แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 533 : เด็กหนุ่มปริศนา
เมือสองพีน้องกลับไปนังทีแล้ว บริเวณรอบ ๆ ก็ มีเด็กสาวหรือพวกหญิงสาวคน อืน ๆ เข้าไปคารวะองค์หญิงเต๋อหลง เจียงฉิงจึงถือโอกาสนี’พูดกับเจียงป่ าวชิง เสียงเบา “พีสาว ?”
เจียงป่ าวชิงไม่อยากให้เจียงฉิงแบกรับความรู้สึกมากเกินไปจึงเผยรอยยิมออกมา ‘ ให้เห็น “ไม่เป็ นไร กลับไปเราค่อยพูดเรืองนี’กัน”
เจียงฉิงรู้สึกว่าถ้าหากมีเรืองสําคัญอะไร พีสาวจะต้องพูดกับนางทันที แต่ตอนนี’ ในเมือพีสาวไม่ได้พูดอะไรก็แสดงว่าเรืองราวไม่ได้สําคัญอะไรขนาดนั’น
เจียงฉิงรู้สึกสบายใจขึ’นมา นางส่งยิมให้เจียงป่ าวชิงอย่ ‘ างดีใจ
เจียงป่ าวชิงคํานวณอยู่ในใจด้วยสีหน้าราบเรียบ คนทีได้รับของขวัญเป็ น เครืองประดับหินโมราสีแดงจากองค์หญิงเต๋อหลงนั’นมีทั’งหมดสิบแปดคน ใน หมู่พวกเขามีคนทีรู้อยู่แก่ใจอย่างชิวเพ่ยโหลว และมีคนทีมีรูปลักษณ์และรูปแบบ การพูดทีโดดเด่นอย่างหลีอันหรู แล้วยังมีบุตรสาวของข้าราชการชั’นผู้น้อยระดับ สีทีไม่เป็ นทีรู้จักอีกด้วย
แม้กระทังคนทีเจียงป่ าวชิงรู้จักอีกสองคนก็ ยังมีชือรวมอยู่นันก็ คือกงหว่านจาก บ้านสองของตระกูลกง และกงจิ’งจากบ้านสามของตระกูลกง ทั’งสองคนต่าง ได้รับเครืองประดับหินโมราสีแดงจากองค์หญิงเต๋อหลงเช่นกัน
กงหว่านดูเหมือนไม่ค่อยดีใจสักเท่าไหร่ ดูเหมือนนางกําลังกลุ้มใจเสียมากกว่า ในขณะทีกงจิ’งกลับมีรอยยิมประดับอยู่ ‘ บนใบหน้าตลอด แต่ดูไม่ออกว่านางดีใจ จริง ๆ หรือว่าแสร้งทําเป็ นดีใจกันแน่
ทีนังของทั ‘งสองคนอยู่ในตําแหน่งบนซึงห่างจากเจียงป่ าวชิงและเจียงฉิงพอ สมควร ตอนทีกงหว่านเข้านัง นางยังหัวเราะเยาะเจียงป่ าวชิงอยู่ เลย
แต่ไม่ว่าอย่างไร ทุกคนทีถูกเลือกนั’นต่างก็มีจุดเด่นเป็ นของตัวเอง ขณะเดียวกัน คนอืน ๆ ทีได้รับถุงหอมก็ไม่ใช่คนทีดูไม่ดีหรือไม่เด่นเช่นกัน และยังมีบางคนที ได้รับคําชมจากองค์หญิงเต๋อหลงแต่ไม่ได้มอบของขวัญเป็ นเครืองประดับหิน โมราสีแดงซึงเจียงป่ าวชิงคิดว่าน่าจะเป็ นเพราะพวกนางไม่เหมาะทีจะเป็ นพระ ชายาของพวกราชบุตร
