แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที 467 : คุณธรรมสูงส่งทรงเกียรติภูมิ
เจียงป่ าวชิงแสดงความขอบคุณต่อเผยหยู่เจ๋ออย่างจริงใจทีเขาช่วยเด็กทังสองไว้
เผยหยู่เจ๋อหันกลับมามองนาง แม้เขาป่ วยอยู่แต่กลับทําตามใจเล็กน้อยโดย กระแอมไอและพูดขึนยิม ๆ “ไม่คิดเลยจริง ๆ ว่าชัวชีวิตนี ของข้าจะมีตอนทีหมด สภาพเช่นนีด้วย”
เจียงป่ าวชิงยืดอกรับประกัน “คุณชายเผยไม่ต้องห่วง การเสียสละของคุณชายจะ ไม่สูญเปล่าแน่นอน ถ้าเด็กซนทังสองหายดีแล้วข้าจะลงมือตีพวกเขาด้วยตัวเอง พวกเขาจะได้จดจําบทเรียนในครังนีให้ดี”
เมือวานมีคนรับใช้ไปตรวจดูริมทะเลสาบแล้ว พบว่ายังมีเปลือกประทัดกระจัด กระจายอยู่บนพืนผิวนําแข็งเล็กน้อย ไม่ต้องพูดก็เข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึน
เผยหยู่เจ๋อมองเจียงป่ าวชิงอย่างหมดคําจะพูด ผ่านไปสักครู่เขาก็พูดขึนยิม ๆ ว่ า “ฟังจากทีเจ้าพูด เหมือนเจ้ากําลังพูดต่อหน้าป้ายหลุมศพของข้าเลยนะ”
มีหลิวถือยาต้มเข้ามาพอดี นางได้ยินคําพูดนีก็รู้สึกตืนตระหนกอย่างมาก “คุณชายเผย คุณชายเพิงตืน อย่าพูดอะไรไม่เป็ นมงคลแบบนันสิเจ้าคะ”
เผยหยู่เจ๋อกระแอมไอเสียงเบาอีกครั ง
มีหลิวจึงรีบประคองถ้วยยาต้มไปหาเขาทันที “คุณชายเผย ข้าน้อยป้อนยาให้ คุณชายดีกว่าเจ้าค่ะ”
เผยหยู่เจ๋อเหลือบมองเจียงป่ าวชิง “…เจ้าอยากขอบคุณข้าไม่ใช่รึ ? เจ้าเป็ นคน ป้อนยาให้ข้ามันจะดูสอดคล้องกับคําพูดของเจ้ามากกว่านะ”
เสียงของเขาเบามาก แต่เจียงป่ าวชิงยังคงได้ยิน
นีเป็ นครังแรกทีมีหลิวพบว่าคุณชายเผยคิดอะไรกับแม่นางของนาง จึงรีบก้มหน้า ลงและทําเป็ นไม่ได้ยิน
เจียงป่ าวชิงถลึงตาใส่เผยหยู่เจ๋อก่อนจะหัวเราะเบา ๆ “คุณชายเผยผู้มีคุณธรรม สูงส่งและทรงเกียรติภูมิคงจะป่ วยจนสติเลอะเลือนไปแล้วแน่ ๆ มิเช่นนันคุณชาย จะทําเรืองอย่างเช่นต้องการให้คนอืนตอบแทนบุญคุณตัวเองเช่นนีได้ยังไง จริง ไหมจ๊ะ ?”
มีหลิวรีบพูดขึน “คุณชายเผยเจ้าคะ ให้ข้าน้อยป้อนยาคุณชายเถอะเจ้าค่ะ”
เผยหยู่เจ๋อหัวเราะอย่างเกียจคร้าน “หึ ๆ ช่างเถอะ ข้าแค่เป็ นไข้ไม่ได้เป็ นอัมพาต พยุงตัวเองมากินยาเองก็ได้” เขาก้มหน้าลงเพือปิ ดบังความรู้สึกหดหู่ในแววตา
แต่หลังจากทีจิบยาต้มไปได้เพียงจิบเดียว หัวคิวหนาขมวดเข้าหากันแน่นทันที “อา… ขมจริง ๆ” เขาหยุดชะงักเล็กน้อย “ข้าไม่กินได้ไหม ?”
