แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 531 : หอชมจันทร์
ชิวเพ่ยโหลวนังอยู่ ต่ออีกสักครู่ แล้วนางก็ลุกขึ’นบอกว่าจะไปหากงหย่าหรู
หลีอันหรูถอนหายใจยาว “แม่นางชิวเอ้อคนนี’ช่างอารมณ์แปรปรวนจริง ๆ ไม่รู้ ว่านางจะไม่ชอบขี’หน้าคนอืนและจ้องเล่นงานตอนไหนบ้าง คบค้าสมาคมกับนาง นีเหนือยมาก”
เจียงป่ าวชิงส่ายหน้า “ข้ารู้สึกว่านางไม่ใช่คนประเภทไร้เป้าหมายแบบนั’น… ข้า มักจะรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติอยู่ตลอด”
หลีอันหรูยืดเส้นยืดสาย “ไม่ว่านางจะมารูปแบบไหนเราก็ต้องมีวิธีรับมือเสมอ แต่ก็อย่างว่าล่ะ สําหรับข้าอ่านหนังสือสบายใจทีสุดแล้ว” นางหยิบหนังสือ ออกมาจากกระเป๋ าพกใบเล็ก ๆ ปกหนังสือด้านนอกมีตัวอักษรประทับไว้ว่า “ชีวประวัติสตรี” แต่ตอนทีหลีอันหรูเพิงหยิบออกมา ปกหนังสือชั’นนอก แง้มออกมาครึ งหนึงเผยให้เห็นชือหนังสือด้านใน ซึงแม้นางจะรีบปิ ดมันทันที แต่ เจียงป่ าวชิงก็ยังเหลือบไปเห็นทางหางตา มองดูแล้วเหมือนจะเป็ น “บันทึกการ ท่องเทียว” อะไรสักอย่าง
ทีแท้หลีอันหรูคนนี’ก็ “ย้อมแมว” เป็ นกับเขาด้วยเช่นกัน
พวกเพือน ๆ ของหลีอันหรูพูดขึ’นอย่างเลือมใส “อันหรูช่างขยันจริง ๆ ออกมา เทียวงานเลี’ยงแต่ก็ยังพกการบ้านชีวประวัติสตรีมาด้วย เจ้าทําถึงบทไหนแล้วรึ
?”
หลีอันหรูพูดบทความยาวออกมาด้วยสีหน้าราบเรียบ พวกเพือนของนางฟังจน รู้สึกเลือมใสไปตาม ๆ กัน ก่อนจะแสดงท่าทีว่าไม่อยากรบกวนการตั’งใจเรียน ของหลีอันหรูจึงพากันขอตัวไปเดินเล่นทางอืน
หลีอันหรูถอนหายใจเบา ๆ แล้วเอนกายอ่านหนังสือบนเก้าอี’อย่างสบายใจ แต่เมือ อ่านไปได้ไม่กีหน้า นางก็นังตัวตรงอีกครั ‘ง “ไม่ไหวแฮะ วันนี’แสงสว่างมันจ้า
มากจนรู้สึกเวียนหัว ข้าจะไปหาทีร่มรืนอ่านหนังสือสักหน่อย” พูดจบ นางก็ โบกมือให้เจียงป่ าวชิงกับเจียงฉิงแล้วจากไป
เจียงป่ าวชิงกะพริบตาปริบ ๆ และตัดสินใจว่าจะไม่เปิ ดโปงสิงทีเพิงเห็นมา
ส่วนเจียงฉิง เด็กหญิงไม่ได้สังเกตเห็นชือหนังสือทีซ้อนอยู่ใต้ปกนอกแต่อย่างใด นางอุทานออกมาเบา ๆ แล้วพูดด้วยความเลือมใสอีกฝ่ ายอย่างยิง “พีหลีนีช่าง ขยันจริง ๆ เลยนะจ๊ะ”
เจียงป่ าวชิงยิม’
เจียงฉิงนึกถึงพวกคุณหนูทีหยิงยโสเหล่ านั’นแล้วก็รู้สึกกลัดกลุ้มขึ’นมาเล็กน้อย “พีสาว คุณหนูในเมืองหลวงเหล่านั’นล้วนเป็ นเหมือนพวกคุณหนูเมือสักครู่ที ชอบพูดจาทิมแทงแบบนั’นหมดเลยหรือเปล่าจ๊ะ ?”
