โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 - ตอนที่ 59
Ch.59 – เข้าสู่เวทีประลอง
Translator : Muntra / Author
โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ Ep.59 – เข้าสู่เวทีประลอง
เสี่ยวเหลียนเบิกตากว้าง จ้องมองฉินเฟิงอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“มิสเตอร์ฉิน หยุดล้อเล่นอะไรแบบนี้เถอะ มันไม่ใช่เรื่องน่าตลกเลย บนเวทีน่ะ มันมีแต่พวกนอกกฏหมายทั้งนั้น!”
คนที่ปรารถนาจะเข้าร่วมประลอง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาเป็นคนจน แต่ฉินเฟิงดูยังไงก็เป็นนายน้อยจากตระกูลร่ำรวย มีเงินทองมั่งคั่งสมบูรณ์ แล้วทำไมเขาถึงได้มีความคิดแบบนี้กัน?
“เธอไม่ต้องสนใจเรื่องพวกนี้หรอก ขอแค่บอกวิธีพาฉันให้สามารถลงไปที่เวทีประลองได้ก็พอ!”
ฉินเฟิงหยิบม้วนธนบัตรออกมาอีกครั้ง และโยนมันให้แก่เสี่ยวเหลียน
เสี่ยวเหลียนก้มลงมองเงินจำนวนมาก เธอรู้สึกว่าไม่ควรที่จะขัดใจนายน้อยคนนี้ เจ้าตัวกัดฟันและกล่าว “ถ้าอย่างงั้นมิสเตอร์ฉิน โปรดมากับฉัน แต่ไม่รับประกันหรอกนะ ว่าคุณจะสามารถท้าทายกับจอมหักกระดูกได้!”
ฉินเฟิงตามหลังเสี่ยวเหลียน และถูกพามายังห้องลงทะเบียน
พนักงานที่นั่งอยู่หลังโต๊ะลงทะเบียนรู้สึกประหลาดใจมาก เมื่อเขาเห็นฉินเฟิง เพราะยังไงซะ ฉินเฟิงก็ดูไม่เหมือนคนที่ขาดเงินแต่อย่างใด
“นายหนุ่มน้อย การขึ้นสู่เวทีประลองไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ทางเราเองก็มีกฏเกณฑ์ ตราบใดที่คุณเข้าร่วมแล้ว คุณจำเป็นต้องต่อสู้ให้ครบทั้งห้ารอบ หลังจากนั้นคุณถึงจะสามารถเลือกได้ว่าจะพักหรือไปต่อ และคุณสามารถเลือกต่อสู้ได้มากสุดถึง 35 รอบ! ส่วนในวันถัดไป ศัตรูแต่ละรอบที่ต้องเผชิญจะแข็งแกร่งขึ้น และมีประสบการณ์มากยิ่งขึ้น คนอายุพอๆกับคุณที่มาลงเวทีประลอง ส่วนใหญ่แล้ว แทบจะไม่มีใครเลยที่ยืนอยู่ได้ถึงรอบที่ 3 !”
พนักงานลงทะเบียนกล่าว นี่ไม่ใช่แค่การอธิบาย หากแต่ยังเป็นการขู่ให้ฉินเฟิงทราบถึงความโหดร้ายที่ต้องเผชิญ เพื่อให้เขาตัดสินใจยอมถอดใจไป
ฉินเฟิงพยักหน้าอย่างเฉยเมย ปากเอ่ยถาม “แล้วเรื่องเงินรางวัลล่ะ?”
ถึงแม้ว่าเขาจะมาที่นี่เพื่อเพิ่มพูนความแข็งแกร่งวรยุทธโบราณของตัวเอง แต่ถ้ามีเงินรางวัลเป็นของแถม มันก็ดีไม่ใช่หรอ?
เมื่อเห็นว่าฉินเฟิงยังไม่ยอมถอย พนักงานก็ขี้เกียจเกินกว่าจะใส่ใจชีวิตและความตายของอีกฝ่าย ดังนั้นจึงรับเรื่องตรวจสอบข้อมูลของฉินเฟิง
‘เอาไว้ถ้าเจ้าหนุ่มนี่มาจากตระกูลผู้มีอำนาจ ก็ค่อยบอกคู่ต่อสู้ให้ยั้งมือ ไว้ชีวิตเขาก็ได้’
“ตราบใดที่คุณชนะรอบแรก จะได้รับเงินรางวัล 10,000 เหรียญ , ชนะรอบที่สองได้รับ 50,000 เหรียญ , รอบที่สาม 100,000 เหรียญ ,รอบที่สี่ 500,000 เหรียญ ส่วนรอบที่ห้า จะได้รับ 1,000,000 เหรียญ!”
