAดื’อรั’ นเช่นนี’ เขาตะเพิดเสียงดัง “เจ้าน่ะพอ ได้แล้ว! ไปไกล ๆ เลยไป๊ !”
“ข้ารู้สึกงงจริง ๆ คนสองคนอยู่ด้วยกัน สถานะมันสําคัญมากขนาดนั’นเลยรึไง ?” หลิวหมิงอันพูดกับเจียงป่ าวชิงอย่างไม่พอใจ “ตอนนี’มาตรการของทีบ้าน ยังถือว่าอ่อนโยน แต่ถ้าหากว่าลงมือทําอะไรขึ’นมาจริง ๆ ในตอนหลัง พวกเขา
สองคนคงเป็นได้เพียงเป็ ดแมนดารินทีชีวิตอาภัพคู่หนึงเท่านั’น ตราบใดทีเข้าจวน โดยอาศัยความรักของเจ้าโง่หลิวจิ’งอีAทีมีต่อนาง ต่อให้สถานะจะเป็ นเมียน้อย ข้า สงสัยว่าแล้วมันต่างอะไรกับเมียหลัก ?”
(*ว่ากันว่าเป็ ดแมนดารินเป็ นสัญลักษณ์ของรักแท้)
เจียงป่ าวชิงเลิกคิ’วมองหลิวหมิงอัน ตามทีกงจี’บอก ชายคนนี’เป็ นคนทีโสดมา หลายปี แล้ว ไม่แปลกใจเลยทียังหาภรรยาไม่ได้จนถึงตอนนี’ แล้วนีเขายังมีหน้ามา พูดกับนางว่า “ต่อให้สถานะเป็ นเมียน้อย แล้วมันต่างอะไรกับเมียหลัก” อีก
ถามมาได้ ความแตกต่างในส่วนนี’มันใหญ่มากแท้ ๆ!
“ข้าไม่เชือว่าเจ้าไม่รู้ถึงความแตกต่างนี’” เจียงป่ าวชิงพูดขึ’นอย่างสงบ “ข้าจะ ไม่พูดถึงอย่างอืน แค่พูดถึงจุดทีสําคัญทีสุดของรุ่ยเอ๋อร์ในขณะนี’นันก็ คือหยวน หยวน การทีแม่ของเขาเป็ นเมียน้อยกับแม่ของเขาเป็ นเมียหลัก มันมีผลต่อ ความรู้สึกของเด็กและแม่เด็ก”
หลิวหมิงอันพูดขึ’นอย่างงุนงง “ความแตกต่างยิงใหญ่ งั’นรึ ? เอ๊ะ แต่ตอนนี’ หยวนหยวนต่างอะไรกับลูกนอกสมรสล่ะ สู้ทําให้สถานะเป็ นลูกเมียน้อยยังจะดี เสียกว่า อีกอย่าง ในบทละครทีคนเราดู ๆ กันยังบอกว่าการอยู่ด้วยกันของคนสอง คนเป็ นสิงทีสําคัญทีสุดไม่ใช่รึไง ?”
เจียงป่ าวชิงรู้สึกว่าแม้รอยมีดบนใบหน้าของหลิวหมิงอันจะน่ากลัว และเขาก็เป็น ชายร่างใหญ่ แต่ทําไมเขาถึงถูกบทละครชักนําไปในทางทีไม่ถูกต้องเช่นนี’ได้ล่ะ
เจียงป่ าวชิงเอียงตามองหลิวหมิงอันเล็กน้อย “ทําไม ผู้ชายอย่างพวกเจ้าเจ๋งมากรึ ไงทีฝ่ ายหญิงต้องทนกลํ’ากลืนความไม่เป็ นธรรมและเข้าไปเป็นเมียน้อยดูสามี ตัวเองพลอดรักกับหญิงอืนทั’ง ๆ ตนเองมาก่อนและต้องมานังรู้สึกตําต้อยกว่ าคน อืนไปตลอดชีวิตแบบนั’น ? เป็นผู้ชายอกสามศอกก็อย่าเห็นแก่ตัว ถ้ารักใคร ชอบใครก็ควรสู่ขอนางกลับไปให้ดี ๆ แต่ถ้าหากว่าอยากจะเอาเข้าบ้านและยัด เยียดให้เป็นเมียน้อย แสดงว่าสิงทีรักทีสุดก็ยังเป็ นตัวเอง แค่อยากให้ตัวเองได้รับ ผลประโยชน์แต่กลับไม่สนใจว่าฝ่ ายหญิงจะกลํ’ากลืนความไม่เป็ นธรรม”
หลิวจิ’งอีAกับหลิวหมิงอันพูดไม่ออก
“เอาล่ะ” เจียงป่ าวชิงได้ข้อสรุปสุดท้ายและโบกมือไปมา “ข้าจะไม่พูดมากกับ เจ้าแล้ว คุณชายหลิว ถ้าเจ้ามีเวลาก็กลับไปปลอบใจแม่ของเจ้าให้มาก ๆ เพือให้ นางได้ปล่อยวางสักหน่อยก็น่าจะดี”
เจียงป่ าวชิงหมุนตัวกลับเข้าไปในบ้านแล้วมอบหยกทีพกมาให้กับซูรุ่ยเอ๋อร์ “ข้า เห็นว่าหยกนี’แวววาวมาก แต่คิดไม่ออกว่าจะแกะสลักเป็นจี’รูปอะไรดีจึงนํามาให้ เจ้า เจ้าเอาไปและลองดูว่าเจ้าชอบอะไรก็แกะสลักให้หยวนหยวนเป็นรูปนั’น จะ ได้เอาไปแต่งกําไลใส่ข้อมือหรือข้อเท้าให้เขาตอนยังเป็ นทารก หรือไม่ก็เอาไว้ เป็ นของเล่นให้เขาเล่น”
ซูรุ่ยเอ๋อร์รับหยกนั’นมาด้วยใบหน้ายิมแย้มพลางถือไว้ในมือ ‘ “ข้าได้ยินคําทีเจ้า พูดข้างนอกหมดแล้ว เจ้าพูดได้ถูกใจข้ามาก ก็ใช่ ข้า ซูรุ่ยเอ๋อร์! ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้ ถ้าหากต้องห่างจากสามี จะให้ไปเป็ นสะใภ้ของครอบครัวใหญ่อะไรแบบนั’น หึ! คิดว่าข้าเสียดายมากนักรึไง ข้าจะไม่ให้หยวนหยวนต้องพบเจอกับความไม่เป็ น ธรรมแม้แต่นิดเดียว ถ้าอยู่กันไม่ได้จริง ๆ เมือถึงตอนนั’นก็ลงเอกสารระบุให้ลูก ว่า ‘พ่อเสียชีวิตแล้ว’ และข้าค่อยแต่งงานใหม่ก็ได้ แบบนี’ไม่ว่ายังไงหยวน หยวนก็ถือว่ายังได้มีโอกาสมีครอบครัวทีดี”
“ใช่” เจียงป่ าวชิงพยักหน้าเห็นด้วย