โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 - ตอนที่ 280
โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.280 – เผชิญหน้าบนท้องถนน
การต่อสู้ระหว่างฉินเฟิงกับซงหยูเหิงก่อให้เกิดผลกระทบครั้งใหญ่
ไม่ไกลจากฮั่นจวนโกว บนท้องถนน ที่ห่างออกไปกว่าหลายลี้ ยังสามารถสัมผัสได้ถึงแรงกดดันของพวกเขา กองคาราวานที่กำลังจะขับผ่าน หวาดกลัวเกินกว่าจะเดินหน้าต่อ
เป็นใครกัน? ตัวตนทรงอำนาจกำลังดวลกันที่นี่อย่างงั้นหรือ?
ณ ใจกลางการต่อสู้ ระดับความรุนแรงยิ่งมายิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ
กำลังภายในของฉินเฟิงไม่อ่อนแอเลย แต่ในด้านกระบวนท่า เขาด้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด
“ตายซะ!” ซงหยูเหิงกระแทกฝ่ามือคู่ ไล่บดขยี้ฉินเฟิงอย่างบ้าคลั่ง ฉินเฟิงถูกฝ่ามือโจมตีอยู่หลายคราว แต่สิ่งที่ทำให้ซงหยูเหิงรู้สึกอารมณ์เสียที่สุดก็คือ อีกฝ่ายกลับไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย
‘ฝ่ามือละลายโลหิตไม่มีผล? หรือเป็นเพราะว่ามันสามารถหาวิธียับยั้งฝ่ามือละลายโลหิตได้แล้วกันแน่?’
ซงหยูเหิงยิ่งนานยิ่งอาละวาดคลั่ง ถนนทั้งสายเริ่มพังทลาย รถศึกที่ล้อมอยู่รอบด้านเองก็พลอยโดนลูกหลง เสียหายไปหลายคัน
“ดรรชนีโลหิต!” ซงหยูเหิงจู่ๆก็เปลี่ยนกระบวนท่าทันใด หนึ่งนิ้วจี้เข้าหาฉินเฟิงด้วยความเร็วราวกับสายฟ้าฟาด
กำลังภายในระเบิดออกจากนิ้ว ควบรวมกันเป็นจุดเล็ก ปลดปล่อยอำนาจอันยิ่งใหญ่ จ้วงเข้าใส่ไหล่ของฉินเฟิง
คราวนี้ ในที่สุดเนื้อหนังบนร่างกายของฉินเฟิงก็ได้รับบาดเจ็บ แต่มันปรากฏแค่เพียงร่องรอยบาดแผลเล็กๆเท่านั้น อย่างไรก็ตาม การโจมตีโดยดรรชนี มันสามารถตรึงทั้งร่างของฉินเฟิงเอาไว้ได้อย่างน่าฉงน ไม่อาจเคลื่อนไหวได้อย่างกระทันหัน
—นี่คือวรยุทธโบราณขั้นสูง มีอำนาจในการตัดชีพจร หรือเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไปคือวิธีการเดียวกับการฝังเข็ม
แน่นอน เทคนิคนี้ได้สาบสูญไปนานแล้ว แต่ในยุคโลกาวินาศ ที่ความแข็งแกร่งเป็นสิ่งจำเป็น การที่มันจะถูกรื้อฟื้นออกมาอีกครั้งก็ใช่จะเป็นไปไม่ได้ ยามเมื่อถูกนิ้วจี้สกัดจุด ร่างของฉินเฟิงก็มิอาจเคลื่อนไหวได้ช่วงเวลาหนึ่ง
ฉินเฟิงรู้สึกว่าเลือดลมหยุดหมุนเวียนในร่างกายของเขา เส้นลมปราณถูกตัดขาดอย่างกระทันหัน กำลังภายในเกิดความผิดปกติ ร่างกายแข็งทื่อ
อย่างไรก็ตาม กระบวนการดังกล่าวมันก็เกิดขึ้นแค่เสี้ยววินาทีเดียว ไม่ทันจะได้พริบตาด้วยซ้ำ
ประโยชน์ของพลังพิเศษดูดกลืน ช่วงเวลาเมื่อครู่ ความสามารถของมันก็ได้สำแดงสู่สายตา
เนื่องจากพลังดูดกลืนของเขา เส้นลมปราณเลยขยายใหญ่ จึงไม่ง่ายที่จะถูกโจมตี พริบตาเดียวก็กลับคืนสู่สภาพปกติ
แต่สำหรับการต่อสู้ระหว่างผู้เชี่ยวชาญ ชั่ววินาทีเดียวมันก็มากพอแล้วที่จะใช้ตัดสิน
ทั้งใบหน้าของซงหยูเหิงฟุ้งไปด้วยความดุร้าย ง้างฝ่ามือฟาดออกไป โดยเล็งลงตำแหน่งหน้าผากของฉินเฟิง
ตราบใดที่ฝ่ามือนี้ตบโดน ฉินเฟิงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
ช่วงระหว่างความเป็นความตาย ฉินเฟิงกลับเงียบสงบจนน่าตกใจ ดวงตาของเขาจู่ๆก็มืดมนกลายเป็นลึกล้ำ
วูซซซ!
