โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 - ตอนที่ 542 - ผู้พิทักษ์
Ep.542 – ผู้พิทักษ์
“บัดซบ!! รีบมาช่วยฉันเร็วเข้า!! ฆ่ามันซะ!” เผ่ามังกรร้องโวยวาย
ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา มันปฏิเสธที่จะเชื่อความจริงที่ว่า ฉินเฟิงทรงพลังยิ่งกว่า เผ่ามังกรตัวนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่ยินยอมเชื่อฟัง แทนที่จะสารภาพ มันกลับปรารถนาจะสังหารฉินเฟิงแทน
เผ่ามังกรตนอื่นๆ เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้อง ก็หันมาทางต้นเสียง ตื่นตะลึงกับภาพตรงหน้า
“อันดับแรกถอนตัวก่อน!”
หนึ่งในเผ่ามังกรร้องตะโกน และเริ่มวิ่งหนีทันที
ด้วยความว่องไวของพวกมัน พริบตาเดียวก็ฉีกหนีมาได้ไกลกว่า 100 เมตร ในขณะที่ความเร็วของวิญญาณต่างมิติเหล่านั้น ไม่อาจเทียบเท่า หลังจากไล่ตามไปสักพัก มันก็มุดกลับเข้าไปยังเครื่องจักรอันเดียวที่ออกมาในตอนแรก
ส่วนมังกรที่เหลือ ตอนนี้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง โอบล้อมฉินเฟิงจากทุกทิศทาง
“ก๊าซซซ”
ไม่จำเป็นต้องสื่อสารผ่านจิตใดๆอีกต่อไป มังกรทั้งหมดโจมตีโดยพลัน ส่วนตัวที่ถูกฉินเฟิงจับข้อมือ พวกมันคล้ายจะไม่สนใจเลย
ฉินเฟิงแสยะยิ้มเย็น ผละมือจากมังกรตรงหน้า เข้าทานรับการโจมตีจากมังกรตนอื่นๆ
ทันใดนั้นเอง ห้ามังกรจากรอบทิศทางของฉินเฟิง ราวเผชิญกับสุญญากาศ
“ทักษะลับกลืนดารา! ปลดปล่อยแรงดูด!”
กำลังภายในปะทุโหม แรงดึงดูดมหาศาล ส่งผลให้ร่างของมังกรทั้งห้ารอบกายฉินเฟิงเสียสมดุลไปโดยไม่รู้ตัว แม้พวกมันจะตรงมายังทิศทางของฉินเฟิงดังเดิม ทว่ารูปแบบปิดล้อมมิได้แน่นหนาอีกต่อไป บังเกิดช่องว่างขึ้น
ฉินเฟิงระดมกำลังภายในของตน กำลังภายในที่เทียบได้กับผู้ใช้วรยุทธโบราณเลเวล B พรั่งพรูออกมา
ร่างของฉินเฟิงกระพริบไหว รุกคืบเข้าประชิดหนึ่งในเผ่ามังกรทันที กระแทกข้อศอกใส่ศัตรูอย่างไม่ทันตั้งตัว
ตึง!
ราวกับเสียงจากการกันของแผ่นเหล็ก อย่างไรก็ตาม แรงอัดของการโจมตีนี้ สะท้อนเข้าลึกเข้าไปถึงหัวใจ
กร๊อบ!
บังเกิดเสียงดังฟังชัดของกระดูกชายโครงที่แตกหัก เผ่ามังกรอาเจียนเป็นเลือด ปลิวกลับหัวกลับหางออกไป
ฉินเฟิงควบคุมทักษะลับกลืนดาราอีกครั้ง แรงดึงดูดมหาศาลฉุดลากมังกรอีกตัวเข้ามาหาเขาและ–
–ปงงงง!