เจียงป่ าวชิงอธิบาย “ไม่ทั’งหมดหรอก เจ้าดูอย่างพีหลีของเจ้าสิ นางเป็ นคนทีรัก ในการเรียนคนหนึง นิสัยนางก็ไม่ได้แย่”
เจียงฉิงนึกถึงนิสัยของหลีอันหรูแล้วรู้สึกเชือครึ งไม่เชือครึ ง “คนแบบพีหลีคงจะ มีไม่เยอะใช่ไหมจ๊ะพี ข้าเห็นว่าทุกคนต่างก็เหมือนต้องการถือตัวและตีหน้าขรึม สร้างภาพกันทั’งนั’น ช่างน่าอึดอัดใจจริง ๆ เลยนะ”
“ลักษณะของคนเรามีมากมาย การทีแสดงด้านไหนออกมาเป็นยังไงนั’นล้วนถูก กําหนดโดยนิสัยของตัวเอง” เจียงป่ าวชิงแนะนํา “เจ้าดูสิ ในวงการของคุณหนู ในเมืองหลวงมีทั’งคนทีหยิงยโสชอบทําตัวอยู่ เหนือผู้อืนอย่างแม่นางชิวเอ้อ และมี คนทีชอบความสบายใจไม่ค่อยสุงสิงกับใครอย่างพีหลีของเจ้า และไหนจะยังมี คนทีเจ้าเคยเห็นก่อนหน้านี’อีกด้วยนันก็ คือคนแบบกงหย่าหรูคนนั’น… นิสัยของ ทุกคนต่างมีหลากหลายด้านเสมอ”
จู่ ๆ เจียงฉิงก็นึกถึงท่าทางของกงหย่าหรูทีวิงหนีไปด้วยจิตใจบอบชํ ‘า แล้วนางก็ หัวเราะอย่างกลั’นไม่อยู่ “ฮ่า ๆ ๆ แต่เมือกี’นี’กงหย่าหรูตกใจวิงหนีไปเลย นางคง กลัวว่าเราจะบอกพีหลีว่านางเคยปลอมตัวเป็ นพีหลีแล้วถูกจับได้ พีคิดแบบข้า ไหม ?”
เจียงป่ าวชิงเห็นว่าเจียงฉิงเริมกลับมาสนุกสนานอีกครั’ง นางค่อย ๆ ผ่อนคลายลง แล้วพูดขึ’นยิม ๆ ‘ “อื’ม ข้าก็คิดเช่นนั’นแหละ”
หลังจากทีเรืองราวเล็ก ๆ ผ่านไป แสงแดดอุ่นทีสาดส่องอยู่ในตอนนี’ทําให้เจียง ป่ าวชิงรู้สึกง่วงนอน นางเอนกายบนเสาหินทีศาลาริมทะเลสาบตั’งใจจะงีบสัก
หน่อย แต่จู่ ๆ ในตอนทีกําลังสะลึมสะลือจะหลับ ก็เกิดความรู้สึกคล้ายกับมีคน มายืนอยู่ตรงหน้า
เจียงป่ าวชิงตืนตัวอยู่เสมอและเดิมทีเป็ นคนทีหลับไม่ลึก ตอนนี’นางจึงลืมตามา เห็นหลินยู่หยุนยืนอย่างสวยงามอยู่ตรงหน้า และกําลังเม้มปากหัวเราะอย่าง กระดากอาย
“ยู่หยุน” เจียงป่ าวชิงเห็นเพือนสนิทมาหาอย่างกะทันหัน สีหน้านางจึงปนด้วย ความดีอกดีใจเล็กน้อย “องค์หญิงนีเอง องค์หญิงมาได้ยังไงเจ้าคะ ?”
