โคตรพยัคฆ์โลกาวินาศ【之全能大師 】 - ตอนที่ 600 - สุดยอดจักรกลล้ำหน้า
Ep.600 - สุดยอดจักรกลล้ำหน้า
มีดบินเหล่านี้เป็นอาวุธลับ ในหมู่ศัตรูระดับต่ำที่มิได้แข็งแกร่ง นี่ถือเป็นวิชาลอบสังหารอันทรงประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม ศัตรูที่ว่า เมื่อมาถึงเลเวล C ไม่ว่าจะเป็นมือปืนหรือผู้ใช้อบิลิตี้ พวกเขาจะสามารถใช้พลังสมาธิควบคุมวัตถุจากระยะไกลได้ ทั้งยังสามารถส่งคลื่นก่อกวนอย่างรุนแรง
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า นี่มันอะไรกัน? คิดใช้ของเล่นมาสู้กับฉันงั้นหรอ?” ติหรังเหน็บแนม
ช่วงเวลานี้ ดวงตาของคงโบะราวกับมีโลหิตหลั่งออกมา ความโกรธเกรี้ยวกระทบกระเทือน แล่นไปถึงสมองของเขา
เรื่องนี้เขาเองก็ทราบ ดูเหมือนว่าครั้งนี้ศัตรูจะทำการบ้าน เตรียมรับมือกับเขามาเป็นอย่างดี
“ถ้าแกมัวแต่พึ่งพลังสมาธิ แล้วคิดว่าสามารถฆ่าฉันได้ล่ะก็ ขอบอกเลยว่าแกประเมินฉันต่ำไป!” คงโบะแสยะยิ้มเย็น
จากนั้น คงโบะไม่ได้ขว้างมีดบินอีกต่อไป แต่กุมด้ามมีด หันปลายแหลมกลับหัวอยู่ในสภาพชี้ลงดินแทน เปลี่ยนท่วงท่าคล้ายกำลังควงกริซอยู่
สีหน้าของติหรังแปรเปลี่ยนเป็นจริงจัง ถึงแม้คงโบะจะมีชื่อเสียงในด้านมีดบิน และอาวุธลับเหล่านั้นมีข้อจำกัดอยู่เยอะเกินไป แต่มิได้หมายความว่าเจ้าตัวไม่มีทักษะในด้านอื่นๆ
ด้วยสถานะผู้ใช้วรยุทธโบราณ และไม่คำนึงถึงว่ากระบวนท่าวรยุทธที่มีชื่อเสียงของคงโบะคืออะไร ด้วยความแข็งแกร่งของเขา ถือว่าเป็นผู้หนึ่งที่ครอบครองกำลังภายในมหาศาล!
วูซซซ!
ร่างของคงโบะวูบไหว หายวับไปจากจุดเดิมด้วยความเร็วสูง พริบตาเดียวเข้าประชิดติหรัง
“ไม่ได้แอ้มหรอกน่า!”
ติหรังตอบสนองอย่างรวดเร็ว พลังธาตุระเบิดออกจากกายเขาในคราวเดียว ก่อร่างกำแพงหนาที่ทำจากดิน!
ที่แท้ติหรังก็เป็นผู้ใช้อบิลิตี้ดิน!
มีดบินของคงโบะที่อัดแน่นไปด้วยกำลังภายใน เฉือนเข้าใส่กำแพงดิน เกิดเสียงระเบิดสะท้อนดังขึ้นหลายครั้ง สุดท้ายชั้นกำแพงดินถูกทะลวง เจาะคว้านเป็นหลุมใหญ่
“มอบชีวิตมา!”