อีกฝ่ายยอมคายตัวเลขออกมา หลังจากคำนวณแล้ว หากชนะติดต่อกันห้ารอบ ก็จะได้รับทั้งสิ้นเป็นเงิน 1.66 ล้าน
อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่กลับไม่สามารถรับเงินที่ว่านั่นได้
เนื่องจากเงินรางวัลเหล่านี้ จะมอบให้หลังจบรอบที่ห้าเท่านั้น ก็เหมือนกันกับนักสู้เสือทรราชนั่นแหละ ที่แม้เขาจะชนะสี่รอบแรกได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะได้รับเงิน 660,000 เหรียญ ในทางกลับกัน เขาตายซะก่อนที่จะได้รับเงินนั่น!
“นอกจากนี้ คุณยังสามารถได้รับเงิน 1 ใน 10 ส่วน จากรางวัลที่ผู้ชมมอบให้”
ฉินเฟิงพยักหน้าและเอ่ยถาม “งั้นเงินรางวัลหลังจากชนะติดต่อกัน 6 ครั้งล่ะ? เป็นจำนวนเท่าไหร่?”
ชายจากโต๊ะลงทะเบียนเกือบจะหลุดหัวเราะเสียงดังออกมา
วันนี้จะรอดชีวิตไปได้รึเปล่ายังไม่รู้เลย แต่นี่เขาดันถามถึงการชนะติดต่อกัน 6 ครั้งซะแล้ว
“ทุกๆเกมหลังจากนั้น คุณจะได้รับเงินรางวัลเพิ่มขึ้นทีละ 1 ล้านเหรียญ นั่นคือชนะรอบที่ 6 ได้รับ 2,000,000 เหรียญ รอบที่ 7 ได้ 3,000,000 รอบที่ 8 ได้ 4,000,000 แล้วหากคุณสามารถชนะต่อเนื่องได้ครบ 35 รอบ ถึงเวลานั้น การจะมีเงิน 100 ล้าน ก็ไม่ใช่ปัญหา!”
แน่นอนว่านี่คือการพูดแดกดัน แต่ขณะเดียวกันก็เป็นการป้อนก้อนเค้กชิ้นใหญ่ล่อลวงฉินเฟิง เพราะหากเขาเป็นแค่คนหนุ่มสาวทั่วไป เขาจะต้องตื่นตาตื่นใจกับเรื่องนี้ และจมอยู่กับห้วงฝันที่ตนถักทอขึ้น
ต้องรู้นะว่า เงินเกือบ100 ล้าน มันเป็นจำนวนที่แทบจะไม่อาจจินตนาการได้!
“ไม่เลวนี่”
ฉินเฟิงพยักหน้า ด้วยรางวัลมากขนาดนี้ มันเพียงพอแล้วที่จะให้เขายอมรับความเสี่ยง!
ฉินเฟิงถอดอุปกรณ์สื่อสาร และดึงข้อมูลของเขาออกมา
“ช่วยลงทะเบียนให้ฉันด้วย!”
คนจากโต๊ะลงทะเบียน เมื่อเห็นว่าฉินเฟิงยังดื้อดึงอยากจะตาย เขาก็ไม่คิดห้ามปรามใดๆอีก แต่หลังจากตรวจสอบข้อมูลของฉินเฟิง สีหน้าของคนจากโต๊ะลงทะเบียนก็แปรเปลี่ยนไป
“คุณเป็นเด็กกำพร้า? แถมยังเพิ่งฉีดยากระตุ้นพลังไปเมื่อเดือนที่แล้ว!?”