ฉินเฟิงซัดกำปั้นเข้าใส่ใบหน้าศัตรู หัวเผ่ามังกรราวถูกบิดไปอีกทาง ม้วนกลิ้งออกไป ฟันแหลมคมกระจัดกระจายในอากาศ ปากอ้ากระอักเลือดคำโต
หนึ่งหมัดโค่นหนึ่งศัตรู ฉินเฟิงไม่ได้ออมมือแม้แต่น้อย เผ่ามังกรทั้งห้าถูกจัดการแทบจะในพริบตา
มิต่างอะไรจากไก่กา!
อย่างไรก็ตาม มังกรที่ถูกส่งปลิวเป็นตัวแรก บอกตรงๆว่าไม่อยากเชื่อสายตา
“ก๊าซซซ”
มันคำรามเกรี้ยวกราด ร่างกายเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง กลายร่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีรูปลักษณ์เหมือนกับกิ้งก่าตัวใหญ่อย่างกะทันหัน
กลับคืนสู่ขนาดเดิมของเผ่ามังกร!
ในหัวใจของฉินเฟิงสั่นสะท้าน
อาจเป็นไปได้ว่าในครั้งนี้ เขาเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายเลเวล C ? ไม่ใช่ว่าพวกมันเป็นเผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญาหรอกหรือ? หรือว่าจริงๆแล้วเป็นสัตว์ร้ายที่กลายเป็นมนุษย์กันแน่?
แต่คงจะสายเกินไปหากมัวเสียเวลาคิด ฉินเฟิงเรียกมีดกษัตริย์ครามขึ้นมาในกุมมือทันใด
“มีดเปลวเพลิง!”
มีดกษัตริย์ครามพลันจรัสแสง พลังป้องกันอันคงกระพันใดๆ ทั้งหมดล้วนยอมสยบภายใต้คมมีดนี้
และในคราวนี้ ที่ต้องเผชิญกับมัน คือมังกรมากกว่า 5 ตัว!
คลื่นความผันผวนอันน่าหวาดกลัวแพร่กระจายจากสัตว์ร้ายเหล่านี้ ที่มีความสูงมากถึงสิบเมตร เทียบเท่ากับตึกสามชั้น ขยายขนาดเป็นใหญ่โตทันที ซากปรักหักพังรอบๆถูกเหยียบย่ำทำลาย พังทลายลงยิ่งกว่าเดิม
ก่อนหน้านี้ ตอนพวกมันอยู่ในรูปร่างมนุษย์ คงจะเก็บงำพลังของตนเองเอาไว้ ยามนี้จึงดูทรงพลังยิ่งกว่าเดิม
สีหน้าของฉินเฟิงแปรเปลี่ยนไป
หากต้องรับมือกับห้าราชันย์สัตว์ร้ายเลเวล C พร้อมๆกัน ต่อให้เป็นเขาก็ห้ามประมาท
“เทคนิคเพลิงบรรจบ!”
ในพริบตา เขตแดนเปลวเพลิงเริ่มโหมกระหน่ำ
ห้าราชันย์มังกรถูกกระหน่ำโจมตีรุนแรง ได้รับบาดเจ็บสาหัสท่ามกลางเปลวเพลิง แต่นั่นกลับยิ่งทำให้พวกมันดุร้าย ปรารถนาแน่วแน่ที่จะฉีกทึ้งฉินเฟิงเป็นชิ้นๆยิ่งกว่าเดิม
ฉินเฟิงอยู่ท่ามกลางเพลิงบรรจบ ซ่อนเร้นร่างของเขาภายใต้ทะเลเพลิง ทุกหนแห่งรายล้อมไปด้วยเปลวไฟ ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะพบตำแหน่งของฉินเฟิง
“ก๊าซซซ!” ราชันย์มังกรเปล่งเสียงคำรามด้วยความสับสน
“จงผนึก!”