คงโบะวาดแขนอีกรอบ จ้วงปลายแหลมของมีดบิน ตรงเข้าใส่ลำคอของติหรังในคราวเดียว แต่ในจังหวะนั้นเอง ร่างของติหรังก็แปรเปลี่ยนไป ตรงจำแหน่งคอที่ถูกแทงกลายเป็นทรายสีเหลืองทอง
สีหน้าของคงโบะไม่เปลี่ยนแปลงหรือตื่นตระหนกแม้แต่น้อย คล้ายพอจะคาดเดาไว้ก่อนแล้ว เขาหันขวับไปทางอื่น มองหาศัตรูต่อทันที
ผู้ใช้อบิลิตี้ดิน มีความสามารถเปลี่ยนตนเองให้กลายเป็นทรายได้ ตราบใดที่เตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆ ก็สามารถสร้างตัวแทนกว่า1 - 2 ตัวได้อย่างไม่ยากเย็น
แต่สิ่งที่น่ารำคาญยิ่งกว่าของผู้ใช้อบิลิตี้ดินก็คือ เทคนิคเร้นปฐพี
ผู้ใช้อบิลิตี้ดินเหล่านี้ สามารถผลุบกายลงไปซ่อนตัวใต้ดิน แล้วฉวยโอกาสโจมตีขึ้นมาได้ตลอดเวลา หากไม่ระวังอาจร้ายแรงถึงชีวิต
ทั้งคนทั้งร่างของคงโบะเริ่มตื่นตัว แต่ในจังหวะเดียวกันนั้นเอง เหนือศีรษะเขา เสียงหวีดหวิวของกระสุนปืนใหญ่พลันดังเข้ามา
สีหน้าของคงโบะกลายเป็นน่าเกลียดทันที
เขาไม่สามารถมุ่งสมาธิไปกับติหรัง จำเป็นต้องเบนไปสกัดกั้นการโจมตีของศัตรูอีกคน และแน่นอน ว่าติหรังจะพลาดโอกาสดีๆแบบนี้ไปได้อย่างไร?
“ฮี่ฮี่ ถึงฉันจะเอาชนะแกไม่ได้ แต่ขอแค่ถ่วงเวลาแกไว้ ถึงเวลานั้น ลูกน้องของแก หรือจะเรียกว่าทุกคนที่แกว่าจ้างมาที่นี่ ทั้งหมดคงตายเรียบ ถึงเวลานั้นแกคงไม่มีคำอธิบายดีๆกับทางพันธมิตรหัวเซี่ย เป็นตราบาปไปชั่วชีวิต ฉะนั้น ยอมให้ฉันฆ่าซะดีๆ เรื่องมันจะได้จบง่ายๆ!”
“ผายลมเถอะไอ้สารเลว!”
คงโบะร้องคำรามอย่างไม่ยินยอม
เขาตกอยู่ในสถานการณ์ไร้หนทาง ไม่อาจกำจัดติหรังได้ แม้ศัตรูคนนี้ของเขาจะเป็นแค่เลเวล C5 ก็ตาม แต่ติหรังไม่ใช่เลเวล C ธรรมดา เขามีสถานะเป็นถึงลูกรักของพระเจ้า!
เป็นการดำรงอยู่ที่สามารถท้าทายศัตรูที่มีเลเวลเหนือกว่าได้!
แน่นอน แม้จะบอกว่าท้าทายได้ แต่มันก็ยังไม่มากพอที่จะใช้เอาชนะคงโบะ แต่หน้าที่ของเขาคือแค่ถ่วงเวลาคงโบะ เฝ้ารอจนกว่าคนอื่นๆจะตายหมด ถึงเวลานั้นคงโบะก็ไม่ต่างจากเต่าในไห
แต่ในเวลานั้นเอง ยังมีอีกคนหนึ่ง ค่อยๆย่องเข้าไปในสนามรบอย่างเงียบเชียบ
–เป็นฉินเฟิง!
ฉินเฟิงซ่อนตัวอยู่ภายใต้ความมืดมิด มองไปยังคงโบะกับติหรัง ก็ทราบได้ทันทีว่าคงโบะกำลังติดพันกับอีกฝ่าย
เพียงแต่ว่า สถานการณ์ดูไม่น่าร้ายแรงอะไร ต่อให้คงโบะถูกติดพัน แต่คงโบะอย่างไรไม่มีทางถูกฆ่าได้ง่ายๆ อย่างน้อยก็อีกสักพักหนึ่ง
ต้องบอกก่อนว่าแผนการในครั้งนี้ของกลุ่มชินระ ต่อให้ไม่มีฉินเฟิง สุดท้ายก็ล้มเหลวอยู่ดี เพราะในตอนท้าย คงโบะไม่ตาย ทั้งยังสามารถพาตัวลูกสาวกลับมา แต่เรื่องที่เขาพาผู้ใช้พลังของพันธมิตรมนุษยชาติมาตายเป็นจำนวนมากในครั้งนี้ ไม่มีใครไม่ทราบเรื่อง
เกรงว่ามันคงกลายเป็นจุดด่างพล้อยของคงโบะไปตลอดชีวิต เพราะอย่างไรเสีย หายนะนี้ก็เกิดขึ้นเพราะเขา
แต่ในชีวิตนี้ของฉินเฟิง หายนะที่ว่า มันจะไม่มีทางเกิดขึ้น!