“ใช่”
เสี่ยวเหลียนสะดุ้งตกใจ เมื่อได้ยินคำตอบของฉินเฟิง เธอไม่คาดคิดเลย ว่าบุคคลๆนี้จะอายุน้อยกว่าตัวเองถึงสามปี
แต่เมื่อเห็นเสื้อผ้าและอุปกรณ์สื่อสารของฉินเฟิง เสี่ยวเหลียนก็เหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง
บางที อาจเป็นไปได้ว่าเขาจะออกไปหาเงินจากในทุ่งล่า พอกลับมาก็ถลุงอย่างฟุ่มเฟือย สุดท้ายถูกดึงดูดเข้ามายังเวทีประลองใต้ดิน
มีผู้คนมากมายที่เป็นเช่นนี้ เพราะท้ายที่สุดแล้ว คลับอินทรีต้องการขยายธุรกิจของพวกเขา และมักโฆษณาเกินจริงประมาณว่า : ไม่ว่าใครก็สามารถร่ำรวยได้ในชั่วข้ามคืนจากสนามประลองใต้ดิน
มีหลายคนที่ถูกล่อลวงมา และนำพาไปสู่ความตาย
นี่คือสิ่งที่พนักงานโต๊ะลงทะเบียนคิด
“ดูเหมือนคุณจะมีความมั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเองมากทีเดียว โอเค! ฉันจะลงทะเบียนให้ คุณต้องการใช้ฉายาว่าอะไร?”
ฉายาที่ว่า ก็เหมือนกับพวกนักสู้ก่อนหน้านี้ : เสือทรราช , จอมหักกระดูก ฯลฯ
ฉินเฟิงพาลนึกไปถึงจิ้งจอกตัวน้อยที่ยังหลับปุ๋ยอยู่ที่บ้าน เอ่ยขึ้นทันใด “เรียกฉันว่าจิ้งจอกคลั่ง!”
…
【นักสู้คนต่อไปของเรา มีชื่อว่า ‘จิ้งจอกคลั่ง’ และเขาเพิ่งอายุ 16 ปีเท่านั้น ฮ่าฮ่าฮ่า! ใช่แล้ว ทุกท่านได้ยินไม่ผิดจริงๆ เขาคือวัยรุ่นที่เพิ่งได้รับการฉีดยากระตุ้นเมื่อหนึ่งเดือนที่แล้วนี่เอง! สำหรับคู่ต่อสู้ของเขา ไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งเท่าไหร่ แต่ก็เป็นพวกที่สามารถลงมือทรมานอย่างโหดร้ายให้ดูชมกันได้!】
ผู้ชมนอกเวทีพากันระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
ก็ถ้าสนามประลองใต้ดินไม่โหดร้าย แล้วยังจะมีใครอีกที่สามารถเรียกได้ว่าโหดร้าย?
【คู่ต่อสู้ของเขาคือ ไอ้มืดคลั่ง!】
โปรไฟล์ของไอ้มืดคลั่งปรากฏสู่สายตาของผู้ชมทันที ความแข็งแกร่งของไอ้มืดคลั่งนั้นไม่เลวเลย แม้ว่าจะไม่มีการประเมินจัดอันดับแบบมืออาชีพ แต่ในวิดีโอที่แสดงต่อหน้าผู้ชม หมัดที่ไอ้มืดคลั่งซัดออกไป พลังโจมตีของมันรุนแรงพุ่งไปสูงถึง 1,000 !
หรือกล่าวอีกความหมายนึงก็คือ ความแข็งแกร่งของไอ้มืดคลั่งอยู่ในเลเวล G2
ไอ้มืดคลั่งคืออันธพาลที่ถูกชุบเลี้ยงโดยคลับอินทรี อันธพาลเหล่านี้มักจะมีโอกาสได้ขึ้นไปบนเวที หากชนะก็ได้รับ 10,000 โดยตรง แต่พวกเขามักจะมีลูกเล่นตุกติกมากมาย เพราะท้ายที่สุดแล้ว ความแข็งแกร่งของไอ้มืดคลั่งไม่ได้สูงมากมายนัก
อย่างไรก็ตาม ประวัติของไอ้มืดคลั่งก็ไม่เลวเลย ในฐานะผู้ท้าชิง มันต่อสู้ไปแล้วมากกว่า 11 ครั้ง แต่พ่ายแพ้เพียง 3 เท่านั้น
“แบบนี้ยังต้องวิเคราะห์เกี่ยวกับการต่อสู้ในครั้งนี้อีกหรอ ฉันมั่นใจเลย ว่ายังไงไอ้มืดคลั่งก็จะชนะ!”