พลังสมาธิของฉินเฟิงขยับไหว มังกรไฟนับไม่ถ้วนผุดจากทะเลเพลิง ร่ายระบำในอากาศ โฉบเข้าพัวพันเผ่ามังกร กลืนพวกมันจมสู่ทะเลเพลิง
เผ่ามังกรดิ้นรนต่อสู้อย่างดุเดือด แผ่นดินสั่นสะเทือนจากแรงปะทะ
แต่ยิ่งนาน แรงสั่นสะเทือนก็ยิ่งลดลง …
“จงกลับคืน!”
ฉินเฟิงวาดมือ เปลวเพลิงนับไม่ถ้วนลอยกลับมาตกในมือเขา สถานที่ที่แต่เดิมเป็นเขตแดนของเพลิงบรรจบ บัดนี้เหลือเพียงซากศพไหม้เกรียม
–พวกเผ่ามังกร ตายสนิท จบชีวิตลงโดยสิ้นเชิง
ฉินเฟิงสั่งการในจิตจ ตรงหน้าอกของศพมังกรเหล่านี้ระเบิดออก แก่นพลังงานขนาดเท่ากำปั้นจากแต่ละตัว ตกลงในมือเขา
แม้บนตัวของเผ่าพันธุ์พิเศษนี้จะไม่มีมูลค่าเท่ากับมังกรจริงๆ แต่แก่นพลังงานของพวกมันอุดมสมบูรณ์มาก
จากนั้น ฉินเฟิงก็เดินไปยังเผ่ามังกรเพียงตัวเดียวที่ยังมีชีวิตอยู่ มันคือตัวแรกที่มีสภาพน่าสังเวชที่สุด ถูกหักกระดูกลงโดยเขา
เมื่อเห็นฉินเฟิงเดินใกล้เข้ามา มังกรตัวนี้ตื่นตระหนกทันใด
เพราะมนุษย์ ในความคิดของมัน เป็นการดำรงอยู่ที่เล็กจ้อยและอ่อนแอ แต่ตอนนี้ กลับกลายเป็นสัตว์ประหลาดที่น่าหวาดกลัวอย่างไม่น่าเชื่อ
ฉินเฟิงปลดปล่อยพลังสมาธิ สื่อสารคำเดิมออกไปย้ำอีกครั้ง
“คราวนี้ ถึงเวลาที่แกต้องตอบคำถามของฉันแล้ว”
“นายท่านเชิญถาม! โปรดถามมาได้เลย!”
ทั้งๆที่เมื่อครู่ มันยังไม่คิดตอบคำถามของฉินเฟิงอยู่เลย คล้ายจะไม่พอใจด้วยซ้ำ
แต่พอฉินเฟิงเน้นย้ำมันอีกที สาดเสียงเย็นชายิ่งกว่าเดิม เผ่ามังกรก็เร่งตอบทันควัน “ เผ่ามนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่ลึกลับมากท่ามกลางมิตินับไม่ถ้วน ยีนของพวกนายท่านสามารถให้กำเนิดได้หลากหลายเผ่าพันธุ์ บางเผ่าแม้ทรงพลัง ทว่ามีปัญหาด้านการสืบพันธุ์ ดังนั้นพวกเขาเลยต้องการยีนของมนุษย์ แม้ผลลัพธ์ของมัน ในการผลิตลูกหลานรุ่นต่อๆไปจะทำให้ความแข็งแกร่งลดทอนลงก็ตาม”
“ส่วนในกรณีพวกเราเผ่ามังกร สามารถสืบพันธุ์กับเผ่าไหนก็ได้ แต่ถ้ากับพวกเลือดไม่บริสุทธิ์ ความแข็งแกร่งจะลดทอนลงเป็นอย่างมาก มีเพียงมนุษย์เลือดบริสุทธิ์เท่านั้น ที่เป็นของหายาก!”