“เอ่อ… ก่อนอืนข้าต้องขออภัยเจ้าด้วย ข้าแค่อยากยืนดูเจ้านอนหลับอยู่ทีนีเท่านั’น ไม่ได้คิดจะทําให้เจ้าตืน” หลินยู่หยุนกล่าวขอโทษ
เจียงป่ าวชิงโบกมือไปมา นางไม่ได้นําเรืองนี’มาใส่ใจแต่อย่างใด “ข้านอนหลับ ไม่ลึกเองเจ้าค่ะ ไม่เกียวกับองค์หญิงเลย เอ้อ… ว่าแต่สุขภาพร่างกายของท่านแม่ องค์หญิงแข็งแรงดีใช่ไหมเจ้าคะ ?”
เมือพูดถึงพระชายาทีทรงตั’งครรภ์ ใบหน้าหลินยู่หยุนมีชีวิตชีวามากขึ’น “ร่างกาย ของท่านแม่ดีขึ’นทุกวัน เพียงแต่ท่านแม่ยังไม่ค่อยสนใจท่านพ่อสักเท่าไหร่… และเป็ นท่านแม่ทีไล่ข้าออกมาในวันนี’ ท่านบอกว่าข้าอยู่แต่ในจวนไม่ได้ออกไป ข้างนอกนานแล้ว ตอนนี’งานทีจวนต่างก็เป็ นระเบียบเรียบร้อยดีซึงไม่ต้องให้ข้า คอยอยู่ดูแล และบังเอิญว่าท่านป้าเต๋อหลงจัดงานเลี’ยงนี’พอดี ท่านแม่จึงไล่ข้า ออกมาทีงานน่ะจ้ะ”
สาวน้อยมีสีหน้ากระดากอายขณะทีพูด แต่เสียงหวาน ๆ ของนางดังกังวาน ตอน พูดก็คล่องแคล่วเช่นกันซึงถือว่าดีกว่าเมือก่อนมากทีเดียว
เจียงป่ าวชิงดึงให้เจียงฉิงทําความเคารพหลินยู่หยุน นีเป็ นครั’งแรกทีหลินยู่หยุน เจอเจียงฉิง นางจับมือเจียงฉิงด้วยความตืนเต้นระคนสงสัย
“นีคือน้องฉิงใช่ไหม ? ข้าคือเพือนของพีสาวเจ้านะ” หลินยู่หยุนปลดจี’หยกที เอวแล้วยัดใส่ในมือเจียงฉิง “น้องฉิง นีคือของขวัญสําหรับการพบหน้ากันเล็ก ๆ น้อย ๆ จากข้าเอง เจ้าอย่าได้รังเกียจเลย รับเอาไปนะ”
เจียงฉิงมองเจียงป่ าวชิงอย่างลังเล แต่เจียงป่ าวชิงกลับพยักหน้ายิม ๆ เด็กหญิงจึง ‘ รู้ว่านีคือเพือนสนิทของพีสาว หลังจากทีนางขอบคุณหลินยู่หยุนก็เก็บจี’หยกนั’น อย่างดีใจโดยนําไปใส่ไว้ในถุงหอมของตัวเองอย่างระมัดระวัง
หลินยู่หยุนดึงให้เจียงป่ าวชิงนังลงแล้วถามอย่ างอยากรู้อยากเห็น “เมือสักครู่มี เรืองอะไรทีนีหรือเปล่า ?” จากนั’นนางก็หันกลับและชี’ไปทีหอคอยสูง “ตอนที ข้าคุยกับท่านป้าเต๋อหลงอยู่บนนั’น ก็เหมือนเห็นว่ามีคนมารวมตัวกันทีนีหลายคน เลย”
เจียงป่ าวชิงมองหอคอยสูง เดิมทีหอคอยนั’นสร้างอยู่ทีสูงอยู่แล้ว และหลังคา หอคอยนั’นสูงใหญ่มาก มันจึงยิงดูสูงมากกว่ าเดิม
“องค์หญิงหมายความว่าเมือครู่องค์หญิงเต๋อหลงก็อยู่บนหอคอยด้วยเช่นกันหรือ เจ้าคะ ?” เจียงป่ าวชิงถามหลินยู่หยุน