นอกจากนี้ยังปรากฏเส้นแสงสีดำ ผลุบออกมาจากหว่างคิ้วของฉินเฟิงโดยตรง ยิงเข้าใส่ศีรษะของซงหยูเหิง
ทันใดนั้นวิสัยทัศน์ของซงหยูเหิงพลันกลายเป็นดำมืด สูญสิ้นประสาทสัมผัสทั้งห้า ฝ่ามือที่รวดเร็วและรุนแรงแต่เดิม เกิดความลังเลจนเชื่องช้า แม้เหตุการณ์นี้จะกินเวลาเพียงไม่กี่วินาที แต่มันก็มากพอที่จะฟื้นคืนอาการสตั้นของฉินเฟิง
ฉินเฟิงระเบิดฝีเท้าดีดตัวถอยออกมาได้อย่างทันท่วงที!
ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานของซงหยูเหิง เมื่อเห็นว่าตนพลาด ก็ตะปบฝ่ามือออกไปอีกครั้ง
แต่ฝ่ามือนี้ยังไม่ทันถึงตัวฉินเฟิง พื้นดินในจุดที่ฉินเฟิงเคยยืนหยัด จู่ๆก็ถูกห่อหุ้มด้วยกลิ่นอายแห่งความตายในฉับพลัน ถูกย่ำอย่างแรงจนจมเป็นแอ่งลึก
วูซซซ!
ฉินเฟิงปรากฏกายขึ้นเบื้องหลังซงหยูเหิง วาดคมมีดออกไป
ซงหยูเหิงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายสังหารจากเบื้องหลัง พลันเร่งเร้ากำลังภายในอย่างบ้าคลั่ง
กำลังภายในถูกส่งออกสู่ภายนอก พัดกระพือเป็นคลื่นลมคลั่งในอากาศ
“ฮึ่ม!” ฉินเฟิงสบถเย็นชา เขาไม่ยอมน้อยหน้า ระเบิดกำลังภายในออกมาสู้ไม่ถอย
ปัง!
กำลังภายในระหว่างเลเวล D กับ E ปะทะกัน เกิดเสียงระเบิดหนักทึบ
ผลปรากฏว่ามีดของฉินเฟิงสามารถเจาะฝ่าเข้าไปได้ ทะลุกระดูกสันหลังฝ่ายตรงข้าม
ซงหยูเหิงปลิวกระเด็น ถูกกระแทกลอยออกมาอย่างกระทันหัน ลอยเคว้งไปไกลกว่า 4 – 5 เมตร ก่อนจะตกลงกับพื้น ม้วนกลิ้งไปหลายตลบถึงจะหยุดลง
“ไม่จริง!”
“ท่านอาวุโสห้า เป็นอะไรหรือไม่!”
“ท่านปู่ห้า!”
ฝูงชนเฝ้ามองจากระยะไกล ไม่คาดคิดเลยว่าผลลัพธ์มันจะกลายเป็นแบบนี้ ดันเป็นซงหยูเหิงที่ถูกโจมตีและกระเด็นออกไปอย่างกระทันหัน
ฉินเฟิงแน่นอนไม่รั้งรอ มิคิดยินยอมให้ฝ่ายตรงข้ามตั้งตัว ย่ำเท้าโฉบไปข้างหน้าอีกครั้ง
วิสัยทัศน์ของซงหยูเหิงกลับคืนสู่แสงสว่าง ยังเป็นผลจากกำลังภายในของเขา ที่ช่วยให้สามารถปัดป้องรูนออกไปได้
“กระบวนท่านี้มันบ้าอะไรกัน?”