สีหน้าของฉินเฟิง เย็นชายิ่งกว่าเดิม
คำพูดเหล่านี้ ก่อนจะเกิดใหม่ เขาไม่เคยได้ยินมันมาก่อน
แต่ก็ไม่น่าแปลกใจอะไร เพราะในชีวิตก่อน ฉินเฟิงเริ่มต้นจากบ้านนอก และค่อยๆไต่เต้ามาทีละขั้น ฉะนั้นเขาจะไปเทียบกับลูกรักของพระเจ้าในเมืองหลวงมังกรได้อย่างไร? แค่ทรัพยากรด้านข้อมูลก็เทียบไม่ได้แล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดใหม่ เขาเข้าร่วมกับพันธมิตรมนุษยชาติ และตอนนี้ตนเป็นถึงลูกรักของพระเจ้า สามารถเข้าสู่เขตแดนลับอันแสนประหลาดนี้ แม้ความแข็งแกร่งของเขาจะยังไม่เท่ากับชีวิตก่อน แต่ก็สามารถพัฒนาได้เร็วยิ่งกว่า ทั้งยังได้รับประสบการณ์ , ข้อมูล , เรื่องราวที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน
“หรือถ้าจะให้พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ มิติของเผ่ามนุษย์ เป็นเป้าหมายในการรุกรานของเผ่าพันธุ์ใหญ่อื่นๆใช่ไหม? งั้นหลังจากกลายเป็นอาณานิคมของพวกแก สุดท้ายมันจะเกิดอะไรขึ้นกับมิติมนุษย์? ไม่ใช่ว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมดจะถูกฆ่าหรอกหรอ!”
น้ำเสียงของฉินเฟิงดังขึ้น เย็นชามากขึ้น
ตอนนี้ฉินเฟิงเพิ่งเกิดใหม่ได้ปีกว่าๆ แต่เมื่อลองย้อนนึกไปถึงความทรงจำเก่าๆ ช่วงเวลาที่ผ่านมา ปรากฏเผ่าพันธุ์ทรงภูมิปัญญารุกรานเข้ามามากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ จับมนุษย์ผู้หญิงไปเป็นทาส คอยปรนเปรอ ในขณะที่ผู้ชายส่วนใหญ่ถูกฆ่าตาย สิ่งนี้ทำให้ฉินเฟิงรู้สึกโกรธมากจริงๆ
“ไม่อาจทำแบบนั้นได้! เพราะเผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง บางคนแข็งแกร่ง ทรงพลังอย่างยิ่งยวด ตราบใดที่ในเผ่ามนุษย์ยังมีผู้พิทักษ์เช่นนั้นอยู่ เผ่าพันธุ์ต่างมิติอย่างพวกเราก็ไม่สามารถแตะต้องได้”
ในบรรดาเผ่าพันธุ์อื่นๆ หลังจากก้าวเข้าสู่วัยผู้ใหญ่แล้ว ความแข็งแกร่งจะยังคงเดิม ตัวอย่างเช่นเผ่ากริม หลังจากก้าวสู่วัยผู้ใหญ่แล้ว พวกมันทั้งหมดจะเป็นเลเวล C และจะวิวัฒนาการแค่เพียงระดับเป็นทหาร , นายพล , ราชันย์ และจักรพรรดิเท่านั้น
แต่มนุษย์แตกต่างออกไป พวกเขาสามารถพัฒนาได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ก้าวไปได้ถึงกระทั่งเลเวล S
หลังจากที่มนุษย์ถูกปลุกพลัง จริงอยู่ที่ว่าช่วงแรกๆพวกเขาอ่อนแอมาก เรียกได้เลยว่าอยู่ในระดับต่ำสุดของห่วงโซ่อาหาร
เรื่องนี้ ในสายตาของเผ่าพันธุ์อื่นๆแล้ว เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องแปลกมาก
”ผู้พิทักษ์?” ฉินเฟิงพึมพำกับตัวเอง ในหัวกำลังนึกถึงหลงถิง และผู้ใช้พลังเลเวล S คนอื่นๆในพันธมิตรมนุษยชาติ