“เอาเลยไอ้มืดคลั่ง แสดงให้บิดาได้เห็นวิธีการทรมานคู่ต่อสู้ของแกซะ!”
“ฉันเดิมพันว่าไอ้มืดคลั่งจะชนะ!”
อัตราต่อรองของฉินเฟิงคือ 1 : 1.3
อัตราต่อรองของไอ้มืดคลั่ง อยู่ที่ 3 : 4
เดิมพันฉินเฟิง100 ถ้าชนะได้ 130 ส่วนไอ้มืดคลั่ง เดิมพัน300 หากชนะได้รับเพิ่มไปอีก 100 สำหรับการต่อสู้รอบแรก อัตราต่อรองจะไม่สูงมากนัก ไม่ว่าใครจะชนะ ทางบ่อนก็สามารถทำเงินได้
ด้วยเหตุนี้เอง จึงไม่ค่อยมีนักพนันรุ่นเก๋าเลือกที่จะเดิมพัน
ยิ่งไปกว่านั้น การต่อสู้รอบแรกก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าการเฝ้ารอ เพื่อรับชมรอบต่อไป!
【นักสู้ทั้งสองคนต่างก็มีคำว่า ‘คลั่ง’ อยู่ในชื่อของพวกเขา งั้นเรามาดูกันเถอะครับ ว่าไอ้คลั่งทั้งสอง จะแสดงโชว์อะไรให้พวกเราได้รับชม!】
แก๊ง แก๊ง แก๊ง!
เสียงระฆังดังขึ้น โล่พลังงานผุดคลุมรอบเวที ฉินเฟิงและไอ้มืดคลั่งยืนเผชิญหน้ากัน
ทั้งคู่สวมกางเกงขาสั้น และรองเท้าต่อสู้ เปิดเผยสัดส่วนร่างกายท่อนบนของพวกเขา
ไอ้มืดคลั่งสูงกว่า 1.9 เมตร มีผิวเข้มคล้ำ กล้ามเนื้อนูน เต็มไปด้วยพลัง
ตรงกันข้าม สีผิวของฉินเฟิงกลับขาวราวข้าวสาลี ดูมีสุขภาพที่ดี กล้ามเนื้อเป็นสัดส่วน สูงแค่178 ซม. ผอมเพรียวและยังหนุ่มแน่น
“ล้างคอรอไว้ได้เลยเจ้าหนู ฉันจะฉีกแกเป็นชิ้นๆ!” ไอ้มืดคลั่งยิ้ม เผยให้เห็นฟันขาวๆที่ดูชัดเป็นพิเศษ “หลังจากฉีกแกแล้ว ฉันก็จะเอาเนื้อแกกลับบ้านไปย่างทำเป็นอาหาร! เพราะฉันอยากจะรู้มานานแล้ว ว่าไอ้ผิวที่ดูดีแบบนี้มันจะนุ่มและมีรสชาติยังไง!”
สีหน้าของฉินเฟิงหม่นทะมึนลง กลิ่นอายสังหารกระพริบไหวในดวงตา
ดูเหมือนว่า เขาจะไม่จำเป็นต้องมีความเมตตาใดๆในครั้งนี้
ไอ้มืดคลั่งเป็นฝ่ายชิงบุกโจมตีก่อน มันวาดกำปั้นที่เปี่ยมไปด้วยพลังราวกับเสือตะปบเหยื่อ
แน่นอน ว่าฉินเฟิงสามารถสังหารอีกฝ่ายได้ในคราวเดียว แต่เขาก็ไม่เต็มใจที่จะเปิดเผยความแข็งแกร่งของตัวเองออกมาทั้งหมดในทันที ขณะเดียวกันก็ไม่คิดออมมือใดๆ
เปรี้ยง!
ฉินเฟิงฉวยโอกาสนี้ชกเข้าใส่เบ้าหน้าไอ้มืดคลั่ง ภายใต้แรงมหาศาล หัวของอีกฝ่ายสะบัดเอียงไปทางขวาอย่างแรง เลือดพุ่งกระฉุดออกจากปาก และหากสังเกตดีๆ จะพบว่ามีฟันขาวๆเมื่อครู่กระเด็นหลุดตามออกมาด้วย!