ซงหยูเหิงอุทานอย่างคาดไม่ถึง
มุมปากของฉินเฟิงยกสูงขึ้น เผยรอยยิ้มแย้มออกมา
“ก็กระบวนท่าที่จะใช้สังหารแกยังไงเล่า!”
สำหรับการประชันฝีมือระหว่างซงหยูเหิง ฉินเฟิงไม่คิดทำตัวเป็นเป็นคนดีมีคุณธรรม ไม่เลือกใช้แค่วรยุทธโบราณเพียงอย่างเดียว แต่ก่อนหน้านี้ที่เขาไม่ใช้อบิลิตี้ออกมา นั่นเพราะต้องการเก็บไพ่ไว้ในมือ และนี่เป็นกลยุทธ์อันยอดเยี่ยม เพราะซงหยูเหิงเองก็คาดไม่ถึงเหมือนกัน
ก็แล้วทำไมต้องมีคุณธรรมด้วยเล่า? ผลแพ้ชนะน่ะ มันวัดกันที่ใครฆ่าใครได้ต่างหาก!
ผู้ชนะคือราชา! เหตุผลเท่านี้ก็เพียพอแล้ว
ฉินเฟิงรีบไล่ตาม ซงหยูเหิงกระแทกฝ่ามือข้างหนึ่งลงกับพื้น หลบเลี่ยงได้อย่างทันท่วงที
ทว่าลำแสงสีดำ กลับพุ่งเข้าใส่เขาอีกครั้ง
ซงหยูเหิงย่อมไม่กล้าทานรับมัน แต่ลำแสงใกล้เข้ามามากเกินไป!
“ดรรชนีโลหิต!”
กำลังภายในมหาศาลถูกรีดออกมา หนึ่งนิ้วกรีดผ่านอากาศออกไป ปะทะเข้ากับลำแสง
ตูม! บังเกิดเสียงดังอึกทึก
หมอกสีเลือดและแสงสีดำระเบิดขึ้นทันใด
ซงหยูเหิงหอบหายใจหนักหน่วง การใช้งานดรรชนีโลหิตติดต่อกันสองครั้ง มันกินพลังงานเขามากเกินไป แต่อย่างน้อยก็ช่วยป้องกันเอาไว้ได้
ไม่รั้งรอใดๆ ฉินเฟิงก็ปลดปล่อยเส้นแสงความมืดออกไปอีกครั้ง
ในที่สุดซงหยูเหิงก็สามารถเห็นถึงการโจมตีนี้ได้อย่างเต็มตา เขาอุทานด้วยความตกตะลึง
“ที่แท้ก็เป็นอบิลิตี้มืด!”
เจ้าสิ่งนี้ มันไม่ใช่กระบวนท่าวรยุทธ!
“ช่างน่าสงสาร ที่กว่าจะรู้ก็สายเกินไปแล้ว!” ขณะกล่าว อบิลิตี้ของฉินก็ปะทะเข้าใส่ซงหยูเหิงโดยตรง ดวงตาของเขามืดบอดไปทันใด
เวลานี้เสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด ซงหยูเหิงต้องการจะหลบหนี แต่เนื่องจากเขาสูญสิ้นประสาทสัมผัสทั้งห้า ฉะนั้นไม่รู้ทิศทาง
แม้ช่วงเวลาดังกล่าว จะแค่ไม่กี่วินาที แต่มันก็เพียงพอแล้วที่จะฉินเฟิงประชิดตัว
คมมีดเสียบแทงเข้าใส่ซงหยูเหิง
กำลังภายในของทั้งสองคน โรมรันกันอีกครั้ง และ–
–ปัง!