และงานเลี’ยงก็เริมขึ’นในไม่ช้า หลังจากรอบทีสามของมื’ออาหารทียกมาวางก็มี หลายคนอาสาทําการแสดงกลางงานเลี’ยง องค์หญิงเต๋อหลงเพลินมาก สุดท้ายนาง ก็มอบของรางวัลให้เป็นเครืองประดับหินโมราสีแดงสองชิ’น
เมือเป็ นเช่นนี’ ก็มีทั’งหมดยีสิบคนทีได้รับเครืองประดับเหล่านั’น
พระราชบุตรทีถึงวัยแต่งงานในตอนนี’ รวมกับองค์รัชทายาททีต้องการแต่งตั’ง พระชายามีเพียงสามคนเท่านั’น
ตามองค์ประกอบทีว่า หนึงพระชายาหลักสองพระชายารอง อย่างมากก็มีเพียงเก้า คนเท่านั’นทีน่าจะได้แต่งงาน ดังนั’นการแข่งขันจากจํานวนคนยีสิบคนว่าใครจะ ได้แต่งงานกับองค์รัชทายาทและพวกราชบุตรจึงดุเดือดมาก
เจียงป่ าวชิงมองเจียงฉิงผู้เป็ นน้องสาวทีกําลังค่อย ๆ ใช้ช้อนตักต้มดอกบัวผสมรัง นกขึ’นจิบอย่างเรียบร้อยด้วยท่าทางไร้ทีติ แล้วตัดสินใจในใจว่าไม่ว่าอย่างไร นาง ก็จะไม่ให้น้องสาวต้องกลายเป็ นเหยือสังเวยของการแต่งงานทียุ่งเหยิงพวกนี’ เด็ดขาด
ในตอนท้ายของงานเลี’ยง มีคนมารายงานว่าองค์รัชทายาท องค์ชายสาม และองค์ ชายสีมาคารวะองค์หญิงเต๋อหลง
บรรยากาศในงานเลี’ยงจึงเปลียนไปทันทีเพราะทุกคนต่างก็รู้ว่าละครฉากสําคัญ มาถึงแล้ว
……
เจียงป่ าวชิงไม่ได้มีส่วนร่วมในเรืองต่อจากนี’ นางจึงถือโอกาสตอนทีมีคนอืน ๆ บางคนทยอยออกจากงานเลี’ยงพาเจียงฉิงออกมาด้วยอย่างเงียบ ๆ ไม่ว่ายังไงนางก็ จะพยายามอย่างเต็มทีเพือหลีกเลียงสถานการณ์ช่วงสําคัญทีน่าอึดอัดใจในงาน เลี’ยง
แต่สิงทีนางคิดไม่ถึงก็คือ ไม่ว่าจะป้องกันอย่างดีเพียงใดก็ยังเกิดอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ จนได้นันก็ คือ…
เจียงฉิงเมา!
ในงานเลี’ยง เจียงป่ าวชิงระมัดระวังอย่างมาก นางตรวจดูอาหารทุกจานด้วยสีหน้า ราบเรียบเพือดูว่ามียาพิษหรือไม่ แต่ทุกอย่างปลอดภัยดีจึงเบาใจลง แต่นางไม่คิด เลยว่าในบรรดาขนมทีเจียงฉิงชอบกิน หนึงในนั’นจะเป็ นขนมผสมเหล้า
เนืองจากกลินนํ’าตาลค่อนข้างหนัก มันจึงบดบังกลินเหล้าไปเสียหมด เจียงฉิงคิด ว่านีเป็ นรสชาติทีเป็ นเอกลักษณ์ของขนมในจวนองค์หญิงจึงไม่ได้นํามาใส่ใจแต่ อย่างใด จนกระทังกิ นไปถึงชิ’นทีสี นางถึงเริมรู้ได้อย่างราง ๆ ว่าสงสัยตัวเองจะ เผลอกินเหล้าเข้าให้แล้ว
และเมือเจียงป่ าวชิงลองใช้ช้อนบิขนมออกมาดมพิสูจน์ สีหน้าของนางก็เหยเก ทันทีเพราะนีมันเหล้า! แล้วยังเป็ นเหล้าลูกเหมยฤทธิG แรงอีกด้วย