เจียงป่ าวชิงส่ายหน้า “คุณชายเผย ยานีถือว่ารสยังดี ทางทีดีคุณชายรีบดืมยาให้ หมดดีกว่า มิเช่นนันหากปอดคุณชายอักเสบขึนมา ยาต้มทีต้องดืมต่อไปนีจะขม กว่านีสิบเท่าตัว ข้าเป็ นหมอมืออาชีพ ทีพูดนีไม่ได้ข่มขู่คุณชาย มันจะเป็ นการ ประหยัดแรงทีสุดถ้าหากว่าคุณชายดืมยาอย่างว่าง่ายในตอนนี”
“บางทีนีอาจเป็ นโชคร้ายของข้าก็ได้ ถ้าหากว่าเด็กรับใช้ข้าไม่ขอลาหยุดกลับไป ดูแลแม่ทีป่ วยของเขา ไม่ว่ายังไงก็คงสามารถช่วยได้บ้าง ถ้าเขาอยู่ทีนีตอนนีก็ สามารถช่วยข้าดืมยาได้บ้าง” เผยหยู่เจ๋อถอนหายใจ เขาถือถ้วยอย่างฝื น ๆ และ พยายามดืมยาให้หมดในคราวเดียว
“อืม คุณชายตรงไปตรงมามาก” เจียงป่ าวชิงได้แต่พูดออกไปเช่นนี
……
ยามเทียง เด็กซนทีก่อเรืองทังสองคนก็ทยอยตืนขึนมา กู่เฉินคุนยังดีหน่อยทีรู้ว่า ตัวเองก่อเรือง ประกอบกับเขามีนิสัยไม่เกรงกลัวอะไร เรืองนีจึงไม่ได้ทิง บาดแผลทางจิตใจอะไรไว้ และเขายังดืมยาขม ๆ อย่างว่าง่ายด้วย ทว่าเลียวชุนหยู่ ไม่เป็ นเช่นนัน เดิมทีเด็กชายเคยตกนํามาแล้วหนึงครังและต้องมาประสบพบเจอ อีก เห็นได้ชัดว่าเด็กคนนีเสียขวัญมากแต่เขาไม่ได้โวยวาย เพียงแค่มีความเหม่อ ลอยอยู่บนสีหน้าเท่านัน
เจียงหยุนชานเฝ้าดูอยู่ตลอดทังคืนจวบจนตอนเช้าเขาถึงไปพัก เมือเห็นเลียวชุน หยู่เป็ นเช่นนีในตอนนี เขาก็รู้สึกปวดใจและเป็ นห่วงน้องชายอยู่ในใจ
ทว่าตอนนีไม่เหมาะทีจะไปสังสอนอีกฝ่ าย เจียงป่ าวชิงจึงทําได้เพียงเพิม เครืองปรุงยาทีมีฤทธิD กล่อมประสาทลงไปในถ้วยยาต้มของเลียวชุนหยู่
สําหรับเผยหยู่เจ๋อ ถึงอย่างไรเขาก็เป็ นผู้ใหญ่และเขาตระหนักดีว่าอยู่ในห้องของ แม่นางเจียงตลอดหลายวัน ต่อให้เป็ นการพักพืนรักษาไข้ แต่ถ้าหากว่าเรืองนีถูก พูดออกไปก็คงไม่ค่อยน่าฟัง และแม้น้องสาวเจียงจะไม่สนใจเรืองพวกนีเลย แต่ ในเมือเขาชอบนาง เขาก็ควรรักษาภาพลักษณ์ให้กับนาง
หลังจากทีตืนแล้วก็นอนต่ออีกประมาณหนึงชัวยามจนเมือกลับมามีเรียวแรงขึ น บ้าง เขาก็สังให้คนแบกเกียวมาพากลับไปทีบ้านตัวเองในตอนบ่าย