หวือ หวือ หวืออออ!
กระสุนปืนใหญ่หลายสิบลูกถูกยิงมาจากฟากฟ้า มือปืนในทีมคงโบะ กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก มิอาจละมือ ทุ่มเทสมาธิทั้งหมดสกัดกั้นลูกปืนใหญ่ ฝั่งผู้ใช้วรยุทธโบราณ คอยต้านทานผีเสื้อผงหอม
“หึหึ ไม่คิดเลยว่ากระสุนของพวกชินระจะถูกดัดแปลงโดยวิทยาการล้ำหน้าเหมือนกัน แต่อยากจะรู้จริงๆ ว่าถ้าเทียบกับกระสุนปืนใหญ่ของเฟิงหลี ฝั่งไหนจะแน่กว่ากัน!”
ฉินเฟิงเรียกปืนใหญ่มือออกจากจากพื้นที่มิติของเขา ปืนใหญ่มือนี้มีขนาดยาวประมาณ 1.5 เมตร เส้นผ่านศูนย์กลางราวๆ 50 ซม. อีกทั้งช่วงหลังของปืนใหญ่มือ ยังมีถังอุปกรณ์ไว้สำหรับใส่พลังงาน!
ยิ่งไปกว่านั้น กระสุนของปืนใหญ่นี้ยังอยู่ในรูปแบบประหลาดตาชวนฝัน ท่อด้านในที่เชื่อมต่อระหว่างถังพลังงานกับจักรกลทำจากวัตถุดิโปร่งแสง ดังนั้นสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ถ้าได้ลองเพ่งมองอย่างใกล้ชิด คุณจะเห็นพลังงานอันสับสนวุ่นวายสะท้อนอยู่ในสายตา และไม่อาจทราบได้เลยว่ามันถูกสร้างขึ้นมาได้อย่างไร!
ฉินเฟิงติดตั้งปืนใหญ่บนไหล่เขา
คลิ๊ก!
จากนั้นทำการบิดตรงส่วนหน้าของปืนใหญ่ พริบตานั้นปากกระบอกปืนใหญ่พลันเปลี่ยนรูปแบบ จากกระบอกใหญ่เพียงหนึ่ง สับเปลี่ยนกระจายตัวเป็นกระบอกเล็ก จากเดิมสามารถยิงได้ทีละหนึ่งนัด ปัจจุบันสามารถยิงได้ถึงหกนัดในคราวเดียว
หึ่ง หึ่ง!
ฉินเฟิงกระแทกปุ่มเติมพลังงาน ใช่เวลาไม่ถึงหนึ่งวินาที ตรงปากกระบอกปืนใหญ่ทั้งหก ก็ถูกเติมเต็มไปด้วยรังสีสีฟ้า
“ไปเลยยยยย!”
ฉินเฟิงกระแทกปุ่มอีกครั้ง พริบตานั้นกระสุนแสงทั้งหกทะยานขึ้นไปบนฟากฟ้า
เห็นได้ชัดว่าการดำรงอยู่ของกระสุนแสงนี้ ก่อตัวขึ้นจากมวลพลังงาน –โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยแรงส่งในการขับเคลื่อนใดๆ ภายใต้การควบคุมโดยพลังสมาธิ มันไล่ติดตาม ตรงเข้าหากระสุนปืนใหญ่ของศัตรูบนฟากฟ้า
ต้องทราบนะว่า พลังงานแสงเป็นหนึ่งในสิ่งที่ไม่มีความเสถียรมากที่สุด ทว่าจักรกลของฉินเฟิง กลับสามารถกลั่นพลังงานแสงนี้ และยิงออกไปให้ยังคงอยู่ในสภาพลูกกลมๆเหมือนกระสุนปืนได้โดยไม่ต้องมีเปลือกกระสุนหุ้ม นี่ถือว่าเป็นวิทยาการที่ก้าวล้ำกว่าเทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน
กระสุนพลังงานแสงทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว
“นั่นมันบ้าอะไรกัน?”