ใช่ว่าเจียงฉิงจะไม่มีความสามารถในการดืมเหล้าเพราะบางครั’งเจียงป่ าวชิงจะ อนุญาตให้นางดืมเหล้าผลไม้ทีหมักทีบ้านตัวเองได้สองสามอึก แต่มีเหล้าลูก เหมยเพียงอย่างเดียวทีเจียงฉิงเมาหลังจากทีจิบได้เพียงอึกเดียว
โชคยังดีทีเมือเจียงฉิงเมา นางจะเป็ นเด็กประเภททีไม่ทําให้ต้องเป็ นห่วงขนาดนั’น เมือนางดืมจนเมานางก็มักหลับไป
เจียงป่ าวชิงไปทีศาลาทีค่อนข้างห่างออกไป แล้วปล่อยให้เจียงฉิงนอนบนตัก ตัวเอง ปากก็เอ่ยสังมีหลิวไปด้วย “มีหลิว เจ้าช่วยไปดูตรงทีคนพลุกพล่านให้ หน่อย ดูว่าถ้ามีคนเริมออกจากจวนเยอะ ๆ ก็กลับมาบอกข้า”
สิ’นคําสัง มีหลิวก็ไปทําตามทันที
เจียงป่ าวชิงมองซ้ายมองขวา เมือเห็นว่าไม่มีใครอยู่บริเวณโดยรอบนางก็ช่วยปลด กระดุมให้เจียงฉิงหนึงเม็ดเพือให้ได้นอนอย่างสบายยิงขึ ‘น
ผ่านไปสักพัก นางก็เห็นว่าฤทธิG ของเหล้าค่อย ๆ กระจายตัว และใบหน้าเล็กของ เจียงฉิงแดงกํามาก นางจึงใช้ให้ชิงจ้างไปทีทะเลสาบเพือนําผ้าเช็ดหน้าไปจุ่มนํ’า ให้เปี ยก บิดมาหมาด ๆ แล้วนํากลับมาให้นาง
ชิงจ้างไปทําตามคําสังเช่นกัน ตอนนี’จึงไม่มีใครอยู่บริเวณโดยรอบเลย
เจียงป่ าวชิงกอดเจียงฉิงไว้ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงัด มีเพียงเสียงลมพัดผ่าน พุ่มไม้และแสงแดดในตอนบ่ายทีส่องมาอย่างกําลังดีจึงทําให้ค่อย ๆ รู้สึกง่วงนอน เล็กน้อย
เดิมทีเจียงป่ าวชิงไม่ใช่คนหลับลึก ตอนทีนางรู้สึกเหมือนมีคนเข้าใกล้ตัวเองก็ลืม ตาขึ’นแทบจะในทันที และเห็นว่ามีเด็กหนุ่มคนหนึงกําลังยืนอยู่ข้างหน้านางจาก จุดทีไม่ไกลออกไป
เจียงป่ าวชิงเอื’อมมือไปปิ ดคอเสื’อของเจียงฉิงโดยไม่รู้ตัว เด็กหนุ่มคนนั’นหน้าแดง แต่เขารีบทําความเคารพทันที “เอ่อ… พีสาว ข้าไม่เห็นอะไรทั’งนั’นนะขอรับ”
เจียงป่ าวชิงมองเด็กหนุ่มคนนั’น ตอนนี’คนทีเป็ นผู้ชายทีสามารถปรากฏตัวในจวน องค์หญิงเต๋อหลงได้น่าจะมีเพียงองค์รัชทายาท องค์ชายสามและองค์ชายสีเท่านั’น แล้วเด็กหนุ่มคนนี’โผล่ออกมาจากทีไหนกัน เขาคงไม่ใช่ลูกชายขององค์หญิงเต๋ อหลงกระมัง…? ถ้านางจําไม่ผิด ลูกชายขององค์หญิงเต๋อหลงกับพระราชบุตร เขยมีอายุเกือบสามสิบปี ในปี นี’และแต่งงานมีลูกไปตั’งนานแล้ว อีกทั’งตอนนี’ก็เป็ น ฝ่ ายขอเหล่าทหารไปทีชานเมืองแล้วด้วย