แต่เด็กเล็กทังสองนันฟื นฟูร่างกายได้เร็ว เจียงป่ าวชิงติดตามดูอาการอยู่สองวัน และเมือเห็นว่ากู่เฉินคุนไม่มีวีแววว่าจะเป็ นโรคเกียวกับปอดแต่อย่างใด นางจึงให้ คนไปบอกกู่ชวนมารับเด็กชายกลับไป เมือกู่เฉินคุนเห็นสีหน้าพ่อของเขา เขาก็ แทบไม่อยากกลับเลยจริง ๆ เด็กชายถูกพ่อตัวเองทําสีหน้าเคร่งขรึมใส่แล้วถูกจับ โยนขึนไปบนเกียวราวกับถือลูกไก่ไร้ทางสู้ก่อนจะจากไปในทีสุด
ณ ตอนนีจึงเหลือเพียงเลียวชุนหยู่
สองวันมานีเนืองจากมีกู่เฉินคุนอยู่เป็ นเพือน อารมณ์ของเลียวชุนหยู่ค่อย ๆ คงที มากขึน ในแววตาของเขาก็ดูมีราศีแล้วเช่นกันและเริมพูดคุยเฮฮา แต่ตอนทีมีหลิว กับสุนถาวยกนําเข้ามาเพือทีช่วยเช็ดตัวให้ เขาก็ยังคงสันโดยไม่รู้ตัว แต่ไม่นานก็ สามารถควบคุมตัวเองได้ ทว่าถ้ามองดี ๆ ก็จะเห็นว่ามือของเขายังคงสันอยู่ เล็กน้อย
เจียงหยุนชานรู้สึกร้อนใจยิงนัก เขาเองก็ เคยพูดคุยเกียวกับปัญหานีกับเจียงป่ าวชิง หลายครังแล้ว นีถือเป็ นโรคเครียดหลังเกิดบาดแผล แต่ก็โชคดีทีเลียวชุนหยู่ยังคง ควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ และดูเหมือนไม่ได้ร้ายแรงมากเป็ นพิเศษจึงไม่ถึงขัน ต้องใช้ยาช่วย อย่างมากก็แค่ให้ยาทีมีฤทธิD กล่อมประสาทเพือช่วยในการผ่อน คลาย ทีเหลือก็ดูสถานการณ์กันต่อไป
ในเมือหมอมืออาชีพอย่างน้องสาวพูดมาเช่นนีแล้ว เจียงหยุนชานจึงพยักหน้า เข้าใจ
…
ตอนบ่าย เลียวชุนหยู่ก็ดูมีชีวิตชีวามากขึน เขารู้สึกว่าไม่ดีเท่าไหร่ทีจะอยู่ในห้อง ของเพีสาวแบบนีไปตลอดจึงเป็ นฝ่ ายขอเจียงหยุนชานให้ไปหาเด็กรับใช้มาแบก เขากลับห้องของตัวเอง
เมือคนป่ วยกลับไปหมดแล้ว มีหลิวก็เข้ามาพร้อมกองผ้าปูทีนอนและเครืองนอน ทีซักแล้ว นางเปลียนเครืองนอนเดิมบนเตียงและใส่ชุดใหม่เข้าไป “แม้จะไม่ใช่ คนนอกแต่คุณชายเล็กก็ไม่สบาย มันไม่ดีถ้าหากว่าไข้ของเขาติดแม่นางเจ้าค่ะ”
มีหลิวกอดเครืองนอนชุดเก่าออกไปซักและเปิ ดประตูกับหน้าต่างในห้องเพือให้ แดดส่องเข้ามา
เจียงป่ าวชิงมองดูแผ่นหลังของมีหลิวทีออกไปจากห้องแล้วอดทอดถอนใจไม่ได้ ว่าตอนนีนางคุ้นชินกับการทีมีมีหลิวคอยช่วยทําอะไรให้มากขึนเรือย ๆ ดู เหมือนว่าสันดานเดิมของนางจะเป็ นคนขีเกียจซะแล้วสิ
…