ณ สถานที่ห่างไกล มองไปยังจุดสีฟ้าหกจุดที่ทะยานขึ้นสู่ฟากฟ้า เหล่ามือปืนชะงักงันไปชั่วขณะ นั่นเพราะพวกตนไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน
เมื่อเกิดความอยากรู้ จึงปลดปล่อยพลังสมาธิ หมายเข้าไปสัมผัสมัน แต่กลับถูกปัดกระเด็นอย่างรวดเร็วโดยอำนาจอันรุนแรง โดนพลังสมาธิจากเจ้าของกระสุนแสงเหล่านี้กีดกันออกไป
ภายใต้การควบคุมของฉินเฟิง กระสุนแสงพลังงาน ปะทะเข้ากับลูกปืนใหญ่ดัดแปลงของศัตรูทันที
ตูม ตูม ตูม ตูม ตูม ตูมมมม!
กระสุนปืนใหญ่กว่าครึ่งบนท้องฟ้าถูกสอย
มือปืนที่ถูกผลักกลับมาโดยพลังสมาธิของฉินเฟิง เห็นได้ชัดว่าไม่อาจทำใจเชื่อ สบถด่าว่า “ไอ้ตัวปัญหานั่นมันเป็นใครกัน ฉันไม่ยอมรับหรอก ว่าคนๆเดียวจะสามารถหยุดพวกเราหลายคนได้!”
ฉินเฟิงจู่ๆก็ปรากฏตัว ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ผู้ใช้พลังของพันธมิตรหัวเซี่ยถูกกดดันอย่างหนัก จนไม่อาจทำอะไรได้ แทบจะพ่ายแพ้อยู่รอมร่อแล้ว ดังนั้นในสายตาสมาชิกของกลุ่มปีศาจชินระ ฉินเฟิงจะไม่กลายเป็นตัวปัญหาได้อย่างไร?
ทว่าเพียงสิ้นเสียงสบถด่าของมือปืนกลุ่มชินระ ณ ตำแหน่งที่เกิดการระเบิดก่อนหน้านี้ จู่ๆก็ปรากฏเมฆฝนฟ้าคะนองน่าหวาดกลัวขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
ซ่า ซ่า ซ่า!
เพียงเสี้ยววินาที เมฆครึ้มพลันก่อตัวขึ้นบนท้องฟ้า สายฝนกระหน่ำเทลงมา เข้าสกัดกั้นกระสุนปืนใหญ่ทั้งหมดที่ยังหลงเหลือ ตามมาด้วยเสียงระเบิดอย่างต่อเนื่อง
หลายสิบกระสุนปืนใหญ่ บัดนี้ถูกสกัดกั้นอย่างสิ้นเชิง
คนของพันธมิตรหัวเซี่ยเองก็ถูกดึงดูดโดยเสียงอึกทึกนี้ เงยหน้าขึ้นทันใด แต่ในสายตากลับเห็นได้แค่เพียงกลุ่มควัน
“เกิดอะไรขึ้น?”
“มีคนมาช่วยเหลือพวกเราแล้วงั้นหรอ? เขาเป็นใครกัน”
พลังสมาธิและการรับรู้ของผู้คนกวาดออกไปสำรวจอย่างรวดเร็ว และต้องตกใจ เมื่อพบว่าเป็นฉินเฟิง! อีกฝ่ายได้กลับมาแล้ว!!
ขณะเดียวกัน เจียงป๋อที่อยู่ในกลุ่มพันธมิตรหัวเซี่ย อ้าปากค้างมองฉินเฟิงด้วยความตกตะลึง
ในระหว่างที่พวกเขากำลังตกใจ ฝั่งสมาชิกกลุ่มปีศาจชินระก็ไม่คิดหยุดมือ
“ลองอีกซักตั้ง!”
“ไปลงนรกซะ!”
“กล้าต่อต้านฉัน คอยดูเถอะ บิดาจะยิงกระสุนระเบิดใส่แกจนตาย!”
อีกชุดกระสุนปืนใหญ่ถูกยิงออกมา ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า แต่คราวนี้พวกมันปรับมุมเล็กน้อย เปลี่ยนทิศทาง ทั้งหมดพุ่งตรงมายังฉินเฟิง
“เหอ เหอ ไอ้เจ้าพวกนี้ ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา!”
ฉินเฟิงในปัจจุบัน มิได้ใช้งานปืนใหญ่อีกต่อไป เพียงใช้ออกด้วยพลังสมาธิของเขา ทำการควบรวมมันให้ดูเหมือนเป็นตาข่าย บล็อคกระสุนปืนใหญ่ทั้งหมดเอาไว้และ–
“–จงสะท้อนกลับ!”
เพียงพริบตา พลังสมาธิก็แทรกแซงลงบนกระสุนปืนใหญ่ สับเปลี่ยนเจ้าของทันที!