แล้วเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับอาฉิงคนนี’โผล่มาจากไหนกันนะ ดูเหมือนเขาอายุยังไม่เยอะ แล้วมารยาทก็ดีด้วย
เด็กหนุ่มคนนั’นยืนทําท่าทางเป็ นกังวลเล็กน้อย “พีสาว น้องสาวคนทีนอนอยู่บน ตักพีป่ วยรึ ? หน้านางแดงมากเลย”
เจียงป่ าวชิงพูดขึ’น “ไม่มีอะไร น้องสาวข้าเผลอไปกินขนมผสมเหล้าเข้าไปสอง สามชิ’นจึงเมานิดหน่อย”
เด็กหนุ่มคนนั’นพยักหน้าอย่างเข้าใจ “อ้อ ทีแท้ก็เป็นเช่นนี’นีเอง”
เจียงป่ าวชิงเห็นว่าเด็กหนุ่มตัวเล็กคนนั’นมีท่าทีซือตรงจริงใจ นางจึงถามเขาอย่าง สุภาพ “เจ้าเป็ นคุณชายเล็กจากตระกูลไหนรึ ทําไมถึงมาอยู่ทีนีได้ล่ะ ?”
เมือเด็กหนุ่มคนนั’นเห็นเจียงป่ าวชิงถามมาเช่นนี’เขาก็รีบยกนิ’วขึ’นจรดปากเพือ ห้าม “ชู่ววว พีสาวเบา ๆ หน่อย มันจะไม่เป็นการดีถ้าหากว่ามีคนพบว่าข้าแอบ หนีออกมา”
“…” เจียงป่ าวชิงตัดสินใจว่าจะไม่ถามอะไรต่อแม้ยังสงสัยอยู่ก็ตาม
เมือนางไม่ถาม เด็กหนุ่มคนนั’นก็มองว่าเจียงป่ าวชิงมีความเป็นกันเองมาก เขาพูด ขึ’น “พีสาว ข้าชืออาซิน พีสาวชืออะไรหรือ ?”
เจียงป่ าวชิงเงียบ
เด็กหนุ่มอาซินรู้สึกน้อยใจ “โธ่พีสาว! ข้าไม่ใช่คนไม่ดีอะไร” เขาเงียบไป เหมือนตัดสินใจอะไรได้ จากนั’นก็ชี’ไปยังทิศทางหนึง “ข้าอาศัยอยู่ทีนัน ข้าไม่ ใช่ คนไม่ดีจริง ๆ นะพี”
เจียงป่ าวชิงมองตามทางทีเด็กหนุ่มชี’ และต้องตกใจ ทีนัน… ไม่ ใช่หอชมจันทร์หรอกรึ ?
เจียงป่ าวชิงมีลางสังหรณ์เกียวกับความลับทีเกียวข้องกับสถานะของเด็กหนุ่มอาซิ นคนนี’ นางจึงพูดขัดคําพูดของเขา “ไม่ต้องพูดแล้ว อาซิน เจ้าควรป้องกันและ ระมัดระวังตัวเองหน่อยสิ อย่าพูดความลับของตัวเองให้คนอืนรับรู้ง่าย ๆ เจ้าไม่ กลัวว่าคนอืนจะมีเจตนาร้ายกับเจ้ารึ ?”
เด็กหนุ่มพูดพลางยิมขี ‘ ‘เล่น “พีสาวเป็ นคนทีงดงามมาก ข้าไม่เคยเห็นใครงดงาม เท่าพีมาก่อน ข้ามันใจว่ าพีสาวจะไม่ทําร้ายข้าอย่างแน่นอน”
‘แต่เจ้าอาจเป็ นคนทีทําร้ายข้าก็ได้’ เจียงป่ าวชิงครุ่นคิดในใจด้วยสีหน้า ราบเรียบว่าเด็กคนนี’เหมือนกับอาฉิงทีเป็ นคนให้ความสําคัญกับรูปลักษณ์