ตกกลางคืน เนืองจากเหนือยมานานหลายวัน เจียงป่ าวชิงจึงสังให้มีหลิวไป พักผ่อนตังแต่เนิน ๆ แล้วตนเองก็อ่านหนังสือแปลกพิลึกเล่มเดิมภายใต้แสงเทียน สักพัก นางเพิงอ่านได้สองบทสนทนาก็ได้ยินเสียงเคาะเบา ๆ ดังมาจากนอก หน้าต่าง
เจียงป่ าวชิงตกใจทันที
นีเป็ นสัญญาณลับทีกงจีตกลงกับนาง ในช่วงเวลาแห่งความรักทีเร่าร้อนเช่นนี การพรรณนาว่าไม่เจอหนึงวันเหมือนไม่ได้เจอกันสามปี นันไม่ใช่คําพูดเกินจริง เลย แม้เจียงป่ าวชิงจะไม่พูดอะไรในยามปกติ แต่นางกลับคิดถึงอีกฝ่ ายอยู่ในใจ เสมอจึงโยนหนังสือในมือทิงและรีบไปเปิ ดหน้าต่ างทันที
ภายใต้แสงจันทร์และบรรยากาศอันเงียบงันในคืนฤดูหนาว กงจียืนอยู่นอก หน้าต่าง หันหลังให้แสงจันทร์สุกสกาว เขายังคงยิมให้นางภายใต้ลมทีหนาวเย็น
มุมปากของเจียงป่ าวชิงยกขึนตามอย่างอดไม่ได้ นําเสียงนางก็อ่อนลงมากและมัน ปนกับความอ่อนช้อยทีแม้แต่นางเองก็ไม่รู้ตัว “คุณชายช่างรูปงามจนน่า รับประทานจริง ๆ”
กงจีเหลือบมองเจียงป่ าวชิงแล้วเขาก็กระโดดเข้ามาผ่านหน้าต่างอย่างรวดเร็ว พร้อมทังปิ ดให้เสร็จสรรพ สุดท้ายก็ดึงร่างบางเข้ามาไว้ในอ้อมกอด “เช่นนันก็ดี ตอนนีเจ้าอยู่ในอ้อมกอดข้าแล้ว ข้าจะรอดูว่าเจ้าจะกินข้าหรือไม่”
เจียงป่ าวชิงผลักกงจีเบา ๆ ด้วยรอยยิมเขินอาย
สําหรับกงจี เพียงแค่นีไม่ถือว่าเจ็บอะไรเลย เขากอดนางด้วยสีหน้าราบเรียบแล้วจู่ ๆ ก็พูดขึนมาอย่างมีความหมายหลังจากทีจ้องนางอยู่นาน “ข้าอยากมาตังแต่เมือ สองวันก่อนแล้ว แต่คนทีนีเยอะเกินไป”
สองสามวันนีทีบ้านนางมีคนอยู่ตลอด เจียงป่ าวชิงพยักหน้าเล็กน้อย “น้องชาย ของข้ากับเด็กอีกคนตกนํา แต่โชคดีทีคุณชายเผยในจวนช่วยพวกเขาขึนมาได้ ก่อน”
“คุณชายเผย…” กงจีพูดซําก่อนจะยิมด้วยสีหน้าอ่ านยาก เจียงป่ าวชิงมองกงจี
แต่กงจีกลับไม่อยากพูดถึงชายอืนใดกับนาง ยิงเรืองตอบแทนบุญคุณเช่ นนันด้วย แล้ว ชายคนนันเหมือนจะคิดอะไรกับผู้หญิงของเขา
แต่แม้ว่าชายคนนันจะดูทําตามใจชอบและไม่อยู่กับร่องกับรอยเท่าไรนัก อีกฝ่ ายก็ ยังสุภาพกับผู้หญิงของเขาและไม่ทําอะไรเกินเลย เขาถึงตัดสินใจไม่ไปคิดเล็กคิด น้อยกับอีกฝ่ าย
แต่ไม่คิดเล็กคิดน้อยไปก็เท่านันเพราะเขายังคงรู้สึกหึงหวงในใจ