หลินยู่หยุนพยักหน้า “อื’ม หอคอยนั’นชือว่าหอชมจันทร์ จริง ๆ แล้วข้าค่อนข้าง กลัวความสูงและมักรู้สึกวิงเวียนศีรษะอยู่บ่อย ๆ ถ้าอยู่ในทีสูง แต่ข้าปฏิเสธไม่ได้ เลยว่าบนนั’นน่ะดีมาก เวลาเรายืนมองลงมาจากข้างบนจะสามารถเห็นเกือบทั’ง จวนขององค์หญิงซึงมันก็ดีมากจริง ๆ แต่ว่าก็สูงเกินไป เมือสองสามปี ก่อนสาว ใช้คนหนึงบังเอิญตกจากหอคอยขณะทีกําลังทําความสะอาด หอคอยนั’นจึงถูกปิ ด ไว้ในวันปกติ มีเพียงช่วงฉลองปี ใหม่เท่านั’นถึงจะเปิ ดให้ขึ’นไปและมีการแขวน โคมไฟประดับตกแต่งพองาม ดูท่าว่าวันนี’ท่านป้าเต๋อหลงคงอารมณ์ดีอย่างมาก เลย ท่านถึงได้ขึ’นไปและสังให้คนตกแต่งหอคอยอย่างดี”
เจียงป่ าวชิงครุ่นคิดสักครู่ นางจําได้ว่ากงจี’ก็เคยเล่าเรืองหอชมจันทร์ให้ฟัง เขา บอกว่าตอนทีสร้างหอคอยแห่งนี’ ในปี นั’นมีฟ้าฝ่ าลงมาบนส่วนยอดของหอคอย ถึงสองครั’ง เนืองจากถูกมองว่านันเป็ นลางร้าย ในตอนนั ‘นขุนนางชั’นผู้ใหญ่หลาย คนจึงยืนหนังสือเพือร้องขอให้ทําลายหอชมจันทร์นี’ทิ’ง
แต่องค์หญิงเต๋อหลงไม่เชือในชะตากรรม นางต้านความกดดันและยืนกรานว่าจะ เก็บหอชมจันทร์แห่งนี’ไว้ แต่เพือรับมือกับหนังสือร้องขอของพวกขุนนางชั’น ผู้ใหญ่เหล่านั’นทีมีมาเรือย ๆ นางก็หาพระลัทธิเต๋ามาทําพิธีกรรมกําจัดหายนะ เป็ นเวลาสีสิบเก้าวันและว่ากันว่ามีพระธาตุอยู่บนยอดหอชมจันทร์แห่งนี’ ซึงไม่รู้ ว่าเป็ นความจริงหรือเปล่า
ทว่าหลังจากนั’นเป็ นต้นมาก็ไม่มีปรากฏการณ์ท้องฟ้าทีผิดปกติอะไรอีกเลย
เจียงป่ าวชิงมองว่าฟ้าฝ่ าสองครั’งแรกนั’นไม่ใช่เรืองใหญ่อะไร ในเมือสร้างไว้สูง ขนาดนั’น อีกทั’งยังไม่มีมาตรการป้องกันฟ้าผ่าใด ๆ หากไม่ผ่าทีนันแล้วจะให้ผ่ า อะไรล่ะ
คิดได้ดังนั’นเจียงป่ าวชิงก็พูดกําชับหลินยู่หยุนเสียงเบา “องค์หญิง ถ้าหากเผชิญ กับสภาพอากาศทีมีฟ้าร้องฝนตกหนัก องค์หญิงอย่าขึ’นไปบนหอคอยแห่งนั’นเป็ น อันขาดเลยนะเจ้าคะ”
แม้หลินยู่หยุนจะไม่เข้าใจว่าทําไมเจียงป่ าวชิงถึงพูดมาเช่นนี’ แต่นางรู้ว่าการกําชับ ของเจียงป่ าวชิงคงเป็ นเพราะเป็ นห่วงนาง เจียงป่ าวชิงต้องไม่ทําร้ายนางอย่าง แน่นอน นางจึงพยักหน้าแล้วพูดเสริมอีกครั’ง “อันทีจริง แม้ว่าในยามปกติ หอคอยแห่งนี’จะแขวนโคมไฟ แต่น้อยครั’งมากทีท่านป้าเต๋อหลงจะขึ’นไปบนนั’น เพราะว่ามันสูงเกินไปจริง ๆ นันแหละจ้ะ ”