ซงหยูเหิงลอยม้วนไปในอากาศ คราวนี้กินระยะทางไกลกว่า 30 เมตร ได้รับบาดเจ็บยิ่งกว่าครั้งก่อนหลายเท่า
“อ๊อก” ซงหยูเหิงกระอักเลือดคำหนึ่ง ตรงหน้าอกปรากกฏรูเลือด ยังไม่พอ ก่อนหน้านี้ฉินเฟิงเพิ่งแทงหลังเขาไป เลือดเลยไหลทะลักออกมาไม่หยุด
ใบหน้าของซงหยูเหิงพลันซีดเซียวลง เริ่มปรากฏร่องรอยของอายุขัยที่ล่วงเลย รูปลักษณ์ของวัยเยาว์ก่อนหน้านี้ กลับคืนสู่ความชราอย่างรวดเร็ว ผิวหนังค่อยๆกลายเป็นเหี่ยวย่น
เนื่องจากได้รับบาดเจ็บมากเกินไป เทคนิคแผดเผาโลหิตเลยถูกยกเลิก
ฉินเฟิงไม่เสียเวลาให้อีกฝ่ายได้พักผ่อน สับเท้าเข้าหาอีกครั้ง ง้างขาเตรียมเตะก้านคอศัตรู
หากการเตะครั้งนี้สัมฤทธิ์ผล ซงหยูเหิงย่อมตายอย่างไม่ต้องสมสัย
“หยุดนะ!”
เสียงตวาดดั่งระเบิดดังกึกก้อง ผู้แลคนสุดท้ายของตระกูลซงในที่แห่งนี้ พรวดเข้ามา ลอบจู่โจมฉินเฟิงอย่างกระทันหัน
แม้ปากเขาจะร้องตะโกนให้ฉินเฟิงหยุด แต่ตนเองกลับไม่หยุด ตะปบฝ่ามือเข้าใส่
กระบวนท่าฝ่ามือของเขา ไม่อาจฝ่ากำแพงกำลังภายในของฉินเฟิงเข้ามาได้
“ไสหัวไปให้พ้น!”
รอบกายฉินเฟิงสั่นสะท้าน กำลังภายในแพร่กระจายออกไป กระทั้นอีกฝ่ายปลิวละลิ่วกลับหลัง ชนโครม! เข้าใส่รถศึกสุดหรูของตระกูลซง
อ๊าาา ผู้ดูแลคร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด อวัยวะทั้งห้าราวกับถูกกระชาก ขยับเคลื่อนจนผิดรูปผิดรอย
ฉินเฟิงไม่คิดยั้งมือในครั้งนี้ เขาครอบครองกำลังภายในมหาศาลเกินไป มากกว่าผู้ดูแลถึงสิบเท่า ดังนั้นยามระเบิดออก เลยเป็นธรรมดาที่สามารถสยบอีกฝ่ายได้ในครั้งเดียว
“มอบชีวิตให้ข้า!” ซงหยูเหิงฉวยโอกาสนี้ แผดเผาโลหิตทั้งกาย ปรากฏแสงสีเลือดพวยพุ่ง บนฝ่ามือเขากลายเป็นกรงเล็บ กระชากเข้าหาฉินเฟิง
ฉินเฟิงหมุนกายกลับทันควัน แต่ยากนักที่จะมีเวลาปัดป้องฝ่ามือกระทันหันนี้
แคว่กกก!
เสื้อผ้าขาดวิ่น เกราะในแหลกสลาย กรงเล็บของซงหยูเหิงเจาะเข้าใส่ไหล่ของฉินเฟิง
กรงเล็บนี้ โดยปกติแล้วสามารถป่นกระดูกคนที่โดนได้อย่างง่ายดาย ทว่ายามเมื่อมันตกลงบนร่างของฉินเฟิง ช่างน่าแปลก กระทั่งเจาะเข้าไปถึงกระดูกของฉินเฟิงยังทำไม่ได้ด้วยซ้ำ!
ซงหยูเหิงรับรู้ได้แค่เพียงตัวเขากำลังจับเข้ากับเหล็กกล้าอันลึกล้ำอย่างหาที่ใดเปรียบ
ยังไม่ลืมกันใช่หรือไม่ กายเนื้อของฉินเฟิงมีระดับเท่าเทียมกับราชันย์สัตว์ร้าย ฉะนั้นซงหยูเหิงจะสามารถทะลวงมันได้อย่างไร!
“ทักษะลับกลืนดารา!”
ฉินเฟิงคว้าโอกาสนี้ ไร้ซึ่งความลังเล ผละมีดจากมือ กดลงบนตันเถียนของซงหยูเหิง
ปลดปล่อยอำนาจดูดของกลืนดารา!!